Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน - ตอนที่ 548
บทที่ 548 ทิ้งไปอีกทำไม
โจวเซินมองหน้าเธออย่างไม่คลาดสายตา เวินจิ้งช่างมีเสน่ห์ชวนหลงใหลจริง ๆ และตอนนี้เธอหลับไปแล้ว ความโกรธในใบหน้าค่อย ๆ จางหายไป
เธอค่อย ๆ แสดงสีหน้าโกรธอีกครั้ง ผ่านไปสักพัก ก็ค่อย ๆ หายไป
เมื่อเขาเดินออกไปข้างนอก แล้วหยิบบุหรี่ออกมามวนหนึ่ง แพทย์หญิงคนนั้นเดินเข้ามาหาเขา “คุณเลิกบุหรี่ไปแล้วไม่ใช่เหรอ?”
“เลิกไม่ได้” โจวเซินพูดเบา ๆ แล้วจุดไฟอย่างชำนาญ
“ครั้งแรกเหมือนกันนะที่ฉันเห็นคุณกระวนกระวายกับผู้หญิงคนหนึ่งแบบนี้”น้ำเสียงแพทย์หญิงผิดหวังเล็กน้อย
เธอคิดเสมอว่าไม่มีใครสามารถเข้าถึงหัวใจเขา
ที่จริงแล้วไม่ใช่ เพียงแค่ไม่เคยรู้
“ใช่เหรอ? ผมดูกระวนกระวายมากเลยเหรอ?” เขาที่เคยเป็นคนควบคุมสถานการณ์ได้ทุกอย่าง แต่ตอนนี้กลับไม่รู้สภาพอารมณ์ของตัวเองไปแล้ว
“แน่นอนสิ ดูกระวนกระวายจนฉันรู้สึกอิจฉาเลย” แพทย์หญิงไม่เคยซ่อนความรู้สึกของตนเอง
โจวเซินได้แต่ยิ้มเบา ๆ ไม่พูดอะไร
เช้านี้ที่เห็นสีหน้าทรุดโทรมของเวินจิ้งทำให้เขารู้สึกตกใจมาก ซึ่งเขาไม่สามารถทนให้เธอไปทำงานในสภาพนี้ได้หรอก
“เพราะฉะนั้น สรุปว่าพวกคุณเป็นอะไรกัน?”
“ศัตรู?” โจวเซินตระหนักใจ
“คุณโกหก” แพทย์หญิงไม่ยอมเชื่อ
แม้แพทย์หญิงคนนี้จะเดาใจเขาไม่ออก แต่ก็เลือกที่จะไม่ถามต่อ
เขาเป็นคนลึกลับเสมอ แต่การที่เขาเป็นแบบนี้มันยิ่งเป็นแรงดึงดูดต่อผู้หญิงทุกคนอย่างร้ายแรงจนถึงชีวิตอย่างไม่ต้องสงสัยเลย
ขณะนี้ ณ โรงพยาบาลกลาง
มู่วี่สิงอยู่ในออฟฟิศ วันนี้ยกเลิกการรักษาทั้งหมด และเขาได้สั่งห้ามให้ใครเข้าไปรบกวน
แต่ว่า เนื่องจากแม่ของหลิงเหยาอาเจียนอีกครั้ง เธอจึงจำเป็นต้องเข้ามาตามเขา
สีหน้ามู่วี่สิงเคร่งขรึมมาก และได้เข้าไปอย่างรวดเร็ว
พรุ่งนี้คือการเข้ารับการผ่าตัดของคุณนายหลิง ซึ่งวันนี้ต้องเข้ากระบวนการทดสอบร่างกาย แต่มันไม่ได้ราบรื่น
“คุณแม่ฉันยังสามารถเข้ารับการผ่าตัดได้ไหม?” ทุกวันนี้หัวใจของหลิงเหยาแทบจะสลาย
“การผ่าตัดเป็นวิธีเดียวที่จะรักษา” มู่วี่สิงตอบอย่างไม่มีทางเลือก
หลังจากการทดสอบทั้งวัน คุณนายหลิงเหนื่อยจนนอนหลับไปแล้ว
หลิงเหยาเดินออกมาและมองหน้าที่เหนื่อยล้าของมู่วี่สิง “ขอบคุณนะ”
คำพูดของเธอนั้นออกมาจากใจจริง
ถ้าไม่มีมู่วี่สิงอยู่ด้วย เธอคงเป็นบ้าไปแล้ว
“ผมเป็นหมอ นี่เป็นสิ่งที่หมอควรทำ” เมื่อพูดจบ มู่วี่สิงเดินเข้าไปตรวจคนไข้ห้องอื่น
หลิงเหยาพยายามตามเขาไป “มีอะไรให้ช่วยไหม?”
“สิ่งที่คุณควรทำตอนนี้คือกลับไปพักผ่อน” มู่วี่สิงหยุดเดินแล้วพูดกับเธอ
หลิงเหยาอดหลับอดนอนเฝ้าอยู่ที่นี่สามวันแล้ว
“แต่ว่า ฉันกังวล” หลิงเหยาพูดเสียงเบา ๆ
“ผมจะดูแลคุณนายหลิงเอง”
หลิงเหยาถอนหายใจ ที่จริงแล้ว……เธอไม่อยากห่างจากมู่วี่สิงมากกว่า
เมื่อใดที่เขาอยู่โรงพยาบาล เธอก็จะสามารถเห็นเขาได้ตลอดเวลา
ต่อให้เขาจะเย็นชาต่อเธอก็ตาม ขอเพียงได้เห็นก็มีความสุขมากพอแล้ว
เธอกัดริมฝีปากไว้ แล้วเดินตามมู่วี่สิงเข้าไปในห้องผู้ป่วยอย่างไม่หยุด
“หลิงเหยา ผมให้คนส่งคุณกลับบ้านนะ” สีหน้ามู่วี่สิงเยือกเย็นมากขึ้น
“หรือไม่ก็……คุณไปส่งฉัน คุณจะได้กลับไปพักผ่อนด้วย?” หลิงเหยาพูดต่อ “พรุ่งนี้ต้องผ่าตัดด้วย คืนนี้คุณต้องพักผ่อนให้เพียงพอนะ”
“อืม” มู่วี่สิงตอบเสียงเบา ๆ
หลังจากส่งหลิงเหยากลับถึงบ้าน เกาเชียนก็กลับรถออกจากที่นั้น
เมื่อกี้หลิงเหยาอยู่ด้วย เขาจึงไม่กล้าพูด แต่ตอนนี้เธอไม่อยู่แล้ว “ท่านประธานมู่ครับ เหมือนว่าคุณผู้หญิงเวินจะไม่สบายนะครับ เช้านี้โจวเซินส่งเธอไปที่โรงพยาบาล ตอนนี้ยังไม่ออกมาเลยครับ”
เมื่อได้ยินคำพูดของเขา มู่วี่สิงที่หลับตาอยู่ก็ลืมตาอย่างกระทันหัน นัยน์ตาเต็มไปด้วยความเยือกเย็น
“ไปมหาวิทยาลัยF”
ครึ่งชั่วโมงผ่านไป
เวินจิ้งเพิ่งหยอดน้ำเกลือเสร็จ ครั้งนี้ท่าทีของแพทย์หญิงดูนุ่มนวลขึ้นเยอะแล้ว ส่วนเวินจิ้งกดที่สำลีตรงแผลไว้
นี่มันก็เที่ยงแล้ว เวินจิ้งมองไปที่โจวเซิน “นี่คุณไม่ไปงานวิจัยเหรอ?”
“ส่งคุณกลับไปก่อน”
“ฉันกลับเองก็ได้”
“จะให้ผมอุ้มคุณอีกครั้งเหรอ?” โจวเซินหรี่ตาลง
เวินจิ้งชักสีหน้าใส่ เธอต้องปฏิเสธแน่นอนสิ
ทำได้เพียงขึ้นรถไปกับโจวเซิน
ในขณะเดียวกัน มีรถปอร์เช่คาเยนน์สีดำขับเข้ามาจากประตูอีกด้าน รถของโจวเซินก็โดดเด่นมาก ทำให้มู่วี่สิงมองเห็นได้อย่างชัดเจน
เวินจิ้งก้าวออกจากรถของโจวเซิน หลังจากนั้นโจวเซินก็ลงมาช่วยเธอเปิดประตูตึกหอพัก
จนกว่าเวินจิ้งจะเดินเข้าไป เขาถึงจะกลับไปที่รถ
สายตาของมู่วี่สิงจ้องมองไปที่ประตูอาคารหอพัก ใบหน้าหล่อเหลาของเขาดูตึงเครียดมาก
“ท่านประธานมู่ครับ ตอนนี้……”เกาเชียนถามอย่างลังเล
“กลับการ์เด้นมูเจียวาน”
ทันทีที่เวินจิ้งกลับไปถึงห้องพักก็ทิ้งตัวลงนอน จนกระทั่งได้ยินเสียงเท้าเดินที่คุ้นเคย เธอจึงค่อย ๆ ลืมตาขึ้น
หัวเธอซ่อนอยู่ใต้ผ้าห่ม แล้วมองไปที่ประตูห้อง แต่ประตูไม่ได้ถูกเปิดออก
แต่ที่แน่ใจก็คือมีเสียงเท้าเดินอยู่นอกประตูนั้น
จังหวะหัวใจเธอเต้นเร็วขึ้น และเธอเตรียมจะไปหยิบไม้กวาดขึ้นมาเพื่อจะป้องกันตัวถ้าประตูนั้นถูกเปิดออก
แต่ว่าประตูไม่ได้ถูกเปิดออก ได้ยินเพียงเสียงเท้าเดินนั้นค่อย ๆ เบาลง……
ไปแล้วเหรอ?
เวินจิ้งไม่กล้าเปิดประตู เธอเดินไปที่ระเบียงแล้วเห็นรถปอร์เช่คาเยนน์ที่คุ้นเคยจอดอยู่ด้านล่าง
มู่วี่สิงเหรอ?
ผ่านไปไม่นาน มู่วี่สิงเดินออกมาจริง ๆ ด้วย เวินจิ้งจึงรีบก้มหัวลง
เขามาได้ยังไง?
มาแล้ว……ทำไมไม่โทรหาเธอ
ทันใดนั้นเวินจิ้งรู้สึกหงุดหงิดมาก ความง่วงของเธอได้หายไปอย่างกระทันหัน เธอจ้องที่โทรศัพท์ไว้ แต่ไม่มีสายของมู่วี่สิงโทรเข้ามาสักทีเลย
เขาคงคิดว่าเธอหลับไปแล้ว จึงไม่อยากโทรปลุกมั้ง?
แต่ว่า ไหน ๆ ก็มาแล้ว ทำไมกลับไปแบบนี้
เวินจิ้งกลับไปที่เตียงด้วยความสับสน เธอมองไปที่โทรศัพท์ แล้วกดหมายเลขโทรศัพท์ของมู่วี่สิงไว้ แต่ก็ไม่กล้ากดโทรออกสักที
มู่วี่สิงอยู่จนเกือบถึงตอนเช้าค่อยออกจากที่นั่น เขาตรงไปที่โรงพยาบาลแล้วเข้าไปพักผ่อนในออฟฟิศสักพักก็เตรียมตัวเข้าห้องผ่าตัด
ก่อนเข้าผ่าตัด คุณนายหลิงขอเจอมู่วี่สิงแค่คนเดียว
มู่วี่สิงถอดหน้ากากออกแล้วเดินเข้าไปในห้องผู้ป่วย ส่วนหลิงเหยารออยู่ด้านนอกด้วยความกังวล
“คุณนายหลิงครับ” มู่วี่สิงยังคงพูดจาสุภาพกับเธอเสมอ
“ฉันรู้สภาพร่างกายฉันดี ครั้งนี้ฉันอาจจะผ่านมันไปไม่ได้แล้ว วี่สิง ขอบใจมากนะสำหรับการดูแลของนายในช่วงนี้……”
ท่าทีของมู่วี่สิงอ่อนน้อมมาก ซึ่งคุณนายหลิงเป็นคนที่มีพระคุณต่อเขามาตลอด ท่านคือผู้อาวุโสที่เขาเคารพนับถือมากที่สุด
แต่เมื่อได้ยินคำพูดสุดท้ายของท่าน เขากลับทำหน้าไม่ถูก
“วี่สิง ได้โปรด สัญญากับฉันหน่อยได้ไหม?”
“คุณนายหลิง……”
“วี่สิง ขอร้อง……”
……
เมื่อออกจากห้องผู้ป่วยนั้น สีหน้ามู่วี่สิงดูหนักใจมาก
“แม่ของฉันบอกอะไรกับคุณเหรอ?” หลิงเหยาเดินเข้ามาถามอย่างกังวล
เมื่อเห็นสีหน้ามู่วี่สิงดูแย่มาก เธอก็ยิ่งกังวลไปใหญ่
“เปล่าหรอก ผมต้องเข้าไปแล้ว” มู่วี่สิงสวมหน้ากาก และอารมณ์ทั้งหมดนั้นถูกเขาเก็บซ่อนเอาไว้แล้ว
หลิงเหยาวิ่งเข้าไปในห้องผู้ป่วย และตอนนี้พยายามก็ได้เข้ามาห้ามแล้ว
“แม่……”
หลิงเหยาอดไม่ได้ที่จะร้องไห้เสียงดังออกมา เธอทำใจกับสิ่งเลวร้ายที่สุดนั้นแล้ว แต่ถ้ามันเกิดขึ้นจริง ๆ เธอต้องทนรับมันไม่ไหวแน่
จนกระทั่งหลิงอี้ได้มาถึง เขาเข้ามากอดหลิงเหยาไว้แน่น ๆ “ไม่ต้องกลัว พี่มาแล้วนะ”
หลิงเหยาเงยหน้าขึ้น หายใจเข้าลึก ๆ แล้วกอดพี่ชายไว้แน่น ๆ “คุณแม่ต้องไม่เป็นอะไร”
“อื้ม ทุกอย่างจะผ่านไปด้วยดี” สีหน้าของหลิงอี้ก็เคร่งเครียดเหมือนกัน