Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน - ตอนที่ 477
บทที่ 477 ไม่มีใครกล้าขำคุณหรอก
ตอนดึก เวินจิ้งก็ได้รับสายโทรศัพท์จากมู่วี่สิงว่าเขาจะมาหาที่ตระกูลหลิน
และตอนนี้ก็มาถึงแล้ว เวินจิ้งจึงต้องออกไปหาอย่างเลี่ยงไม่ได้
“ทำไมคุณถึงมาที่นี่ล่ะ”
“ผมยังไม่ได้กินข้าวเย็นเลย” ร่างสูงโปร่งของมู่วี่สิงพิงอยู่กับตัวรถ ด้วยสายตาแวววาว
“งั้นคุณก็รีบไปกินสิ” พูดจบ เวินจิ้งห็หมุนตัวเตรียมจะกลับเข้าบ้าน
แต่กลับถูกมู่วี่สิงรั้งข้อมือเอาไว้ เวินจิ้งไม่ทันระวัง จนทั้งร่างล้มไปอยู่ในอ้อมแขนของเขา
กลิ่นที่คุ้นเคยจู่โจมเข้ามา กลิ่นสะอาดๆทั้งยังเย็นสบาย เป็นกลิ่นที่เธอชอบ
เวินจิ้งแสบจมูกขึ้นมาในทันที
“ไปกินกับผมได้ไหม หืม?”
“ฉันไม่ได้เอาอะไรมาด้วย……” เวินจิ้งพึมพำ
“แค่มีคุณอยู่ด้วยก็พอแล้ว” พูดจบ ก็พาเวินจิ้งขึ้นไปนั่งบนเบาะข้างคนขับโดยไม่ปล่อยให้เธอได้พูดอะไรอีก
เมื่อเวินจิ้งหลุบตาลง เมื่อเห็นรองเท้าแตะที่สวมอยู่บนเท้าของตัวเอง ก็รู้สึกเขินๆ
มู่วี่สิงก็คงเห็นแล้วแน่ๆ
“ไม่เป็นไรน่า อยู่กับผม ไม่มีใครกล้าขำคุณหรอก”
เวินจิ้ง “………..”
มู่วี่สิงพาเธอมาร้านอาหารญี่ปุ่นที่ดูดีร้านหนึ่ง เพราะเวินจิ้งใส่รองเท้าแตะ หลังจากลงรถมาก็เอาแต่หลบอยู่ข้างหลังของมู่วี่สิง เพื่อลดการมีอยู่ของตัวเองให้น้อยลง
ในที่สุดก็มาถึงห้องอาหาร เธอถึงได้โผล่หน้าออกมาได้ เพราะที่นี่ต้องถอดรองเท้าทานข้าว เวินจิ้งจึงไม่รู้สึกขลาดเขินอะไรเท่าไหร่แล้ว
“มู่วี่สิง ฉันอิ่มแล้วจริงๆนะ” อาหารที่ตระกูลหลินถูกปากเธอมาก เธอเลยกินจนอิ่มแล้ว……
“งั้นก็ดูผมกินก็ได้” มู่วี่สิงพูดขึ้นมาอย่างเนิบนาบ
“งั้นฉันกินแค่ซาซิมิก็ได้” เวินจิ้งพูดขึ้น
“วันจันทร์หน้าบริษัทมู่ซื่อกรุ๊ปจะจัดงานแถลงข่าว คุณอยากเข้าร่วมด้วยไหม?” เมื่อวางเมนูลง มู่วี่สิงก็ถามขึ้นมา
“วันจันทร์ฉันต้องฝึกงานน่ะสิ” เวินจิ้งส่ายหน้า
ว่าแต่ บริษัทมู่ซื่อกรุ๊ปมีเรื่องใหญ่อะไรต้องแถลงงั้นเหรอ?
“งานแถลงข่าวอะไรเหรอ?”
“คุณปู่จะให้ผมสืบทอดบริษัทมู่ซื่อกรุ๊ปอย่างเป็นทางการ” ในตอนที่พูด มู่วี่สิงก็ขมวดคิ้วอยู่ตลอด
เวินจิ้งนิ่งอึ้ง และเงียบไปอยู่นาน
“คุณตัดสินใจดีแล้วเหรอ?” เวินจิ้งถามเสียงเบา
“อืม มู่เหิงถูกคุณปู่ตัดออกจากวงศ์ตระกูลแล้ว สิทธิ์การสืบทอดจึงตกมาอยู่ที่ผม”
“งั้นมื้อนี้ฉันเลี้ยงคุณเอง ต่อไปนี้คุณก็จะเป็นบอสมู่โดยชอบธรรมแล้วสิ!” เวินจิ้งรินเหล้าใส่แก้ว จากนั้นก็ชนแก้วกับมู่วี่สิง
ในแววตาของชายหนุ่มเต็มไปด้วยรอยยิ้มเอ็นดู จากนั้นก็พูดด้วยเสียงอบอุ่นว่า “จิ้งจิ้ง ที่ผมอยากเป็นมีแค่อย่างเดียวก็คือ สามีของคุณ”
เมื่อถ้อยคำถูกปล่อยออกมา ใบหน้ารูปไข่ของเวินจิ้งก็แดงขึ้นมาในทันที
“เดี๋ยวในอนาคตก็ได้เป็นเองแหละ” เธอพูดเสียงเบา
“อืม ผมจะรอคุณอย่างใจเย็น”
ถึงยังไง ก็รอมาตั้งหลายปีขนาดนี้แล้ว
“เอ้อ คุณบอกว่าคุณจะสืบทอดบริษัทแล้ว งั้นต่อไปนี้คุณก็จะไม่กลับไปทำงานที่โรงพยาบาลแล้วสินะ”
“ผมจะไปตรวจคนไข้แค่ครึ่งวันในทุกๆสัปดาห์ นี่คือสิ่งที่ผมรับปากกับผอ.โรงพยาบาลไว้แล้ว” มู่วี่สิงพูดขึ้นมาอย่างไม่ค่อยใส่ใจนัก
“รับปาก? ทำไมล่ะ?” เวินจิ้งสงสัย
“ความลับครับ” มู่วี่สิงไม่คิดจะบอกเวินจิ้ง
“งั้นคุณก็จะไม่ออกจากโรงพยาบาลมหาวิทยาลัยหลินไห่ใช่ไหม?”
“ไม่ครับ”
เวินจิ้งหลุดยิ้มออกมาอย่างห้ามไม่ได้ มู่วี่สิงไม่คิดจะทิ้งอาชีพคุณหมอ มันดี….ดีมากๆ
“ฉันพูดจริงๆนะเวลาคุณใส่เสื้อกาวน์น่ะดูดีกว่าใส่สูทซะอีก!” ในดวงตาของเวินจิ้งเต็มไปด้วยแววตาแห่งความหลงใหล
“แล้วตอนไม่ใส่อะไรเลยล่ะ?” รอยยิ้มในแววตาของมู่วี่สิงยิ่งทอประกายลุ่มลึก
เวินจิ้ง “……”
เอาล่ะ พักหัวข้อนี้ไว้แค่นี้ก่อน!
เมื่อกินข้าวเสร็จ เสี้ยงหงก็โทรมา
“คลับหนานลี่ อั้ยเถียนกับซูยิงก็อยู่ นายกับเวินจิ้งก็มาด้วยกันสิ”
ได้ยินดังนั้น มู่วี่สิงก็หันมองหญิงสาวตัวเล็กที่ยืนอยู่ข้างรถ ใส่รองเท้าแตะมีขนฟูๆ อย่างกับเด็กแหนะ
“อืม เดี๋ยวไป”
“ใครโทรมาเหรอ” เมื่อเห็นมู่วี่สิงวางสายแล้ว เวินจิ้งจึงเดินเข้ามาดึงแขนของมู่วี่สิง
“เสี้ยงหงน่ะ โทรมาชวนพวกเราไปรวมกลุ่ม เพื่อนสนิทของคุณก็อยู่”
“อั้ยเถียนเหรอ?” เวินจิ้งเบิกตากว้างอย่างแปลกใจ เธอไม่รู้เลยว่าอั้ยเถียนกลับมาแล้ว
“อืม”
“งั้นเราก็รีบไปกันเถอะ” พูดจบ เวินจิ้งก็วิ่งขึ้นรถ แต่กลับถูกมู่วี่สิงยื้อเอาไว้
“ไปหาซื้อรองเท้าสักคู่ก่อนเถอะ”
เวินจิ้งขลาดเขิน เอางั้นก็ได้…….
ตอนนี้เป็นเวลาห้าทุ่ม ห้างจึงปิดไปตั้งนานแล้ว แต่มู่วี่สิงก็ต่อสายหาใครบางคน จากนั้นผู้จัดการห้างก็มาปรากฏตัวในชุดสูทรองเท้าหนัง แล้วทำการเปิดประตูห้างให้ แสงไฟระยิบระยับพลันก็สว่างขึ้นมา แม้แต่เครื่องปรับอากาศก็เปิดปะทะใส่หน้า
“มู่วี่สิง ไม่จำเป็นต้องทำถึงขนาดนี้ก็ได้……”
เวินจิ้งตกใจกับการวางมาดของเขาจริงๆ พนักงานก็ทยอยออกมาต้อนรับทีละคน เวินจิ้งรู้สึกตะลึงที่ได้รับการเอาใจถึงขนาดนี้
ด้านมู่วี่สิงกลับทำหน้านิ่ง จูงมือเธอเดินเข้าไปในร้านขายรองเท้าผู้หญิง “เลือกสิ”
“อื้อ”
เวินจิ้งเลือกรองเท้าส้นเรียบมาคู่หนึ่ง เอาแค่พอใส่สบาย เหมือนใส่ไปฝึกงานที่โรงพยาบาลทุกวัน ถ้าใส่รองเท้าส้นสูงคงไม่สะดวกแน่ๆ
“เอาคู่นี้”
ในตอนที่กำลังจะจ่ายเงิน เวินจิ้งก็ส่งบัตรของตัวเองไปให้ แต่พนักงานกลับโบกมือ “บันทึกลงบัญชีของประธานมู่แล้วล่ะ”
“คุณเคยพาผู้หญิงมาซื้อรองเท้าที่นี่สินะ” เวินจิ้งหลุดปากพูดออกไป
ที่พนักงานพูดแบบนั้น ก็แสดงว่ามู่วี่สิงเคยมาที่นี่ก่อนแล้ว
แต่เธอเพิ่งเคยมากับมู่วี่สิงเป็นครั้งแรก
พนักงานรู้สึกกระอักกระอ่วน จึงเงียบไปชั่วขณะ
“มู่วี่สิงเคาะหัวเธอ จากนั้นก็บีบจมูกของเธอ “ห้างนี้เป็นของบริษัทมู่ซื่อกรุ๊ปต่างหากล่ะ”
เวินจิ้ง “………”
งั้นเหรอ แล้วนี่เธอคิดอะไรอยู่เนี่ย!
“ขอบคุณประธานมู่ค่ะ!” เวินจิ้งรีบเข้าไปออดอ้อน
เมื่อมาถึงสถานที่นัดพบ นอกจากเวินจิ้งจะได้เจออั้ยเถียนแล้ว ก็ยังได้เจอซูยิงที่ไม่ได้เจอกันมานาน
เธอ…..ท้องเหรอ?
เวินจิ้งมองท้องที่ป่องออกมาเล็กน้อยๆของซูยิง “ซูยิง…….”
“เวินจิ้ง ไม่ได้เจอกันนานเลยนะ”
“ยินดีด้วยนะ! ตัวเล็กกี่เดือนแล้วล่ะ?”
“ห้าเดือนแล้วล่ะ”
“……….”
“เอาล่ะ พวกคุณไปรำลึกความหลังด้วยกันทางนั้นนะ ส่วนวี่สิงมานี่ มาเล่นไพ่กัน” เมื่อลี่หนานเฉิงเห็นหญิงสาวทั้งสองคนยืนอยู่หน้าประตู จึงรีบให้พวกเธอเข้ามา
นอกจากลี่หนานเฉิงกับเสี้ยงหงแล้ว ภายในห้องยังมีส้งวี่กับผู้ชายอีกคนหนึ่งอยู่ด้วย
เวินจิ้งสนใจแต่เรื่องที่ซูยิงตั้งครรภ์ ถึงทั้งสองจะไม่เจอกันตั้งนาน แต่พอได้คุยกันก็ดูสนิทกันขึ้นมากกว่าเดิม
อั้ยเถียนก็เข้าร่วมด้วย เธอกับซูยิงเพิ่งได้รู้จักกัน แต่กลับสนิทกันไวจนสามารถเล่นด้วยกันได้แล้ว
ตอนนี้ลี่หนานเฉิงอยู่ที่เมืองหนาน และซูยิงก็อยู่ด้วย
มู่วี่สิงไม่มีอารมณ์เล่นไพ่ เล่นได้ไม่กี่ตาก็ไปนั่งคุยเรื่องงานกับเสี้ยงหงที่เคาน์เตอร์บาร์
“ช่วงนี้ตระกูลโจววางแผนออกสู่ตลาด แต่โครงการของเป่ยเจียวานกลับติดขัด เดาว่าเขาคงเจอเรื่องยุ่งยากไม่น้อยเลย”
“ที่เขาลงทุนกับบริษัทเหิงอวี่กรุ๊ปก็เสียหายพอๆกัน” มู่วี่สิงกระตุกริมฝีปากขึ้น
“ตอนนี้บริษัทเหิงอวี่กรุ๊ปก็ถือว่าหมดตัวแล้ว นายจับตามองมู่เหิงไว้ดีๆเถอะ คนคนหนึ่งถ้าไม่เหลืออะไรเลย ก็สามารถทำเรื่องบ้าๆได้ทุกอย่าง”
“อืม ฉันจะปกป้องคนรอบตัวให้ดีๆ และฉันจะส่งเขาเข้าคุกด้วยมือของฉันเอง”
เขารอวันนี้มานานแล้ว
“คุณปู่นายใจร้ายขนาดนี้เลยเหรอ?” เสี้ยงหงยกคิ้ว
จะดีจะร้ายยังไงมู่เหิงก็ถือว่าเป็นสายเลือดของตระกูลมู่นะ
“มู่เหิงสร้างปัญหาให้บริษัทมู่ซื่อกรุ๊ปมามากพอแล้ว อีกอย่างตอนนั้นแม่ของฉันตายยังไง ในใจคุณปู่เองก็รู้ดี”
“คุณปู่ของนายรักนายมากนะ เพียงแต่ชอบควบคุมนายไปหน่อย” เสี้ยงหงส่ายหน้าของจนใจ
“คุณปู่มีเวลาไม่มากแล้ว ช่วงเวลาที่เหลือ ฉันก็เลยไม่อยากทำให้ท่านต้องโมโหน่ะ” มู่วี่เองหลุบตาต่ำ