Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน - ตอนที่ 330
ตอนที่ 330 ลืมให้ลงวางให้ได้
ที่ มหาวิทยาลัยหลินไห่
เวินจิ้งอยู่ในห้องทดลองเพิ่งจะเสร็จจากคาบเรียน ไป๋สือเรียกเธอไปพบที่ออฟฟิศ
“ช่วงนี้มหาวิทยาลัยของเรากับมู่ซือกรุ๊ปกำลังร่วมมือกันพัฒนายาตัวใหม่ คุณคิดจะไปศึกษาดูไหม”
บริษัทมู่ซือกรุ๊ป……
เวินจิ้งนิ่งเงียบ ไม่ได้ตอบไปในทันที
แน่นอนว่าเธอไม่อยากจะละทิ้งโอกาสที่จะเรียนรู้ เพียงแต่ถ้าเป็นบริษัทมู่ซือกรุ๊ป เธอก็เริ่มลังเล
“มหาวิทยาลัยมีโควตาให้สามคน คุณกลับไปคิดดูก่อน แต่เมื่อคุณเป็นภรรยาของมู่วี่สิง ผมคิดว่าคุณยิ่งควรจะไป” ไป๋สือกล่าว
“ขอบคุณคะศาสตราจารย์”
เธอเดินกลับมาหอพักอย่างล่องลอย หลิงเหยาได้กลับมาถึงแล้ว
ช่วงนี้เธอมีคลาสเรียนเยอะมาก สองคนมักจะได้เจอกันในตอนค่ำ
“เธอจะเข้าร่วมงานวิจัยของบริษัทมู่ซือกรุ๊ปนั่นหรือเปล่า” หลิงเหยาถามขึ้นมา
โควตานี้ในแผนกศัลยกรรมทรวงอกก็มีเช่นกัน แต่การแข่งขันค่อนข้างจะสูงมาก
“อาจจะ….ไปเถอะ”
“เธอแคร์มู่วี่สิงอยู่ใช่หรือเปล่า” หลิงเหยาเห็นเธอกังวล จึงถามไปด้วยความอยากรู้อยากเห็น
ถ้าต้องไปบริษัทมู่ซือกรุ๊ป ก็คงหลบหลีกที่จะพบหน้ามู่วี่สิงไม่ได้แน่นอน
แต่การได้เข้าร่วมศึกษาในงานวิจัยและพัฒนานี้ ก็เป็นโอกาสที่หาได้ยากของนักศึกษาแพทย์
“ไม่มีสักหน่อย” เวินจิ้งหันหัวกลับไป
เมื่อได้ยินชื่อนี้ เธอก็เริ่มที่จะหักห้ามความรู้สึกตนเองไม่ได้
“มีแน่นอน ไม่อย่างนั้นเธอก็คงจะไม่ลังเลที่จะเข้าร่วมกิจกรรมหรอก”
“ฉันจะเข้าร่วม เธอหละ” เวินจิ้งยืนยันแน่นอน มองข้ามเรื่องที่ต้องเจอกับมู่วี่สิง เธอต้องการไปเพื่อการเรียนรู้
“ฉัน….ฉันไม่ไปแล้ว” ฉันไม่ค่อยสนใจเรื่องการวิจัยยา” หลิงเหยาส่ายหัว
ความปรารถนาของเธอตั้งแต่ต้น ล้วนแต่ทำเพื่อจะเป็นหมอผ่าตัด การวิจัยศึกษาอื่นๆ เธอไม่อยากจะเข้าร่วม
“ได้ยินมาว่าบริษัทมู่ซือกรุ๊ปจะตรวจดูรายชื่อก่อน ถ้าเธอเข้าร่วม มู่วี่สิงต้องเลือกเธอแน่นอน”
“ฉันกับเขาไม่ได้เป็นอะไรกัน อย่าคิดมากเลย”
“อู้ ไม่กี่วันก่อนฉันเพิ่งเห็นเธอลงมาจากรถเขา ถ้าไม่เป็นอะไรกัน เขาก็คงเป็นคนขับรถให้เธอคนเดียวสินะ” เวินจิ้งหยอกเธอ
เวินจิ้ง…..
“โอ้ อันที่จริงก็หลายปีแล้วที่มู่วี่สิงไม่มีผู้หญิงข้างกายเลย แต่สุดท้ายเขาก็แต่งงานกับเธอก็เพราะว่าเขาชอบเธอ เขาไม่ได้ชอบผู้หญิงคนไหนง่ายๆ ไม่มีทางลืมได้ง่ายๆหรอก” หลิงเหยาวิเคราะห์ “ฉันพนันให้เลย พวกเธอจะต้องแต่งงานกันใหม่ในอนาคตนี้แน่นอน”
“พวกเราหย่ากันแล้วก็คือหย่ากันจริงๆ ฉันกับเขาคงไม่มีทางเป็นแบบนั้นหรอก” เวินจิ้งส่ายหัว
“คนดูย่อมมองเห็นชัด ฉันดูออกแน่นอน” หลิงเหยาพูดอย่างมั่นใจในตัวเอง
หลังจากลงทะเบียนไปกับศาสตราจารย์ไป๋ เวินจิ้งก็ไม่ได้คาดคิดว่าเธอจะถูกเลือกจริงๆ
ส่วนนักศึกษาอีกสองคนที่ได้รับเลือกล้วนแต่มาจากสาขาวิชาอื่น ในวันศุกร์ พวกเขาจะต้องไปรายงานตัวที่บริษัทมู่ซื่อกรุ๊ปก่อน หลังจากนั้นในวันเสาร์จึงจะได้เข้าศึกษาในห้องปฏิบัติการ
เมื่อเข้าไปยังบริษัทมู่ซือกรุ๊ป มู่เหิงและผู้บริหารระดับสูงสองสามคนเดินออกมา เมื่อพบกับเวินจิ้งก็ได้หยุดลง
“เธอกับน้องชายฉันไม่ใช่ว่าหย่ากันแล้วเหรอ มาทำไมอีก”
“คุณมู่ ฉันมาเพื่อการเข้าร่วมการศึกษา ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับมู่วี่สิง” เวินจิ้งไม่พอใจ
เธอไม่ชอบให้เรื่องอะไรก็ตามถูกเชื่อมโยงไปหามู่วี่สิงทั้งหมด
“อย่างนี้นี่เอง” มู่เหิงลูบคางตัวเอง กระพริบตาอย่างเย็นชา
เวินจิ้งไม่ได้ใส่ใจ รีบขึ้นบันไดไปอย่างรวดเร็ว
นักศึกษาอีกสองคนมาถึงแล้วเช่นกัน คนที่ออกมาต้อนรับพวกเขาก็คือผู้ช่วยผู้จัดการแผนกบุคคลที่เวินจิ้งเคยรู้จักมาก่อน
ครั้งนี้พวกเขาเข้าร่วมการวิจัยพัฒนาตัวยาทางระบบประสาทตัวใหม่ชื่อ “หลินต๋า” ยาชนิดนี้ เวินจิ้งจำได้ว่า หลินหยุน เป็นพนักงานหลักที่มีส่วนร่วมในการพัฒนา
สถานที่ใช้สำหรับวิจัยและพัฒนาอยู่ที่ชั้น 27 ของบริษัทมู่ซือกรุ๊ป ผู้จัดการได้พาทุกคนเข้าไปเยี่ยมชม ส่วนการเยี่ยมชมอย่างเป็นเป็นทางการจะเริ่มขึ้นในสัปดาห์หน้า
เมื่อออกมาจากบริษัมู่ซื่อกรุ๊ปก็เป็นเวลาเย็นแล้วว นักศึกษาอีกสองคนเป็นนักศึกษาชาย กำลังเตรียมตัวไปรับประทานอาหารกัน จึงถามเวินจิ้งว่าจะไปด้วยกันหรือไม่
“ฉันต้องรีบกลับไปมหาวิทยาลัย พวกเธอไปเถอะ”
“อย่างนั้นก็ได้ เจอกันสัปดาห์หน้า”
ออกจากบริษัทมู่ซือกรุ๊ป เวินจิ้งเดินไปยังป้ายรถเมล์
รถเก๋งสีดำคันหนึ่งค่อยๆเข้ามาช้าๆแล้วจอดที่ข้างๆเธอ “จะไปไหน ผมไปส่ง”
กระจกรถถูกเลื่อนลง เผยให้เห็นถึงใบหน้าหล่อเหลาของมู่เหิง
ใบหน้าของผู้ชายคนนี้มีความคล้ายมู่วี่สิงมาก เวินตกใจอยู่ครู่หนึ่ง เพราะเธอคิดว่าเป็นมู่วี่สิง
“ไม่ต้องรบกวนคุณดีกว่า”
“ไม่รบกวนหรอก เธอก็เคยเป็นคนของตระกูลมู่ ฉันก็แค่ต้องการทำความเข้าใจ ว่าผู้หญิงแบบที่มู่วี่สิงชื่นชอบเป็นยังไงกัน”
“คุณมู่ ฉันขอตัวก่อนค่ะ”
เวินจิ้งไม่ได้สนใจเขา รถเมล์ก็มาถึงพอดี เธอจึงรีบขึ้นรถ
มู่เหิงจ้องมองไปยังเวินจิ้งดวงตาค่อยๆแสดงออกถึงความรู้สึกสนุก
………….
ช่วงนี้มู่ซือซืออาศัยอยู่ที่การ์เด้นมูเจียวาน มู่วี่สิงก็เพิ่งย้ายออกมาจากตระกูลมู่
มู่วี่สิงกลับมาก็เป็นเวลาค่ำแล้ว ในห้องหนังสือ มู่ซือซือกำลังดูรูปถ่ายใบหนึ่งอยู่
“มู่ซือซือ เธอกำลังทำอะไรอยู่” มู่วี่สิงก้มลง คิดจะหยิบรูปถ่ายกลับคืนมา
มู่ซือซือดึงมือกลับทันที ไม่ต้องการให้พี่ชายหยิบไปได้
“ถ้าต้องการรูปถ่าย บอกฉันก่อนว่าเด็กผู้หญิงในรูปคือใคร” มู่ซือซือยกรูปถ่ายขึ้นมา
ในรูปนั้นเป็นรูปเด็กผู้หญิงอายุประมาณสามสี่ขวบ รอยยิ้มของเธอดูสดใส สวมกระโปรงสีขาว ซึ่งกำลังกินลูกอมรสนมกระต่ายขาว
แอ๊บแบ๊ว!”
นี่คงจะไม่ใช่คนรักของพี่ชายหรอกนะ
มู่วี่สิงไม่ได้ตอบอะไร และได้ดึงภาพถ่ายออกมาจากมือของน้องสาว
มู่ซือซือโกรธ แต่เนื่องจากเธอไม่สามารถลุกขึ้นยืนได้ ทำได้เพียงมองมู่วี่สิงเอารูปถ่ายไปเก็บ
เธอรีบจ้องมองเขา “คงจะไม่ใช่เวินจิ้งนะ”
ได้ยินแบบนั้น มู่วี่สิงนิ่งไปชั่วครู่่ ขมวดคิ้วอย่างแน่น
“เป็นเธอแน่นอน ฉันอยากจะบอกว่าปกติพี่ไม่ได้สนใจผู้หญิงคนไหนเลย ทำไมถึงรีบแต่งงาน ที่แท้ก็เพราะเคยเจอกันตอนเด็กๆนี่เอง”
ตอนนี้เธอไม่ได้เกลียดชังเวินจิ้งมากเหมือนเมื่อก่อนแล้ว แต่ก็ยังกังวลถึงความสัมพันธ์ระหว่างเขากับฉีเซิน
มู่วี่สิงเม้มริมฝีปากของเขา นี่เป็นครั้งแรกที่เขาเงียบขรึมเมื่ออยู่ต่อหน้ามู่ซือซือ
“พี่ชาย ตอนนี้พวกเธอหย่ากันแล้ว นายควรจะลืมเธอได้แล้ว” มู่ซือซือเกลี้ยกล่อม
“ลืมไม่ได้” มู่วี่ซิงพูดตรงๆ
ตั้งแต่เด็กเขาก็รู้สึกว่าเธอจะต้องเป็นคนของเขา จะให้ลืมให้ลงวางให้ได้จะได้อย่างไร
มู่ซือซือมองไปยังพี่ชาย ในบางครั้ง เขาก็มักจะยึดติดเกินไป
จะเป็นกับคน หรือสิ่งของ ก็ใช่ทั้งนั้น
หลังจากพี่ชายออกไป มู่ซือซือก็ไปหารูปถ่ายนั้นออกมาอีก หยิบกรรไกรขึ้นมา และบรรจงตัดรูปถ่ายนั้น
เวินจิ้งไม่สามารถจะมายุ่งเกี่ยวอยู่กับพี่ชายของเธอได้อีก!
มู่วี่สิงเพิ่งจะรู้เรื่องนี้ตอนชั่วโมงถัดมา มองเห็น”เศษขยะ” ในถังขยะ ดวงตาของเขาก็เย็นชา ดุจดั่งลมพายุก็ไม่ปาน
“มู่ซือซือ ฉันให้เธอมาอยู่ที่นี่ไม่ใช่ให้เธอมายุ่งกับฉันนะ” น้ำเสียงมู่วี่สิเย็นชาจนน่ากลัว
มู่ซือซือสั่นเทา นี่เป็นครั้งแรกที่พี่ชายโกรธเธอมากขนาดนี้……….
เพียงแต่…….เธอไม่คิดว่าเธอทำผิด
“ฉันไม่ได้ยุ่งอะไรนะ ตอนนี้พวกเธอหย่ากันแล้ว พี่ ฉันแค่ต้องการเตือนสติพี่ให้อยู่กับความเป็นจริงนี้” มู่ซือซือพูดอย่างจริงจัง
“หย่ากันแล้ว ก็ไม่ได้หมายความว่าเขาไม่ใช่คนของฉัน” มู่วี่สิงหรี่ตาลงอย่างดูอันตราย
พูดจบ ก็คุกเข่าลงไปต่อหน้ามู่ซือซือ ควานหารูปถ่ายในถังขยะ
เธอเกือบจะถูกหั่นเป็นชิ้นๆ มู่วี่สิงเลือกหยิบมันออกมาทีละชิ้นๆ อย่างอดทน
มู่ซือซือตกตะลึงอย่างมาก หรือนี่เธอคนนั้นจะมีอิทธิพลอยู่เหนือพี่ชายเหรอ…..
ไม่คิดว่าเขาแทบจะพลิกถังขยะเพื่อรูปถ่ายรูปเดียว……