Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน - ตอนที่ 680
บทที่ 680 ยังไม่พร้อมปล่อยเธอไป
อู๋ชิงเดินนำไปข้างหน้า เวินจิ้งถูกบังคับให้เดินตามเขา และมีชายสองคนในชุดดำอยู่ข้างหลัง
“คุณเวินจิ้ง ตอนนี้คุณอยู่ที่นี่ก่อน ต้องการอะไรให้บอกพวกเราได้เสมอ” หลังจากกดรหัสผ่านหลายชุดแล้ว อู๋ชิงก็พาเธอเข้าไปข้างใน
มันไม่ใช่คอนโดขนาดใหญ่ แต่ให้ความรู้สึกสะดวกสบายทันทีที่เดินเข้ามา การตกแต่งโทนสีและเฟอร์นิเจอร์ล้วนเผยให้เห็นถึงความอบอุ่น
“ฉันออกไปข้างนอกได้ไหม ฉันไม่อยากอยู่ที่นี่ตลอดเวลา” เธอถาม
อู๋ชิงนิ่งและยิ้มในไม่กี่วิต่อมา “แน่นอน ถ้าคุณเวินจิ้งต้องการออกไป พวกเราจะไปคุ้มกันเอง”
เวินจิ้ง : …
คุ้มกัน…ไม่ใช่จับตาดู
เธอเดินไปที่โซฟา กอดหมอนข้าง แล้วทำหน้ามุ่ยคิดว่าเจ้านายเขาชอบเธอจริงหรือ
เธอเงยหน้าขึ้นอีกครั้ง และมองไปที่อู๋ชิงที่หล่อเหลาและพยายามแสดงความดีของเขาต่อเธออยู่ เธออดที่จะขมวดคิ้วไม่ได้
…
เวยอานพักอยู่ในบ้านพักที่ชานเมืองหนานเฉิง หลังจากที่ลาออกจากโรงพยาบาล
เธอมัดผมสีดำยาวของเธอด้วยยางมัดผม ใบหน้าที่บอบบางและสวยงามของเธอขาวสะอาด ไม่มีร่องรอยของเครื่องสำอางใดๆ
ไม่มีใครอยู่ในห้องนั่งเล่น เธอค่อยๆเปิดประตูห้องนอน และเดินเข้าไป ก่อนจะได้ยินเสียงต่ำของชายคนนั้นจากระเบียง
มันเป็นเสียงที่น่ายินดี และรักใคร่ ซึ่งต่างจากเมื่อเขาคุยกับเธออย่างสิ้นเชิง
รอยยิ้มบนใบหน้าของเธอหายไปอย่างช้าๆ
“นายหางานอดิเรกให้เธอทำหน่อย เธอชอบกินไก่ทอดกับชาบู…”
“ตอนนี้ฉันยังไม่ไป ฉันยังมีบางอย่างที่ยังไม่ได้จัดการ นายแค่ต้องตามไปปกป้องเธอทุกที่ที่เธออยากไป …”
“แค่นี้แหละ”
หลังวางโทรศัพท์ เขาก็หันกลับมา และเดินไปหาเธอ โดยที่มือข้างหนึ่งของเขายังล้วงอยู่ในกระเป๋ากางเกง เขาพูดอย่างเนือยๆว่า “เวยอานมีนิสัยแอบฟังคนอื่นหรือ”
ใบหน้าของเวยอานนิ่งขึ้น ก่อนจะรีบส่ายหัว “ฉันไม่ได้ตั้งใจจะ … ”
เธอเข้ามาและบังเอิญได้ยินพอดี
เธอพิงกำแพง และพูดอย่างหมดหนทาง “ฉันจะทำความสะอาดห้องนั่งเล่น”
ดวงตาที่ลึกล้ำของชายคนเดิมนั้นแสดงความไม่พอใจเล็กน้อย มุมริมฝีปากของเขายกขึ้นเล็กน้อย และเขาพูดว่า “คุณจะให้ผมนอนในห้องนั่งเล่นหรอ”
ร่างสูงของเขารีบลุกขึ้น ลดศีรษะลง และยื่นใบหน้าอันหล่อเหลามาตรงหน้าเธอ ก่อนจะกดริมฝีปากลงบนริมฝีปากบางของเธออย่างจงใจ “ผมก็คิดว่าที่คุณ เวยอานรีบให้ผมเข้ามาขนาดนี้ เพราะอยากให้ผม..นอนกับคุณซะอีก”
มือของเขาโอบรอบเอวบางของเธอ และบีบเบาๆ พร้อมกับเลียปลายลิ้นของเขารอบริมฝีปากของเธอ และเสียงหัวเราะก็ดังขึ้น “แฟนเก่าของคุณอ่อนไปรึเปล่า หืม”
ใบหน้าของเวยอานเปลี่ยนเป็นสีแดงเข้ม เขาพูดอย่างนี้ได้ยังไง….
เธอพยายามอย่างเต็มที่ที่จะผลักเขาออกไป แต่เขาก็ยังคงยืนได้อย่างนิ่งเฉย
เขาก้มหน้าลงและประทับจูบลงบนริมฝีปากของเธอ
เวยอานถูกบังคับจูบอย่างไม่มีแรงที่จะต้านทาน เธอตัวอ่อนปวกเปียก และถูกอุ้มพาดไปบนไหล่ของเขาได้โดยไม่รู้ตัว
เขาจูบอย่างชำนาญ ดวงตาปรือของเธอเบิกขึ้น และทันใดนั้นพวกเขาก็สบตากัน เกิดเป็นการจูบที่ลึกซึ้ง
ทันใดนั้นหัวใจของเธอก็เย็นเยือก และผลักเขาออกไปทันที
“ฉันจะทำความสะอาดห้องพักแขก”
หลังจากพูดเสร็จเธอก็เดินไปที่ประตู
“คุณไม่ต้องการให้ผมนอนกับคุณจริงๆหรือ”
เวยอานหยุดฝีเท้าลง ดวงตาของเธอมองไปที่พื้น “คุณไม่สนใจฉันไม่ใช่หรอ”
เขาไม่ได้อยากจูบเธอด้วยซ้ำ เขาจะอยากนอนกับเธอทำไม
เธอเดินไปที่ห้องพักแขก และปิดประตูเพื่อตัดตัวเองจากภายนอก
ร่างกายของเธอหมดแรงแล้ว
เธอยืนพิงประตู ก่อนจะค่อยๆไหลลงไปที่พื้นและซบหน้าไว้กับเข่า
เธอรู้สึกเจ็บปวดมาก จนทำได้เพียงกอดตัวเองไว้เพื่อบรรเทาความเจ็บปวด
ชายคนนั้นยืนเงียบๆ อยู่นอกประตู เขาไม่ได้ยินเสียงหายใจของตัวเอง แต่เขาได้ยินเสียงน้ำตาหยดใหญ่ที่หยดลงบนพื้นภายในห้อง
ร้องไห้หรอ
เป็นผู้หญิงขี้แยจริงๆ
เขาเอื้อมมือไปเคาะประตู และพูดเสียงต่ำอย่างรวดเร็ว “เวยอานเปิดประตู”
ภายในประตูไม่มีเสียงใดๆตอบกลับมา เห็นได้ชัดว่า เวยอานไม่ได้ตั้งใจจะเปิดประตูให้เขา คิ้วของเขาขมวดมุ่น
สิบนาทีต่อมา ชายร่างสูงก็ยืนอยู่ตรงหน้าเธอ แล้วมองลงไปที่หญิงสาวที่นั่งคุกเข่าอยู่บนพื้น เขากอดเธอไว้โดยไม่พูดอะไรสักคำ “ผมจะอยู่กับคุณ ไม่ต้องร้องไห้ โอเคมั้ย”
เขาเปิดประตูด้วยมือข้างเดียว และหลังจากกลับไปที่ห้องนอนใหญ่แล้ว เขาก็วางเธอลงบนเตียงที่นุ่มและกว้างขวาง จากนั้นเขาก็ล้มตัวลงนอน พร้อมจูบไปที่คอของเธอ
เธอหลับตาลง และร่างกายของเธอยังคงเกร็งแน่น เพราะก่อนหน้านี้เธอร้องไห้มาอย่างหนัก ตอนนี้เธอจึงยังคงสั่นอยู่
ดวงตาที่ยาวและรีของชายคนนั้นหรี่ลงเล็กน้อย ดวงตาสีเข้มของเขา มองไปที่ผู้หญิงที่อยู่ใต้ร่าง และมือใหญ่ของเขาก็ค่อยๆเอื้อมมือไป
ทันใดนั้นโทรศัพท์ข้างๆเขาก็ดังขึ้น และเวยอานก็ทำราวกับตื่นขึ้นมาทันที แต่เขาก็เร็วกว่า เขาคว้าโทรศัพท์ของเธอ และเอาไปรับโทรพลการ
…
เวินจิ้งมองไปที่ตำรวจที่ปรากฏตัวต่อหน้าเธอ อู๋ชิงยืนอยู่ตรงหน้าเธอ ใบหน้าที่อ่อนโยนของเธอ ตอนนี้เต็มไปด้วยความเย็นชา
มู่เฉิงยังไม่ยอมปล่อยเธอไปหรือ
ขนาดมู่วี่สิงยังหาที่นี่ไม่เจอ แล้วมู่เฉิงหาเจอได้ยังไง
“ทุกท่าน” อู๋ชิงยังคงยิ้มอย่างอ่อนโยน ไม่แปลกใจหรือโกรธ แถมยังมีรอยยิ้มบนใบหน้า “ผมไม่รู้ว่าคุณมาที่นี่เพื่ออะไร … เราไม่ได้ทำอะไรผิดกฎหมาย”
“คุณเวินจิ้ง นายโจวเซินขอให้รื้อคดี ดังนั้นเราจึงมาเชิญคุณให้มาให้ปากคำอีกครั้ง”
เวินจิ้งขมวดคิ้ว โจวเซินสามารถย้อนคดีได้ด้วยหรือ
คดีของเขาตัดสินไปแล้วนี่
คนพวกนี้คงไม่ได้หาข้อจับเธอมั่วๆหรอกนะ
ในตอนนี้ใบหน้าของอู๋ชิงดิ่งลง และเมื่อเห็นว่าเวินจิ้งถูกพาตัวไป เขาจึงสามารถโทรหาเจ้านายได้เท่านั้น
ในตอนที่เธอกำลังจะเดินออกจากประตู เวินจิ้งก็หันหลังกลับ “เจ้านายของคุณต้องไม่ใช่รักแท้ของฉัน ถ้าคุณอยากเป็นคนดี ก็ช่วยบอกมู่วี่สิงให้ฉัน”
ถ้านี่เป็นการกระทำของมู่เฉิงจริงๆ มีเพียงมู่วี่สิงเท่านั้นที่สามารถต่อสู้กับเขาได้
เธอตระหนักถึงสถานการณ์ตอนนี้มาโดยตลอด
เมื่อเธอไปไกลระยะหนึ่ง เวินจิ้งก็ถูกพาเข้าไปในห้องลับ เธอจึงพูดเสียงเย็น “ฉันไม่ใช่พยานเหรอ ทำไมถึงขังฉันไว้”
ถูกขังในคุกสองวันสองคืนในตอนนั้นยังดีกว่าสภาพในตอนนี้เสียอีก
แต่คนที่ตามมากลับไม่ได้สนใจเธอเลย พร้อมเหวี่ยงเธอเข้ามาอย่างแรง เข่าของเธอกระแทกพื้นอย่างแรงใบหน้าของเธอบิดเบี้ยวด้วยความเจ็บปวด
อีกฝ่ายไม่ได้ตั้งใจที่จะตอบเธอเลย เขาล็อกประตูและจากไป
ที่เธออยู่ไม่มีใครสามารถมองเห็นได้ และไม่มีเสียงใดๆ เวินจิ้งนอนขดตัวนิ่ง อากาศรอบตัวเธอหนาวเย็น และมันแทรกซึมเข้าไปในผิวหนังของเธอทุกอณู