Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน - ตอนที่ 667
บทที่ 667 รังเกียจอยู่ลึก ๆ
“โจวเซิน คุณอย่าเข้ามานะ…………”
หลังเวินจิ้งชิดกับประตู มองโจวเซินอย่างขัดขืน
เพียงแค่เขาเหมือนไม่ได้ยินเสียงเธอ ประชิดอย่างง่ายดาย ชั่วพริบตาเดียว ทั้งสองคนเกือบชิดรวมเข้าด้วยกัน
“ในเมื่อเต็มอกเต็มใจ งั้นก็แสดงให้ฉันดูสิ”โจวเซินหรี่ตาอย่างเยือกเย็น แขนโดนที่ไหล่ของเวินจิ้ง อุณหภูมิเย็นของเวินจิ้งส่งผ่านมาทันที
เธอสั่นไปทั้งตัว สามารถคาดเดาการกระทำของโจวเซินได้ ทันใดนั้น ใช้แรงยกเท้าขึ้น ถีบเข้าไปในตำแหน่งท้องน้อยของเขา
โจวเซินไม่คิดว่าเวินจิ้งจะทำแบบนี้ ถึงขนาดถอยหลังไม่ทัน ทำได้แค่เอาขาชิดกัน
เขาค่อยๆปล่อยมือ ทันใดนั้นเวินจิ้งหมุนตัวคิดจะไปเปิดประตู แต่โจวเซินล็อกไว้อย่างรวดเร็ว มีแต่ลายมือของเขาที่สามารถเปิดประตู
“ไม่ใช่เต็มอกเต็มใจเหรอ?”เสียงประชดประชันอยู่บนหัวเธอ ปลายนิ้วสัมผัสที่คางของเธอ เวลานี้ เวินจิ้งไม่เผชิญหน้าเขาไม่ได้
สีหน้าดุร้ายของเขาอยู่ตรงหน้า เธอกัดริมฝีปาก ดึงเสื้อตัวเองแน่น
“ฉันไม่มีทางรับได้”เวินจิ้งสารภาพ “ฉันแค่รับปากจะแต่งงานกับคุณ แต่เรื่องอื่น ฉันทำไม่ได้”
“ฉันต้องการ ไม่ใช่แค่การแต่งงาน”ปลายนิ้วของโจวเซินบีบที่คางของเวินจิ้ง เวลานี้ เธอไม่มองเขาไม่ได้
“ฉันแค่รับปากแต่งงานกับคุณแล้ว ฉันไม่ได้ชอบคุณ ไม่ว่าคุณจะบีบบังคับฉันอย่างไร ฉันก็ไม่มีทางชอบคุณ”เวินจิ้งพูดอย่างเยือกเย็น
ยิ่งไปกว่านั้น เธอจะไม่ยอมให้ตัวเองชอบโจวเซิน
เขาใช้กลอุบายคุกคามบีบเธอ เธอรังเกียจเขา รังเกียจอยู่ลึกๆ
โจวเซินสีหน้าเย็นชาทุกตารางนิว จ้องมองเวินจิ้ง สายตาโกรธอย่างรุนแรง
แต่เธอมองเขาด้วยความเย็นชา สายตาเงียบสงบ ไม่มีความรู้สึกแม้แต่น้อย
เขาเหมือนประสบกับความพ่ายแพ้ เหมือนว่าตัวเองจะทำอะไร เวินจิ้งนิ่งเงียบอย่างนี้
“ถ้าเธอไม่อยากให้ชีวิตครึ่งหลังของหลินเวยมีทุกข์ เวินจิ้ง ฉันอยากให้เธอคิดดีๆ ควรจะอยู่กับฉันดีๆ!”สิ้นคำพูด โจวเซินเปิดประตูอย่างเยือกเย็น จากไปอย่างรวดเร็ว
เวินจิ้งหลับตาลึก ด้านหลังเหงื่อออกมาไม่ใช่น้อย ทั้งตัวไม่มีแรง เธอเกือบยืนไม่ไหวจะล้ม
ทำได้แค่ชิดกำแพง สักพักถึงสามารถเก็บอารมณ์ตัวเองทั้งหมด
ความนิ่งเงียบเมื่อสักครู่นี้ เป็นแค่การแกล้งทำออกมา
เธอรู้ดี การเผชิญหน้ากับโจวเซิน ตอนนี้เธอยังไม่แข็งแกร่งพอ อีกไกลก็ไม่พอ
ไม่นานเท่าไหร่ เธอก็จากห้องนี้ไป กำลังจะกลับไปที่โรงแรม แต่กลับมีบอดี้การ์ดมาขวางเธอไว้
“ขอโทษครับ คุณเวิน คุณโจวสั่งมาว่า ช่วงเวลานี้ คุณไม่สามารถไปจากที่นี่ได้ ”
“ทำไมล่ะ?”สีหน้าเวินจิ้งเย็นชาขึ้นมาทันที
เธอไม่ได้คิดที่จะอยู่ลอนดอน อย่างน้อยก่อนงานแต่งงาน เธอก็ไม่อยากจะเจอโจวเซินอีก
งานแต่งงานเธอรู้เขาจัดการเรียบร้อยแล้ว เธอไม่อยากจะคิดถึง
“นี่เป็นคำสั่งของคุณโจวครับ”บอดี้การ์ดไม่ได้พูดเยอะ
เวินจิ้งร้อนใจไม่เป็นสุขอย่างมาก เปิดโทรศัพท์แล้วกดโทรหาโจวเซิน
“ฉันจะไปพักที่โรงแรม”
“ช่วงเวลานี้ เธอไม่ต้องกลับประเทศF รองานแต่งจบ พวกเราค่อยกลับพร้อมกัน”
“ฉันจะต้องทำงาน!”
“โรงพยาบาลทางนั้นฉันช่วยเธอลาให้แล้ว เธอแค่รอเตรียมงานแต่งงานของพวกเราที่ลอนดอน”
เวินจิ้งนิ่งเงียบ รู้ว่าตัวเองพูดสู้โจวเซินไม่ได้ รีบกดวางสายโทรศัพท์ทันที
ถึงแม้ที่นี่จะเป็นคฤหาสน์โจว แต่ที่จริงแล้วมีแค่โจวเซินอาศัยอยู่ที่นี่คนเดียว แม่อยู่เป็นเพื่อนโจวเซิ่งที่โรงพยาบาล อย่างนั้น……เธอกับโจวเซินก็อยู่กันตามลำพัง
คิดเท่านี้ เวินจิ้งยิ่งรู้สึกหงุดหงิด
ในเวลานี้ คนดูแลบ้านเข้ามา หยุดเท้าอยู่ที่หน้าเวินจิ้ง“คุณเวิน ห้องของคุณจัดการเรียบร้อยแล้วค่ะ เชิญคุณตามฉันมาค่ะ”
เวินจิ้งมองคนแก่ท่าทางอ่อนโยนตรงหน้า แต่ได้ฉีกยิ้ม
หายใจเข้าลึกๆ เธอสั่งให้ตัวเองต้องสงบ
ห้องของเธอก็อยู่ตรงข้ามกับห้องนอนนี้ ตกแต่งอย่างอ่อนโยน แต่เธอไม่มีอารมณ์ หลังจากคนดูแลบ้านแกไป เธอก็โทรหาเวยอาน
วันนี้โรงพยาบาลแจ้งแล้วว่า เวินจิ้งลาไปแต่งงานแล้ว
ลาแต่งงาน
“คุณหมอเวิน เธอจะแต่งงานแล้วเหรอ?” เวยอานถามด้วยความเป็นห่วง
“อืม”
“กับใคร? ฉันคิดว่าเธอจะแต่งงานกับคุณหมอหยูซะอีก แต่ช่วงนี้เขาทำงาน…….”
“ไม่ใช่คนในโรงพยาบาล”
“อ่อ…..หรือว่า…….เป็นโจวเซิน?” เวยอานนึกขึ้นมาได้ทันที ถึงแม่โจวเซินไม่ได้มาโรงพยาบาลมานานแล้ว แต่เธอไม่ลืมผู้ชายที่ตามจีบเวินจิ้งเด็ดขาด
“ใช่”เวินจิ้งตอบอย่างเฉยเมย
“คุณหมอเวิน ยินดีกับเธอด้วยนะ! เธอจะจัดงานแต่งที่ลอนดอนเหรอ?” น้ำเสียงเวยอานนั้นอิจฉาออกมา
“ใช่ แถมฉันไม่ได้เชิญเพื่อนมา งานแต่งครั้งนี้ มีแต่คนในครอบครัว”
งานแต่ครั้งนี้ แถมโจวเซินพึงพอใจอย่างมาก เธอไม่อยากให้ใครมาเป็นพยาน
แถม เธอก็ไม่คิดที่จะจัดงานแต่งนี้ขึ้น
จะต้องหาจุดอ่อนของโจวเซินให้เจอ
“โอเค งั้นจะรอเธอกลับมา”
พึ่งจะวางโทรศัพท์ หยูจิ่งห้วนก็โทรเข้ามา เวินจิ้งขมวดคิ้ว ไม่ได้รับสาย
แต่หยูจิ่งห้วนส่งข้อความเสียงมาในวีแชท เวินจิ้งค่อยๆเปิด
เวินจิ้ง ยินดีกับงานแต่งงานด้วยนะ
เวินจิ้ง ผู้ชายคนนั้นคือใคร? มู่วี่สิงเหรอ?
คงไม่ใช่เขาหรอก เขากลับไปเมืองหนานแล้ว หรือว่า เธอก็ไปเมืองหนานแล้วเหรอ? เธออยู่กับเขาแล้วเหรอ?
เธอรู้ไหมข้างกายเขามีหลิงเหยาแล้ว? ทุกคนก็รู้ว่าพวกเขามีลูกแล้วหนึ่งคน
เวินจิ้ง…….
เธอวางโทรศัพท์ บีบคิ้วด้วยความรู้สึกเหนื่อยล้า เห็นหยูจิ่งห้วนนั้นเขายังคงส่งข้อความเสียงมา เธอพึ่งจะตอบกลับแค่หนึ่งประโยค ไม่ใช่มู่วี่สิง
ไม่ใช่เขา
ถ้าเป็นเขา บางทีทางข้างหน้านั้นคือนรก เธอก็ยอมที่จะเข้าไปข้างใน
แต่ว่า ไม่ใช่มู่วี่สิง
เธอหลับตาลึกๆ ราวกับว่ากำลังฝันอันยาวนาน ในฝันนั้นย้อนไปตอนสมัยเด็ก อยู่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้า เธอและเขาเคยมีมิตรภาพดีๆ ความทรงจำที่สวยงาม
แต่ว่า ทั้งหมดนี้ทำได้แค่ฝังไว้เป็นความทรงจำเท่านั้น
โจวเซินเดินเข้ามานั้น เวินจิ้งนอนอยู่บนโซฟา ร่างบางผอมนอนขด อาจจะเป็นไปได้เพราะหนาวเกินไป ร่างกายสั่นเล็กน้อย
ขมวดคิ้ว เขาหยิบผ้าห่มผืนบางที่อยู่ข้างๆมาคลุมตัวเธอทันที ก้มลง เขาจ้องมองใบหน้าที่งดงามของเธอ
สามปีแล้ว เธอได้ถอดความเป็นเด็กก่อนหน้านี้ ยิ่งเป็นผู้ใหญ่ที่น่าดึงดูด
เพียงแค่ ในใจเธอไม่เคยเปลี่ยน ยังคงอยู่ที่มู่วี่สิง
คิดถึงเท่านี้ เขาก็โกรธขึ้นมาทันที มือกำลังยกขึ้นนั้น เวินจิ้งก็เริ่มลืมตา
เขาเห็นเธอขดตัวอย่างไม่รู้ตัว เห็นได้ชัดว่ากลัวเขา
สีหน้าของเขาผ่อนคลายลงอย่างรวดเร็ว เวินจิ้งลุกมานั่ง หงุดหงิดตัวเองที่นอนเยอะเกินไป
“ลงมากินข้าวได้แล้ว”โจวเซินพูดจบ ก็ออกไปก่อน
เวินจิ้งมองต่ำ พบว่าฟ้านั้นมืดแล้ว เธอหยิบโทรศัพท์มา หยูจิ่งห้วนยังคงส่งวีแชทมาหาเธอ เธอไม่มีอารมณ์จะตอบกลับแล้ว