Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน - ตอนที่ 609
บทที่ 609 เอาอะไรมาคิด ว่าฉันจะช่วยเธอ
มู่วี่สิงวางแท็บเล็ตลงจากมือ เดินไปข้างหน้าต่างอย่างช้าๆ
มองจากมุมชั้นสองออกไป ร่างบอบบางยืนพิงประตูสีดำ
เธอไม่ได้พกร่มมา ทำได้แค่ติดกำแพง อาจจะเป็นเพราะหนาว ดังนั้นมือทั้งสองจึงสั่น
“เธอรอนานเท่าไหร่แล้ว?”
“เกือบจะสามชั่วโมงแล้ว”
ในห้องอุณหภูมิอบอุ่น ผู้ชายสวมเสื้อกล้ามสีดำด้านนอกเสื้อเชิ้ตสีอ่อน มองออกไปนอกหน้าต่างด้วยสายตาเฉยเมย ร่างบางนั้นค่อยๆเลื่อนลงไปชิดผนัง
มู่วี่สิงขมวดคิ้ว พ่อบ้านอยู่ข้างๆอดไม่ได้ที่จะเตือนอีกครั้ง “คุณครับ เธอดูเหมือนจะเป็นลมแล้ว”
“ให้เธอเข้ามา”
เวินจิ้งเกือบจะถูกพยุงเข้ามา แม้ว่าร่างกายจะอ่อนแอ แต่เธอก็ยังได้สติ
ห้องนั่งเล่นปูด้วยพรมสีขาวนุ่ม รองเท้าของเธอที่เปื้อนโคลนเหยียบลงไป ทิ้งรอยสกปรก
เวินจิ้งรู้สึกไม่สบายใจ ถามด้วยเสียงต่ำ“เขาตื่นแล้วเหรอ?”
พ่อบ้านพูดอย่างสุภาพ“คุณเวินครับ คุณเชิญนั่งก่อนครับ คุณมู่ไม่นานก็ลงมาแล้วครับ”
ที่นี่คงเป็นบ้านพักตากอากาศของเวินจิ้ง เรียบง่ายแต่สวยหรู
เวินจิ้งไม่ได้คิดคาดหวังอะไรจากที่นี่ นั่งอยู่บนโซฟา สายตาจ้องที่เท้าตัวเอง
ไม่รู้ว่านั่งนานเท่าไหร่ เสียงฝีเท้าจากที่ไกลใกล้เข้ามา นิ้วของเธอจับมุมเสื้อผ้าที่เปียก ใช้ความกล้ายกหัวขึ้นมา
มู่วี่สิงยืนอยู่ไกลจากแขนตัวเอง สองแขนกอดอกด้านหน้า มองตัวเองจากด้านบน ถามด้วยเสียงเบา“คุณเวินทำไมถึงมาอยู่ที่นี่ได้ล่ะ”
เวินจิ้งสูดหายใจลึกๆ พยายามแสดงตัวเองเป็นแค่คนคุยกัน ไม่มีความรู้สึก ถึงขนาดเป็นหุ่นกระบอกไม่คิดไตร่ตรอง
เธอพูดเสียงสั่นเบาๆ“ศาสตราจารย์มู่ คุณมีวิธีทำให้ฉันได้กลับประเทศFไหมคะ?”
มู่วี่สิงยกคิ้ว มองสีหน้าซีดของเวินจิ้ง ยังคงพูดเสียงเย็นชา“ไม่ได้ดูข่าวเหรอ?”
“ฉันรู้”เวินจิ้งเงยหน้าขึ้นมองเขา กัดริมฝีปาก ตาขาวดำนำพาซึ่งภาวนาขอ“ดังนั้นถึงมาขอความช่วยเหลือจากคุณ”
“ทำไมรีบร้อนกลับไปขนาดนั้น?”มู่วี่สิงดูเหมือนจะอดทนมาก นั่งอยู่ข้างเวินจิ้งอย่างสง่างาม
“แม่ฉันป่วยแล้ว”
“เอาอะไรมาคิด ว่าฉันจะช่วยเธอ?”มู่วี่สิงไม่มองเธออีก
เวินจิ้งมองลง ริมฝีปากบางเม้ม
ก็ใช่ ทำไมเธอถึงคิดอย่างนั้น
ตอนนี้มู่วี่สิงอยู่ข้างหญิงงาม ลืมเขาไม่ลง มีแค่เธอคนเดียวเท่านั้น
ข้างกายเขาไม่เคยขาดผู้หญิง เธอเป็นอดีตไปนานแล้ว
“ฉันรู้แล้ว”สักพัก เวินจิ้งยืนขึ้น กำลังจะจากไป
ความบ้าบิ่นที่คิดจะมาขอความช่วยเหลือมู่วี่สิงนั้นหายไป เธอไม่ควรคิดอะไรกับเขา
ไม่ควรเลย
พึ่งจะลุกขึ้นมา เวินจิ้งกลับไม่ยืนอยู่นิ่ง คนทั้งคนตามองเกือบจะล้มเข้าไปในอ้อมกอดของมู่วี่สิง
ทันใดนั้นมู่วี่สิงแตะที่ผิวหนังของเธอ อุณหภูมิที่ร้อนผิดปกติทำให้เขากอดเธอแน่น น้ำเสียงของเขาอ่อนโยน แต่น้ำเสียงของเขาดูน่ารังเกียจเล็กน้อย“ไม่ได้อาบน้ำนานเท่าไหร่แล้ว?”
เวินจิ้งโซเซอยากจะผลักมู่วี่สิงออก พอดีพ่อบ้านส่งโทรศัพท์ให้เขา“คุณมู่ เป็นสายของคุณหลิงครับ”
มู่วี่สิงขมวดคิ้วเบาๆ เดินไปข้างเตียงถึงได้รับสาย
สายนี้คุยกันนานหน่อย หัวใจของเวินจิ้งจมลงไปนานแล้ว
เดินอ้อมไปโต๊ะไร้เสียงอย่างกลุ้มใจ เธอเดินไปที่ประตูทีละก้าว
มันเป็นความผิดพลาดมาที่นี่ตั้งแต่แรก รู้ตั้งนานแล้วว่าผลลัพธ์จะเป็นแบบนี้ สู้เธอรอที่สนามบินยังจะดีกว่า
เมื่อเดินไปถึงประตูนั้น มู่วี่สิงเพิ่งวางสายโทรศัพท์ คิ้วยกขึ้นเล็กน้อย มือข้างหนึ่งของเขาที่ล้วงกระเป๋า เดินไม่กี่ก้าวก็ถึงด้านหลังเธอ พูดด้วยเสียงนุ่มนวล“จะไปแล้วเหรอ? ถ้าฉันช่วยเธอ ไม่ใช่ว่าไม่ได้”
ได้ยิน เวินจิ้งหยุดเท้าเดิน
สบตาที่ล้ำลึกของมู่วี่สิง เธอรู้สึกกลัวเล็กน้อย
คำพูดต่อไปของเขา มันทำให้เธอเหมือนตกนรก
“จิ้งจิ้ง ฉันคิดถึงเธอ”
ได้ฟังแค่ประโยคนี้เท่านั้น เวินจิ้งก็เป็นลมในอ้อมกอดของเขา
ตื่นขึ้นมาก็ผ่านไปหลายชั่วโมงแล้ว ห้องที่แปลกทำให้เธอสับสนวุ่นวาย แต่เธอรู้รสนิยมของมู่วี่สิง ในอากาศนี้ ก็ยังมีลมหายใจของเขา
ดังนั้นแม้ว่าเขาจะไม่อยู่ที่นี่ เธอก็รู้นี่คือห้องของเขา
ในห้องนอนเงียบสงัดมาก เวินจิ้งรู้สึกหนักที่เปลือกตา แต่เธอนอนไม่หลับอีกต่อไป เธอยังต้องกลับประเทศF
แค่ ยังไม่สามารถกลั้นความง่วงแล้วไปนอนอีกครั้ง ไม่รู้ว่าผ่านไปนานเท่าไหร่ มือเย็น ๆ ไม่หนักไม่เบากดลงบนหน้าผากของตัวเอง เธอตื่นเต้นไปทั้งตัว พยายามคิดจะเปิดตา
แต่เธอเหนื่อยมากจริงๆ เวินจิ้งไม่สามารถลืมตาได้ ก็อย่างนี้ละกัน เธอบ่นพึมพำกับตัวเอง หรือตื่นขึ้นมานั้นจะพบกับ ความจริงมันเป็นเพียงแค่ความฝันในช่วงสามปีก่อน….มู่วี่สิงยังอยู่ข้างกายเธอ
ในขณะนั้นผู้ชายก็เอนตัวลงมา จ้องมองใบหน้าที่ขาวฉีดและผอมแห้งของเวินจิ้งอย่างตั้งใจ มือเขาแตะที่หน้าผากของเธอ ขยับเบาๆ นุ่มนวลเหมือนกับสายเส้น จากริมฝีปากเชอร์รี่ที่เหมือนกลีบดอกไม้
แต่เขาควบคุมตัวเองอย่างรวดเร็ว เอามือกลับมาคืน
ยืนตัวตรง มู่วี่สิงไม่ได้แสดงอาการออกมาแม้แต่น้อย รับออกจากห้องอย่างรวดเร็ว
เวินจิ้งตื่นมาอีกครั้งนั้น ยังคงอยู่ในห้องนี้ มีน้ำอุ่นแก้วใหญ่บนโต๊ะข้างเตียง กล่องยา นอกจากนี้ยังมีเครื่องวัดอุณหภูมิ
เวินจิ้งลุกขึ้นอย่างทุลักทุเล หาโทรศัพท์ตัวเองพบแล้ว
มีหลายสายที่ไม่ได้รับ เป็นสายของพ่อบ้านที่บ้านทั้งหมด
“คุณหนู คุณตาให้ผมมาบอกคุณ คุณนายอาจจะต้องผ่าตัด….”
เวินจิ้งไม่รู้ว่าตัวเองจะวางสายโทรศัพท์ได้อย่างไร แค่รู้สึกไม่สบายในท้อง อารมณ์แย่ลง
เวลานี้ มีคนผลักประตูเข้ามา เป็นคนแก่เปิดประตูให้เขา“คุณเวิน คุณกินยารึยังครับ?”
เธอก้มหัวนั่งอยู่บนเตียง ผมยาวมัดรวบ ดูเหมือนเธอจะตกอยู่ในที่นั่งลำบาก ตอบไม่ตรงคำถาม“มู่วี่สิงล่ะ?”
“คุณผู้ชายอยู่ห้องรับแขกครับ”
คนแกตอบกลับอย่างสุภาพ“คุณเวินกินยาก่อนเถอะครับ แล้วก็สามารถไปหาเขาได้”
ข้างหลังบ้านพักตากอากาศเป็นภูเขานูนเล็กๆ บนผู้เขายังมีสิ่งก่อสร้าง
ในเวลานี้ฝนก็หยุดตรง แสงก่อนพระอาทิตย์ตกปกคลุมเสาโรมันที่เหลืออยู่ แสงและเงาทอดยาวลากไปไกล
เถ้าภูเขาไฟนำมาซึ่งเมฆหนาเป็นชั้น ตอนนี้เหมือนกดเป็นก้อนตะกั่ว มู่วี่สิงยืนอยู่บนจุดสูงสุดของที่นี่ มองลงมาเห็นทะเลสาบอันงดงามแห่งนี้
ทันใดนั้นเสียงเท้าจากด้านหลัง เขาไม่ได้หันกลับไป สนใจแค่ทิวทัศน์ตรงหน้า จนกระทั่งลมหายใจที่คุ้นเคยเข้ามา
“คุณมู่”เวินจิ้งเรียกเขาอย่างเย็นชา
ในสองมองยังจำคำพูดของมู่วี่สิงที่พูดข้างหูเธอก่อนที่จะสลบซ้ำแล้วซ้ำเล่า
“จิ้งจิ้ง ฉันคิดถึงเธอ”
ดังนั้น เขาคิดจะทำอะไร
“สนามบินในยุโรปทั้งหมดปิดให้บริการ แต่มีแค่เครื่องบินลำเดียวที่กลับประเทศ ฉันจะจัดให้เธอขึ้นไปทันที”มู่วี่สิงไม่ได้หันหน้า แค่พูดด้วยเสียงต่ำ
เวินจิ้งแปลกใจ คิดไม่ถึงมู่วี่สิงจะ….ช่วยแล้ว
ในเวลานี้ เวินจิ้งรู้สึกเปรี้ยวขม แล้วยังรู้สึกเสียงใจ และงงงวยอย่างมาก