Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน - ตอนที่ 584
บทที่ 584 เหมือนกับเอาแต่ใจมาก
เกือบจะใกล้เวลาเช้า เวินจิ้งถึงได้เวลาพักผ่อน นอนอยู่ในอ้อมกอดของมู่วี่สิง เธอถามพึมพำออกไป“ไม่ใช่บอกว่า อีกสองสามวันถึงจะกลับมาเหรอคะ?”
“ผมคิดถึงคุณ”เพียงแค่สี่คำง่ายๆ แต่มันทำให้ในหัวใจของเวินจิ้ง เหมือนมีดอกไม้ไฟที่ระเบิดขึ้น
รอยยิ้มที่มุมปากของเธอค่อยๆ กว้างขึ้น แล้วกอดมู่วี่สิงแน่น
“งั้นธุระของคุณที่นั่น ทำยังไงคะ?”
“ยกเลิกไปแล้ว”
“ฟังดูแล้วเหมือนกับเอาแต่ใจมาก?”
“อืม ก็นับว่าเอาแต่ใจมากอยู่”มู่วี่สิงพูดอย่างเคร่งขรึม
เวินจิ้งอดใจไม่ไหว แล้วทุบไปที่หน้าอกของเขา“งั้นก็ไม่จำเป็นที่จะต้องรีบกลับมา”
“จิ้งจิ้ง ผมกลับมาถึงแล้วเนี่ย”
มู่วี่สิงจับไปที่คางของเธอยกขึ้นมา,แล้วจูบเธออย่างดูดดื่ม,เวินจิ้งหลับตาลงอย่างเชื่อฟัง,และปล่อยให้ตัวเอง ดื่มด่ำไปกับความอ่อนโยนของมู่วี่สิง ……
……
ทั้งสองคนตื่นขึ้นมา ในตอนเที่ยงของวันรุ่งขึ้น เวินจิ้งลืมตาขึ้น ใบหน้าของชายคนรักที่อยู่ข้างๆ ดูเหนื่อยล้า
นึกถึงช่วงหัวค่ำของเมื่อวาน ที่เขาเพิ่งมาถึง แน่นอนว่าตอนอยู่บนเครื่องบิน ไม่ได้พักผ่อน หลังจากนั้นก็รีบเพื่อที่จะกลับมา
เธอกระพริบตา แล้วจูบที่ริมฝีปากของมู่วี่สิงเบาๆ
เป็นจูบที่อ่อนโยนมาก และตั้งใจจะถอนจูบออกเวินจิ้ง
แต่ว่ามู่วี่สิงที่เร็วกว่า ก็จับไปที่ด้านหลังศีรษะของเธอ และจูบอย่างหนักหน่วง
“คุณตื่นแล้วเหรอคะ”เวินจิ้งมองไปที่เขา
“อืม หิวหรือยัง?”เขาถามเสียงต่ำ
“หิว……แต่ว่าตอนนี้ก็สายแล้ว คุณต้องไปโรงพยาบาลใช่ไหมคะ?”
“วันนี้ไม่เข้าไปแล้ว”
“โจวหย่านมากวนคุณใช่ไหมคะ”เวินจิ้งโพล่งขึ้นมา
เมื่ออยู่ที่โรงพยาบาล เธอตามมู่วี่สิงตลอดทั้งวัน หนึ่งวันที่ไม่เจอกับมู่วี่สิง โจวหย่านจะอารมณ์เสีย
ยิ่งไปกว่านั้น ในครั้งนี้ที่มู่วี่สิงได้เดินทางไปทำธุระมาหลายวัน
“ไม่ต้องไปสนใจเธอ”มู่วี่สิงตอบด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง
เวินจิ้งมองไปที่สีหน้าเรียบนิ่งของเขา แล้วก็ยิ้ม“เธอเป็นคนไข้ของคุณ อีกทั้งคุณทำไมไม่บอกเธอ เกี่ยวกับสถานการณ์ที่แท้จริง ฉันรู้สึกว่าเธอหมดหนทางจริงๆ”
ถึงแม้ว่า ภาพภายนอกของโจวหย่านจะดูเหมือนเม่น ที่ผิวหนังเต็มไปด้วยหนาม แต่ก็เพียงเพื่อปกปิดความเปราะบางของตัวเองเท่านั้น
“ใช่เหรอ?”มู่วี่สิงขมวดคิ้ว เขาไม่ได้คิดอะไรมาก
“ลืมมันไปเถอะค่ะ คุณไม่ได้ใส่ใจเธอจริงๆ แหละ”เวินจิ้งพูดอย่างลวกๆ
เมื่อเธอเตรียมตัวจะลุกขึ้น แต่ก็ถูกมู่วี่สิง กอดไว้ในอ้อมแขน“ถ้าผมใส่ใจเขา คุณจะทิ้งผมไหม?”
เวินจิ้งตกตะลึง แล้วทำหน้ามุ่ย“เธอเป็นคนไข้ของคุณ เป็นความสัมพันธ์ระหว่างคุณหมอกับคนไข้ แล้วฉันก็ไม่ได้ขี้เหนียวขนาดนั้น”
“จริงเหรอ?”มู่วี่สิงขมวดคิ้ว
เวินจิ้งเม้มริมฝีปาก และไม่พูดอะไร
โอเค ยังไงเธอก็ยังหึงอยู่
ในช่วงบ่าย เวินจิ้งได้ตามมู่วี่สิงไปที่โรงพยาบาล,เนื่องจากช่วงนี้ เป็นช่วงที่ออกไปประชุมข้างนอก และมู่วี่สิงก็เป็น ผู้อำนวยการแผนกประสาทวิทยาของโรงพยาบาล มีเอกสารงานมากมาย กองพะเนินอยู่
ทั้งสองคนยุ่งจนถึงตอนกลางคืน มู่วี่สิงยังไม่ได้ไปเยี่ยมโจวหย่านเลย เธอน่าจะได้ออกจากโรงพยาบาลเร็วๆ นี้
แต่โจวหย่านรู้ว่าเขาได้กลับมาถึงแล้ว แล้วก็รีบมาหาทันที
“คุณหมอมู่ เจอคุณอีกแล้วนะคะ”
“เมื่อไหร่จะออกจากโรงพยาบาล”มู่วี่สิงได้แต่ถาม
โจวหย่านเงียบลง เกาหลังหัว มองไปที่มู่วี่สิงอย่างเงียบๆ
“ฉันไม่ออกจากโรงพยาบาล”เธอตอบอย่างเย็นชา
“ผมจะแจ้งให้กับคุณนายโจว”มู่วี่สิงพูดอย่างไร้ความปรานี
“คุณแม่บอกคุณแล้วไม่ใช่เหรอคะ ว่าให้คุณดูแลฉัน?”
“โจวหย่าน”สีหน้าของมู่วี่สิงเริ่มตึงเครียด
โจวหย่านไม่กล้าพูดออกมา ไปชั่วขณะหนึ่ง
“ฉันเหนื่อยแล้ว,กลับไปนอนก่อนนะคะ”
ก่อนจะออกไป โจวหย่านก็หันมามองที่เวินจิ้ง อย่างโกรธๆ หนึ่งครั้ง
ใบหน้าของเวินจิ้งมึนงง
หลังจากนั้นไม่นาน มู่วี่สิงก็โทรหาเลี่ยวหยงโดยตรง ทั้งสองคนคุยกันนานอยู่ช่วงหนึ่ง ในที่สุดก็พูดจบ มู่วี่สิงก็ไม่ได้ให้โจวหย่านออกจากโรงพยาบาล
“โจวหย่านต้องใช้เวลาอีกนานแค่ไหน ถึงจะได้ผ่าตัดคะ?”เวินจิ้งเปิดดูประวัติผู้ป่วยของโจวหย่าน
“สามเดือน”
“งั้นก็อีกไม่นานแล้วนี่คะ”
แต่ว่าตอนนี้ จำนวนผู้ป่วยของโรงพยาบาลหนานเฉิง เพิ่มขึ้นในทุกวัน แล้วก็พบว่าจำนวนเตียง ไม่เพียงพอต่อจำนวนผู้ป่วย
ช่วงกลางดึก ทั้งสองคนกลับไปที่มหาวิทยาลัย มู่วี่สิงต้องการพาเวินจิ้ง กลับอพาร์ทเม้นท์ด้วย แต่เธอปฏิเสธ
เธอรีบหนีลงรถ ในวันพรุ่งนี้ เธอไม่ต้องการพลิกตัวไปมา ลุกไม่ขึ้นอยู่บนเตียง……
มู่วี่สิงมองภาพด้านหลังของเวินจิ้ง มุมปากของเขายิ้มออกมา แต่รอยยิ้มนั้นก็หายไป เมื่อได้เห็นอีเมล แล้วก็เก็บลงไปอย่างรวดเร็ว
วันรุ่งขึ้น เขาไปที่ห้องทำงานของรองอธิการบดี
ปัจจุบันอธิการบดีและผู้ที่ออกทุนของมหาวิทยาลัยF อยู่ที่มหาวิทยาลัยF เกือบจะทั้งหมด เจ้าหน้าที่ที่อยู่ทางนี้จึงไม่ค่อยมาก
“ศาสตราจารย์มู่ คุณจะเข้ามา ทำไมไม่บอกผมก่อน”รองอธิการบดีประหลาดใจ
เขาเพิ่งเข้ารับตำแหน่ง เรื่องต่างๆ ของที่นี่ จึงยังไม่ค่อยรู้เรื่องอะไรมาก
มู่วี่สิงไม่พูดอะไรมาก และพูดชี้แจงอย่างตรงไปตรงมา ว่าเขาไม่ต้องการผู้ช่วย
อย่างไรก็ตาม รองอธิการบดีเมื่อเห็นรายชื่อของหลิงเหยา ก็ขมวดคิ้วขึ้นอย่างลำบากใจ
“ศาสตราจารย์มู่ กฎระเบียบของมหาวิทยาลัย ตำแหน่งที่อยู่สูงกว่ารองศาสตราจารย์ ก็มีผู้ช่วยกันทั้งหมด นี่……”
“ถ้าอย่างนั้น ท่านไม่สามารถเพิกถอนได้ใช่ไหมครับ?”สายตาของมู่วี่สิงเยือกเย็น แทบจะหยุดทุกสิ่งอย่างได้
“ถ้าให้บอกตรงๆ ก็ใช่……”รองอธิการบดีมือเย็น เหงื่อซึมออกมา
กลิ่นอายของมู่วี่สิง ช่างน่ากลัวจริงๆ
“ผมคิดไปคิดมา ท่านอาจจะต้องการให้ผู้ที่ออกทุนสูมายื่นขอถึงจะได้”
มู่วี่สิงขมวดคิ้ว และไม่ได้อยู่ต่อ แต่เมื่อออกมาก็เจอเข้ากับ หลิงเหยาที่กำลังจะเข้ามา เธอเพิ่งจะเสร็จสิ้นขั้นตอนของการเข้ารับตำแหน่ง
“วี่สิง ฉัน……”หลิงเหยามองไปที่เขา
“ตามผมมา”มู่วี่สิงพูดอย่างไม่แยแส
เดิมทีหลิงเหยาคิดว่ามู่วี่สิงจะปฏิเสธต่อเธอ และให้เธอออกไป เมื่อได้ยินที่เขาพูด ดวงตาของเธอก็เปล่งประกายทันที
เมื่อตามมาที่ห้องทำงานของมู่วี่สิง,ที่นั่งของหลิงเหยาก็ถูกจัดเตรียมไว้ให้แล้ว,คืออยู่ข้างๆ กับมู่วี่สิง
“การปฏิบัติงานของคุณไม่เปลี่ยน จัดการเอกสาร หรือจัดการงานง่ายๆ ก็พอแล้ว”มู่วี่สิงสั่ง
“ฉันออกไปข้างนอกกับคุณก็ได้ค่ะ”
“ไม่ต้อง”น้ำเสียงของมู่วี่สิงเย็นขึ้น
หลิงเหยากัดริมฝีปาก และไม่ได้ขัดขืนอะไร
เธอมีโอกาสเสมอ
เวินจิ้งรู้เกี่ยวกับเรื่องนี้ ก็หลังจากผ่านมาหลายวันแล้ว ช่วงนี้เธอกำลังง่วนอยู่กับโรงพยาบาล ถ้าหากเธอไม่ได้เข้าร่วมโครงการงานวิจัย เธอก็ไม่จำเป็นต้องกลับไปที่โรงเรียนบ่อยๆ ในช่วงนี้
“เวินจิ้ง มู่วี่สิงไม่ได้บอกเธอเกี่ยวกับเรื่องนี้เหรอ?”เจียงฉีถามออกมาอย่างไม่คิด
“เธอแน่ใจเหรอ?”เวินจิ้งขมวดคิ้ว
“ทั้งมหาวิทยาลัยเขารู้กันหมดแล้ว ไม่รู้ว่ามีกี่คนที่อิจฉาหลิงเหยา และตอนนี้เธอก็มีปัญหาที่ขาของเธอ ทางมหาวิทยาลัยF ก็มีแผนที่จะช่วยเหลือ จึงไม่ต้องแปลกใจที่เธอจะได้รับให้เข้ามา”
“โอเค”เวินจิ้งตอบอย่างสิ้นหวัง
เธอยังมีความตอบสนองต่อหลิงเหยา แต่เมื่อนึกถึงเรื่องขาของเธอ ก็ยังคงรู้สึกเจ็บปวดอยู่เล็กน้อย
เพียงแค่ นี่เป็นสิ่งที่เธอต้องรับผิดชอบ
“มู่วี่สิงควรจะย้ายเธอออกไป”เจียงฉีที่อยู่ข้างๆ อยู่ๆ ก็พูดขึ้นมา
“เนื่องจากเป็นการรับเข้าจากทางมหาวิทยาลัย มู่วี่สิงมีวิธีอื่นด้วยเหรอ?ทำแบบนั้นไม่ดีแน่ๆ”เวินจิ้งตอบ
จากสถานการณ์ตอนนี้ของหลิงเหยา เธอได้ลาออกจากมหาวิทยาลัยหลินไห่แล้ว เกรงว่าเธอจะออกไปหางานใหม่ยากขึ้นด้วย
เมื่อมาอยู่ที่มหาวิทยาลัยF ถือว่าเป็นอีกทางเลือกที่ดีสำหรับเธอ
“ฉันก็คิดว่า เขาคงจะกลัว ที่เธอออาจจะโกรธ”น้ำเสียงของเจียงฉี ทำให้เวินจิ้งรู้สึกไม่สบายใจ
เธอตอบอย่างเฉยเมยว่า“ฉันไม่ได้โกรธอะไร ทุกคนก็ต้องทำงาน”
“อืม ถ้าเป็นฉันนะ ฉันจะไม่ยอมให้แฟนของตัวเองต้องหึงหวงหรอก”