Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน - ตอนที่ 771
บทที่ 771 มีสาวน้อยกี่คนที่แอบตามเขา
สายตาหลินยี่มองหน้าเวินจิ้ง เดินไปข้างๆ เก้าอี้นอนเอนของเธอ เหลือบมองหน้าจอแล็ปท็อปของเธอ ถามขึ้นอย่างเกียจคร้าน “เมื่อกี้เธอพูดว่าเธอยังไม่ได้หย่ากับมู่วี่สิงเหรอ?”
สายตาเวินจิ้งขยับ “ยัง”
“ยังอยากกลับไปเหรอ?”
“ก็ไม่” ถึงน้ำเสียงเธอจะลังเลนิดหน่อย แต่สิ่งที่พูดออกมานั้นหนักแน่นมาก
เธอกอดแขนพี่ชาย พูดขึ้นอย่างออดอ้อนอ่อนโยน “ตอนนี้ฉันไม่อยากคิดอะไรเกี่ยวกับเขา”
เธอเบ้ปาก น้ำเสียงมีความเศร้าขึ้นมานิดหน่อย “ฉันเคยอกหักจากเขามา และไม่อยากแต่งงานกับคนแปลกๆ อย่างลู่เซิ่นนั่นด้วย ฉันไม่จำเป็นต้องแต่งงานกับเขาใช่ไหม พี่?”
หลินยี่ลูบผมของเธออย่างเอาอกเอาใจ แววตาสื่อความหมายนิดหน่อย “ไม่พิจารณาจริงๆ เหรอ?”
เขายิ้ม “ฉันรู้จักเขามาหลายปี เขาเป็นคนที่ไม่เลวนะ อย่างน้อยก็ไม่แย่ไปกว่าผู้ชายคนนั้นที่เธอชอบ”
เวินจิ้งยังคงเบ้ปาก ส่ายศีรษะเหมือนของเล่นป๋องแป๋ง “ตอนนี้ฉันก็ไม่ได้แก่มากซะหน่อย”
เธอกะพริบตา “ฉันเพิ่งล้มเหลวกับชีวิตแต่งงาน ไม่อยากรีบเข้าไปในหลุมฝังศพเร็วๆ นี้”
ใบหน้าของหญิงสาวโน้มลงบนแขนเขาแล้วคร่ำครวญ “ตอนนี้ฉันไม่ต้องการผู้ชายเลยสักนิด”
ไม่ต้องการผู้ชาย หรือเพราะไม่ต้องการมู่วี่สิงแล้ว จึงไม่ต้องการผู้ชายทั้งโลกเลย
หลินยี่หลุดหัวเราะพลางเคาะศีรษะเธอ “ไม่อยากแต่งก็ไม่แต่ง ยัยทึ่ม เรื่องนี้พี่ต้องขอโทษเธอด้วย”
ถ้าไม่ใช่เพราะอุบัติเหตุทางรถยนต์นั้น มู่ซือซือเสียชีวิต ก็จะไม่ทำให้มู่วี่สิงและเวินจิ้งล้วนเกลียดชัง
แต่ทั้งหมดนั้นเป็นแค่อุบัติเหตุ อาจมีคนที่ดื้อด้านอยากเก็บผู้หญิงตัวเองไว้ ยิ่งเกลียดมากเท่าไรก็ยิ่งรักมากเท่านั้น
“ไม่เกี่ยวกับพี่ ฉันกับเขามันเป็นไปไม่ได้ตั้งนานแล้ว” เวินจิ้งพึมพำ
หลังจากที่พวกเขาพบกันอีกครั้ง เธอคิดว่าพระเจ้าเปิดประตูบานหนึ่งให้เธออีกครั้ง แต่จริงๆ แล้วแค่ปิดประตูให้แน่นยิ่งขึ้น
เวินจิ้งพิงไหล่พี่ชายอย่างอ่อนโยน ทันใดนั้นก็พูดเสียงเบา “ฉันเห็นเหมือนมีคนอื่นอยู่ข้างๆ เขาแล้ว”
เมื่อครู่นี้เธอค้นหาข่าวบางอย่างเกี่ยวกับเมืองหนานในอินเทอร์เน็ต สิ่งที่เธออยากรู้พื้นฐานก็ค้นหาได้ ไม่จำเป็นต้องใช้อำนาจพี่ชายเธอเลยด้วยซ้ำ
ถึงแม้ตอนนี้บ้านหลิงจะไม่ได้พังทลายอย่างสมบูรณ์ แต่บริษัทหลิงซื่ออยู่ระหว่างการตรวจสอบเพราะสงสัยว่ามีการละเมิดกฎหมาย อยู่ในภาวะล้มละลายชำระบัญชีแล้ว สถานะในเมืองหนานก็ยิ่งแย่ลง
คดีความหลิงเหยายังคงสู้อยู่ตลอด บ้านหลิงจ้างทนายที่ดีที่สุดเพื่อลดโทษหลิงเหยาให้น้อยที่สุด แต่มีรายงานมากมายบอกว่าทนายที่มีชื่อเสียงและมีความสามารถมากที่สุดอย่างในเมืองหนานก็ไม่กล้ารับทำคดีนี้ เหตุผลนั้นชัดแจ้งในตัวเอง
หลินยี่ขมวดคิ้วนิดหน่อย เขาคนนี้ต้องหมายถึงมู่วี่สิงอยู่แล้ว
ขณะที่กำลังจะพูด เสียงอ่อนโยนของเวินจิ้งก็ดังขึ้นมาต่อ “พี่ ในเมื่อตอนนี้พี่หายเป็นปกติแล้ว เรากลับลอนดอนไปเยี่ยมแม่กันเถอะ แล้วฉันจะหางานที่นี่”
หลินยี่เลิกคิ้ว พูดขึ้นด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำ “ไม่หย่ากับมู่วี่สิงก่อนเหรอ? ”
การหย่า เป็นการสิ้นสุดความสัมพันธ์——ระหว่างพวกเขาทั้งสองคน
และยังหมายถึงการเริ่มต้นใหม่ ไม่ว่าจะกับผู้ชายคนไหน หรือกับมู่วี่สิง
ระหว่างพวกเขาไม่มีอุปสรรคพัวพันอะไรกันแล้ว แต่ไม่มีเหตุผลใดที่จะเริ่มต้นใหม่เช่นกัน
เธอยอมแพ้กับความรักแล้ว
เวินจิ้งก้มศีรษะลง พูดพึมพำ “ให้ฉันคิดหน่อยนะ”
……
อากาศดีมาก มีแสงแดด ช่วงนี้เมืองหนานมีฝนตกทุกวัน มู้ชิงไม่ได้เห็นดวงอาทิตย์มานานมากแล้ว
ถึงแม้ทุกครั้งที่ผู้ชายคนนี้ออกมากับเธอโดยลำพังเพราะสุนัขหนึ่งตัว หนึ่งตัวไม่แพงแต่เป็นสุนัขพันธุ์ที่อดีตภรรยาเขาทิ้งเอาไว้
มู่วี่สิงไม่ใช่คนช่างพูด ทุกครั้งที่ไปบ้านเขา ปกติไม่ได้ยินเขาพูดอะไรเลย แม้แต่ด้านเดียวก็ยากที่จะเห็น
ช่วงนี้เสี่ยวเฮยไม่อยากอาหารอะไรเลย แต่ไม่ได้ป่วย ผอมมาก ผอมจนเหลือแต่กระดูก
นั่นเป็นเหตุผลที่เธอถามออกไปว่าอยากเปลี่ยนรสชาติไหม หรือพาเขาออกไปขับรถรับลม ไม่คิดว่ามู่วี่สิงจะพาเสี่ยวเฮยออกมาด้วยตัวเองจริงๆ
จริงๆ แล้วใครจะไปรู้ล่ะว่าเสี่ยวเฮยอาจจะคิดถึงเจ้าของเดิม
สุนัขเป็นสัตว์เลี้ยงที่รักและภักดีมากที่สุด ถึงแม้จะเป็นเวลาไม่นาน
ผู้ชายขับรถเอง มู้ชิงอุ้มเสี่ยวเฮยนั่งเบาะผู้โดยสาร ขณะที่เขาขับรถก็มองไปที่มู่เสี่ยวเฮยเป็นครั้งคราว มู้ชิงเข้าใจทันทีว่าเขาแค่อยากมองสุนัขตัวนี้ถึงให้เธอนั่งเบาะผู้โดยสาร
เธอลูบมือสุนัข หัวเราะเบาๆ “คุณชอบเธอขนาดนี้ เธอน่าจะสบายดีมาก”
เพราะมู่เสี่ยวเฮย เธอจึงเริ่มค่อยๆ เข้าไปในชีวิตของมู่วี่สิง ถึงแม้ว่าแค่มองเขาไม่ใกล้ไม่ไกลก็ตาม และหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะใจเต้นกับผู้ชายคนนี้อย่างไม่เป็นไปตามแบบแผน
จะไม่ใจเต้นได้อย่างไรกันล่ะ เดิมทีเขาเป็นผู้ชายที่ทำให้คนใจเต้นง่ายมากๆ
แม้แต่ต่อหน้าสุนัขพันธุ์หนึ่ง เขายังใส่ใจและอ่อนโยนมากพอ
เธอเป็นสัตวแพทย์ เคยเห็นคนรักสัตว์เลี้ยงมากมาย แต่ไม่มีใครทำให้เธอรู้สึกแบบนี้
ราวกับสิ่งที่มู่วี่สิงเลี้ยงไม่ใช่สัตว์เลี้ยง แต่เป็นเพื่อนคู่หู
ดูเหมือนเขาโดดเดี่ยวมาก โดดเดี่ยวจนไม่มีอย่างอื่นนอกจากงานและชีวิต แต่เขาปฏิเสธสิ่งอื่นๆ ที่เข้ามาในชีวิตเขา
จริงๆ เธอก็รู้ เขากำลังคิดถึงเธอ คิดถึงเวินจิ้งตามอำเภอใจ
“อืม” เสียงผู้ชายนั้นแผ่วเบา มือจับพวงมาลัยอย่างปลอดภัยและเอื่อยเฉื่อย
เธอสบายดีมากไหมนะ?
เขาแค่รู้สึกว่าเขาชอบทุกอย่างของเธอ แต่ไม่เคยคิดมาก่อนว่าเธอสบายดีไหม
มู้ชิงมองออกถึงความเงียบของเขา รีบเปลี่ยนเรื่องอย่างมีไหวพริบ “ร้านนั้นอยู่ข้างหน้า อาหารหมาที่นั่นมีหลายสายพันธุ์ครบครัน เราไปดูกันเถอะ”
มู่วี่สิงเงยศีรษะขึ้นมองคาเยนน์สีดำค่อยๆ จอดลงหน้าร้านสัตว์เลี้ยง
มู้ชิงอุ้มสุนัขตัวเล็กขลงรถ มู่วี่สิงก็ลงรถตามมา
ทันใดนั้นเจ้าตัวน้อยที่ห่อเหี่ยวอยู่ตลอดเวลาจู่ๆ ก็หุนหันพลันแล่นขึ้นมา ร่างผอมบิดอย่างรุนแรงอยากจะกระโดดลงจากอ้อมแขนมู้ชิง
มู่วี่สิงเอื้อมไปอุ้มไว้ในมือตัวเอง ยื่นมือลูบศีรษะมันเบาๆ พูดเสียงทุ้มต่ำ “อย่าซน เดี๋ยวก็กลับบ้านแล้ว”
ภายใต้แสงแดด มู้ชิงเห็นรอยยิ้มบนใบหน้าเขา มือกำลังแตะหลังลูกสุนัขสีดำอย่างอ่อนโยน
บนถนนฝั่งตรงข้าม รถแท็กซี่คันหนึ่งค่อยๆ จอด
ที่เบาะหลังคือหญิงสาวคนหนึ่ง สวมโค้ตตัวยาวสีเทาอ่อน บนใบหน้าขนาดเท่าฝ่ามือมีแว่นกันแดดอันใหญ่ แทบปกคลุมเกือบทั้งใบหน้าเธอ
ผ่านกระจกรถ เธอเห็นชายหญิงที่อยู่ไม่ห่างกันจากที่ไกลๆ
“คุณผู้หญิง” คนขับรถด้านหน้ามองเธอผ่านกระจกมองหลัง ถอนหายใจแล้วพูดขึ้น “คุณตามมาจากบ้านคุณผู้ชายคนนั้นจนถึงที่นี่ หรือว่าคุณคือผู้ที่ชื่นชอบเขา?”
ริมฝีปากชมพูของผู้หญิงยกยิ้มนิดหน่อย “งั้นเหรอ?”
คนขับรถพยักหน้า “เขาคือคุณหมอมู่ผู้มีชื่อเสียงน่ะครับ และเป็นผู้ดูแลตระกูลมู่ด้วย เดือนที่แล้วเพิ่งหย่าร้างไม่ใช่เหรอครับ ในเน็ตยังยกย่องเขาที่ติดคุกหนึ่งเดือนเพื่ออดีตภรรยาเขา……ตอนนี้โสดอีกครั้ง มีสาวน้อยกี่คนที่แอบตามเขาน่ะ”