Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน - ตอนที่ 617
บทที่ 617 ปล่อยความระมัดระวังต่อเขา
เวินจิ้งใจเต้นกระวนกระวายไปหมด เงยหน้าขึ้นมามองอีกครั้ง มู่วี่สิงนั้นไปแล้ว
เวยอานที่อยู่ข้างๆจิตใจร่างเริงไปหมด ดึงเวินจิ้ง “ดีเกินไปแล้วคุณหมอเวิน!”
“เธอนิ เขาไม่ได้หล่อมากขนาดนั้น”เวินจิ้งพูดเสียงเย็นชา
“ไม่ใช่ซะหน่อย ในโรงพยาบาลพวกเราไม่มีหมอคนไหนหล่อเท่าคุณหมอมู่แล้ว”
เวินจิ้ง…………..
กลับมาถึงโรงพยาบาล เวินรีบไปทำงานอย่างหนัก ต่อมาสัปดาห์แรกคลินิกและการผ่าตัดถี่ยิบ เพราะก่อนหน้าที่จะลากองงานต้องจัดการให้เสร็จเรียบร้อย
หลินเวยหลังจากออกจากโรงพยาบาลก็พักที่บ้านโจวตลอด ช่วงนี้เวินจิ้งกลับไปนอนที่คอนโด ห่างจากโรงพยาบาลไม่ไกล เธอไม่อยากเสียเวลาบนถนนมากมาย
เย็นวันศุกร์ เวินจิ้งพึ่งออกจากการผ่าตัด เวยอานนั้นสั่งอาหารให้เธอแล้ว เวินจิ้งกลับไปที่ห้องทำงาน หิวเหมือนกินอย่างตะกละตะกลาม
“ฉันได้ยินมาว่าหมอแผนกประสาทจะลาออกหลายคน คุณหมอเวิน ฉันคิดว่าต่อไปคุณต้องยุ่งมากแน่ๆ” เวยอานพูดด้วยความเป็นห่วง
ช่วงเวลานี้พวกเธอแบบรับงานอย่างหนัก แต่ก็ผ่าตัดไม่เสร็จอยู่บ่อยๆ แถมหมอคนอื่นก็ย้ายเข้ามา
“อะไรนะ?”เงยหน้ามองอย่างประหลาดใจ
แปลก ช่วงนี้หมายเลขของเธอเปลี่ยนเป็นหมายเลขที่หายาก ถึงแม้ก่อนหน้านี้คนตรวจก็ไม่ใช่น้อย แต่ช่วงนี้สามารถพูดได้ว่าเพิ่มขึ้นอย่างมากมาย เธอยังนึกอยู่เลยสาเหตุมันคืออะไร
“หัวหน้าแพทย์และรองหัวหน้าแพทย์ในแผนกของเราลาออก แถมรีบร้อนลาออก ฉันได้ยินมาว่าแผนกอื่นก็เกิดสถานการณ์แบบนี้เหมือนกัน”
“เธอคิดว่าโดนขุดไหม?”
“อืม แต่ได้ยินข่าวอยู่หน่อยๆ เหมือนจะเป็นโรงพยาบาลหนานเฉิงที่ห่างจากเราหนึ่งกิโล”
เวินจิ้งเลิกคิ้ว
“ตอนนี้ทั้งสองโรงพยาบาลกำลังร่วมมือกัน โรงพยาบาลหนานเฉิงทำแบบนี้ไม่ปราณีเกินไปแล้วหรือ” เวยอานซุบซิบ
“คงเป็นการโยกย้ายปกติแหละมั้ง พวกเราทำงานตัวเองให้ดีก็พอแล้ว”
“ถ้าไม่มีหมอใหม่ย้ายเข้ามา พวกเราก็ไม่รู้ว่าจะได้พักเมื่อไหร่นะ” เวยอานหาวนอน น้ำเสียงไม่พอใจ
“เธอรีบกลับไปเถอะ คืนนี้ฉันเข้าเวรเอง”
“ไม่ได้ คุณหมอเวิน เธออยู่ห้องผ่าตัดเกือบสิบชั่วโมงแล้ว เธอยิ่งต้องการพักผ่อน”
“คืนนี้ฉันจะดูประวัติคนป่วย พักอยู่ที่นี่แหละ รีบกลับไปเถอะ”
“คุณหมอเวิน…….” เวยอานประทับใจจนจะร้องไห้
คุณหมอเวินดูแลเธออย่างนี้บ่อยๆ
“พอแล้ว พรุ่งนี้มาแต่เช้าหน่อยก็ดี”
หลังจากเวยอานจากไป เวินจิ้งชงกาแฟแก้วหนึ่ง แล้วดูเอกสารต่อ
หลังจากอาทิตย์แรกทำงานอย่างต่อเนื่อง ในที่สุดเวินจิ้งก็ได้หยุดพักหนึ่งวัน
ออกจากโรงพยาบาลนั้น สมองของเธอรู้สึกมึนๆ เธอจับกำแพง คนทั้งคนเกือบยืนไม่ไหว
ทันใดนั้นมีแขนยื่นเข้ามา เสียงเท้าตามหลัง รีบมาประคองเวินจิ้ง
ตาเธอหนักมาก อยากจะลืมตามองให้ชัดว่าเป็นใคร แต่ก็สลบไปอย่างรวดเร็ว
หยูจิ่งห้วนมองหน้าขาวซีดของเวินจิ้ง ในเวลานั้นอุ้มเธอขึ้นรถ เวินจิ้งรู้สึกตัวแล้วนิดหน่อย ถึงได้มองผู้ชายตรงหน้าชัด
“ทำไมคุณถึงอยู่ที่นี่?”น้ำเสียงของเธอที่แหบแห้ง
“ผมพึ่งกลับมาจากดูงาน จะมารับคุณหลังเลิกงาน” สายตาของหยูจิ่งห้วนกังวลไม่สามารถปกปิดได้
เมื่อกี้เห็นเวินจิ้งเป็นลมนั้น ใจเขาก็เจ็บขึ้นมาทันที
“คุณเหนื่อยเกินไปแล้ว เวินจิ้ง” หยูจิ่งห้วนพึ่งวินิจฉัยให้เวินจิ้ง
เธอเหนื่อยล้าเกินไป บวกกับไม่ได้กินข้าว ดังนั้นก็เลยเป็นลม
“อืม เหมือนจะใช่ ช่วงนี้ยุ่งมาก”เวินจิ้งดึงจิตวิญญาณขึ้น
ถึงได้พบว่าตัวเองนั่งอยู่ในรถแล้ว
“เธอควรให้เวลาตัวเองพักผ่อนเยอะหน่อย”
“ช่วงนี้โรงพยาบาลขาดคน ไม่อะไรไม่ได้”
หยูจิ่งห้วนเม้มริมฝีปาก ไม่พูดอะไรในเวลานี้
เขารู้สาเหตุ โรงพยาบาลหนานเฉิงขุดหมอจากโรงพยาบาลเหรินหมินไม่น้อย
“อยากกินอะไร พวกเราไปกินข้าวกันก่อน”
“ไม่ต้องแล้ว คุณไปส่งฉันที่บ้านโจวเถอะ ฉันไม่ได้กลับไปกินข้าวที่บ้านนานแล้ว”เวินจิ้นหาวนอน
ตอนนี้เย็นแล้ว ตอนเช้าเธอบอกแม่ว่าจะกลับไปกินข้าวที่บ้าน
หยูจิ่งห้วนพยักหน้าช้าๆ สตาร์ทรถเก๋ง
ยื่นผ้าปิดตาให้เวินจิ้งอย่างระมัดระวัง “ใส่เถอะ นอนสักหน่อย ถึงแล้วเดี๋ยวผมปลุกคุณ”
“อืม”เวินจิ้งตอบกลับ ตอนนี้เหนื่อยมากและก็ง่วงมากแล้ว พิงเก้าอี้ด้านหลังแล้วนอน
การจราจรติดขัดในช่วงเลิกงาน เดิมทีหนึ่งชั่วโมงเกือบสองชั่วโมงก็ถึงบ้านโจว
เวินจิ้งยังไม่ตื่น หยูจิ่งห้วนยังคงนั่งอยู่ในรถ
ไม่ไกล รถเก๋งสีดำค่อยๆหยุด
สายตาลึก ๆ ของชายคนนั้นก้มมองรถปอร์เช่ตรงหน้า ความเย็นในดวงตาค่อยๆแพร่กระจาย
เกือบจะสี่ทุ่มแล้ว เวินจิ้งค่อยๆตื่น
ดึงที่ปิดตาลงมา ทันใดนั้นก็สบตากับหยูจิ่งห้วน
เขามองเธออยู่ตลอดเหรอ?
เวินจิ้งรู้สึกอาย ในเวลานั้นนั่งตัวตรง
หยูจิ่งห้วนช่วยเธอปลดเข็มขัดนิรภัย“เวินจิ้ง ผมเป็นห่วงคุณ”
คนพูดนี้ออกมา ไม่รู้สึกตัวไปทั้งหมด
เขาก็ไม่รู้ทำไมตัวเองถึงได้หลงผู้หญิงตรงหน้านี้
“ขอบคุณที่มาส่งฉันนะคะ”เวินจิ้งหลบสายตาเขา ผลักประตูรถ
เสียงของหยูจิ่งห้วนดังตามหลังเธอ“ผมยังไม่ได้กินข้าว”
เวินจิ้งเลิกคิ้ว มองเวลา จริงๆควรถึงบ้านโจวนานแล้ว แต่หยูจิ่งห้วนไม่ทำเสียงดังให้เธอตื่น ดังนั้นก็ไม่เรียกเธอให้ตื่น
“งั้นคุณเข้ามาเถอะ”เวินจิ้งพูดเสียงต่ำ
ใบหน้าของหยูจิ่งห้วนค่อยๆยิ้มแย้ม
หลินเวยเห็นทั้งสองคนกลับมา ยิ้มอย่างพึงพอใจ
“จิ่งห้วน โชคดีมาคนใช้ทำอาหารไว้เพียงพอ พวกเธอกินเยอะๆหน่อยนะ”หลินเวยลงมาจากชั้นสอง พูดอย่างกระตือรือร้น
เวินจิ้งเป็นคนเอาชุดอาการในห้องครัว วางไว้ต่อหน้าหยูจิ่งห้วน
“ฉันไปตักน้ำซุปมาให้คุณ”
หลินเวยเห็นทั้งสอง ในเวลานั้นโจวเซิ่งก็พูดเรื่องนี้ขึ้น“คาดว่าเด็กสองคนจะมีเรื่องดีเร็วๆนี้แล้ว”
“ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะทำให้เวินจิ้งเด็กคนนี้เปิดประตูหัวใจนะ” โจวเซิ่งพูดแล้วยิ้มออกมา
ห้องรับแขก
ทั้งสองกินข้าวตรงข้ามกันอย่างเงียบๆ เวินจิ้งกินไม่น้อย ช่วงนี้อาจจะเป็นเพราะทำงานหนัก เธอถึงเจริญอาหารมาก
“เธอไม่เหมือนกับผู้หญิงคนอื่น”ทันใดนั้นหยูจิ่งห้วนเอ่ยปาก
“ทำไมไม่เหมือน?”
“ผู้หญิงกินข้าว ไม่ใช่กินเรียบร้อยทีละนิดเหรอ?” หยูจิ่งห้วนพูดแล้วยิ้ม
“หิวจะตายอยู่แล้ว ไม่เอาหน้าอะไรแล้ว”
“อืม อยู่ต่อหน้าผม คุณสามารถเป็นตัวของตัวเอง ผมชอบ”
เวินจิ้งตกตะลึง หยูจิ่งห้วนแกล้งเธอตลอดเวลา……
“ฉันมีนิสัยและก็อารมณ์ไม่ค่อยดี”เวินจิ้งจงใจพูด
หวังให้หยูจิ่งห้วนถอยกลับไป
“ผมก็ไม่ดี ไม่มีคนสมบูรณ์แบบไปหมดหรอก สองคนอยู่ด้วยกัน สามารถเติมเต็มความสบายใจให้กันก็ดีแล้ว”หยูจิ่งห้วนพูดจริงจัง
เวิงจิ้งก้มตาลง ก็ถูก เธอและหยูจิ่งห้วนอยู่ด้วยกันนั้น เหมือนไม่มีความกังวลอะไร
นิสัยและอารมณ์ของเขาเหมือนมู่วี่สิงมาก ทำให้เธอเชื่อเขาอย่างไม่รู้ตัว ปล่อยวางเขาลงอย่างระมัดระวัง