Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน - ตอนที่ 854
บทที่ 854 โกรธเป็นฟืนเป็นไฟ
หลินหยังไม่นิ่งเหมือนกับลู่เซิ่น กระวนกระวายใจเล็กน้อย แล้วหันไปมองลู่เซิ่น ไม่แน่ใจว่าควรพูดหรือไม่ควรพูด
แต่ลู่เซิ่นก็ก้มลงไปมองเอกสารอย่างเย็นชา ไม่มีสัญญาณตอบรับใดๆ หลินหยังก็ไม่กล้าที่จะคิดเองเออเอง ทำได้แค่ยิ้มอย่างคลุมเครือ“ใช่ครับ มาจากไหนกันนะ”
ฉินซีถ้ายังไม่สามารถเดาออกจากการแสดงออกของเขา ว่าบอดี้การ์ดกลุ่มนั้นใครเป็นคนจัดการ ก็เป็นคนโง่แล้ว
เธอไม่ลังเลใจอีกต่อไป แล้วจงใจพูดว่า“น่าเสียดายจัง ถ้ารู้ว่าใครเป็นคนส่งบอดี้การ์ดมาให้ฉัน ก็อยากจะขอบคุณเขา อืม ไม่น่าจะใช่หซู่หนานนะ ไม่งั้นฉันจะโทรไปถาม……”
“เธอกล้าเหรอ!”ในที่สุดลู่เซิ่นก็ทนไม่ไหว หันหน้าไปหยุดเธอด้วยเสียงต่ำ
แต่เมื่อเขาหันหน้าไป ก็เห็นว่าหน้าจอโทรศัพท์ของฉินซียังเป็นสีดำ อยู่ในสถานะล็อค แล้วเธอก็ยังขยับตาอย่างสนุกสนาน
ลู่เซิ่นทำได้เพียงแค่ทำหน้าเฉยเมย แล้วหันหน้าไปอ่านเอกสารต่อ
เมื่อมองไปข้างหน้า แล้วเห็นว่าใกล้จะถึงแล้ว ฉินซีก็เม้มริมฝีปาก แล้วพูดอย่างจริงจังว่า
“ขอบคุณนะ ลู่เซิ่น”
เพื่อให้บอดี้การ์ดกลุ่มนั้นปกป้องเธอ และสำหรับประโยคคำพูดขอโทษของฉินซึ่งเทียน ที่เหมือนจะไม่ใช่คำขอโทษ
ลู่เซิ่นตอบเพียงเบาๆ ว่า“ไม่เป็นไร”
หลังจากที่ฉินซีและลู่เซิ่นจากไป ภายในห้องรับรองก็เกิดความเงียบ มีเพียงเสียงสะอื้นของหลี่เหวยที่ดังอย่างชัดเจน
ฉินซึ่งเทียนในชีวิตนี้ ไม่เคยก้มหัวให้ใคร แต่เมื่อกี้เขาเพิ่งจะแสดงความอ่อนแอต่อหน้าหลี่เหวยและฉินซี ขายหน้าต่อหน้าคนอื่น แล้วนั่งเงียบๆ ไม่พูดไม่จา
“ซึ่งเทียน……”หลี่เหวยอดไม่ได้ ที่จะทำลายความเงียบนี้“เหนื่อยมาตั้งแต่เช้าแล้ว กลับบ้านไปพักผ่อนดีกว่า ฉันจะบอกห้องครัวให้ทำของที่ชอบให้ ใจเย็นๆ อย่าโกรธจนทำร้ายสุขภาพ”
ฉินซึ่งเทียนเงยหน้าขึ้นมองเธอพักหนึ่ง แล้วยื่นมือไปโอบกอดเธอไว้ในอ้อมแขน ลูบใบหน้าที่บวมของเธอด้วยมือข้างหนึ่ง“คุณลำบากแย่แล้ว”
หลี่เหวยลดสายตาลง เพื่อปิดกั้นสายตาที่ชั่วร้าย ที่ไม่สามารถระงับได้ แล้วตอบกลับเสียงเบาๆ ว่า“ไม่เป็นไรค่ะ”
การเผชิญหน้ากับลู่เซิ่นที่เพิ่งจะผ่านไป เธอมองเห็นฉินซึ่งเทียนว่า รังแกคนที่อ่อนแอกว่า แต่กลัวคนที่แข็งแรงกว่า ลู่เซิ่นที่ไม่แม้แต่จะเอ่ยคำขู่ เขาก็ก้มหัวยอมรับผิดต่อฉินซีแล้ว
ยิ่งไปกว่านั้น ฉินซีที่เป็นลูกสาวของเขา ฉินซึ่งเทียนสามารถตีกรอบเธอได้ แต่จะทำร้ายอย่างโหดเหี้ยมไม่ได้
……
เมื่อทั้งสองกลับมาที่บ้านตระกูลฉิน ฉินหว่านก็รออยู่ที่ประตูแล้ว
ใบหน้าของเธอดูไม่พอใจ เห็นได้ชัดว่าเห็นรายงานข่าวแต่แรกแล้ว
“พ่อคะ แม่คะ พูดแล้วไม่ใช่เหรอคะ ว่าฉินซีไม่สามารถเอาอะไรไปได้ ทำไมหลังจากประชุมเสร็จ ถึงได้เป็น ถึงได้เปลี่ยนเป็นคณะกรรมการได้คะ?”เธอพูดอย่างโหดเหี้ยม และอดไม่ได้ที่จะด่าออกมา
ฉินซึ่งเทียนโบกมืออย่างเหนื่อยล้า ยังไม่ถึงเวลาที่จะตอบคำถาม ฉินหว่านแค่หันหน้าไปมอง ก็เห็นรอยตบที่ชัดเจน ปรากฏบนใบหน้าของแม่ของเธอ แล้วกรีดร้อง
“แม่!มีคนดีแม่เหรอคะ?ใครเป็นคนทำ!”
หลี่เหวยเงยหน้าขึ้นมองเธอ จากนั้นก็มองฉินซึ่งเทียน ไม่พูดอะไร ยื่นมือออกไปกุมหน้า แล้วส่ายหัว
ฉินหว่านกลับคิดต่างออกไป คิดว่าฉินซึ่งเทียนเป็นคนลงมือทำ แล้วหันกลับมาถามเขาทันที“พ่อคะ!พ่อทำไมถึงกล้าลงมือตีแม่ได้!พ่อ……”
เมื่อเห็นว่าลูกสาวเข้าใจผิด หลี่เหวยจึงรีบรั้งเธอไว้“ไม่ใช่ หว่านหว่าน ไม่ใช่พ่อของลูก”
ฉินหว่านกลอกตาไปมา ในที่สุดก็ก็คิดคำตอบที่ถูกต้องได้“เป็นฉินซี!ใช่ไหมคะ!เป็นฉินซี ผู้หญิงใจต่ำคนนั้น!”
ในครั้งนี้หลี่เหวยไม่ตอบ ฉินซึ่งเทียนก็ไม่พูดอะไร ฉินหว่านมองไปที่ทั้งสองคน แล้วดึงแขนเสื้อของฉินซึ่งเทียน “พ่อคะ!ผู้หญิงใจต่ำคนนั้นตีแม่ของหนู พ่อยังนิ่งเฉยได้อยู่เหรอคะ?”
ฉินซึ่งเทียนขยับริมฝีปาก แต่หลี่เหวยกลับรีบพูด“หว่านหว่าน อย่าเพิ่งพูดอะไรกับพ่อ ฉินซีทำเกินความคาดหมายของพวกเรา พ่อของลูกช่วยเอาคืนให้แม่แล้ว”
ฉินหว่านกลับไม่เชื่อ“จริงเหรอคะ?งั้นบอกหน่อยสิคะ ฉินซีเป็นยังไงบ้าง?ตอนนี้นอนอยู่ที่โรงพยาบาลไหนคะ?”
หลี่เหวยพูดไม่ออกไปชั่วขณะ แล้วเงยหน้าขึ้นมองฉินซึ่งเทียน ที่ไม่พูดอะไรแล้ว
ฉินหว่านที่มีสีหน้าแสดงออกด้วยความคาดหวัง คลายมือที่จับแขนเสื้อของฉินซึ่งเทียน แล้วพูดด้วยความโกรธว่า“พ่อคะ!ถ้าหนูอยู่ที่นั่น แล้วมีคนตีแม่ หนูจะไม่ยอมปล่อยมันไปอย่างแน่นอน!”
เธอยิ่งพูดยิ่งโกรธมากขึ้นเรื่อยๆ ก็โบกมือ แล้วเดินออกไปทางประตูบ้าน“หนูจะไปหามันเดี๋ยวนี้ ที่กล้าตีแม่ของหนู!”
ในที่สุดฉินซึ่งเทียนก็ยอมเปิดปากพูด แล้วพูดเสียงต่ำ“กลับมา!”
ฉินหว่านหยุดลงอย่างไม่เต็มใจ แล้วหันหน้าไปมองพ่อของตัวเอง“พ่อคะ มีคนรังแกแม่ของหนู แล้วจะให้หนูทนอยู่เงียบๆ ได้ไหมคะ?”
หลี่เหวยถอนหายใจอยู่ในใจ
ฉินหว่านที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ และฉินซีที่ตอนนี้ได้รับการสนับสนุนจากตระกูลลู่!
สิ่งที่พวกเธอต้องการก็คือ ความมั่งคั่งทั้งหมดของฉินซี และต้องการจะให้ฉินซี พังพินาศเหมือนกับแม่ของเธอ และไม่มีทางกลับมาตั้งหลักได้
ดังนั้นคิดจะทำเรื่องแบบนี้ ก็ยิ่งห้ามรีบเร่ง
ฉินซึ่งเทียนไม่รู้ว่าหลี่เหวยกำลังคิดอะไรอยู่ ทำได้เพียงแค่จ้องไปที่ฉินหว่าน“มีคุณตีลูก ลูกทำได้แค่ตีเขากลับเหรอ?”
ฉินหว่านกัดฟัน“อย่างน้อยก็ทำให้หนูระบายอารมณ์ได้”
“เธอ!”ฉินซึ่งเทียนโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ
เมื่อเห็นว่าฉากนั้นถึงทางตันแล้ว หลี่เหวยจึงออกมาเพื่อจบเกมนี้“พอได้แล้ว ไม่ต้องโกรธแล้ว หว่านหว่าน พ่อเหนื่อยมาทั้งตั้งแต่เช้าแล้ว ลูกก็ไม่ต้องหาเรื่องไม่สบายใจให้เขา ห้องครัวก็น่าจะทำอาหารกลางวันเสร็จแล้ว เข้าไปทานข้าวกันเถอะ”
ฉินหว่านเห็นว่าแม่ไม่สนับสนุนตัวเอง ก็กระทืบเท้า“แม่!ทำไมถึงเป็นแบบนี้!หนูไม่ทานข้าวเที่ยงแล้ว!”
เมื่อพูดจบ ก็ไม่สนใจคนอื่นๆ วิ่งขึ้นไปชั้นบนคนเดียว
หลี่เหวยมองไปที่ฉินซึ่งเทียนอย่างขอโทษ“หว่านหว่านนับวันยิ่งเอาแต่ใจขึ้นเรื่อยๆ”
ฉินซึ่งเทียนมองเธอที่ขึ้นไปชั้นบน หลังจากนั้นไม่นานก็ส่ายหัว“เป็นฉันที่ไร้ประโยชน์ ที่ดูแลพวกคุณได้ไม่ดี”
……
ในมื้ออาหาร ทั้งสองคนไม่แม้แต่จะแตะอาหารเลย ฉินซึ่งเทียนมีธุระ จึงขึ้นไปที่ห้องหนังสือแล้ว หลี่เหวยคิดไปคิดมา ก็เลือกเมนูอาหาร แล้วเรียกคนใช้ให้นำขึ้นไปชั้นบน และเคาะประตูห้องเรียกฉินหว่าน
ในตอนแรกฉินหว่านแสร้งทำเป็นไม่ได้ยิน แต่หลังจากนั้นก็รู้ว่าด้านนอก มีเพียงแค่หลี่เหวย ก็ไปเปิดประตูอย่างไม่เต็มใจ
หลี่เหวยยกของที่อยู่ในมือขึ้น และขยับเขาไปหาเธอ“ไม่ทานข้าว ทำให้สุขภาพไม่ดีนะ”
ฉินหว่านมุ่ยปาก“หนูลดน้ำหนัก”
หลี่เหวยเดินเข้าไปในห้อง วางของที่อยู่ในมือลง และตรวจดูว่าตรงประตูไม่มีใคร แล้วค่อยๆ ปิดประตูลงอย่างเบามือ
ฉินหว่านรู้สึกสับสนกับการกระทำของเธอ“แม่กำลังทำอะไรคะ?”
หลี่เหวยเดินไปที่ข้างโต๊ะ และสั่งให้ฉินหว่านนั่งลงด้วย
สีหน้าของเธอดูจริงจัง และทำให้ฉินหว่านก็เริ่มกังวลด้วยเช่นกัน“มีอะไรคะ?”
หลี่เหวยเม้มริมฝีปาก“หนูรู้จักลู่เซิ่นไหม?”
ฉินหว่านพยักหน้าอย่างไม่รู้ตัว‘แน่นอนว่าต้องรู้จัก บุคคลที่มีอำนาจของบริษัทลู่ซื่อ หล่อรวยพันล้าน ทำไมคะ?ทำไมจู่ๆ ถึงพูดถึงเขา?’
หลี่เหวยจับมือของเธอ“คนที่แต่งงานกับฉินซี ก็คือลู่เซิ่น”
ฉินหว่านไม่มีการตอบสนอง หลังจากถูกโจมตีด้วยข้อมูลที่ได้รับ
ฉินซีแต่งงานแล้ว?แล้วคู่แต่งงานก็คือลู่เซิ่น?
เธอหยุดนิ่งไปชั่วขณะ ก่อนที่จะประมวนสมองใหม่อย่างช้าๆ“แม่คะ แม่บอกว่าฉินซีแต่งงานแล้วเหรอคะ?มันเกิดขึ้นได้ยังไง?”
หลี่เหวยตบมือของเธอ“มาๆ แม่จะค่อยๆ พูดนะ”
ฉินหว่านไม่ใช่คนที่ฉลาดเท่าไหร่ แต่ปฏิกิริยาทางสมองก็ไม่ได้ช้า แต่เรื่องนี้ดูเหมือนเรื่องเพ้อฝันเกินไป เธอยังต้องใช้เวลาสักพัก ก่อนที่จะยอมรับมันได้
“พูดได้ว่า ที่วันนี้ฉินซีได้รับหุ้น เป็นเพราะเธอแต่งงานแล้ว และมีคุณสมบัติตรงตามเงื่อนไขในที่จะได้รับหุ้นนี้”