Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน - ตอนที่ 658
บทที่ 658 เขาถูกยั่วโมโห
หางเสียงของเวินจิ้งยังไม่ทันหายไป ทั้งตัวก็ถูกบีบสุดพลัง ไม่ทันป้องกันตัว เดิมเธอก็ไม่อาจต้านทานได้อยู่แล้ว จึงถูกลากตัวลงมาจากเตียง สองเท้ายืนซวนเซ ต้องฝืนพยายามอย่างมากถึงจะยืนได้มั่นคง
ใบหน้าที่คมคายและสุขุมของมู่วี่สิงย้อนแสง เงามืดทาบทับรูปหน้าที่งดงามของเขา เต็มไปด้วยความรู้สึกหนาวเหน็บถึงขั้วหัวใจ
เขาถูกยั่วโมโหเข้าแล้ว
“ที่พูดเมื่อกี้ ไหนพูดอีกทีสิ” เขาจ้องมองนัยน์ตาของเธอ พูดทีละคำช้าๆ
เวินจิ้งยังคงปิดปากสนิท ไม่ยอมพูดอะไรอีก
เขาเงียบไปครู่หนึ่ง กวาดสายตามองใบหน้าของเธอ สายตาคืออารมณ์ที่สับสนอยู่ลึกๆ ครู่ใหญ่ เขาฉีกยิ้มที่มุมปาก
เวลาที่เขาโมโหปรอทแตก ใช้สายตาดุร้ายจ้องมองเธอ เธอไม่แยแส
แต่ตอนนี้จู่ๆ เขาก็ยิ้มขึ้นมา กลับทำให้เธอรู้สึกเย็นวาบ ตั้งแต่ท้องไปถึงคอ ชวนให้เสียวขนหัวลุก
“ไม่อยากเกี่ยวข้องอะไรกันหรือ” น้ำเสียงของเขาเย็นจนจับเป็นน้ำแข็ง ความโกรธสุดขีดบนใบหน้ากลับเป็นรอยยิ้มแสยะ วินาทีนั้น เขาฉีกคอเสื้อของเวินจิ้งอย่างรวดเร็ว
เธอยังคงสวมกระโปรงชุดเดียวกับที่สวมตอนออกจากโรงพยาบาล ขณะนี้ถูกฉีกแล้ว ดูเหมือนเธอไม่ต่อต้านสักนิด เพียงแต่กัดริมฝีปากหลับตาลงอย่างดื้อรั้น
มู่วี่สิงในตอนนี้ ใบหน้าที่ระเบิดความโกรธออกมาจนดูน่ากลัว เป็นใบหน้าที่เวินจิ้งไม่เคยเห็นมาก่อน
เธอรู้ว่าเวลาที่เขาเกรี้ยวกราดขึ้นมาน่ากลัวแค่ไหน แต่ทั้งสองคนก็ยังมาถึงจุดนี้จนได้
กลิ่นของเขา กายของเขา ประกอบกับแรงมหาศาลของผู้ชาย พุ่งถาโถมเข้ามาหาเธอ พริบตาเดียวก็แนบชิดเธอ
เธอแค่คิดว่าจบสิ้นเร็วหน่อยเถอะ…
จบสิ้นฝันร้ายครั้งนี้ ต่อจากนี้เธอกับเขาจะไม่มีเยื่อใยอะไรต่อกันอีก
เธอรู้ดี นี่คือการลงโทษ ยิ่งเธอคิดจะขีดเส้นแยกเขาให้ไกลเท่าไหร่ เขาก็ยิ่งไม่ยอมให้เธอทำสำเร็จ
จนกระทั่งร่างกายรู้สึกเจ็บปวดเหมือนถูกฉีกเป็นชิ้นๆ เธอจึงค่อยๆ ลืมตาขึ้น
เขาลุกขึ้นแล้ว ใบหน้าหล่อเหลานั้นย้อนแสง เธอสงสัยเป็นเพราะตัวเองตาลายหรือไม่ ถึงได้เห็นสีหน้าอารมณ์ของเขาไม่ชัด
เธอออกแรงพยุงตัวเองขึ้น แล้วหยิบกระโปรงที่ขาดวิ่นนั้นขึ้นมาบังหน้าอก ก่อนที่จะเงยหน้ามองชายหนุ่มที่อยู่เบื้องหน้า “พอใจยัง ออกไปเดี๋ยวนี้ ฉันจะอาบน้ำ”
มู่วี่สิงนิ่งเงียบ ร่างสูงโปร่งยืนนิ่งกับที่ ไม่ขยับเขยื้อน
เธอรอพักใหญ่ จึงไม่สนใจเขาอีกต่อไป ลุกขึ้นจะเดินไปห้องน้ำ
แต่เดินไปได้แค่ไม่กี่ก้าวก็ถูกขวางไว้ เขายืนต่อหน้าเธอ น้ำเสียงสงบราบเรียบ “ตกลงท้องหรือไม่ท้องกันแน่”
ไม่รู้ว่าเพราะอะไร จู่ๆ เธอก็อยากจะหัวเราะ กะพริบตามองเขา “เคยท้อง แต่ตอนนี้ ไม่แล้ว”
น้ำเสียงของเธอเย็นชา ไร้ซึ่งอารมณ์ กระทั่งริมฝีปากก็ยังมีรอยยิ้มนิดๆ จนแทบจะไม่เห็น ราวกับพูดถึงเรื่องเล็กๆ ที่ไม่สลักสำคัญอะไร
แต่คำพูดเช่นนี้เหมือนค้อนทุบลงในใจของมู่วี่สิงเต็มแรง
เสี้ยวนาทีนั้น สีหน้าของเขาซีดเผือดลงมาก สายตาก็หลุบลง แม้แต่หน้าอกที่กระเพื่อมขึ้นลงก็สังเกตเห็นได้ชัด
เวินจิ้งมองทุกสิ่งทุกอย่างด้วยความเฉยเมย ครั้งหนึ่ง เธอเคยเจ็บปวดเช่นนี้ ตอนนี้ ถึงตาเขาแล้ว
“คุณขวางทางฉัน” เธอหันมา ยื่นมือจะไปผลักเขาออกไปอย่างเย็นชา
มือของเธอยังไม่ทันสัมผัสตัวเขาก็ถูกจับไว้แน่นเสียก่อน เขาจับข้อมือเธอแน่น เหงื่อผุดเต็มฝ่ามือเย็นเฉียบ
เธอรู้สึกเจ็บข้อมือจนอยากร้องขอชีวิต ถึงขนาดรู้สึกว่าเจ็บกว่าที่เขาทำกับเธอเมื่อครู่เสียอีก
ชายหนุ่มไม่พูดคำใด เมื่อยืนใกล้กันขนาดนั้น คืนนี้เพิ่งจะเป็นครั้งแรกที่พินิจใบหน้าเขาชัดๆ รูปโฉมหล่อเหลาแผ่กลิ่นอายที่เกือบเย็นชามืดมน
แต่เขาเก็บซ่อนมันไว้ ต่อเมื่อมองเขาด้วยใจที่นิ่งสงบ จึงจะเห็นสายตาที่ลึกล้ำดำหม่นเหมือนบ่อน้ำลึกมองไม่เห็นก้นบ่อ
ตอนนี้เขาน่าจะโกรธยิ่งกว่าเดิม ถึงอย่างไร การสูญเสียครั้งนี้คือลูกของเขา
ขณะที่เวินจิ้งคิดเช่นนี้ อารมณ์ของมู่วี่สิงในที่สุดก็ผ่อนคลายลงบ้าง ที่จริงมีแค่คิ้วที่ขยับ ไม่นานก็ผลักเธออย่างเย็นชา ออกแรงเหมือนโยนสิ่งของอะไรสักอย่างที่เขารังเกียจ
แต่เดิมสภาพจิตใจของเธอก็ย่ำแย่อยู่แล้ว เมื่อถูกทรมานอีกจึงรับไม่ไหว ขาสองข้างอ่อนแรงล้มลงข้างเตียง
เขายืนมองเธอจากมุมสูงอีกครั้ง ความเงียบเพียงไม่กี่วินาทีราวกับทำให้อากาศรอบตัวตกอยู่ในความเงียบสงัด
ก่อนมู่วี่สิงจะออกไป เพียงแต่ทิ้งท้ายประโยคหนึ่งอย่างเย็นชา
“เวินจิ้ง คุณหมดอิสรภาพแล้ว”
ประตูถูกปิดเต็มแรง เสียงดังสนั่นแสบแก้วหู สะท้อนก้องในห้องที่กว้างใหญ่เงียบสงบ
ในที่สุดเขาไปแล้ว รวดเร็วไม่ต่างกับตอนปรากฏตัว เพียงไม่กี่ก้าวก็หายลับไปจากสายตาของเธอ
เวินจิ้งพิงริมหน้าต่าง ไม่มีพละกำลังแม้แต่น้อย ดิ้นรนอยู่นานถึงจะปีนกลับขึ้นไปบนเตียงสำเร็จ
เธอหลับตาที่เจ็บปวดแห้งแล้งลง มือสองข้างกดแน่นที่ท้อง คิดถึงคำพูดประโยคนั้นที่มู่วี่สิงเพิ่งพูดเมื่อครู่
คุณหมดอิสรภาพแล้ว
ใช่แล้ว ตั้งแต่พบเขาอีกครั้งที่ประเทศFดูเหมือนเธอจะถูกเขาควบคุมตลอด จำต้องอยู่กับเขาอย่างเลี่ยงไม่ได้
เธอขาดอิสรภาพตั้งนานแล้ว
แต่เธอยังคิดเพ้อเจ้อว่าจะหนีพ้น นึกไม่ถึง เขาจะจับเธอกลับมาได้จริงๆ
เวินจิ้งรู้สึกตัวเองหลับใหลนานเหลือเกิน ในความฝันหายใจหอบถี่ เหมือนเดินลุยในน้ำ น้ำท่วมสูงขึ้นถึงระดับคาง ใต้เท้ามีแต่ดินโคลน ก้าวเท้ายากลำบาก แต่ต้องเดินต่อไป เพราะเบื้องหน้าอยู่ไกลลิบสุดสายตา
ทุกครั้งที่เธอออกแรงอยากก้าวไปข้างหน้า กระแสน้ำก็ซัดสาดให้เธอย้อนกลับมาที่เดิมแทบในทันที
ความฝันรูปแบบเดียวกันนี้ไม่รู้ฉายซ้ำนานเท่าไร สุดท้ายเธอรู้สึกเหนื่อยจนไม่อยากขยับแล้ว และไม่อยากลืมตา
ตื่นขึ้นมาอีกครั้งเป็นเวลารุ่งอรุณ เวลาผ่านไปอย่างเชื่องช้าและเหลือทน เธอจับหน้าอกที่รู้สึกอึดอัดแล้วเดินออกไปรินน้ำดื่ม
แม้จะไม่ได้มาที่นี่สามปีแล้ว รายละเอียดทุกซอกมุมของการ์เด้นมูเจียวาน เธอยังคงจำมันได้แม่นยำ
ข้างนอกปิดไฟมืด มีเพียงแสงสว่างริบหรี่เข้ามาจากนอกหน้าต่าง เมื่อดื่มน้ำเสร็จความรู้สึกแน่นหน้าอกนั้นหายไปมากทีเดียว ที่จริงร่างกายรู้สึกไม่สบายที่อื่นด้วย แต่เธอตั้งใจที่จะไม่ใส่ใจมัน
กำลังคิดจะกลับห้อง ทันใดนั้นมีเสียงประตูเคลื่อนไหว เธอรู้ว่าคือใคร เพียงแต่ไม่คิดว่าเขาจะกลับมาเวลานี้
คิดจะหลบก็ไม่ทันแล้ว เวินจิ้งจึงยืนอยู่ที่เดิม มองมู่วี่สิงเดินเข้ามาอย่างเย็นชา ขณะเดียวกันก็ได้กลิ่นเหล้าฉุนมาจากตัวเขา
ไฟในห้องรับแขกสว่างขึ้นหลังจากที่มู่วี่สิงเดินเข้ามาเปิดไฟ แสงที่สว่างวาบกะทันหันทำให้หญิงสาวในชุดนอนหรี่ตา ท่าทางของมู่วี่สิงก็ชะงักไป ไม่นึกว่าเธอจะอยู่ที่ห้องรับแขก
เขามองเธอแวบหนึ่ง โยนกุญแจรถลงบนโซฟา ถามเธอ “นอนไม่หลับหรือ”