Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน - ตอนที่ 541
บทที่ 541 เห็นได้ชัดว่าเธอเป็นแฟนตัวจริง
เวินจิ้งกอดมู่วี่สิงไว้ “งั้นฉันอยู่เป็นเพื่อนคุณที่นี่นะ”
“ยังอ่านหนังสือไม่เสร็จไม่ใช่เหรอ?” มู่วี่สิงขมวดคิ้ว
“ก็อยู่เป็นเพื่อนไปด้วย แล้วอ่านหนังสือไปด้วยไง”
“ตอนนี้ยังมีเวลาอีกหนึ่งชั่วโมง เราไปกินข้าวเที่ยงกันก่อน” มู่วี่สิงพาเธอออกจากห้องประชุมนั้น
ช่วงบ่าย เวินจิ้งเอาเอกสารมาด้วย และโปรแกรมสัมมนาบ่ายวันนั้นคือการนำเสนอของบุคลากรผู้บุกเบิกบริษัทมู่ซื่อกรุ๊ป ซึ่งเวินจิ้งพอรู้ข้อมูลที่เขาจะพูดกันแล้ว ดังนั้นเธอจึงอ่านหนังสือของเธอ
เขานั่งอยู่แถวหลัง ข้างไหล่ของมู่วี่สิงนั้นนั่งสบายมาก จนเธอรู้สึกหนังตาหย่อนขึ้นมา
แต่ว่า เธอพยายามนั่งตัวตรงไว้
มู่วี่สิงที่นั่งอยู่ข้าง ๆ มองเธอด้วยสายตาที่ขุ่นเคือง “คุณต้องเตือนฉันนะ ฉันจะหลับที่นี่ไม่ได้!”
“ง่วงก็หลับไปเถอะน่า”
“ไม่ได้ ที่นี่คือสถานที่สัมมนา……”
“เดี๋ยวครึ่งชั่วโมงผมจะปลุกคุณเอง”
น่ายั่วยวนจริง ๆ ……
เวินจิ้งพูดจาพึมพำ แล้วมีท่าทีที่ประนีประนอม แต่การหลับครั้งนี้ เธอตื่นขึ้นมาอีกทีก็กลางคืนแล้ว……
เธอไม่รู้ด้วยซ้ำว่ามู่วี่สิงพาเธอกลับไปโรงแรมตั้งแต่เมื่อไหร่……
เมื่อค่อย ๆ ลืมตาตื่นขึ้นมา แล้วไม่เห็นมู่วี่สิงอยู่ในห้อง เธอจึงหยิบนาฬิกาขึ้นมาดู นี่มันสองทุ่มแล้วเหรอ
โทรศัพท์มีข้อความแจ้งเตือนจากมู่วี่สิงข้อความหนึ่ง
“ผมเคลียร์งานที่ห้องประชุมชั้นล่างนะ ถ้าตื่นแล้วลงมาหาผมล่ะ”
เมื่อเวินจิ้งเห็นข้อความนี้แล้วลังเลไปสักพัก คิดว่ามู่วี่สิงกำลังยุ่งกับงานอยู่ เธอจึงไม่อยากไปรบกวนเขา แต่ตอนนี้รู้สึกเริ่มหิวแล้ว จึงคิดว่าจะไปหาอะไรกินก่อน
ในขณะเดียวกัน ห้องประชุมชั้น 28
มู่วี่สิงมองข้อมูลภาษาอังกฤษบนจอคอมนั้น ทันใด ก็ได้ยินเสียงเท้าเดินจากนอกประตูดังขึ้น เขาคิดว่าเป็นส้งวี่ และไม่ได้เงยหน้าขึ้นมอง
จนกว่าจะได้ยินเสียงรองเท้าส้นสูง เขาถึงจะหันไปมอง
โจวหย่านสวมชุดกระโปรงสีขาวเต็มชุด พร้อมด้วยผิวสีขาวที่มีเส้นผมพาดตรงไหล่ไว้ เธอแต่งหน้าแบบครบเครื่องจนดูสวยดั่งภาพวาด
แต่ว่า ในสายตาของชายคนนี้กลับมีแต่ความเย็นชา
“มู่วี่สิง ฉันรู้ว่าคุณไม่อยากเจอหน้าฉันหรอก แต่ฉันแค่จะมาบอกคุณว่า พรุ่งนี้ฉันจะกลับหนานเฉิงก่อน” โจวหย่านยังคงเดินเข้าไปเรื่อย ๆ
“คุณโจวคุณต้องการอะไร?” น้ำเสียงมู่วี่สิงเย็นชามาก
“ฉัน……ฉันต้องการอะไร คุณรู้มาตลอดไม่ใช่เหรอ?” ในวินาทีต่อมา มือเธอได้เข้าใกล้เขา เธอตั้งใจจะปลดกระดุมเสื้อเชิ๊ตของมู่วี่สิง แต่มือของมู่วี่สิงจับมือเธอไว้อย่างรวดเร็ว และทันใดนั้น เธอถูกกระชากล้มลงไปนอนบนพื้น
ถึงขั้นนี้แล้ว เธอยังค่อย ๆ คลานไปที่เท้าของมู่วี่สิง แล้วยกมือขึ้น
มู่วี่สิงยืนขึ้น นัยน์ตาเต็มไปด้วยความโกรธ ข้างนอกนั้นมีคนแอบถ่ายรูปอยู่ ซึ่งเขารู้ตั้งแต่แรกแล้ว
ขาที่เรียวยาวนั้นกำลังจะเดินออกจากประตู โจวหย่านกัดริมฝีปากอย่างไม่เต็มใจ แล้วรีบวิ่งเข้ามากอดมู่วี่สิงไว้จากด้านหลัง
มู่วี่สิงหัวเราะอย่างเย็นชา หลังจากที่ผลักเธอออกไป เขาก็เดินออกจากประตูนั้น
แน่นอนว่า เมื่อเขาเดินออกมาก็ได้เห็นนักข่าวเป็นสิบยืนรออยู่หน้าประตูนั้น เห็นได้ชัดว่าโจวหย่านได้เตรียมการมาแต่แรกแล้ว
แม้เธอจะถูกมู่วี่สิงผลักออก แต่เธอตั้งใจดึงสายเดี่ยวกระโปรงของเธอหลุด และบนคอเธอที่เปิดออกนั้นเต็มไปด้วยรอยดูด
“คุณมู่วี่สิงคะ คุณคบกับคุณโจวตั้งแต่เมื่อไหร่คะ?”
“มีข่าวลือกันว่าคุณมู่วี่สิงหย่ากันก่อนหน้านี้แล้ว ตอนนี้คุณกำลังจีบคุณโจวใช่ไหมคะ?”
“ความสัมพันธ์ของคุณมู่กับคุณโจวมั่นคงแบบนี้ มีแพลนจะแต่งงานกันไหมคะ?”
และขณะนั้น โจวหย่านได้พูดออกสื่อ “เรากำลังเตรียมจะหมั้นกันแล้วคะ”
มู่วี่สิงเม้มปากมองไฟกระพริบที่รัวอยู่ตรงหน้า แล้วพูดออกมาเบา ๆ “เรื่องวันนี้ ใครกล้าไปเขียนข่าวกันมั่ว เขาจะเป็นศัตรูของบริษัทมู่ซื่อกรุ๊ปทันที!”
ทันทีที่เขาพูดออกมา นักข่าวทุกคนตรงหน้าก็ได้แต่ยืนเงียบ
พวกเขาทั้งหมดเพิ่งได้รับข่าวนี้มาเหมือนกัน ซึ่งต่างก็ไม่รู้ความเป็นจริงของข่าวนี้เลย
แต่บางมุมที่ทุกคนได้เห็นเมื่อครู่นี้ มันยังมีความคลุมเครืออยู่เล็กน้อย
ยิ่งไปกว่านั้น รอยดูดบนร่างกายของโจวหย่านนั้นมันชัดเจนเกินไป……
“คุณมู่คะ……คุณช่วยให้คำตอบหน่อยค่ะ ว่าคุณกำลังจะมีข่าวดีกับคุณโจวหย่านใช่ไหมคะ?”
ยังมีผู้สื่อข่าวบางคนที่ไม่กลัวความตายถามขึ้นมาสั้น ๆ
ถึงแม้จะกลัวมู่วี่สิง แต่ไม่ง่ายเลยที่จะได้ทำข่าวนี้ ขอเพียงรายงานตามความเป็นจริงก็คงไม่มีปัญหาอะไร
“พวกคุณหยุดถามได้แล้ว……” น้ำเสียงโจวหย่านค่อนข้างน้อยใจ เธอจงใจยกมือขึ้นแล้วมีแหวนเพชรสวมอยู่ที่นิ้วกลางของเธอ
ซึ่งทำให้ดึงดูดสายตาของนักข่าวทุกคนทันที แล้วแสงแฟลชมากมายก็กระพริบขึ้นมาอีกครั้ง แต่ว่ารู้ตัวอีกทีมู่วี่สิงได้หันกลับไปปิดประตูลงแล้ว ส่วนโจวหย่านถูกทิ้งอยู่นอกประตูนั้น
แต่เมื่อเผชิญหน้ากับเหล่านักข่าว โจวหย่านไม่ได้เกรงกลัวเลย “เรื่องจริงเป็นอย่างไร พวกคุณก็เขียนตามนั้นนะคะ”
ในห้องที่มีกลิ่นน้ำหอมจาง ๆ ลอยอยู่ มู่วี่สิงเรียกเกาเชียนเข้ามา “ส้งวี่ถึงสนามบินแล้วใช่ไหม?”
“ส้งวี่ถึงสนามบินแล้วครับ”
มู่วี่สิงขมวดคิ้วอย่างหงุดหงิด “ไปจัดการนักข่าวข้างนอกนั้นให้หมดนะ แล้วเช็คดูว่าใครเป็นคนเรียกนักข่าวมา”
“รับทราบครับ”
ครึ่งชั่วโมงต่อมา เวินจิ้งเพิ่งทานอาหารเที่ยงในร้านอาหารของโรงแรมเสร็จ เธอตั้งใจจะห่อกลับไปให้มู่วี่สิง แต่ทันทีที่เธอหยิบมือถือเพื่อจะโทรหาเขา ก็มีข้อความข่าวด่วนปรากฏขึ้นในโทรศัพท์
โจวหย่านลูกสาวสุดสวยของตระกูลโจวเพิ่งออกจากห้องของมู่วี่สิง หลังจากเขาทั้งสองได้มีการเดทอย่างลึกลับเป็นเวลาสามชั่วโมงในห้อง……
เวินจิ้งถึงกับตกใจจนตัวสั่น เมื่อเห็นรูปถ่ายและข้อความทั้งหมดที่พยายามจะบ่งบอกว่าโจวหย่านก็คือแฟนสาวของมู่วี่สิง
และมีสื่อบางสื่อได้เอารูปเก่าของมู่วี่สิงที่ไปกินข้าวพร้อมกับบ้านหลิงออกมาโพสต์ ซึ่งเรื่องนี้มันทำให้ทุกคนต้องคิดว่ามู่วี่สิงนั้น “จับปลาสองมือ”
เมื่อทันทีที่เหตุการณ์นี้เกิดขึ้น ทำให้หุ้นในตลาดหลักทรัพย์ของบริษัทมู่ซื่อกรุ๊ปต้องดิ่งลงอย่างน่าเหลือเชื่อ
คนส่วนมากจะคิดว่าโจวหย่านนั้นเป็นแฟนสาวตัวจริงของมู่วี่สิง แต่แล้วทำไมเขากลับมีความสัมพันธ์อันใกล้ชิดกับหลิงเหยากันแน่ นักข่าวพยายามเขียนข่าวอย่างฉะฉาน แต่สำหรับสายตาของเวินจิ้งนั้น ทุกอย่างล้วนเป็นเรื่องไร้สาระทั้งนั้น
รักสามเส้าหรือ?
เธอนั้นแหละคือแฟนตัวจริง
เวินจิ้งในตอนนี้รู้สึกไม่พอใจมาก แต่ที่แย่กว่านั้นคือ โจวหย่านที่เป็นเหมือนกาวเหนียว เดินเข้ามานั่งตรงหน้าเธอด้วยความได้ใจ
สตรอว์เบอร์รีบนคอมันทำให้คนมองแล้วรู้สึก……น่าขยะแขยงมาก
“ทำไมไม่อยู่กับมู่วี่สิงเหรอ?” โจวหย่านถามอย่างจงใจ
ถึงแม้มู่วี่สิงจะไล่เธอออกจากห้องก็ตาม แต่เธอไม่สนใจ เพราะทุกคนทั่วโลกคิดว่าเขาเป็นแฟนกันแล้ว และเรื่องนี้มีเหตุผลเพียงพอที่จะกดดันมู่วี่สิงได้
“คำนี้ควรถามคุณโจวมากกว่านะ?” เวินจิ้งพูดประชดประชัน
“เหอะ” โจวหย่านยิ้มอย่างมีเลศนัย “ฉันจะรู้ได้ไงว่ามู่วี่สิงอยู่ที่ไหน?”
“ถ้างั้น หมายความว่านักข่าวพาดหัวข่าวมั่วละสิ ไม่ทราบว่าคุณโจวเพิ่งลงจากเตียงของผู้ชายคนไหนเหรอ?”
“แล้วเธอว่าล่ะ?” โจวหย่านขมวดคิ้ว นัยน์ตาเต็มไปด้วยเลศนัยอย่างชัดเจน
“ฉันคงไม่รู้ชีวิตส่วนตัวของคุณโจวหรอก” เวินจิ้งขมวดคิ้วด้วยสีหน้าที่ไม่พอใจ
ตอนนี้เธอยังสามารถกลั้นอารมณ์ได้อยู่ แต่มันก็ใกล้ถึงขีดสุดแล้ว
“ผู้ชายของฉันคือมู่วี่สิงตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้ว”
ในวินาทีถัดมา แก้วน้ำเย็น ๆ ก็สาดลงที่ใบหน้าของโจวหย่าน จนทำให้หน้าเธอเลอะเครื่องสำอางไปหมด
เธอตกตะลึงมาก และเมื่อเธอดึงสติกลับมาได้ก็หันกลับมาทุบโต๊ะแล้วพูดอย่างโมโห “เวินจิ้ง เธอทำอะไร!”
“คุณโจว โปรดอย่าพูดถึงมู่วี่สิง เพราะเขาเป็นผู้ชายของฉัน” เวินจิ้งวางแก้วน้ำลง เธอจบด้วยคำพูดที่เย็นชา แล้วหันหลังเดินจากไป
สำหรับคำอย่างโจวหย่านแล้ว ยิ่งพูดมากยิ่งเปลืองน้ำลาย!
แต่โจวหย่านยอมปล่อยโอกาสที่จะได้เยาะเย้ยเวินจิ้งไปได้อย่างไร เธอจึงรีบวิ่งไปดักหน้าเวินจิ้งไว้