Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน - ตอนที่ 553
บทที่ 553 กลั้นน้ำตาไว้ไม่ไหว
ช่วงนี้มู่วี่สิงกำลังจัดการกับเรื่องนี้
เขาไม่ได้อยากถือหุ้นของบริษัทหลิงซื่อ หุ้นที่ถืออยู่ในมือกำลังจะทำการถ่ายโอนให้หลิงอี้ตามกระบวนการทางกฎหมาย
เพียงแต่ ถูกหลิงอี้ปฏิเสธ
เขาก็เลยตั้งใจจะโอนไปให้หลิงเหยา จึงหลีกเลี่ยงไม่ได้จะต้องใกล้ชิดกับหลิงเหยา
เวินจิ้งตั้งใจฟังคำพูดของมู่วี่สิง ทำให้ความรู้สึกที่หนักหน่วงผ่อนคลายยิ่งขึ้น
“คุณไม่เคยบอกฉัน” เธอพึมพำด้วยน้ำเสียงที่ไม่ค่อยพอใจ
ถ้าเธอทราบเรื่องนี้ ก็คงจะไม่โกรธขนาดนี้
“สองสามวันก่อนฉันได้โทรหาคุณ แต่เป็นหลิงเหยาที่รับโทรศัพท์” เวินจิ้งพูดด้วยน้ำเสียงโทนต่ำ
คำพูดของหลิงเหยา ถึงตอนนี้เธอยังจำได้ไม่ลืม
ถ้าไม่ใช่ความสัมพันธ์ที่สนิทชิดเชื้อ จะพูดออกมาได้อย่างไรว่า “เขากำลังอาบน้ำ”ที่ทำให้คนอื่นเข้าใจผิดได้
“จิ้งๆ ผมขอโทษที่ตอนแรกไม่ได้บอกเรื่องราวที่หลิงเหยาสูญเสียความจำ แต่ว่าผมไม่เคยมีความคิดแบบนั้นกับเธอแต่อย่างใด”
ความสัมพันธ์ที่ดีมากระหว่างเวินจิ้งกับหลิงเหยาในตอนนั้น เขาไม่อยากจะทำลายความสัมพันธ์ของเขาทั้งสองลง
เพียงแต่ไม่เคยคาดคิดว่า อุบัติเหตุที่เกิดขึ้นในภายหลังจะทำให้ความทรงจำของหลิงเหยากลับคืนมา
“ได้โอนหุ้นให้กับหลิงเหยาแล้วหรือ” เวินจิ้งกะพริบตาแล้วจ้องมองชายที่อยู่ข้างๆ
“หลิงเหยาปฏิเสธ ผมพยายามนำหุ้นออกขายทอดตลาด ทุกอย่างของตระกูลหลิงไม่ใช่เป็นของผม”
“ช่วงนี้ผมจึงคิดหาทางจัดการกับเรื่องนี้ จิ้งๆ ผมขอโทษ” มู่วี่สิงจับหน้าเธอขึ้นแล้วประทับรอยจูบลงอย่างลึกซึ้ง
เขาไม่เคยคิดว่าหลิงเหยาจะเป็นอุปสรรคระหว่างพวกเขา
ไม่ว่าจะใครหรือเรื่องใดๆก็ไม่อาจจะขัดขวางความตั้งใจของเขาที่อยู่ร่วมกับเวินจิ้งได้
สิ่งที่เขาต้องการคือเพียงเธอเท่านั้น
เขาไม่อยากให้เธอได้รับความเจ็บปวดแม้แต่น้อย
เวินจิ้งเงยหน้าขึ้น รับรู้ถึงความรู้สึกของมู่วี่สิงได้อย่างชัดเจน
“เป็นเพราะฉันเชื่อใจคุณไม่มากพอ” เธอพึมพำ
“อย่างนั้นก็เป็นความผิดผมนะสิ”
เวินจิ้งยิ้ม อยู่ในอ้อมกอดของมู่วี่สิง เธอน่าจะถามเรื่องราวให้ชัดเจนตั้งแต่แรก
แต่เมื่อเธอเผชิญเรื่องราวเหล่านี้ทีไร เธอกลับใจเสาะเหลือเกิน
“มู่วี่สิง ต่อไปไม่ว่าเรื่องอะไร คุณต้องบอกกับฉันทั้งหมด อย่าปิดบังฉันจะได้ไหม”
ได้ยินดังนั้น ชายคนนี้ก็ขมวดคิ้วขึ้น “ถ้าเป็นเรื่องที่ทำให้คุณเสียใจ ผมจะไม่บอกคุณเด็ดขาด”
เขาหวังว่าเวินจิ้งจะอยู่ข้างๆเขาอย่างมีความสุขตลอดเวลา
นิ้วแปะลงบนคิ้วของเธอ แล้วเขาก็บรรจงจูบเบาๆ
เวินจิ้งกลับผลักตัวเขา “ไม่ได้ ไม่ว่าจะเรื่องดีหรือไม่ดี คุณก็จะต้องบอกให้ฉันทราบ”
มู่วี่สิงมองเธอ พยักหน้าอย่างไม่มีทางเลือก “ผมจะเชื่อฟังคุณ”
“ยกนิ้วก้อยขึ้นมาสัญญาก่อน” เวินจิ้งทำท่าชูนิ้วก้อย
มู่วี่สิงยิ้มอย่างละมุน เกี่ยวนิ้วก้อยของเธอไว้ และผลักเธอล้มลงในวินาทีต่อมา
คนขับรถได้ดึงแผงกั้นหน้าลำโพงขึ้น ที่นั่งเบาะหลังมีเพียงเขาสองคน บรรยากาศอันเย้ายวนได้ปกคลุมไปทั่ว
เวินจิ้งสัมผัสผิวที่เร่าร้อนของเขา ก็รู้สึกกลัวเล็กน้อยขึ้นในทันใด
มู่วี่สิงดุร้ายเพียงใด…..เธอรู้ดี
แต่ว่าตรงนี้คืออยู่ในรถ!
“มู่วี่สิง…..คุณนั่งดีๆ”
“สายไปเสียแล้ว…..”
……
ไม่รู้ว่ารถได้หยุดตั้งแต่เมื่อไร เวินจิ้งทั้งเขินทั้งอาย
มู่วี่สิงที่ก้มหน้าอยู่ก็ไม่ทราบว่าทำไมตัวเองถึงใจกล้าได้เพียงนี้…..
เวินจิ้งที่ถูกเขากอดไว้ในทรวงอกอย่างนุ่มนวล
“มู่วี่สิง นี่คุณจะเอาชีวิตฉันหรืออย่างไร!”
“ที่รัก คุณต่างหากที่จะเอาชีวิตผม” มู่วี่สิงจูบเธออย่างดูดดื่มอีกครั้ง เวินจิ้งถึงกับตัวละลาย
กอดเวินจิ้งจนกระทั่งถึงการ์เด้นมูเจียวาน ทั้งสองอาบน้ำเสร็จ เวินจิ้งที่อยู่ในอาการง่วง ไม่นานก็หลับไป ส่วนมู่วี่สิงไปที่ห้องหนังสือเพื่อจัดการเรื่องงานต่างๆ
ไม่นาน มีสายโทรศัพท์เข้าจากเกาเชียน
“ประธานมู่ โจวเซินมาถึงเมืองหนานแล้วครับ”
“ตามเขาต่อไปอย่าให้คลาดสายตา”
“จัดการเรียบร้อยแล้วครับ แต่ว่าโจวเซินน่าจะทราบเรื่องที่คุณมู่ซือซือได้รับการช่วยเหลือออกมาแล้ว คนในคอนโดฯก็ได้แยกย้ายกันกลับแล้วครับ”
ได้ยินดังนั้น สีหน้ามู่วี่สิงยังคงเฉยเมย
ดูเวลาตามปฏิทินก็ใกล้จะถึงเวลาแล้ว
เรื่องที่มู่ซือซือได้รับการช่วยเหลือ ส้งวี่เพิ่งจะทราบข่าวในวันต่อมา
ในเวลานี้มู่ซือซือกำลังยื่นเรื่องเข้าเรียนที่มหาวิทยาลัยหลินไห่ ส่วนเขาได้มาเป็นตัวแทนเข้าร่วมพิธีบริจาคของในนามบริษัทมู่ซื่อกรุ๊ป
ในช่วงนี้เขายังคงติดต่อกับโจวเซินอย่างต่อเนื่อง เพียงแต่ไม่ได้ให้เขาวิดีโอคอลกับมู่ซือซือ หรือว่า…..
เมื่อนึกถึงตรงนี้ ส้งวี่เกีอบจะตามทันมู่ซือซือ แต่เมื่อเลี้ยวโค้งเท่านั้น คนกลับหายไป
เขาเปิดโทรศัพท์ แล้วโทรหามู่ซือซือ เสียงโทรศัพท์เรียกเข้าดังอยู่ใกล้ๆ
เมื่อหันศีรษะไป ใบหน้าอันงดงามบริสุทธิ์ได้ตราตรึงอยู่ตรงหน้า
“คุณ…..” ส้งวี่มองเธอที่ไม่ได้นั่งรถเข็นแล้ว มีบางอย่างร้อนวูบวาบที่อยู่ใต้ตาไหลออกมา
ดวงตาของเขาเปลี่ยนเป็นสีแดงก่ำ ไม่นึกไม่ฝันว่าจะได้เห็นเธอที่นี่ ผู้หญิงที่เขาพร่ำเพ้อคิดถึงอยู่ทุกวัน
“ซือซือ!” เขารีบวิ่งไปโอบกอดเธอไว้ในอ้อมแขนอย่างแน่น
มู่ซือซือที่แววตาอมไปด้วยความทุกข์ เธอจำได้ว่าพี่ชายเธอเคยบอกไว้ว่า ห้ามเจอกับส้งวี่
แต่ว่าวันนี้ เธอไม่ทราบจริงๆว่าเขาอยู่ที่นี่
เมื่อครู่เธอรู้ว่าเขาได้เห็นเธอแล้ว เธอจึงได้หลบเขาในทันที สุดท้ายก็ยังถูกเขาตามเจอ
มู่ซือซือที่อยู่ในอ้อมกอดของเขา เกิดอาการกระวนกระวายเล็กน้อย แต่ที่มากกว่านั้นคือความคิดถึง
คิดถึงเขาจังเลย
“ซือซือ ทำไมคุณมาอยู่ตรงนี้ได้ ขาหายดีแล้วหรือโจวเซินป็นคนพาคุณมาหรือเปล่า” มีคำถามมากมายที่อยู่ในหัวของส้งวี่ในตอนนี้
“พี่ชายเป็นคนที่ช่วยฉันออกมา” มู่ซือซือพูดด้วยเสียงโทนต่ำ
จากนั้นเธอก็ผลักส้งวี่ออกไป
“ฉันต้องกลับไปแล้ว”
“ซือซือ มู่วี่สิงช่วยคุณออกมาตั้งแต่เมื่อไร”
มู่ซือซือเม้มปาก ไม่มีคำพูดใดๆ
เธอรู้ว่าพี่ชายของเธอคงมีแผนการไม่อย่างนั้นคงไม่ห้ามเธอพบเจอกับส้งวี่
ตอนนี้เธอไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรดี
“ส้งวี่ คุณคิดเสียว่าไม่ได้เจอฉันแล้วกัน” มู่ซือซือหันหลังกลับ
เพียงแต่ส้งวี่ได้รั้งเธอไว้ จับข้อแขนของเธอ แล้วดึงเธอเข้าสู่อ้อมกอดอีกครั้ง
“ขาคุณลุกขึ้นยืนได้ตั้งแต่เมื่อไร”
“เมื่อวาน”
“คุณอยู่บ้านตระกูลมู่มาตลอดใช่ไหม”
มู่ซือซือเงียบ แต่จ้องนัยน์ตาของส้งวี่ สื่อเป็นนัยให้รับรู้ว่าใช่
“ทำไม…..คุณไม่บอกฉัน”
“ส้งวี่ โจวเซินได้ให้คุณทำอะไร” มู่ซือซือจ้องมองเขา
ได้ยินดังนั้น ส้งวี่ถึงกับชะงัก
แววตาของมู่ซือซืถูกปกคลุมด้วยความผิดหวัง ถึงแม้ว่าจะรู้ ถ้าหากส้งวี่จะทำงานให้กับโจวเซิน ก็เพื่อเป็นการปกป้องความปลอดภัยของเธอ
แต่ถ้าส้งวี่ทรยศต่อบริษัทมู่ซื่อกรุ๊ปจริงๆ
เธอไม่กล้าจะคิดต่อ จึงหันหลังเพื่อจะเดินหนี แต่ทว่าส้งวี่ยังคงรั้งเธอไว้ไม่ปล่อยไป
สายตาที่อ้อนวอน ได้กอดมู่ซือซืออย่างแน่นหนา พูดพึมพำขึ้น “เขาต้องการให้ผมขายหุ้นที่ผมมีทั้งหมด และยังต้องการให้ผมเอารายชื่อผู้ถือหุ้นของบริษัทมู่ซื่อกรุ๊ปให้แก่เขา”
“แล้วคุณ…..”
“ผมได้ให้หุ้นบางส่วนแก่โจวเซิน ส่วนรายชื่อนั้นถูกปลอมแปลงขึ้น โจวเซินยังไม่น่าจะตรวจสอบเจอ” ส้งวี่สารภาพออกมา เขามองมู่ซือซือด้วยความรัก “ผมถือว่าตัวเองเป็นคนของตระกูลมู่มาโดยตลอด แล้วผมจะทรยศต่อบริษัทมู่ซื่อกรุ๊ปได้อย่างไร”
มู่ซือซือมองเขาด้วยความเข้าใจ กลั้นน้ำตาไว้ไม่ไหวจึงได้ร้องไห้ออกมา