Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน - ตอนที่ 410
บทที่ 410 คุณปฎิเสธไม่ได้
ผู้คนที่สามารถเข้าร่วมงานเต้นรำนี้ได้ ไม่ใช่ผู้คนรวยก็ต้องเป็นผู้คนที่มีฐานะเท่านั้น ต้องผ่านการพิสูจน์ตัวอย่างเข้มงวด แต่สายตาของเวินจิ้งมีแต่อาหารเท่านั้น
เหมือนว่าวันนี้เธอยังไม่ได้กินอะไรเลย ท้องของเธอก็ร้องอย่างไม่พอใจแล้ว
บอกหลิงเหยา เธอก็เดินไปที่โต๊ะอาหารเลย
หามุมนั่งลง แล้วผ่อนคลายเท้าด้วย
ทันใดนั้นมีเงาดำยาวตกต่อหน้าเธอ เมื่อเธอเงยหน้าขึ้น ก็เห็นสายตาที่ขี้เล่นของหลิงอี้
“นายหลิง”เวินจิ้งพูดอย่างห่างๆ
หลิงอี้แขวนริมปากเรียวบางของเขา และส่งทิชชู่มาให้ ปลายนิ้วของเขาชี้มุมปากของเขา
เวินจิ้งรีบเข้าใจทันที รับทิชชู่มาเช็ดปาก ติดน้ำมะเขือเทศเล็กน้อย
“หิวมากเหรอ”เขาสังเกตเห็นเวินจิ้งตั้งแต่เธอเข้ามาแล้ว
เวินจิ้งไม่ตอบ หลิงอี้ก็เข้าใจว่าเธอยอมรับแล้ว
เขานั่งลงที่ข้างๆเวินจิ้ง ที่นี่เป็นพื้นที่ที่ห่างจากความชีวิตชีวาที่สุด
“ช่วงนี้ฝึกงานยุ่งมากเหรอ”น้ำเสียงของเขาดูเหมือนเป็นการห่วงของเพื่อน
“ยุ่งมาก”
“ทำไมคุณถึงเลือกระบบประสาทเมื่อคุณเข้ามามหาวิทยาลัยหลินไห่”คำถามนี้ หลิงอี้สงสัยตั้งนานแล้ว
สีหน้าของเวินจิงสงบมาก”ไม่มีศาสตราจารย์คนไหนจะเอาฉัน มีแต่ศาสตราจารย์ตากไป๋เท่านั้นที่เอาฉัน
เขาเป็นศาสตราจารย์ด้านประสาทวิทยาพอดี”
หลิงอ็ขมวดคิ้ว ไป๋สือ… เขาไม่ได้สอนนักศึกษาระดับบัณฑิตมาหลายปีแล้ว
แต่แป๊บเดียวเขาก็เข้าใจแล้ว นี้คงเป็นเพราะมู่วี่สิงมั้ง
“คุณจะกินอีกไหม ฉันไปเอาอาหารอย่างอื่นมาให้”
พูดเสร็จ ไม่รอเวินจิ้งตอบ เขาก็ไปช่วยเอาอาหารมาให้เธอแล้ว
เวินจิ้งรู้สึกอาย เธอไม่ได้จานอาหารที่หลิงอี้ส่งมา “ฉันอิ่มแล้ว”
หลิงอี้ขมวดคิ้ว เขาไม่ได้โกรธ วางจานลงอย่างงดงาม วินาทีต่อไป เขาก็ก้มลงอย่างสุภาพบุรุษ ยื่นมือขวาออกมา”คุณเวิน ตอนนี้คุณเต้นรำกับฉันได้ไหม”
“ฉัน … ฉันเต้นไม่เป็น”เวินจิ้งแสดงออกอย่างลำบากใจ
เธอเต้นไม่เป็นจริงๆ …
“ฉันสอนคุณ”สายตาและเสียงของหลิงอี้อ่อนโยนมาก ทำให้ผู้คนแทบจะไม่ไหว
“หลิงอี้ ฉันขอโทษ”เวินจิ้งสงบมาก
เมื่อได้ยินคำพูดนี้ สีหน้าของหลิงอี้ก็ทรุดลง
แม้ว่านี้จะเป็นมุมที่มองไม่ค่อยเห็น แต่ในฐานะและรูปร่างของหลิงอี้ ต้องมีคนมากมายที่สนใจเขาตั้งแต่เข้ามาแล้ว
“เวินจิ้ง ฉันจะสอนคุณเต้นรำให้เป็น”น้ำเสียงของเขาดูแรงขึ้นเบาๆ
จนกระทั่งจับข้อมือของเวินจิ้งแล้ว
เมื่อจะพยายามผลักหลิงอี้ออกไป สายตาของเวินจิ้งก็มองเห็นสองคนที่คุ้นเคย
ที่หน้าประตู มู่วี่สิงที่ใส่ชุดสั่งทำพิเศษและโจวหย่านตัวเล็กๆที่อยู่ในอ้อมแขนของเขา
สองคนเข้ามาพร้อมกัน สว่างจนเธอรู้สึกแสบตาเบาๆ
เมื่อคิดอะไรอยู่ ตัวเธอก็ถูกหลิงอี้พาไปที่ฟลอร์เต้นรำแล้ว
เขารู้อยู่แล้วว่าเธอเห็นอะไร
ดวงตาของเขามีความโหดร้าย แขนของหลิงอี้โอบรอบเอวของเวินจิ้ง เสียงต่ำของเขาพูดอยู่ข้างหูของเธอว่า”มองฉัน”
สติของเวินจิ้งฟื้นขึ้นมา ในแสงสอดประสานกัน ใบหน้าของหลิงอี้มีความเย็นชาที่น่ากลัว
ไม่รู้ว่าเหยียบเท้าเขาตั้งกี่ครั้งแล้ว…
“ตอนนี้ฉันอยู่เคียงข้างคุณ สายตาของคุณเมื่อไหร่จะมองเห็นฉันบ้าง”
เวินจิงยื่นริมปากและยิ้มอย่างเย็นชาเบาๆ”คุณก็รู้ มันไม่มีทาง”
“เขากำลังจะแต่งงานแล้ว”
“ไม่จำเป็นต้องให้คุณหลิงเตือนฉันสำหรับความจริงนี้” เวินจิ้งมีความโกรธ
เธอยอมรับเลยว่า อารมณ์ของเธอค่อนข้างหงุดหงิดนิดเพราะการเข้างานของมู่วี่สิง
เจอเขาทีไร ต้องไม่สงบอยู่แล้ว
ในเวลานี้ มู่วี่สิงและโจวหย่านก็เข้ามาในฟลอร์เต้นรำ ใบหน้าที่หล่อเหลาของมู่วี่สิงก็เย็นชาเหมือนเดิม โจวหย่านเกือบจะติดอยู่ในอ้อมกอดของเขาแล้ว
ในสายตาบุคคลภายนอก ทั้งสองสวีทมาก
แต่ว่าถึงแม้แสงจะมืด สายตาของมู่วี่สิงก็มองเวินจิ้งที่อยู่ในอ้อมกอดของหลิงอี้อย่างชัดเจน
ทันใดนั้น ความโมโหก็เต็มไปอยู่รอบๆ
เมื่อเผชิญหน้ากับสายตาที่ลึกมืด หัวใจของเวินจิ้งเต้นแรงมาก
มองไปที่อื่น ผ่านไปไม่นาน มู่วี่สิงและโจวหย่านก็จะใกล้มาถึงศูนย์ฟลอร์เต้นรำที่เธออยู่แล้ว
รอยเท้าการเต้นของเวินจิ้งก็วุ่นวายมากยิ่งขึ้น เหยียบเท้าของหลิงอี้ตลอด
เวินนจิ้งก้มหัวลง พยายามระวางขั้นตอนการเต้นของเธอ
วินาทีต่อไป ข้อมือก็ถูกจับโดยแขนที่จากอีกด้าน เธอยังไม่ทันรู้เรื่อง ก็ตกอยู่ในอ้อมกอดของอีกคนแล้ว
ข้างหูมีเสียงที่เย็นชาของมู่วี่สิงดังขึ้น”เปลี่ยนคู่เต้นหน่อย”
เวินจิงขมวดคิ้ว ทั้งคนเกือบถูกมู่วี่สิงกดขึ้น เธอมีแต่กอดคอของเขาถึงจะไม่ตกลงมา
ฝ่ามือของเขาติดอยู่สะโพกของเธอ ร้อนมาก …
แก้มของเวินจิ้งก็แดงขึ้นทันที
วางเธอลงพื้นสักที เวินจิ้งรีบผลักเขาออกไปทันที แต่แรงของมู่วี่สิงเยอะมาก เธอถูกกอดในอ้อมแขนอย่างแน่น
ในแสงที่มืด ดวงตาที่ออบซิเดียนของผู้ชายคนนี้ดูเหมือนจะมีแสง ดึงดูดให้เธอหลงรัก
เธอหนีสายตาไปทางอื่น ยังไม่ลืมที่จะผลักเขาออกไป
มู่วี่สิงค่อยๆพาเธอออกจากฟลอร์เต้นรำ และเสียงดนตรีก็หยุดพอดี
เวินจิ้งรีบผลักเขาออกมาอย่างสุดแรงทันที สายตาเต็มไปด้วยความโมโห
เธอพูดอย่างเยือกเย็น”คุณมู่ กรุณาให้ความเคารพด้วย”
“ฉันทำอะไรไป”มู่วี่สิงยกคิ้วขึ้น ริมปากบางๆของเขาก็ยิ้มอย่างขี้เล่น
เวินจิ้งกัดริมปาก”ฉันไม่ได้ตกลงจะเต้นรำกับคุณ”
“คุณปฏิเสธไม่ได้ไม่ใช่เหรอ”
เวินจิ้งหันหัวแล้ววิ่งออกไปเลย สายตาของผู้ชายค่อยๆจมลง โจวหย่านเดินเข้ามาและอยากจะอุ้มแขนของเขา
แต่มู่วี่สิงดึงมือออกมาอย่างเฉยเย็น
“คุณอยากให้ฉันมาในคืนนี้ ฉันก็ทำไปแล้ว”
ความหมายก็คือแสดงละครถึงตรงนี้ก็พอ
เขารู้ความตั้งใจของโจวหย่านอยู่แล้ว แค่อยากการกระตุ้นเวินจิ้งแค่นั้นเอง
“เพราะฉะนั้นเวินจิ้งไปแล้ว คุณก็จะไปเลย ใช่ไหม”โจวหย่านถามอย่างเยือกเย็น
“ฉันไม่มีความสนใจกับงานเหล่านี้ “มู่วี่สิงพูดเสร็จ ก็จะเดินไปทางประตูทีเดียว
ข้างนอก เวินจิ้งส่งข้อความให้หลิงเหยา บอกว่าเธอกลับไปก่อน
กำลังคิดจะเรียกแท็กซี่ หลิงอี้ก็มาถึงหน้าเธอแล้ว
“ฉันส่งคุณกลับ”
“ไม่ต้อง”
“เท้าของคุณบิดงอ มันจะเจ็บมากนะ”
พูดเสร็จ หลิงอี้ก็ก้มหมอบลงแล้ว
เวินจิ้งเพิ่งสังเกตเห็นว่ามีรองเท้าส้นแบนอยู่ในมือของเขา มือของเขาสัมผัสผิวหนังของเธอ และถอดรองเท้าส้นสูงของเธอออก
“หลิงอี้… ” เวินจิ้งขมวดคิ้ว
เท้าหดตัวลงโดยไม่รู้ตัว
แต่หลิงอี้จับข้อเท้าผิวขาวของเธออย่างแรง ไม่ให้เธอดิ้นรน
จนช่วยเธอใส่รองเท้าเรียบร้อย
สีหน้าของเวินจิ้งมีความผิดปกติเบาๆ หันหัวมาก ก็เจอกับดวงตาที่ลึกล้ำของคนที่อยู่หน้าประตูทันที
เขา …ออกมาตั้งแต่เมื่อไหร่และเขายืนดูอยู่ที่นี่นานแค่ไหนแล้ว
เธอรีบมองไปทางอื่นอย่างรวดเร็วและพูดกับหลังอี้โดยไม่รู้ตัวว่า”เรากลับไปกันเถอะ”
เรา
เมื่อได้ยินคำนี้ ดวงตาของหลิงอี้เต็มไปด้วยรอยยิ้ม เขารีบขับรถมาทันที
เวินจิ้งเดินเร็วมาก สายตาที่อยู่ด้านหลังเธอเหมือนแสบมาก เธอแค่ยิ้มอย่างเย็นชา
เธอไม่เคยเข้าใจมู่วี่สิงเลย
“จะกลับตระกูลหลินหรือเปล่า”หลิงอี้ถาม
เวินจิ้งขมวดคิ้ว คิดดูก็เหมือนไม่ได้กลับบ้านนานแล้ว ช่วงนี้นี้ยุ่งเหลือเกิน พรุ่งนี้ก็เป็นวันหยุด ก็เลยตกลงไป