Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน - ตอนที่ 350
บทที่ 350 อยากอยู่ใกล้คุณมากกว่านี้
ไม่นานนัก ประตูของห้องคลินิกก็เปิดออก และหมอก็ออกมา
หลิงเหยาก็ฟื้นแล้ว แต่อาการของเธอยังไม่คงที่
“คนไข้ได้ตกใจกลัว ช่วงนี้จะแนะในการนำรักษาด้วยยาแผนปัจจุบัน ครอบครัวสามารถเข้าไปเยี่ยมได้แล้ว”
หลิงอี้ยืนอยู่หน้าประตูยังไม่ได้เข้าไป ได้แต่ดูเวินจิ้งเข้าไปอยู่เป็นเพื่อนเธอ
หลิงเหยามองเพดานโดยไม่กระพริบตา ครู่หนึ่ง เธอก็ค่อยๆหันหน้ามา
“ที่นี่ที่ไหน”
“โรงพยาบาล” เวินจิ้งช่วยประคองเธอให้ลุกขึ้นนั่งอย่างเป็นห่วง
สีหน้าของหลิงเหยาซีดเซียดจนน่ากลัว ความหวาดกลัวในแววตาก็ยังคงอยู่ไม่หายไปไหน
“โอ้”
“ไม่เป็นอะไรแล้ว เหยาเหยา” เวินจิ้งกอดเธอ อุณหภูมิร่างกายของเธอต่ำมาก และตัวยังคงสั่นอยู่
มันเป็นความหวาดกลัวที่ซึมลึกเข้าไปในไขกระดูก
“ฉันออกจากโรงพยาบาลได้ไหม”
“หมอกำลังเช็คค่ารักษา เดี๋ยวฉันจะไปถาม”
พูดจบ เวินจิ้งก็ออกไป หลิงเหยาดึงเธอโดยไม่รู้ตัว “อย่าไป……”
เธอลดตาลง น้ำตาที่อยู่ใต้ตาก็ไหลหยดลงมาเปียกโชก
เวินจิ้งยิ่งรู้สึกทุกข์ใจ
“ฉันอ่อนแอมากจริงๆ ฉันรับไม่ได้ที่ตัวเองต้องมาเป็นแบบนี้” หลิงเหยาพึมพำ
“ไม่ใช่ปัญหาของเธอสักหน่อย เหยาเหยา”
“มันเป็นปัญหาของฉัน”
เวินจิ้งมองดูหลิงเหยา เธอได้แต่โทษตัวเอง มันเป็นเรื่องยากที่จะปลดปล่อย
เอนตัวอยู่ในอ้อมแขนเวินจิ้ง ไม่นานหลิงเหยาก็หลับไปอีกครั้ง ในยาหยดนั้นมีส่วนผสมของยานอนหลับ จะช่วยให้เธอคลายความตึงเครียด
เวินจิ้งประคองเธอเอนตัวนอนลง และไม่รู้ว่าหลิงอี้เข้ามาเมื่อไหร่แล้ว
“เดี๋ยวคืนนี้ผมว่าจะอยู่เป็นเพื่อนเขา พรุ่งนี้ถึงจะออกจากโรงพยาบาลได้”
เวินจิ้งมองดูเวลา ก็เป็นเวลากลางคืนแล้ว
“งั้นฉันอยู่เถอะ” เวินจิ้งยังคงรู้สึกผิดกับเรื่องนี้เสมอ
“คุณอย่าโทษตัวเองเลย เรื่องนี้ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับคุณเลย เหยาเหยาเข้มแข็งมาก”
เวินจิ้งนิ่งเงียบ และยังคงไม่ไปไหน
หลิงอี้อดไม่ได้ที่จะเกลี้ยกล่อมเธอ และวางแผนจะออกไปซื้อของกินมาให้เธอ
“อยากกินอะไรไหม”
“อะไรก็ได้” เวินจิ้งไม่ได้อยากกินอะไรมากมาย
เมื่อมองดูใบหน้าที่หลับอย่าไม่สบาย เวินจิ้งช่วยเธอเช็ดเหงื่อร้อนตัวร้อนที่ออกมาจากใบหน้าของเธอ
ทันใดนั้นก็มีเสียงข้างนอกดังขึ้น
“เหยาเหยา!”
มู่ซือซือผลักรถเข็นที่อยู่ข้างนอกเข้ามาอย่างหงุดหงิด แล้วยังมีมู่วี่สิงที่เข้ามาด้วย
“ทำไมเหยาเหยาถึงเกิดอุบัติเหตุ!” น้ำเสียงที่ตวาดด่าของมู่ซือซือชี้ไปที่เวินจิ้ง
“รถของพวกเราถูกสะกดรอยตาม……”
ยังไม่ทันพูดจบ มู่ซือซือก็ยิ่งดึงเวินจิ้งแน่น กำลังจะยกฝ่ามือเพื่อจะตบเวินจิ้ง
มู่วี่สิงได้เข้ามากันมู่ซือซือทันที และปกป้องเวินจิ้งไว้ในอ้อมแขนของเขา
“เอะอะโวยวายอะไร!”
มู่ซือซือเบิกตากว้าง และน้ำตาก็เหมือนจะไหลลงมา
“เป็นเพราะเธอที่ก่อเรื่อง เหยาเหยาถึงได้รับบาดเจ็บ” น้ำเสียงของมู่ซือซือโกรธสุดขีด
มู่วี่สิงดึงเธอออกไป นัยน์ตาดำมืดสนิท
“ฉันสัญญาว่าจะพาเธอกลับมา และต้องทำตัวดีๆและไม่ออกนอกลู่นอกทางกับฉัน!”
มู่ซือซืออกัดริมฝีปากอย่างรุนแรง สายตายังคงจ้องมองไปที่เวินจิ้ง
เมื่อเวินจิ้งกลับมามีสติ ก็ได้ผลักมู่วี่สิงออกโดยไม่รู้ตัว
แต่เขากลับกอดเธออย่างแน่นขึ้น
“มู่วี่สิง ….” เวินจิ้งมองเขา
ใบหน้าที่เยือกเย็นของผู้ชายคนนั้น ได้สั่งเกาเชียนที่อยู่ข้างหลัง “พาคุณหนูกลับไป”
เมื่อได้ยินดังนั้น มู่ซือซือพลางส่ายหัว ทำหน้าปฏิเสธ
“ไม่…..ฉันไม่กลับ ฉันจะอยู่กับเหยาเหยา”
แต่มู่วี่สิงไม่ตอบรับ เกาเชียนเข้ามาแล้วกดเธอลงบนรถเข็น และพาเธอออกไป
ทันใดนั้นดวงตาของมู่ซือซือมองไปที่เวินจิ้งด้วยความขุ่นเคือง “เป็นเพราะเธอ ….. เวินจิ้ง…..”
เวินจิ้งทำหน้านิ่ง และไม่ได้สนใจมู่ซือซือ แต่เธอไม่พอใจที่มู่ซือซือมารบกวนการพักผ่อนของหลิงเหยา
“ที่นี่เป็นโรงพยาบาล หลิงเหยาจะได้พักผ่อนได้เต็มที่ไหมนะ”
เวินจิ้งนั่งถัดจากข้างๆหลิงเหยา แต่กลับไม่รู้ว่าเธอตื่นขึ้นมาตอนไหนแล้ว”
แม้ว่าไม่ได้ลืมตา แต่ขนตายาวๆของเธอนั้นกระพริบ
มู่ซือซือไม่ได้พูดอะไร และความหงุดหงิดในดวงตาก็แพร่กระจายออกมา
เมื่อได้เห็นเวินจิ้ง เธอก็ใจร้อนจนเกินไป
“พี่ ฉันอยากอยู่” เมื่อใจเย็นลง เธอคว้าแขนไปจับที่ขากางเกงของพี่ชาย
สายตาของมู่วี่สิงยังคงนึกถึงแต่เวินจิ้ง ได้ขมวดคิ้วและพูดอย่างเย็นชาว่า “เธอมีเวลาแค่หนึ่งชั่วโมงเท่านั้น”
“เหยาเหยา” เห็นหลิงเหยายังคงกระพริบตา เวินจิ้งจึงเรียกเธอเบาๆ
เธอค่อยๆลืมตาขึ้นอย่างช้าๆ และอาการของเธอดีขึ้นมา
เมื่อมองไปที่มู่ซือซือ เธอก็ยิ้มอย่างโรยแรง
“ซือซือมาได้ยังไง”
“ยังเป็นห่วงเธอไม่หาย” มู่ซือซือพลางผลักรถเข็นเข้ามา
เวินจิ้งช่วยประคองหลิงเหยาลุกขึ้นนั่ง มู่ซือซืออยู่เป็นเพื่อนเธอ และเวินจิ้งก็ออกไปหยิบยามาให้มู่ซือซือ
เมื่อเดินผ่านมู่วี่สิงไป แววตาก็ไม่สามารถควบคุมมองไปยังเขาได้ แต่ก็กลับหนีไปอย่างรวดเร็ว
และมู่วี่สิงมาอยู่ข้างหลังเธอ ก็เดินตามออกมา
ในทางเดินระเบียงที่เงียบสงบ เสียงสะท้อนฝีเท้าของทั้งสองชัดเจน
จนกระทั่งเดินถึงลิฟต์ เวินจิ้งจะกดลิฟต์ แต่มือของมู่วี่สิงยื่นออกไปก่อนแล้ว
ปลายนิ้วของเธอ แตะอยู่บนหลังมือของเขา เมื่อต้องการจะดึงกลับมา มู่วี่สิงก็ได้จับมือเธอไว้อย่งรวดเร็ว
เวินจิ้งถอยหลังกลับเหมือนจะหลบ
“คุณปล่อยฉันนะ!” เธอเริ่มโกรธ
มู่วี่สิงหรี่ตาลง และดวงตาก็ค่อยๆเยือกเย็นขึ้น
เขาพูดอย่างเยือกเย็น “ถ้าผมไม่ปล่อยล่ะ”
เว้นจิ้งเม้มริมฝีปาก ต้องการจะดึงมือออก แต่เธอจะสู้แรงของมู่วี่สิงได้ที่ไหน
“คุณต้องการอะไร!” เธอโกรธมาก
“ผมแค่อยากอยู่ใกล้คุณมากกว่านี้” มู่วี่สิงมองดูเธออย่างร้อนแรง
จงใจให้มู่ซือซือรับรู้เรื่องการบาดเจ็บของหลิงเหยานั้น ก็เพื่อที่จะได้เห็นหน้าเวินจิ้ง
เขาที่เป็นแบบนี้ แม้แต่เขาเองก็ไม่คุ้นเคย
เวินจิ้งว่อกแว่ก ดูเหมือนเธอจะได้ยินความเปราะบางในคำพูดของมู่วี่สิง
มันคงจะเป็นภาพลวงตาของเธอ
เขาจะมีอาการอย่างนี้ได้ไง
“คุณมู่ อย่ามาพูดอะไรล้อเล่น” เวินจิ้งพูดอย่างเฉยเมย
พูดจบ เธอก็ถอยออกไปอีกครั้ง ในที่สุดก็ดึงมาออกมา
แต่ในตอนนี้ ประตูลิฟต์กำลังเปิดอยู่ เวินจิ้งไม่ได้สังเกตเห็น ได้เห็นคนทั้งคนกำลังจะล้มลง มู่วี่สิงจึงรีบจับเธอไว้แน่น
เธอแนบไปที่หน้าอกของเขา ลมหายใจที่คุ้นเคยได้ฟุ้งกระจายไปทั่วจมูกของเธอ
“ผมไม่เคยล้อเล่นเลย” เธอได้ยินเสียงที่ชัดเจนของเขา
เมื่อกลับไปที่ห้องผู้ป่วย มู่ซือซือและหลิงเหยาดูเหมือนกำลังกระซิบอะไรบางอย่าง เมื่อเห็นเวินจิ้งเข้ามา มู่ซือซือรีบหยุดพูดทันที
“เหลือเวลาไม่มากแล้ว กลับไปกับฉัน” มู่วี่สิงเดินเข้ามา
มู่ซือซือทำปากมุ่ย เห็นได้ชัดว่าไม่ค่อยเต็มใจ
เธอกับหลิงเหยาไม่ได้เจอกันบ่อยนัก และคิดถึงกันมาก
“พี่ คืนนี้ฉันอยากอยู่ที่นี่” มู่ซือซือพูดอย่างดื้อรั้น
“ห้ามโวยวาย”
“ฉันไม่ได้โวยวาย”
เมื่อเห็นว่าทั้งสองเริ่มจะเถียงกัน หลิงเหยาพูดขึ้นทันทีว่า “ซือซือ เธอกลับไปก่อนเถอะ เดี๋ยวพี่ชายฉันก็มาแล้ว เขาจะมาอยู่เป็นเพื่อนฉัน”
“แต่ว่า…..”
“ฉันไม่เป็นอะไรแล้ว เธอไม่ต้องเป็นห่วง” หลิงเหยากลับปลอบโยนมู่ซือซือแทน
แต่ยิ้มที่โรยแรงของเธอนั้น กลับทำให้มู่ซือซือยิ่งทุกข์ใจ
เธอรู้ดีว่าหลิงเหยากลัวมากแค่ไหน
“งั้นฉันค่อยมาหาเธอพรุ่งนี้นะ”
ในรถ มู่ซือซือมองไปที่ด้านข้างใบหน้าของพี่ชายที่นั่งอยู่ด้านคนขับรถ
เธอพูดเบาๆว่า “พี่ ฉันตัดสินใจแล้ว”
“อึ้ม”
“ฉันจะสอบเข้ามหาวิทยาลัยหลินไห่”