Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน - ตอนที่ 529
บทที่ 529 ผู้ชายที่รักเธอที่สุด
การ์เด้นมู่เจียวานมีพื้นที่ถึงร้อยตารางเมตร ห้องของหลิงเหยาอยู่อีกด้าน ก่อนฟ้าสางเกาเชียนก็รีบมาเก็บข้าวของให้เธอ แล้วพาเธอออกไปอย่างว่องไว โดยไม่มีอืดอาดยืดยาดเลยสักนิด
มู่วี่สิงกลับมาอยู่ในห้องหนังสือเหมือนเดิม ปลายนิ้วคีบบุหรี่เอาไว้ จากนั้นก็เปิดวิดีโอขึ้นมา
“ต้องประชุมอีกเหรอ? แล้วคนเมื่อกี้ หลิงเหยาใช่ไหม?” ส้งวี่ขมวดคิ้ว
เมื่อก่อนก็เคยได้ยินเรื่องของมู่วี่สิงกับหลิงเหยามาบ้าง แต่ความเป็นจริงแล้ว มันไม่มีอะไรเลย
“อืม ประชุมต่อเถอะ” มู่วี่สิงพูดด้วยใบหน้าไร้อารมณ์
จนกระทั่งเกือบจะตีสอง มู่วี่สิงถึงได้กลับเข้าไปในห้อง เวินจิ้งลืมตาขึ้นมาอย่างงัวเงีย เมื่อครู่ก็ได้ยินเสียงเคลื่อนไหวข้างนอกแว่วๆ เธอขมวดคิ้วแล้วถามว่า “มีอะไรเหรอ?”
“หลิงเหยาไปแล้ว” มู่วี่สิงไม่ได้ปิดบัง
“อะไรนะ?” เวินจิ้งดีดตัวขึ้นมานั่งในทันที
จากนั้นก็ได้กลิ่นน้ำหอมที่คุ้นเคยจากตัวมู่วี่สิงจางๆ
มู่วี่สิงไม่ใช้น้ำหอม แต่น้ำหอมกลิ่นนี้ เหมือนกลิ่นบนตัวของหลิงเหยาเลย
“เธอย้ายออกไปแล้ว ผมไล่ไปเอง”
“คุณ….คุณทำแบบนี้ทำไม!” เวินจิ้งรู้สึกโกรธนิดๆ มู่วี่สิงไม่บอกเธอเลยสักคำ
แล้วดึกขนาดนี้ ยังให้หลิงเหยาย้ายออกไป เธอจะไปสบายใจได้ยังไง
“มู่วี่สิง คุณมีอคติอะไรกับหลิงเหยานักหนา?” น้ำเสียงของเวินจิ้งดูโกรธๆ
มองเวลา ก็พบว่าดึกดื่นขนาดนี้แล้วจะให้ผู้หญิงตัวเล็กๆออกไปข้างนอกคนเดียวไม่ได้ เธอต้องออกไปหา หลิงเหยา
แต่เมื่อกำลังจะลงจากเตียง มู่วี่สิงก็รวบเธอเข้ามาในอ้อมกอด “จิ้งจิ้ง ผมไม่ชอบให้ในบ้านมีผู้หญิงคนอื่นนอกจากคุณ”
เสียงของมู่วี่สิงขุ่นมัวเอามากๆ
“ฉันรู้ แต่ว่า….เหยาเหยาเป็นเพื่อนฉันนะ อีกไม่นานเดี๋ยวเธอก็ไปแล้ว คุณเองก็รู้นี่ว่าเธอเพิ่งแท้งมา” เวินจิ้งอธิบาย
เธอหวังว่ามู่วี่สิงจะเข้าใจ
เธอเองก็ไม่อยากให้ในบ้านมีผู้หญิงมาเพิ่มเหมือนกัน เธอไม่ต้องการแบบนั้นอยู่แล้ว!
“อืม ผมให้เกาเชียนไปส่งเธอที่คอนโดของหลิงอี้แล้ว คุณสบายใจเถอะ” มู่วี่สิงพูดหน้านิ่ง
ได้ยินดังนั้น เวินจิ้งถึงได้สบายใจขึ้นมาบ้าง
“แต่ทำไมต้องเป็นตอนนี้ด้วยล่ะ” เวินจิ้งพูดมุบมิบ
ถ้ามู่วี่สิงไม่อยากให้หลิงเหยาอยู่ด้วยจริงๆ ส่งหลิงเหยากลับไปพรุ่งนี้เช้าก็ได้นี่
“จิ้งจิ้ง เชื่อผมเถอะ หลิงเหยาไม่เป็นอะไรหรอก”
เวินจิ้งมุ่นคิ้ว รู้สึกอยู่ตลอดเลยว่าระหว่างมู่วี่สิงกับหลิงเหยาต้องมีเรื่องอะไรเกิดขึ้นแน่ๆ
ทะเลาะกันเหรอ?
เธอรู้ว่าทั้งสองรู้จักกันมานานแล้ว แต่ความเป็นจริงก็ไม่ได้สนิทกันขนาดนั้น
และมู่วี่สิงไม่น่าจะถือสาหลิงเหยาขนาดนี้
แต่ไม่ว่าเธอจะคิดแค่ไหนเธอก็คิดไม่ออก ความเหนื่อยล้าเข้ามาจู่โจมอีกครั้ง เธอจึงหลับตาซบอยู่ในอ้อมกอดของมู่วี่สิง
แต่กลับได้กลิ่นน้ำหอมบนตัวเขาอีกหน เธอจึงดันเขาออก “คุณไปอาบน้ำเถอะ”
มู่วี่สิงยิ้มออกมาอย่างเอ็นดู จากนั้นก็จูบเวินจิ้งอยู่พักหนึ่งถึงได้เดินเข้าห้องน้ำไป
เวินจิ้งค่อยๆลืมตาขึ้นมา มือก็คลำหาโทรศัพท์ จากนั้นก็เปิดช่องแชทของหลิงเหยาขึ้นมา คิดอะไรอยู่สักพัก สุดท้ายก็ไม่ได้ส่งข้อความอะไรไป
ขณะเดียวกัน ณ คอนโดอีกแห่ง
หลิงอี้รีบมารับน้องสาวมา จากนั้นก็พาเข้ามาในคอนโด
“เรากลับประเทศCกันดีไหม?” หลิงอี้มองน้องสาวด้วยใบหน้าอึมครึม
“ไม่กลับ” หลิงเหยาปฏิเสธอย่างไม่หยุดคิด
“มู่วี่สิงไม่ได้ชอบแก”
“ฉันรู้ แต่ว่า เขาต้องรับผิดชอบฉัน!” หลิงเหยาพูดอย่างมุ่งมั่น
“หลิงเหยา หัดปล่อยวางเรื่องในอดีตบ้างเถอะ”
“พี่คะ พี่ชอบเวินจิ้งไม่ใช่เหรอ? ถ้าฉันแย่งมู่วี่สิงกลับมาได้ พี่ก็อาจจะได้คบกับเวินจิ้งนะ ไม่ดีเหรอ?” หลิงเหยาพูดเสียงแหลม
แม้ว่าตอนนี้เธอจะไม่ค่อยชอบขี้หน้าเวินจิ้ง แต่ถ้าเวินจิ้งลงเอยกับพี่ชายของเธอ มู่วี่สิงก็จะเป็นของเธอ
“เหยา ตื่นได้แล้ว ตัดใจจากมู่วี่สิงซะ แม่หาคู่ดูตัวไว้ให้แกเยอะแยะ พรุ่งนี้แกต้องกลับประเทศCกับพี่” น้ำเสียงของหลิงอี้เต็มไปด้วยคำชี้ขาด
หลังจากที่หลิงเหยาได้ความทรงจำกลับคืนมา เขาก็ไม่ควรให้เธออยู่ที่นี่ต่อไป
“ไม่เอา พี่ช่วยพูดกับแม่ให้หน่อยสิ เมื่อก่อนแม่ถูกใจมู่วี่สิงมากไม่ใช่เหรอ แม่อยากให้ฉันแต่งงานกับมู่วี่สิงไม่ใช่หรือไง? งั้นก็อย่ามาบังคับให้ฉันยอมรับผู้ชายคนอื่นสิ…..”
“แม่รู้เรื่องที่แกท้องลูกของเจียงฉีแล้ว พรุ่งนี้มหาลัยจะลงโทษเจียงฉี ถ้าไม่มีเหตุสุดวิสัยอะไรเขาก็จะถูกไล่ออก” หลิงอี้พูดพรวดออกมา
เมื่อได้ยินดังนั้น หลิงเหยาก็ตัวแข็งค้าง
“อะไรนะ……”
เจียงฉี เธอนึกไปถึงผู้ชายคนนั้น ผู้ชายที่รักเธอมากที่สุด
จริงๆแล้ว เธอก็รู้สึกสงสารเขาอยู่บ้าง
แต่ว่า เธอตัดใจจากมู่วี่สิงไม่ได้จริงๆ ตั้งแต่วินาทีที่เธอตัดสินใจทำแท้ง เธอก็ไม่คิดจะหันหลังกลับ
“กลับไปกับฉันเถอะ แล้วฉันจะปล่อยเจียงฉีไป” หลิงอี้อ่านความรู้สึกของหลิงเหยาออก
ผู้ชายที่เมื่อก่อนเคยรักขนาดนั้น ยังไงเธอก็ต้องใจอ่อน ใครจะไปลืมความรู้สึกช่วงเวลานั้นลงได้ง่ายๆ
“จริงนะ?” หลิงเหยานิ่งไป เมื่อคำพูดหลุดออกจากปากถึงได้รู้ตัวว่าตัวเองพูดอะไรใจอ่อนออกไป
“เรื่องของเขาไม่เกี่ยวกับฉัน พี่หยุดพูดได้แล้ว” หลิงเหยาผลักพี่ชายออก “ฉันจะไม่กลับประเทศc”
“พี่ พี่ช่วยฉันเถอะ พี่ก็รู้นี่ ว่าตั้งแต่เด็กจนโต ฉันชอบมู่วี่สิงมาตลอด ฉันรักเขา!” หลิงเหยามองพี่ชาย ไอความชื้นค่อยๆเอ่อล้นขึ้นมาในดวงตา
ตอนที่ยังเด็กหลังจากที่เธอได้รู้จักกับมู่ซือซือ เธอก็ได้เจอกับมู่วี่สิงบ่อยๆ และก็ไม่รู้ว่าตั้งแต่เมื่อไหร่ ที่ความรู้สึกมันฝังลึกขนาดนี้
และในคืนที่เธออายุครบ18ปี มู่วี่สิงก็บุกเข้ามาในห้องอาบน้ำของเธอ เขาต้องรับผิดชอบ!
“เขาไม่ได้รักแก” หลิงอี้พูดดับฝันของเธออย่างใจร้าย
“พี่อะ เวินจิ้งก็ไม่ได้รักพี่เหมือนกันนั่นแหละ เมื่อก่อนพี่ยังตามจีบเธอเลย พี่ต้องเข้าใจความรู้สึกฉันสิ!”
หลิงอี้ขบเม้มริมฝีปากบาง เขา….ต้องเข้าใจอยู่แล้วสิ
เมื่อก่อนเขาเห็นหลิงเหยาแอบรักมู่วี่สิงมาตั้งหลายปี เขารู้มาหมดนั่นแหละ
ถ้าข้างกายของมู่วี่สิงไม่มีเวินจิ้ง เขาอาจจะยอมช่วยหลิงเหยาก็ได้ แต่ว่าตอนนี้ มู่วี่สิงกำลังมีความสุขกับเวินจิ้ง เขาไม่อยากให้ใครไปทำลายความสัมพันธ์ของพวกเขาอีก
“พี่ไม่ช่วยฉันก็ช่าง แต่พรุ่งนี้ฉันจะกลับไปที่มหาลัย” หลิงเหยาตีหน้านิ่ง
“ตามใจแกแล้วกัน แต่ถ้าแม่มาเอาตัวแกกลับไปเมื่อไหร่ ฉันก็จะไม่สนเหมือนกัน”
“พี่!” หลิงเหยาโกรธ รู้ทั้งรู้ว่าบ้านหลิงไม่เห็นด้วยกับการที่เธอมาอยู่ที่เมืองหนานเฉิง ถ้าพี่ไม่ช่วยเธอล่ะก็ ไม่แน่เธออาจจะถูกนำตัวกลับไปจริงๆก็ได้…..
“พี่คะ ฉันขอล่ะ ถ้าไม่มีมู่วี่สิง ฉันต้องตายแน่ๆ” หลิงเหยากัดฟัน
เขาคือชีวิตของเธอเลยนะ
“มีฉันอยู่ แกก็ไม่ตายหรอก เหยาเหยา ตอนนี้ฉันเริ่มจะคิดแล้วว่า เจียงฉีก็ไม่เลวนะ” จู่ๆหลิงอี้ก็พูดออกมา
บ้านหลิงไม่เคยเห็นด้วยกับการคบหากันของหลิงเหยากับเจียงฉี ต่างจากเขาที่ไม่คิดจะห้ามปราม
แม้วงศ์ตระกูลของผู้ชายคนนั้นจะไม่ได้ยิ่งใหญ่อะไร แต่ความรู้สึกที่เขามีให้หลิงเหยา กลับบริสุทธิ์ที่สุด
น้องสาวของเขาไม่จำเป็นต้องแต่งงานกับลูกชายตระกูลร่ำรวยก็ได้ ขอแค่คนคนนั้นทำให้เธอมีความสุขได้เท่านี้ก็พอเพียงพอแล้ว
ถ้าหลิงเหยาคิดได้ก็ดีสิ
เมื่อกลับเข้ามาในห้อง หลิงอี้ก็โทรหามู่วี่สิง
“ขอบคุณที่ส่งเธอกลับมา”
“อืม” มู่วี่สิงตอบกลับด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึก
เขาเพิ่งอาบน้ำเสร็จ ส่วนเวินจิ้งหลับไปแล้ว เพราะงั้นเขาจึงพูดเสียงเบามาก
“ผมจะพยายามพาเธอกลับประเทศcให้ได้ แต่คุณน่าจะรู้นิสัยของน้องสาวผมดี……”
“ผมจะไม่ยอมปล่อยให้เธอทำอะไรตามอำเภอใจอีกแล้ว ผมหวังว่า ตระกูลหลิงคงเข้าใจ” มู่วี่สิงพูดเสียงเข้ม