Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน - ตอนที่ 423
บทที่ 423 เกลียดเข้ากระดูก
“เวินจิ้ง ผมชอบคุณ ถึงให้คุณอยู่ข้างกายผมตลอดไป ตั้งแต่เริ่มแต่งงานกับคุณ เป้าหมายของผมเพียงแค่อยากใช้ช่วงเวลาแบบสามีภรรยา เพียงแต่มีอยู่เรื่องหนึ่ง คุณกับผมควบคุมกันไม่ได้ ไม่ใช่หรอ?” มู่วี่สิงมองเธออย่างร้อนรน
เวินจิ้งเข้าใจคำพูดของเขาที่สื่อออกมา หลังแต่งงาน เธอก็รักเขาเข้าแล้ว แต่ตอนนี้ เธอก็แน่ใจแล้วว่า ความรู้สึกเขาที่มีต่อเธอนั้นมันเหมือนกัน
แค่นี้ก็พอแล้ว
กอดมู่วี่สิงอย่างแน่น และฟังเสียงหัวใจของเขา ในเวลาที่เงียบสงบนี้เธอดูรักและทะนุถนอมอย่างเป็นพิเศษ
“เรื่องแต่งงานใหม่อีกรอบ แต่ไหนแต่ไรผมก็ตั้งใจมากเลยนะ” เขาจับมือเล็กๆของเธอ
“อย่างน้อยรอให้ฉันผ่าตัดเสร็จค่อยคิดอีกที” เวินจิ้งมองที่เขา
เธอรู้ว่าอัตราความสำเร็จของการผ่าตัดนั้นไม่สูงเลย
ถ้าหากข้ามผ่านจุดนี้ไปได้ เธอยอมที่จะเริ่มต้นใหม่อยู่กับผู้ชายคนนี้อีกครั้ง
ท่ามกลางของชีวิต พบคนที่ต่างคนต่างก็ชอบกัน ยากจริงๆ เธอแค่อยากทะนุถนอมไว้
“ผมจะรอคุณตลอดไป”
ค่ำคืนนี้ สองคนหลับใหลในอ้อมกอดกันและกัน เป็นวันที่สองแล้วที่เวินจิ้งตื่นมาตอนบ่ายโมง
มู่วี่สิงยังคงอยู่ข้างกายเธอ ลืมตาขึ้นมาก็เจอเขา สำหรับเวลาที่ผ่านไปสำหรับเธอแล้ว เป็นเรื่องที่สิ้นเปลืองมาก
ยิ้มๆ มือของเธอยื่นไปดึงแขนของเขาพร้อมกับนอนพิงในข้อพับเขา
เพียงแต่ฉากนี้ไม่ได้อยู่นานเท่าไร นางพยาบาลก็เคาะประตูเข้ามา
เวินจิ้งอึดอัดใจทันทีที่ต้องปล่อยมู่วี่สิงออก ใบหน้าผู้ชายเต็มไปด้วยรอยยิ้ม นี่คือพยาบาลที่ไม่เคยเห็นมาก่อน
ถึงแม้ปกติมู่วี่สิงจะปฏิบัติต่อคนอื่นอย่างความอ่อนโยน แต่จริงๆแล้วเขาไม่ชอบคบหากับคนแปลกหน้าเข้าใกล้
“คุณหมอมู่ ผู้ป่วยควรที่จะได้รับการตรวจเช็คร่างกายแล้วใช่มั้ยคะ” พยาบาลเตือน
มู่วี่สิงพยักหน้า พยุงเวินจิ้งขึ้นมา
ข้างๆวางมื้อเที่ยงไว้นานจนเย็นหมดแล้ว มู่วี่สิงสั่งเกาเชียนให้ไปซื้อใหม่อีกชุด
พยาบาลรออยู่ด้านนอก เวินจิ้งมองโจ๊กจืดๆที่อยู่ตรงหน้า แล้วขมวดคิ้วขึ้น
ไม่ค่อยอยากกินแล้ว
“เวินจิ้ง” มู่วี่สิงขมวดคิ้ว น้ำเสียงเปลี่ยนเป็นจริงจังขึ้นมา
เวินจิ้งกัดริมฝีปาก แต่ก็ยังไม่ขยับ
เธอไม่ชอบกินโจ๊กตั้งแต่เด็ก…..
ไม่ชอบเป็นพิเศษ……
“ฉันไม่หิว”
“อีกสักพักคุณต้องตรวจเช็คร่างกาย จำเป็นต้องกินให้อิ่ม” มู่วี่สิงพลิกตัวเธอ หยิบชามขึ้นมาจังหวะเหมือนจะป้อนเธอ
เวินจิ้งยังคงคัดค้าน
“ฉันไม่หิวจริงๆนี่” มองไปที่โจ๊ก กินไม่ลงจริงๆ
แม้ว่า ผู้ชายที่อยู่ตรงหน้ารู้จักเอาใจเขามาใส่ใจเรามาก
” ถ้าไม่กิน คงได้แค่ฉีดยาที่ก้นเธอแล้วล่ะ” มู่วี่สิงยืนขึ้นมา เดินออกไปเอาเข็มฉีดยาเข้ามาจริงๆ
เวินจิ้งจ้องตาโต เอามาเทียบกับเข็มฉีดยาแล้ว เหมือนกับว่ากินโจ๊กจะรับได้มากกว่าหน่อยนะ!
หยิบชามมาอย่างไม่เต็มใจ เวินจิ้งจ้องไปที่มู่วี่สิง
น่ารำคาญจริงๆ!
ผู้ชายมองอย่างพอใจเธอหยิบชามขึ้นมาอย่างว่าง่าย เขาถึงจะเอาเข็มฉีดยาไปวางไว้อีกด้านหนึ่ง แต่ว่ายังอยู่ในสายตาของเวินจิ้ง เธอยิ่งกินเร็วขึ้น
แต่ โจ๊กนี้ทำไมถึงหวานล่ะ?
เวินจิ้งมองมู่วี่สิงอย่างประหลาดใจ เขาเปิดปากพูด “กินไม่ยากเนอะ?”
“อร่อย……”
เธอชอบกินหวานที่สุด
“อร่อยก็ดีแล้ว”
เวินจิ้งจะเมาจริงๆแล้ว……
ซัดเกลี้ยงจนแทบจะเลียชามแล้ว เวินจิ้งกินอย่างมีความสุขมาก
มู่วี่สิงจริงๆแล้วตั้งใจซื้อโจ๊กหวานให้เธอ……เข้าใจเธอเกินไปแล้ว!
ตรวจเช็คร่างกายเสร็จก็ดึกแล้ว กลับมาห้องผู้ป่วยก็ไม่เจอมู่วี่สิง
ทำไมเหมือนกับไม่เจอเขาแค่ไม่กี่ชั่วโมง ก็คิดถึงเขาขนาดนั้นนะ
เวินจิ้งเวินจิ้ง……เธอหมดทางเยียวยาแล้ว!
ไม่นานมาก หลินเวยกับหลิงอี้เข้ามาเยี่ยมเธอ ตอนนี้อารมณ์ของคุณแม่ดีขึ้นไม่น้อยแล้ว สามคนคุยกันตลอดทั้งวัน หลิงอี้ตอนดึกพักอยู่ที่นี่ ส่วนหลินเวยกลับไปก่อน
“หลิงอี้ คุณก็กลับไปเถอะ” เวินจิ้งมองผู้ชายตรงหน้า
“แม่ไม่วางใจเลยให้ผมอยู่ดูแลคุณ”หลิงอี้นั่งอยู่ที่โซฟา
เขารู้ว่ามู่วี่สิงอยู่ที่นี่ เวินจิ้งไม่ต้องการเขา แต่ ยังกังวลว่าจะเกิดเรื่องขึ้นได้
ช่วงนี้บริษัทฉีซื่อกรุ๊ปเกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ ก็ช่วงที่ข่าวพึ่งจะแถลงมาว่า ฉีเซินหนีแล้ว
เขาก็เลยกลัวฉีเซินจะมาหาเวินจิ้งที่นี่
ตอนนี้เบี้ยที่ใช้ข่มขู่มู่วี่สิงที่ดีที่สุด ก็คือเวินจิ้ง
หลิงอี้สายตามองลงอย่างกังวล
“ฉันอยู่ที่นี่ไม่เป็นอะไรจริงๆ” หลิงอี้อยู่ เธอรู้สึกแปลกๆ อีกอย่างเธอแค่อยากอยู่ข้างกายมู่วี่สิง
แทบจะมองความคิดของเวินจิ้งออก หลิงอี้ก็ไม่กวน เงาที่สูงใหญ่ยืนขึ้นมา “ในเมื่อคุณไม่อยากเจอผมขนาดนี้ ผมก็กลับดีกว่า”
เวินจิ้งไม่ออกเสียง เธอรู้น้ำใจของหลิงอี้ดี
เพียงแต่ ไม่ตอบกลับดีที่สุดแล้วล่ะ
ข้างนอก มู่วี่สิงกำลังจะเข้ามา ผู้ชายสองคนประจันหน้ากัน
“เวินจิ้งก็ฝากคุณดูแลแล้วนะ” หลิงอี้พูดด้วยหนักแน่น
มู่วี่สิงพยักหน้า ตอนนี้ทั้งสองคนไม่ตาต่อตา ฟันต่อฟันกันขนาดนั้นแล้ว
“จับตามองฉีเซินไว้ ตอนนี้ผมหาเขาไม่เจอ” หลิงอี้เตือน
มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ร่องรอยของฉีเซินนั้น เป็นอันตรายที่ซ่อนไว้อยู่จริงๆ
“ได้ปิดล้อมทั่วเมืองแล้ว เขาหนีไม่พ้นหรอก” เวินจิ้งดูข่าวพึ่งจะรู้ว่าฉีเซินหายไป
ในช่วงสองวันสั้นๆนี้ สถานการณ์ของบริษัทฉีซื่อกรุ๊ปได้จมปลักกับความทุกข์ยากลำบาก
แต่เวินจิ้งจำสัปดาห์ก่อนได้อย่างชัดเจน บริษัทฉีซื่อกรุ๊ปถึงกระทั่งจัดงานแถลงข่าวใหญ่โต ประกาศให้มู่เหิงเข้ารับตำแหน่งรองผู้จัดการบริษัทฉีซื่อกรุ๊ปอย่างเป็นทางการ
แค่เวลาสั้นๆไม่กี่วันเอง
ตอนนี้หุ้นของบริษัทฉีซื่อกรุ๊ปได้หยุดลง เดิมทีเจรจาการลงทุนสินค้าก็ได้หยุดการขายไว้ชั่วคราวแล้ว สำหรับฉีเซิน เดิมทีควรได้รับการตรวจสอบที่สถานีตำรวจ แต่กลับหายสาบสูญไร้ร่องรอย
ยิ่งฉีเซินตัดขาดความสัมพันธ์กับหลินเวย ตระกูลหลินก็ไม่สนับสนุนบริษัทฉีซื่อกรุ๊ปแม้แต่อย่างใด
ตอนนี้ฉีเซินที่ฝ่าฝืนกฎเภสัชกรรม อาชญากรรมทั้งหมดก็ถูกเปิดโปง การเปลี่ยนแปลงทั้งหมดนี้ไม่มีวิธีที่จะกลับตัวได้แล้ว
เวินจิ้งขมวดคิ้ว ไม่หยุดที่จะคิดถึงตระกูลมู่กับบริษัทฉีซื่อกรุ๊ปตลอด เรื่องนี้ ใช่มู่วี่สิงลงมือรึเปล่า?
ถ้าหากใช่ อุบายของเขา……โหดเหี้ยมจริงๆ
ช่วงที่ใจลอยอยู่ มู่วี่สิงเดินเข้ามาแล้ว
มองเห็นเวินจิ้งกำลังดูข่าว เขาก็ขมวดคิ้วขึ้น
เวินจิ้งเอ่ยปากถามเขาว่า “เรื่องของบริษัทฉีซื่อกรุ๊ป คุณเป็นคนทำใช่ไหม?”
“มีคนเร็วกว่าผมก้าวหนึ่ง” มู่วี่สิงตอบ
เวินจิ้งชะงัก นึกไม่ถึงว่าจะไม่ใช่มู่วี่สิง……
“แต่ ทุกอย่างที่เขาทำผิดก่อนหน้านั้นผมจดบันทึกเรียบร้อย แล้วจะส่งให้สถานีตำรวจแน่นอน ให้เขาออกมาไม่ได้ตลอดชีวิต” ช่วงที่พูดคุย สีหน้าของมู่วี่สิงดุดันมาก
นั่นคือเกลียดเข้ากระดูก
เวินจิ้งเข้าใจ
ฉีเซินทำลายมู่ซือซือ มู่วี่สิงไม่ปล่อยเขาไว้แน่
“ก็ดี เขาสมควรได้รับโทษ” เวินจิ้งน้ำเสียงเบา
แต่ว่า พอคิดถึงมู่เหิง เวินจิ้งเลยถาม “ฉันจำได้ว่ามู่เหิงได้รับตำแหน่งรองผู้จัดการบริษัทฉีซื่อกรุ๊ป เขาอยากจะช่วยบริษัทฉีซื่อกรุ๊ปทำลายบริษัทมู่ซื่อกรุ๊ปใช่รึเปล่า?”
“อืม ตอนนี้เขาก็ถูกจับกุมแล้ว ตอนอยู่บริษัทมู่ซื่อกรุ๊ปเขาก็สมรู้ร่วมคิดกับฉีเซินแล้ว ในมือผมมีหลักฐานพร้อม”
เวินจิ้งแปลกใจ ที่แท้มู่วี่สิงวางแผนจัดการตั้งนานแล้ว
“เขา……เขาคิดพี่ชายแท้ๆของคุณใช่ไหม?” เวินจิ้งถาม
“ใช่” มู่วี่สิงพยักหน้า
เพียงแต่สีหน้าของเขา ยังคงเย็นชามาก
เวินจิ้งอึ้ง พี่ชายแท้ๆ…….
ระหว่างพวกเขา ความสัมพันธ์ทำไมถึงกลายเป็นแบบนี้