Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน - ตอนที่ 429
บทที่429 คุณเป็นคุณภรรยามู่ชั่วนิจนิรันดร์
“แกพูดซี้ซั้วอะไรกัน! มันก็เป็นพฤติกรรมชั่วของแก! ” มู่เหิงโต้ตอบด้วยความโกรธ
“มู่เหิง ถ้าถูกคนอื่นหลอกลวงใช้กลอุบายเลย” มู่วี่สิง “หวังดี ” พูดเตือนสติ
แต่ว่ามู่เหิงยังคงฟังไม่เข้าหูอย่างเห็นได้ชัด ไม่ง่ายเลยที่จะได้หลักฐานการกระทำความผิดของมู่วี่สิง เขาจะเอาเขาเข้าคุกให้ได้!
“มู่วี่สิง แกรอฉันได้เลย ”
ไม่ได้สนใจมู่เหิงอีก มู่วี่สิงนั่งเข้าไปในรถ สั่งมู่วี่สิงอย่างนิ่งๆ “ไปสืบหน่อยว่าใครเป็นคนส่งหลักฐานให้กับมู่เหิง ”
“ครับ ”
กลับถึงโรงพยาบาลก็เป็นเวลากลางคืนพอดี มู่วี่สิงเดินเข้าไปที่ห้องผู้ป่วยโดยตรง
เวินจิ้งยังไม่ตื่น หลินเวยและหลิงเหยากลับไปก่อนแล้ว มีแค่หลิงอี้ที่เฝ้าอยู่
“การผ่าตัดเป็นยังไงกันแน่ ทำไมเวินจิ้งยังไม่ตื่น ” หลิงอี้ถามอย่างกังวล
มู่วี่สิงขมวดคิ้วหน้าเคร่งขรึม “การผ่าตัดสำเร็จไปได้ดี คุณไม่ต้องเป็นห่วง เวินจิ้งต้องตื่นขึ้นมาแน่ ”
“ตอนไหน ”
มู่วี่สิงนิ่งเงียบไป เขาก็ไม่รู้คำตอบ
หลับตาตั้งสติ เขาจำเป็นต้องควบคุมอารมณ์ของตัวเองให้ดี
ตรวจอาการของเวินจิ้งเสร็จ มู่วี่สิงเข้ามาที่ห้องทำงาน เย่เฉียวเห็นเขา แล้วเดินเข้ามา “เรื่องครั้งนี้ ผมขอโทษเป็นอย่างมาก ”
มู่วี่สิงไม่ได้โทษเขาเลย เรื่องที่เหนือความคาดคิดไม่มีใครสามารถควบคุมได้
“เย่เฉียว ไม่ว่าครั้งนี้จะเป็นยังไง ก็ขอบคุณคุณมาก ”
เย่เฉียวมองดูผู้ชายที่อยู่ด้านหน้า คิดไม่ถึงว่าเขาจะไม่ซักถามเรื่องที่เขาทำผิดพลาดในการผ่าตัด
เขาไม่ได้พูดอะไรไปพักหนึ่ง
ถ้าเขาไม่สะเพร่า ตอนนี้เวินจิ้งก็คงตื่นขึ้นมาแล้ว
ไม่ใช่อยู่ในสถานการณ์ที่ไม่รู้อนาคตแบบนี้
“ผมขอตัวกลับก่อน ถ้ามีเรื่องอะไรแจ้งผมด้วย ”
มู่วี่สิงพยักหน้า ในห้องทำงานขนาดใหญ่ เขานั่งอยู่บนโซฟา เปิดกระเป๋าสตางค์ขึ้น เป็นรูปของเวินจิ้ง
ปลายนิ้วของเขาค่อยๆลูบลงไป
ผ่านไปสามวัน เวินจิ้งยังคงไม่ฟื้น
หลินเวยสติหลุดไปตั้งนานแล้ว พุ่งเข้าไปที่ห้องทำงานของมู่วี่สิง “มู่วี่สิง ตอนแรกคุณสัญญากับฉันไว้ว่ายังไง การผ่าตัดของคุณประสบความสำเร็จแน่นอน! ทำไมเวินจิ้งเธอยังไม่ฟื้นขึ้นมา……”
“มู่วี่สิง……ฉันจะย้ายโรงพยาบาลให้เวินจิ้ง! ”
ได้ยินคำพูดนั้น มู่วี่สิงเงยหน้าขึ้นมา และขมวดคิ้ว
“คุณนายหลิน เชื่อผม ”
“เป็นเพราะฉันเชื่อคุณมากเกินไป ทำให้ลูกสาวฉันนอนสลบไสลอยู่อย่างนี้ ”
“มู่วี่สิง คุณคิดหาวิธี ” หลิงอี้ทนไม่ไหวพูดออกมา
การรอต่อไปอย่างนี้เรื่อยๆ ทำให้ใจคนนั้นหวาดกลัว
“วิธีเดียวในตอนนี้ก็คือ รอ ”
“ย้ายโรงพยาบาล! หลิงอี้ ย้ายโรงพยาบาลให้เวินจิ้ง! ” หลินเวยรอไม่ไหวแล้ว
หลิงอี้ดึงหลินเวยไว้ “คุณนายหลิน คุณใจเย็นก่อน เวินจิ้งไม่เหมาะที่จะย้ายโรงพยาบาลในตอนนี้ ”
ตอนนี้ศาสตราจารย์ระบบประสาทและสมองที่เก่งที่สุดในหนานเฉิงก็คือมู่วี่สิง ถ้าอยากที่จะหาหมอที่ดีกว่านี้ ยาก!
อีกอย่างก็ไม่แน่ว่าจะมีโรงพยาบาลไหนที่ยินยอมรับช่วงต่อ
“ไม่ได้……ฉันไม่ยอมให้เวินจิ้งอยู่ที่นี่อีกต่อไป ฉันจะให้เธอฟื้นขึ้นมา ”
“หลิงอี้ เอาคุณนายหลินออกไปก่อน เวินจิ้งจำเป็นต้องอยู่ที่นี่ ” มู่วี่สิงพูดอย่างเคร่งขรึม
“มู่วี่สิง ถ้าเวินจิ้งเป็นอะไรไปขึ้นมา ผมไม่ปล่อยคุณไว้แน่ ”หลิงอี้พูดออกมา
“วางใจเถอะ ผมก็ไม่ยอมปล่อยตัวเองไว้เหมือนกัน ” มู่วี่สิงพูดกับตัวเอง
หลินเวยร้องไห้จนเป็นลมไปแล้ว หลิงอี้พยุงเขาออกไป ห้องทำงานกลับมาเงียบอีกครั้ง
มู่วี่สิงยืนอยู่ที่หน้าต่าง สามวันสามคืนที่ไม่ได้พักผ่อน สีหน้าของเขาเหนื่อยล้าอย่างเห็นได้ชัด
มองดูท้องฟ้าค่อยๆมืดลงอยู่ตรงนี้ จนข้ามไปอีกวัน ท้องฟ้าค่อยๆสว่างขึ้นมา ข้ามวันข้ามคืน ไม่ได้หลับตาเลย
เดินไปที่ห้องผู้ป่วย มู่วี่สิงมองดูเวินจิ้งที่นอนหลับอยู่ กุมมือเล็กที่หนาวเย็นของเธอ เขาโค้งตัวลง
ใบหน้าที่นิ่งสง่างามของเธอ คิ้วโก้งโค้งสวยงาม จมูกเล็กกระจุ๋มกระจิ๋ม เขาชอบเวลาที่เธอยิ้มมากที่สุด ยิ้มอ่อนหวาน
แค่ว่าตอนนี้รอยยิ้มของเธอ ทำได้แค่อยู่ในหัวสมองของเขา
“คุณภรรยามู่ ผมคือมู่วี่สิง ” เขานั่งลงอยู่ข้างเธอ
“ตอนเด็กที่อยู่บ้านเด็กกำพร้า คุณชอบกินลูกอมกระต่ายขาวมากที่สุด มักจะชอบแอบครูใหญ่แล้วค่อยส่งให้ผม และก็ไม่รู้ว่าผมเริ่มนึกถึงคุณเมื่อไร ในเวลาที่ผ่านมาเนิ่นนาน ในหัวสมองของผมก็มีแค่คุณ ผมไม่รู้แม้กระทั่งชื่อของคุณ รู้แค่ชื่อเล่นของคุณชื่อจิ้งจิ้ง ตอนนั้นข้างกายคุณมีพ่อที่รักคุณอย่างมาก คุณพูดถึงพ่อด้วยความภาคภูมิใจ ผมอิจฉาคุณมาก ผมไม่มีครอบครัวที่สมบูรณ์แบบแบบคุณ……”
จนถึงพลบค่ำ มู่วี่สิงมองเวินจิ้ง พูดเรื่องความลับที่อยู่ในใจของเขามากมาย
เขาตามหาเธอมาตั้งนานแล้ว เขาจะไม่ไม่ยอมปล่อยเธอไป
เขาชอบเธอ ชอบเธอมากๆ
ตอนแรกไม่อยากให้เธอเข้ามาต่อสู้ในตระกูลมู่ พูดคำโกหกออกไปว่าไม่ชอบเธอ
เขารักเธอก็พอแล้ว และเขาก็ไม่เคยหวังว่าเธอจะต้องรักเขา
แต่คิดไม่ถึงว่า เขาเริ่มรู้สึกว่าเธอก็มีใจให้เขาเพิ่มขึ้นทุกที
เขาเคยถอยหลัง และเคยรู้สึกสับสนอลหม่าน
เมื่อเผชิญหน้ากับความรู้สึก และเรื่องที่เกี่ยวข้องกับเวินจิ้งนั้น เขาก็จะทำตัวไม่ถูก
เขาแค่หวังว่าเธอจะมีที่ชีวิตที่ดี
แต่ว่าเรื่องตระกูลมู่นั้นซับซ้อนมาก เขาไม่อยากให้เธอเข้ามาอยู่ในเรื่องวุ่นวายนี้
น้ำตาอุ่นๆไหลลง หลังฝ่ามือของเวินจิ้ง เธอขยับๆเหมือนมีของเหลวร้อนๆอะไรบางอย่างลวกที่มือเธอ
ใครร้องไห้แล้ว?
เธออยากที่จะลืมตาขึ้น แต่ว่าหนังตานั้นหนักมาก……
“มู่วี่สิง ” เธอพูดเสียงเบาออกมา
น้ำเสียงที่เบามากๆๆ แต่มู่วี่สิงได้ยินอย่างชัดเจน
สายตาแห่งความสุขแพร่กระจายออกมา เขากุมมือของเวินจิ้งไว้แน่น มองเธออย่างไม่กะพริบตา
“คุณภรรยามู่ ”
แต่สิ่งที่ตอบสนองกลับมาหาเขานั้นกลับไม่มีการขยับเขยื้อนใดๆของเวินจิ้ง ไม่มีเสียงของเธอพูดออกมาอีก
“คุณภรรยามู่ ” เขาเรียกเธออีกครั้ง
กุมปลายนิ้วมือของเธอ เขาสั่นๆและหยิบแหวนออกมาจากกระเป๋า
นี้คือแหวนแต่งงานที่เวินจิ้งคืนให้เขาเมื่อก่อน ตอนนี้ เขาเอามันใส่ไว้บนนิ้วมือของเธออีกครั้ง
กุมมือเล็กๆของเธอแน่น ฝ่ามือใหญ่ของเขากุมมือเธอจนมิด
“เวินจิ้ง คุณเป็นคุณภรรยามู่ชั่วนิจนิรันดร์ ”
ตอนกลางคืน เกาเชียนมารายงานเรื่องบริษัทมู่ซื่อกรุ๊ปเหมือนทุกวัน
เขาอึกอักก่อนจะพูดออกมา “ประธานมู่ คุณหลี่ซานอยากจะพบคุณ ”
ตั้งแต่ครั้งนั้นที่หลี่ซานและฉีเซินได้สมรู้ร่วมคิดวางแผนทำร้ายเวินจิ้ง จนเวินจิ้งต้องเข้าโรงพยาบาล มู่วี่สิงก็ให้เธอลาออกไปแล้ว
แม้กระทั่งไม่ให้เธออยู่ที่หนานเฉิงต่อไป
“หลังจากที่เรื่องของเธอ ไม่ต้องมารายงานผมอีก ” มู่วี่สิงพูดออกไปอย่างไร้อารมณ์
เกาเชียนรับคำ
“ประธานมู่ เกี่ยวกับเรื่องหลักฐานที่คุณยักยอกเงิน เป็น โจวเซินที่แอบเอาไปให้มู่เหิง ” เกาเชียนยื่นผลการรายงานของช่วงนี้ออกไป
มู่วี่สิงสายตาเย็นชา จับเอกสารในมือแน่น
“เขายังอยู่ประเทศC? ”
“ใช่ครับ เขาอยู่ที่ตระกูลโจวประเทศC ”
“ยื่นมือยาวจริงๆนะ ”
“ติดต่อทนายให้มาพบผม ” มู่วี่สิงสั่ง
จนถึงฟ้าส้างมู่วี่สิงถึงกลับไปที่ห้องผู้ป่วย ผลักประตูเข้าไป ไฟยังสว่างอยู่
แต่เขาจำได้แม่นว่าเขาได้ปิดไฟแล้ว
มือสั่นขึ้นมา ฝีเท้าของเขาวางอย่างมั่นคงขึ้น ใช่มือสั่นๆผลักประตูเข้าไป
เวินจิ้งคิดที่จะไปหยิบเหยือกน้ำที่อยู่ข้างๆนั้น ได้ยินเสียงก็ตกใจ แก้วที่อยู่ในมือตกลงมา……
“เพร่ง ——”