Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน - ตอนที่ 898
บทที่ 898 ดูความคึกคัก
ฉินซึ่งเทียนไม่รู้สึกว่าน้องชายลูกพี่ลูกน้องทั้งสองคนที่เชื่อถือไม่ได้ของตัวเองจะทำเรื่องที่ว่า’สืบหาไม่พบแน่นอน’ได้ดีแค่ไหน ตามฝีมือของลู่เซิ่น สืบพบเป็นเรื่องง่ายนิดเดียว
แต่ว่าทำไม……….. จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่มีการเคลื่อนไหว?
ฉินซึ่งเทียนไม่สบายใจนักตามเวลาที่ผ่านไปยิ่งนานก็ยิ่งหนักใจ แต่ว่าก้อนหินในใจก้อนนี้กลับไม่ออกจากอกสักที
“เอาหล่ะ ไม่มีอะไร เราก็กลับแล้ว” ฉินเฉิงยังคงมีหน้าตาที่ไม่มีพิษมีภัย ลุกขึ้นมาก็คิดจะไปสักทีเดียวเลย
ฉินซิงก็ลุกตามขึ้นมาด้วย
ฉินซึ่งเทียนรู้ดีว่ารั้งสองคนนี้ไว้ก็ไร้ประโยชน์ ผายมือจึงให้พวกเขาออกไปเลย
หลี่เหวยส่งคนไปถึงหน้าประตู ตอนที่กลับมาถึงห้องหนังสืออีกครั้ง เห็นว่าฉินซึ่งเทียนนั่งอยู่ที่หน้าคอมพ์อีกแล้ว
เริ่มตั้งแต่เสร็จสิ้นการประชุมหุ้นส่วนวันนั้นเป็นต้นมา เขาก็จะจ้องที่หน้าจอคอมพิวเตอร์อย่างละเอียดเพื่อศึกษา ถ้าหากมีคนอื่นมา เขาก็จะปิดหน้าจอ ไม่ให้ฝ่ายตรงข้ามดูนาน
แต่ยิ่งเขาเป็นแบบนี้ หลี่เหวยก็ยิ่งประหลาดใจ
เธอยอมทนไม่ได้ที่ฉินซึ่งเทียนซ่อนความลับอะไรกับเธอ
คราวนี้ก็เลย เธอจึงทนไม่ได้เดินไปข้างหน้า ถามขึ้นมาว่า ซึ่งเทียน คุณ………. กำลังดูอะไรอยู่? ”
ฉินซึ่งเทียนตกใจ จากจิตใต้สำนึกอยากจะไปปิดคอมพิวเตอร์
แต่ว่าหลี่เหวยได้เดินมาถึงหน้าคอมพิวเตอร์แล้ว
สิ่งที่ปรากฏออกมาในคอมพิวเตอร์ไม่ใช่สิ่งอื่นๆที่หลี่เหวยคาดคิดเอาไว้ สิ่งที่เธอคุ้นเคยเป็นอย่างมากต่างหาก สัญญาฉบับธุรกิจที่สำคัญของบริษัทฉินซื่อกรุ๊ป
” คุณดูพวกนี้ทำไม?” หลี่เหวยสงสัยเล็กน้อย
พวกนี้ไม่มีความจำเป็นเลยสักนิดที่จะต้องดูอย่างหลบๆซ่อนๆ
ฉินซึ่งเทียนกลับไม่มีท่าทีที่จะพูดความจริงกับเธอ ส่ายหน้า”ก็แค่ดูๆไปเท่านั้นเอง”
หลี่เหวยไม่เชื่อคำพูดของเขาแน่นอนอยู่แล้ว แต่ว่าเธอก็รู้ดี ถ้าหากตัวเองดันทุรังถามต่อไป ฉินซึ่งเทียนก็ไม่พูดอยู่ดี
เธอก็เลยก้มตัวลงไป มือทั้งคู่ตรึงไว้บนไหล่ของฉินซึ่งเทียน “คุณเหนื่อยมากแล้วนะ เรื่องตั้งมากมายล้วนต้องให้คุณเสียแรง
ตามประสบการณ์ในเมื่อก่อน ฉินซึ่งเทียนชอบวิธีของเธอแบบนี้ที่สุด เธอพูดแบบนี้ ฉินซึ่งเทียนก็จะแบ่งปันเรื่องกลุ้มใจของช่วงนี้ให้กับหลี่เหวยฟังโดยไม่รู้ตัว
แต่ว่าครั้งนี้ เขาแค่ตอบกลับไปอย่างเสียงเบา ไม่มีท่าทีจะพูดอะไรมากกว่านี้
หลี่เหวยยังอยากจะพูดอะไรอีก ฉินซึ่งเทียนกลับตบไหล่ของเธอ “ไปทานอาหารเช้ากันเถอะ ผมได้ยินเสียงของป้าหลิวแล้ว”
คำพูดที่หลี่เหวยอยากจะพูดถูกเขาขัดขวางไว้และติดอยู่ที่คอ ทำได้แต่พยักหน้าอย่างไม่เต็มใจ
หลี่เหวยเดินออกไปจากห้องหนังสือ ฉินซึ่งเทียนกลับไม่ได้ใจร้อนที่จะออกไป
เขายังมองสัญญาในคอมพิวเตอร์อย่างละเอียด
หลังจากรู้ว่าฉินซีและลู่เซิ่นแต่งงานกันแล้ว เขาสามารถรู้สึกถึงความอันตรายที่มีอยู่
บวกกับการปกป้องที่ลู่เซิ่นมีต่อฉินซี………… เขาจินตนาการยากมาก หลังฉินซีรู้ความจริง ลู่เซิ่นจะลงมือโหดเหี้ยมกับบริษัทฉินซื่อกรุ๊ปยังไง
บริษัทลู่ซื่อเป็นลูกค้าสำคัญของบริษัทฉินซื่อกรุ๊ป ฉินซึ่งเทียนจำเป็นต้องคาดการณ์ล่วงหน้า สูญเสียลูกค้ารายใหญ่รายนี้ไป ซึ่งจะนำพาความเสี่ยงอะไรมา
สามารถบริหารบริษัทฉินซื่อกรุ๊ปได้ขนาดนี้ ฉินซึ่งเทียนก็ไม่ใช่คนโง่เขลาแน่นอนอยู่แล้ว เพราะฉะนั้นกลับมาจากการประชุมหุ้นส่วนปุ๊บ เขาก็รีบจัดการสัญญาบริษัทฉินซื่อกรุ๊ปทันที
แต่ว่ายิ่งจัดการ ก็ยิ่งหวาดกลัว
บริษัทลู่ซื่อในกำมือของลู่เซิ่น เป็นบริษัทธุรกิจที่ใหญ่โต อาชีพไหนๆในประเทศF ก็ขาดเงาของบริษัทลู่ซื่อไม่ได้ทั้งนั้น
บริษัทฉินซื่อกรุ๊ปและบริษัทลู่ซื่อ สัญญาที่เซ็นแบบผิวเผินไม่น้อยเลยทีเดียว อยู่ในรายรับของบริษัทฉินซื่อกรุ๊ปที่ครองภาวะวิสัย ส่วนบริษัทอื่นๆที่เซ็นสัญญากับบริษัทฉินซื่อกรุ๊ป ถูกบริษัทลู่ซื่อควบคุมหุ้นไว้ และที่สามารถถูกบริษัทลู่ซื่อใช้อำนาจควบคุมไว้ มีอีกสักเท่าไหร่?
ฉินซึ่งเทียนเสียเวลามาตั้งนาน ก็ยังไม่สามารถจัดการให้เรียบร้อย
แต่ว่าเขาก็ไม่สามารถเอาความสงสัยนี้ไปพูดให้คนอื่นเข้าใจ
พนักงานในบริษัทฉินซื่อกรุ๊ปและผู้ถือหุ้นไม่ต้องพูดแน่นอนอยู่แล้ว เมื่อวานพวกเขาต่างได้เห็นกันแล้วหน้าตาที่ชักพี่ชักดาบของตัวเองและฉินซี ถูกพวกเขาพบความเสี่ยงนี้ปุ๊บ หุ้นของบริษัทฉินซื่อกรุ๊ปต้องลงดิ่งแน่นอน
สำหรับหลี่เหวย……ฉินซึ่งเทียนไม่หวังว่าจะพูดเรื่องนี้กับเธอ นิสัยผู้นำของผู้ชายกำลังกำเริบ
เขาหวังว่าภาพลักษณ์ของตัวเองที่อยู่ในใจหลี่เหวยนั้นต้องสง่าอยู่เสมอ ซึ่งไม่ใช่ดูแบบไร้ความสามารถ
คิดถึงตรงนี้ ฉินซึ่งเทียนถอนหายใจเบาๆ ปิดคอมพิวเตอร์และลุกขึ้นมาเตรียมตัวลงไปที่ใต้ตึก
เสียงกริ่งมือถือดังขึ้นมาอย่างกะทันหัน
ไม่รู้ว่าเพราะอะไร ฉินซึ่งเทียนถึงได้ขมวดคิ้ว
เขาเหมือนกับมีลางสังหรณ์บางอย่าง ก้อนหินก้อนนั้น ในที่สุดก็จะถูกยกออกไปแล้ว
……
เริ่มตั้งแต่ลู่เซิ่นเดินออกมาจากโรงพยาบาลจนถึงตอนนี้ สีหน้าก็เศร้าหมองมาโดยตลอด
แม้แต่ตอนที่ลู่เจิ้นมาเห็นลู่เซิ่นในที่ห้องทำงาน ก็อดแซวเล่นไม่ได้ “หรือว่าฟ้าถล่มลงมา? ยั่วโมโหประธานลู่ของเราจนไม่มีความสุขเช่นนี้?”
อายุของลู่เจิ้นและลู่เซิ่นต่างกันไม่มากนัก โตมาด้วยกันตั้งแต่ยังเล็กๆ ถึงแม้ปากร้ายนิดหน่อย แต่ว่าทำงานก็ยังเชื่อถือได้อยู่ ตอนนี้เป็นผู้จัดการสาขาหนึ่งในบริษัทลู่ซื่อ ผลงานถือว่าโดดเด่น
ลู่เซิ่นมองหน้าเขาอย่างโหดๆ ไม่ต่อปากต่อคำ
หลินหยังเอ่ยปากขึ้นมาอธิบายแทนเขาเองซะด้วย “เมื่อวานคุณนายเกิดอุบัติเหตุทางรถยนต์ครับ อารมณ์ของประธานลู่วันนี้จึงไม่ค่อยดีนัก”
ลู่เจิ้นประหลาดใจ “ฉินซี เธอเกิดอุบัติเหตุทางรถยนต์หรือ?”
ตอนที่ได้ยินข่าวคราวแต่งงานของลู่เซิ่นและฉินซีตอนนั้น เขาก็ประหลาดใจมาก
เขายังจำได้เมื่อหลายอาทิตย์ก่อนลู่เซิ่นและฉินซีพบเจอกันในงานเลี้ยง ดูสีหน้าของลู่เซิ่นแทบจะเจาะจงอยู่ที่ตัวฉินซี เขายังแซวไปตั้งหลายคำ
ฉินซีสวยมากจริงๆ แต่ว่าถานะทางบ้านแตกต่างจากลู่เซิ่นตั้งมากมาย เขาคิดไม่ออกเลยจริงๆว่าเธอคู่ควรกับพี่ชายคนนี้ตรงไหน
แต่ที่ทำให้เขายิ่งคิดไม่ถึง ลู่เซิ่นถึงกับแต่งงานกับฉินซีจริงๆ
เพียงแต่ว่าลู่เซิ่นจะแต่งงานกับใคร เขาไม่มีสิทธิ์ยุ่ง ในเมื่อลู่เซิ่นเลือกที่จะแต่งงานกับฉินซีเอง ถ้าอย่างนั้นเขาก็เห็นฉินซีเป็นคนในครอบครัวเดียวกันแล้ว
คิดไม่ถึง…….ฉินซีถึงกับเกิดอุบัติเหตุทางรถยนต์?
ลู่เจิ้นเข้าใจนิสัยพี่ชายคนนี้ของตัวเองดีที่สุด เห็นเขานั่งอยู่ในห้องทำงาน ก็รู้ได้เลยว่าฉินซีน่าจะบาดเจ็บไม่มาก เพราะฉะนั้นก็เลยไม่ได้ถามอะไรที่ไม่สำคัญ พูดอย่างแบบตรงไปตรงมา “สืบพบว่าเป็นใครแล้วหรือยัง?”
ลู่เซิ่นพยักหน้า
ใบหน้าลู่เจิ้นเต็มไปด้วยความประหลาดใจ “สืบพบว่าเป็นใครแล้ว พี่ยังนั่งอยู่ตรงนี้อย่างนิ่งเฉยเนี่ยะนะ? พี่ยังเป็นลู่เซิ่นคนที่เด็ดขาดคนนั้นอยู่รึเปล่า? หรือว่าเป็นมนุษย์ต่างดาวที่เปลี่ยนร่างวิญญาณไปแล้ว?”
ลู่เซิ่นขมวดคิ้วและเงยหน้าขึ้นมามองเขาไว้
ลู่เจิ้นยักไหล่อย่างเปิดเผย
เขารู้ดี ลู่เซิ่นคนนี้ยอมรับข้อผิดพลาดคนอื่นได้ที่สุดแล้ว ตั้งแต่เด็กถึงแม้ปากจะบอกว่ารังเกียจน้องสาวของเขาลู่โยวโยว แต่ว่าถ้าหากคนอื่นรังแกเธอ ลู่เซิ่นต้องแก้แค้นกลับไปอย่างโหดเหี้ยมแน่นอน
แต่ว่าตอนที่เขายังเด็ก ไม่รู้ว่ายั่วน้องสาวลู่โยวโยวร้องไห้จนถูกตีไปแล้วกี่ครั้ง
คราวนี้ผู้ร้ายตัวจริงที่ทำให้ฉินซีเกิดอุบัติเหตุทางรถยนต์ได้สืบพบแล้ว เขากลับยังนิ่งเฉยไม่มีการเคลื่อนไหวใดๆ
ลู่เซิ่นเอ่ยปากขึ้นมาแล้ว พูดอย่างเสียงต่ำ “พี่แค่กำลังคิดวิธีที่มีดไม่ต้องเปื้อนเลือดอยู่”
ลู่เจิ้นมองสีหน้าของเขาไว้ แผ่นหลังเย็นเจี๊ยบในยามที่รู้ทีหลัง
คนที่ลงมือกับฉินซี เกรงว่าคงจะต้องเสียใจอย่างมาก
เขาชอบดูความคึกคักที่สุดแล้ว หยิบเอกสารที่ตัวเองต้องการเรียบร้อยแล้วก็ยังไม่ใจร้อนที่จะไปสักทีเดียว เลือกหัวมุมโซฟาและนั่งลงไป
สีหน้าของเขาจะดูละครดีๆให้ได้ ลู่เซิ่นก็ขี้เกียจสนใจเขา มองหน้าหลินหยัง คนหลังพยักหน้าแบบตอบรับ ส่งข้อความอีเมล์ที่แก้ไขเสร็จเรียบร้อยออกไปตั้งหลายข้อความ