Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน - ตอนที่ 489
บทที่ 489 พวกเขาอยู่ที่นี่ด้วยกัน
มู่วี่สิงมองเห็นความเขินอายของเวินจิ้ง รอยยิ้มในดวงตาซ่อนลึกขึ้น จงใจพูดว่า”แดดร้อนเกินไปหรือเปล่า หน้าแดงอย่างนี้”
ฟังออกความจงใจของมู่วี่สิง เวินจิ้งไม่ได้สนใจเขา เดินไปข้างหน้าเอง
เดินบนชายหาดด้วยเท้าเปล่า น้ำทะเลสีฟ้าลอยมาตามคลื่น และมีความรู้สึกเย็นๆมาจากข้อเท้า
มีสาหร่ายทะเลจำนวนมากลอยอยู่ในน้ำทะเลใกล้กับฝั่งน้ำ มันจะพันรอบเท้าของเวินจิ้งไปเรื่อยๆ และติดกับขาของเวินจิ้งด้วย ทั้งคันทั้งสบาย
มู่วี่สิงเดินอยู่หลังเวินจิ้ง ถามเธอว่า”คุณว่ายน้ำเป็นมั้ย”
“แน่นอนอยู่แล้ว ฉันเคยเป็นสมาชิกทีมว่ายน้ำของโรงเรียนด้วย”เวินจิ้งพูดอย่างภาคภูมิใจ
“ว่ายช้าสุดเหรอ”มู่วี่สิงแซวเล่น
เวินจิ้งจ้องเขาอย่างหงุดหงิด”เราแข็งว่ายน้ำกัน”
“ได้”มู่วี่สิงยิ้มด้วยความรัก
เวินจิ้งใส่สน็อกเกิ้ล คลื่นค่อยๆไหลผ่านหัวไหล่เบาๆ และไหลผ่านศีรษะเธอไป
เวินจิ้งรู้สึกราวกับตัวเองกลายเป็นนางเงือก โอบกอดโดยน้ำทะเล
เธอไม่ได้ว่ายน้ำนานแล้ว มู่วี่สิงอยู่ข้างๆเขาตลอด เห็นได้ชัดว่าผู้ชายว่ายตามความชาของเธอ
ผ่านสน็อกเกิ้ลและน้ำทะเล เวินจิ้งมองผู้ชายรูปงามหน้าหล่อที่อยู่ข้างเธอโดยไม่กะพริบตา เขาว่ายเร็วกว่าเธอนิดหน่อย เธอก็พยายามว่ายเร็วตาม สองคนว่ายไล่ตามแบบนี้ตลอด
แต่สายตาตกอยู่ตัวมู่วี่สิงตลอด เวินจิ้งม่ได้สังเกตว่าเธอชนกับสิ่งแปลกบางอย่าง เธอหายใจไม่ทันก็เลยสำลักน้ำอย่างรวดเร็ว
มีน้ำทะเลเค็มวิ่งเข้ามาในปากของเธอ สำลักจนจมูกของเวินจิ้งเจ็บมาก
เธอดิ้นรนตามสัญชาตญาณ แต่พบว่าเธอถูกอุ้มขึ้นมาแล้ว
ถอดสน็อกเกิ้ลออก เวินจิ้งก็มองมู่วี่สิงอย่างอับอายเบาๆ จมูกมีอาการปวดเสียวซ่านอีก เธออดไม่ได้น้ำตาไหล
มู่วี่สิงจูบลงโดยตรง เลียน้ำตาของเธอให้สะอาด
“เมื่อไหร่จะทำให้ฉันได้โล่งใจหน่อยนะ”
“ก็ปล่อยให้คุณต้องเป็นห่วงล่ะ”เวินจิ้งพูดอย่างจงใจ
กอดคอของมู่วี่สิงไว้ ขาของเธอก็โอบรอบตัวเขา แขวนอยู่บนตัวมู่วี่สิงเหมือนหมี
มู่วี่สิงอุ้มเธอค่อยๆเดินไปฝั่งน้ำ คลื่นซัดสาดเข้ามาเรื่อยๆ อ่อนโยนแต่ไม่กลัว
ด้วยการลอยตัวของทะเล มู่วี่สิงอุ้มเวินจิ้งไปที่ฝั่งน้ำอย่างง่ายๆ
เมื่อยืนขึ้นจากน้ำ จุดศูนย์ถ่วงของเวินจิ้งก็ไม่มั่นคง และมีคลื่นซัดสาดมาพอดี คลื่นกระทบลงมา เวินจิ้งถอยหลังมาหน่อยโดยไม่รู้ตัว
แขนที่มีแรงของมู่วี่สิงจับเธอไว้”ระวัง”
เสียงและลมหายใจของเขาอยู่ใกล้กับหู”มีก้อนหินเล็กๆเยอะมากอยู่ใต้ฝ่าเท้า จะเจ็บหน่อย จับฉันไว้”
เวินจิ้งพยักหน้าอย่างเชื่อฟัง เขย่งเท้าจูบแก้มของมู่วี่สิง
แสงแดดส่องลงมา ยืดเงาของสองคนอย่างยาว
มู่วี่สิงพาเวินจิ้งมานั่งลงที่กลางหาดทราย ทรายที่นี่ไม่เปียก ไม่เปียกเหมือนของชายฝั่ง แห้งนุ่มสบายมาก
“เมื่อก่อนคุณทะเลบ่อยๆเหรอ”เวินจิ้งถามอย่างชิลๆ
มู่วี่สิงมุ่งเน้นคุณภาพชีวิตอยู่เสมอ เมื่อก่อนคงไปเที่ยวพักผ่อนบ่อยๆมั้ง งั้นทะเลจะเป็นตัวเลือกแรกโดยปกติ
“ไปไม่เยอะ ตอนเรียนแพทย์ไม่มีเวลาว่างเลย เรียนจบก็ทำงานแล้ว ยิ่งไม่มีเวลาไปอีก”คำตอบของมู่วี่สิงทำให้เวินจิ้งประหลาดใจเบาๆ
เธอคิดว่ามู่วี่สิงจะเที่ยวทั่วไปเหมือนคนร่ำรวยโดยส่วนใหญ่
แต่จริงๆแล้ว เวลาของเขาถูกบีบถึงจะมีว่างบ้าง
“แล้วจิ้งจิ้งล่ะ” มู่วี่สิงถาม
เวินจิ้งขมวดคิ้ว ฟื้นความทรงจำอย่างจริงจัง”ตอนสมัยเด็กมากแล้ว น่าจะ… ยังในโรงเรียนอนุบาล”
“ยังจำเรื่องตอนนั้นได้เหรอ”
“แน่นอน ตอนนั้นคุณพ่อยังไม่ได้ไปจากฉันกับเจียนอี สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าที่คุณทำงานอยู่ก็ริมทะเล ตอนนั้นยังมีเด็กผู้ชายที่โตกว่าฉันนิดนึงคนหนึ่งอยู่ข้างๆ พวกเราสร้างปราสาทและเหยียบเงาบนชายหาดด้วยกันเสมอ”
“แล้วยังไงต่อ”ดวงตาขอมู่วี่สิงดูเหมือนจะค่อยๆสว่างขึ้น
“ยังไงต่อเหรอ”เวินจิ้งหยุดสักพักและส่ายหัว”ไม่มีอะไรแล้ว แค่ช่วงเวลานั้นไปที่ชายหาดบ่อยๆ แต่หลังโตขึ้นก็ไม่ค่อยได้ไปชายหาดเลย”
เธอชอบอยู่บ้านตั้งแต่เด็ก ทุ่มเทพลังงานทั้งหมดที่เรียนการแพทย์ เธอไม่มีเวลาส่วนตัวเท่าไหร่เลย
“คุณยังจำเด็กผู้ชายคนนั้นได้ไหม”มู่วี่สิงถามเหมือนไม่ได้ตั้งใจ
“ต่อให้จำได้ก็คงนึกเขาไม่ออกแล้วมั้ง ตอนนั้นเรายังเด็กเกินไป ฉันไม่รู้ชื่อของเขาด้วยซ้ำ”
“คุณไม่หึงเหรอ”เวินจิ้งกะพริบตามองมู่วี่สิง
“ฉันจะไม่หึงกับเด็กน้อยหรอก”มู่วี่สิงพูดอย่างเย็นเยือก
“ตอนคุณยังเล็ก คุณไม่ใช่เด็กน้อยหรือไง”เวินจิ้นทำหน้าบึ้งอย่างจงใจ
ดวงตาของมู่วี่สิงเต็มไปด้วยรอยยิ้มที่มีเสน่ห์ มองเวินจิ้งเหมือนว่าเวลาจะกลับไปเมื่อเขายังเป็นเด็กอยู่ เขาจับมือเล็กๆของเธอ แล้วค่อยๆเดินอยู่ในชายหาด ราวกับว่าจะไปถึงจุดสิ้นสุดของโลก
เมื่อเห็นมู่วี่สิงนอนลง เวินจิ้งผ่อนคลายตัวอย่างเต็มที่ นอนลงบนชายหาดด้วยกัน
แสงอาทิตย์ไม่ได้ร้อนมาก ส่องแสงบนใบหน้าของทั้งสองคน
เวินจิ้งหลับตาไม่พูดอะไร มู่วี่สิงก็ไม่พูดเหมือนกัน
ไม่รู้ผ่านไปนานแค่ไหน ข้างหูเต็มไปด้วยเสียงพัดลมทะเล เสียงเพลงของคลื่นกระทบกับโขดหินชายหาด
พระอาทิตย์ตกดินค่อยๆตกไปทางทิศตะวันตก เวินจิ้งหันหน้ามาและแอบเปิดตา ใบหน้าหล่อเหลาของมู่วี่สิงก็อยู่ใกล้ๆ
ผมสั้นที่ถูกตัดแต่งอย่างประณีต คิ้วดวงตาลึก ฟีนิกซ์ด้วยขนตาที่โค้งอยู่ปิดอย่างแน่น ใต้จมูกดั้งโด่ง ริมปากที่สวยงามคันขึ้นอยู่ ท่าทางชิลมาก
สักพัก ม่วี่สิงขยับขนตาเบา เวินจิ้งรีบหันหัวไปทางอื่นทันที แล้วหลับตาอีกครั้ง
ในวินาทีต่อมา มือถูกจับเบาๆ อุณหภูมิที่คุ้นเคย เธอจำทุกบรรทัดบนฝ่ามือของเขาได้อย่างชัดเจนด้วย
เธอยังหลับตาอยู่ แต่การคันปากก็เผยอารมณ์ดีของเธอแล้ว
ทะเลแห่งนี้ เป็นทะเลที่สวยที่สุดที่เธอเคยเห็น
เพราะมีมู่วี่วิงและเธอด้วย
พวกเขาอยู่ที่นี่ด้วยกัน
กลับถึงห้อง มู่วี่สิงเริ่มทำงานบริษัท เวินจิ้งเข้าใจว่าในฐานะประธานของบริษัทมู่ซื่อกรุ๊ป มีงานต้องทำในทุกๆวัน
เธอนั่งอยู่หน้าหน้าต่างสูงจากพื้นจรดเพดาน จับโทรศัพท์ตอบข้อความของหลิงเหยาและอั้ยเถียน แล้วโทรหาไป๋สือด้วย เพราะว่าจริงๆแล้วเธอต้องจัดการงานของโรงพยาบาลหลายวันนี้ แต่เธอมาเที่ยวกับมู่วี่สิงล่วงหน้าโดยไม่ได้วางแผนเลย
ในตอนเย็น อาหารเย็นสำหรับสองคนเป็นอาหารเย็นใต้แสงเทียนโรแมนติกริมชายหาด
อาหารเป็นอาหารฝรั่งที่ยอดเยี่ยม เวินจิ้งไม่ค่อยสนใจอาหาร สายตาตกอยู่กับมู่วี่สิงตลอด
ผู้ชายคนนี้ … มองยังไงก็ไม่เบื่อ …
“คุณจะกินข้าวหรือกินฉันเหรอ”มู่วี่สิงคันปาก
พูดเสร็จ เวินจิ้งรีก้มหัวลงทันที ต้องกินข้าวสิ
มู่วี่สิงขำเบาๆ ถือแก้วไวน์ด้วยมือ เขย่าไปเรื่อยๆ
“ถ้าคุณเต็มใจที่จะแต่งงานกับฉัน สิ่งที่ฉันอยากทำมากที่สุดในตอนนี้ก็คือขอแต่งงาน”เสียงของมู่วี่สิงอ่อนโยนมาก
เขาคอยรอวันแต่งงานเหลือเกิน
เวินจิ้งยิ้มและแกล้งเขาว่า”คุณคิดว่าตัวเองอายุมากแล้ว เพราะฉะนั้นจึงรีบแต่งงานหรือเปล่า”