Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน - ตอนที่ 736
บทที่ 736 เพื่อให้คุณเต็มใจกลับมา
เวินจิ้งโกรธจนขัดคำพูดของเขา “วิธีการแก้ไขปัญหาของคุณง่ายๆ แค่นี้หรือ คุณคิดว่าทำอย่างนี้แล้วจะลบเรื่องทุกอย่างได้หรือไง”
เขาไม่รู้….ถ้าหากเขาเป็นอะไรไปจริง…เรื่องที่เธอแทงเขาคงจะกลายเป็นฝันร้ายของเธอตลอดไป
“ถ้าคุณไม่มีวิธีแก้ไขปัญหาที่น่าพอใจให้ผม ผมก็ทำได้แต่วิธีตื้นเขินแบบนี้ คุณยังระบายความแค้นไม่พอหรือมีปมในใจ ผมยอมให้คุณระบายโทสะตามใจ แต่อย่าไปจากผมก็พอ”
น้ำเสียงเอาแต่ใจของเขาประกาศข้างหูเธอ “จิ้งจิ้ง ผมรักคุณมากมาตลอด ฉะนั้น ห้ามหย่าเด็ดขาด”
เขาจำอดีตไม่ได้ไม่ใช่หรือ จะแน่ใจได้อย่างไรว่าเขารักเธอมากขนาดนั้น
“คุณใช้อำนาจขังฉันไว้นี่หรือคือวิธีที่คุณรักฉัน” เวินจิ้งช้อนตามองเขา “มู่วี่สิง ถ้าคุณไม่ใช่ผู้มีอิทธิพลในเมืองหนาน ตอนนี้ฉันจะยืนอยู่ตรงหน้าคุณหรือเปล่า”
มู่วี่สิงหายใจหนัก “คุณคือภรรยาผม คุณอยู่บ้านผม หมายความว่าผมขังคุณไว้อย่างนั้นหรือ”
เขาคิดว่าตัวเองให้อิสระเธอมากพอ
แต่เวินจิ้งกลับไม่รู้สึกเช่นนั้น สายตาคู่นั้นบ่งบอกความหมายนี้ชัดเจน
มู่วี่สิงโกรธจัด แต่ยังคงระงับอารมณ์ของตัวเอง “ให้คุณย้ายออกไปจากบ้านตระกูลมู่ แปลว่าไม่ขังคุณใช่ไหม”
เวินจิ้งหรี่ตา “ไม่ใช้อำนาจของคุณค่ะ”
เธอพูดเรียบๆ “มีความสามารถก็ตามฉัน เหมือนผู้ชายทั่วไปตามผู้หญิง แต่ไม่ใช่จำกัดสิทธิ์ฉันจะคบเพื่อนคนไหน แล้วไล่ตะเพิดผู้ชายที่ใกล้ชิดฉันไปทุกคน”
“งั้นต้องการให้ผมพา หยูจิ่งห้วน กลับมาไหม เห็นพวกคุณสนิทสนมกันแล้วก็ถูกแย่งคนรักไปอีกครั้ง”
เธอเป็นภรรยาของเขาอย่างถูกต้อง!
ในเมื่อเขาเป็นสามี จะควบคุมนิดๆ หน่อยๆ ไม่น่าจะเกินไปไม่ใช่หรือ!
เธออยากจะพูดเติมไปอีกประโยคงั้นก็ต้องให้คุณแย่งคนรักกลับมา
ถ้าเธอชอบผู้ชายคนอื่นจริง ถึงเขามีอำนาจล้นฟ้าเธอก็ไม่ใส่ใจ
ท่าทีของเวินจิ้งครุ่นคิดอย่างจริงจัง “เรื่องหมอหยูช่างเถอะ ถึงยังไงเขาก็เคยเป็นลูกน้องคุณ เมื่อก่อนพวกคุณก็มีมิตรภาพที่ดีต่อกัน ฉันไม่อยากให้ความสัมพันธ์พวกคุณย่ำแย่”
เป็นเพราะเธอหยูจิ่งห้วนจึงทิ้งงานที่โรงพยาบาลเมืองหนานแต่แรก ก็ทำให้เธอรู้สึกผิดมากพอแล้ว
“อย่างนั้น ตอนนี้คุณยอมให้ฉันย้ายออกไปแล้วใช่มั้ย” ทันใดนั้นปรากฏรอยยิ้มบนใบหน้าเวินจิ้ง
สีหน้ามู่วี่สิงเงียบขรึม ครู่ใหญ่ถึงจะพยักหน้าช้าๆ “อึม”
เมื่อได้ยินเสียงนั้น นัยน์ตาของเวินจิ้งเป็นประกาย ใบหน้าของชายหนุ่มกลับยิ่งนิ่งขรึม “บ้านทุกหลังของผม คุณอยากอยู่ที่ไหนผมจะช่วยคุณย้ายกระเป๋าเดินทางเอง หลังจากแผลของผมหายดี”
เวินจิ้งอึ้งไป “ให้ฉันอยู่บ้านของคุณ”
เช่นนั้นจะต่างอะไรกับอยู่บ้านตระกูลมู่…
ชายหนุ่มเลิกคิ้ว “คุณไม่อยู่บ้านผมแล้วอยากจะไปอยู่ไหน คิดจะไปหาหยูจิ่งห้วน หรือว่าคนชงกาแฟนั่น”
“คุณอยากอยู่โรงแรมงั้นหรือ” เขาขยับเข้ามาใกล้เธอ ขมวดคิ้วแน่น “หรือคุณอยากจะกลับไปบ้านตระกูลโจวที่ลอนดอน”
“กลับลอนดอนก็เป็นความคิดที่ไม่เลว”
เวินจิ้งพยักหน้าเห็นด้วย เธอเองก็ไม่ได้เห็นหน้าพ่อแม่นานแล้ว
แต่เรื่องของพี่ชาย เธอไม่รู้จะเริ่มต้นพูดกับแม่อย่างไรดี
แม่หวังว่าเธอจะนำข่าวดีกลับไป
แต่ฝันร้ายในตอนนี้ แม้แต่เธอเองก็รับไม่ไหว แล้วหลินเวยจะรับไหวหรือ
“ไม่ได้” มู่วี่สิงปฏิเสธโดยไม่คิดอะไรทั้งนั้น “ผมไม่อยากให้คุณอยู่ห่างผมไกลขนาดนั้น”
เวินจิ้งกลอกตา “งั้นอยู่อพาร์ทเมนท์ในเมืองของคุณที่เล็กหน่อยก็ได้ ความปลอดภัยดี สิ่งแวดล้อมก็ดี แถมยังอยู่ใกล้ร้านกาแฟด้วย”
จมูกของเขาแทบจะชนกับจมูกของเธอ “เวินจิ้ง คุณอยากใกล้ชิดผู้ชายชงกาแฟขนาดนั้นเลยหรือ”
เวินจิ้งยิ้มจนตาหยี “ฉันตกลงอยู่ที่พักของคุณแล้ว”
ตั้งแต่เขาฟื้นขึ้นมานับเป็นครั้งแรกที่เขาเห็นรอยยิ้มของเวินจิ้งเช่นนี้ จิตใจหวั่นไหว ตอบรับโดยไม่ลังเล
เวินจิ้งเก็บกระเป๋าด้วยความดีใจ ชายหนุ่มกลับสีหน้าเคร่งขรึมมองเธอเก็บข้าวของ
“ในเมื่อคุณอยากจะย้ายออก ก็รอให้ผมหายก่อนค่อยย้าย อึม”
“ไม่มีอะไรแล้ว ตอนนี้คุณขึ้นลงบันไดได้แล้ว อีกอย่างฉันก็ไม่ใช่คนใช้หรือหมอ อยู่ต่อไปก็ไม่มีประโยชน์”
ให้เธอออกไปจากบ้านตระกูลมู่ เธอรู้สึกว่าตัวเองได้ฟื้นคืนชีพแล้ว และยังมีอารมณ์ต่อล้อต่อเถียงกับเขา ถ้าเป็นก่อนหน้านี้ แม้แต่อยากจะพูดกับเขาสักประโยคก็ไม่รู้สึก
“ผมปล่อยคุณไปครั้งหนึ่ง” เวินจิ้งไม่กินข้าวรีบกลับห้องมาเก็บกระเป๋า รูดซิปเส้นสุดท้าย น้ำเสียงของชายหนุ่มผ่อนคลายลงบ้าง “ก็เพื่อให้คุณเต็มใจกลับมา”
มือของเธอชะงัก เพราะกำลังก้มเอวผมจึงลู่ลง ปิดบังสีหน้าของเธอ
“โอเค”
เขาตอบเรียบๆ “งั้นผมจะรอละกัน”
ไปจากที่นี่ อย่างน้อยเธอก็ไม่ต้องปรากฏต่อหน้าเขาทุกวัน และเธอก็ไม่ต้องเจอหน้าเขาทุกวัน หรือว่าบางเรื่อง…ก็เปลี่ยนเป็นง่ายแล้ว
“ในเมื่อเก็บของเรียบร้อยแล้ว เราไปกินข้าวกันก่อนเถอะ พรุ่งนี้ผมจะไปส่งคุณเอง”
“คุณเอากุญแจรถมา ฉันขับรถไปเองก็ได้”
เธอเร่งรีบจนรอไม่ไหวขนาดนี้เลยหรือ
“เวินจิ้ง ถ้าคุณยังได้คืบเอาศอกอีกผมจะไม่ใช่เหตุผลกับคุณ ลงไปกินข้าว พรุ่งนี้ค่อยไป!”
เวินจิ้งครุ่นคิด ไม่เร่งรีบอะไรขนาดนั้น จึงวางของลงไปกินข้าว
ขณะเดินลงบันได เธอมองเห็นเขาก้าวแต่ละก้าวรู้สึกหวาดกลัว เขาเพิ่งพันแผลใหม่…ซ้ำไปซ้ำมาเมื่อไหร่ถึงจะหาย…
เขาอยู่บ้านพักฟื้น คงไม่มีกำลังอะไรมากลั่นแกล้งเธอใช่ไหม…
ขณะเข้ามาที่ห้องรับประทานอาหาร มู่เฉิงกับมู่ซีนั่งรออยู่ที่โต๊ะแล้ว “คุณชาย แผลไม่เป็นอะไรใช่ไหมคะ”
มู่วี่สิงไม่แม้แต่จะมองมู่ซีเดินผ่านเธอไป
อาหารมื้อนี้หนักอึ้ง มู่เฉิงรู้สึกได้ว่าบรรยากาศแปลกไป “วี่สิง เกิดอะไรขึ้น ได้ยินคนรับใช้บอกว่าหลิงเหยามาที่นี่หรือ”
เวินจิ้งกะพริบตา พูดเสียงเรียบ “พรุ่งนี้ฉันจะย้ายออกค่ะ”
มู่เฉิงประหลาดใจ มองหลานของตัวเอง “ทำไมย้ายออกล่ะ”
เขาหลุบตา “ก็แค่สามีภรรยาแยกกันอยู่ตามปกติ”
เธออยู่ที่นี่ นอกจากมู่วี่สิงแล้ว คนอื่นไม่เป็นตัวของตัวเอง ยิ่งเธออยากจะไปแล้ว ดูเหมือนจะสมความปรารถนาไม่น้อย
วันรุ่งขึ้น เวินจิ้งก็แบกกระเป๋าจากไปแต่เช้าตรู่ คนรับใช้สูงอายุเกลี้ยกล่อมเธอ “คุณนาย รอคุณชายตื่นก่อนค่อยไปไหมคะ ไม่อย่างนั้นคุณชายต้องโกรธแน่”
เธอยิ้มไม่ใส่ใจ “ไม่ต้องหรอกค่ะ รอเขาตื่นก็จะต้องไปส่งฉันเอง ตอนนี้ร่างกายเขาจะไปๆ มาๆ ไม่ไหว เดี๋ยวฉันจะโทรหาเขาเองค่ะ”
ท้องฟ้าเพิ่งจะเริ่มสว่าง ท้องฟ้ายังคงค่อนข้างมืด แม้แต่คนรับใช้และบอดี้การ์ดตระกูลมู่เธอก็ไม่ให้ไปส่ง เรียกรถไปใจกลางเมืองเอง มู่วี่สิงบอกรหัสอพาร์ทเมนท์ให้เธอแล้ว
ห้องพักว่างเปล่า ในห้องมีคราบฝุ่นเกาะ เธอยืนตรงกลางห้องรับแขก รู้สึกว่าจิตใจสงบอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน