Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน - ตอนที่ 91
บทที่ 91 อุบัติเหตุ
ในตอนเช้า เวินจิ้งไปที่ห้องปฏิบัติการตามปกติ เมื่อผ่านแผนกผู้ป่วยนอก ฉินเฟยและฉืออี้เหิงก็ออกเวรพอดี
ฉืออี้เหิงได้รับบาดเจ็บเป็นอย่างมาก ใบหน้าของเขาบอบช้ำและน่าเกลียดมาก
คนของมู่วี่สิงนั้นลงมือได้โหดร้ายมากจริงๆ
เธอนั้นไม่ได้สนใจอะไรมากนัก แต่มีคนบางจำพวกก็ยุ่งวุ่นวาย
ฉินเฟยท้อง เธอเรียกเวินจิ้ง
“เวินจิ้ง คือเธอใช่ไหมที่ส่งคนมาทำร้ายอาเหิง!” ฉินเฟยถามด้วยความโกรธ
สัปดาห์หน้าคืองานแต่งงานของเธอกับฉืออี้เหิง แต่ตอนนี้ใบหน้าของฉืออี้เหิงนั้นบวม เกรงว่าใบหน้านั้นจะไม่ดีขึ้นในระยะเวลาอันสั้น
และในงานแต่งอาจโดนล้อเลียนได้!
พูดได้ว่า เวินจิ้งจงใจ?
“เธอคิดว่าฉันจะทำร้ายเขาแบบนี้เลยเหรอ?” เวินจิ้งหรี่สายตามอง น้ำเสียงเธอเย็นชามากขึ้น
“ถ้าไม่ใช่เธอ ก็เป็นเธอที่สั่งคนมาทำร้าย เธอยังไม่ยอมปล่อยอาเหิงอีกสินะ อาทิตย์หน้าเราก็แต่งงานกันแล้ว ตอนนี้เราต้องเลื่อนงานแต่งออกไปอีก เวินจิ้ง เธอตั้งใจจริงๆสินะ!” ฉินเฟยกล่าวด้วยความโกรธ!
เวินจิ้งขมวดคิ้ว ช่วงนี้ฉืออี้เหิงและฉินเฟยนั้นไม่ได้มีความสำคัญใดๆ เรื่องงานแต่งงานก็ไม่ได้ประกาศใดๆออกมา หากไม่ได้กลับบ้าน
เดิมทีเธอเองก็ไม่รู้เรื่องนี้
“ฉินเฟย เธอคิดว่าฉันว่างมากหรือไง? เอาจริงๆ ก็เป็นฝีมือฉันเอง แต่เป็นเพราะฉืออี้เหิงต้องการที่จะพาตัวฉันไป”
“ทำไมเขาต้องพาเธอไปด้วย? เวินจิ้ง เธออย่ามาเล่นลิ้น!”
ใบหน้าของเวินจิ้งหม่นลง ผู้หญิงคนนี้พูดได้ไร้สาระจริงๆ
“งั้นเธอควรจะไปถามเขาก่อน เอ่าะ แล้วก็ฉันล่ะอยากเห็นพวกเธอแต่งงานกันในเร็ววันจริงๆ ชายชั่วกับหญิงเลว สวรรค์ช่างสรรค์สร้าง!”
เมื่อพูดจบ เวินจิ้งก็จากไปและไม่หันกลับมา
ฉินเฟยโกรธเป็นฟืนไฟ เธอก้าวไปนั่งในรถ ฉืออี้เหิงขมวดคิ้วถาม “ทำไมนานจัง”
“เวินจิ้งยอมรับแล้ว เธอส่งคนมาทำร้ายคุณ” ฉินเฟยกล่าว
ความอับอายส่องประกายทั่วใบหน้าของฉืออี้เหิง
“คุณไปยุ่งวุ่นวายเธอเหรอ?” ฉินเฟยถาม
“ฉันแค่จะให้เธอไปเยี่ยมแม่ฉัน แม่เพ้อหาและอยากเจอเวินจิ้ง”
“คาดว่าหากเวินจิ้งไป อาจทำให้คุณน้าฉือโกรธมากยิ่งขึ้น ให้ฉันไปสิ”
ฉืออี้เหิงมองเธอ สายตาเขามีความลังเล
ในที่สุด ก็ตกลง
ในตอนบ่าย เวินจิ้งทำหน้าที่ของเธอเสร็จ มู่วี่สิงบอกว่าคืนนี้จะกลับบ้านเช่นนั้นก็ใกล้เวลาที่เขาจะเลิกงานแล้ว
ในเวลานี้มีเสียงดังอึกกระทึกครึกโครม เวินจิ้งเงยหน้าขึ้นมองและพบว่าในตรงข้ามแผนกผู้ป่วยนอกเกิดเพลิงไหม้!
ไฟที่ชั่วร้ายกำลังลุกลามลุกลามไปทั่วพื้น
เธอไม่จำเป็นต้องนึกให้เสียเวลา เพราะนั่นคือเป็นศัลยกรรมประสาทที่มู่วี่สิงทำงานอยู่
ภายในใจเธอตื่นตระหนก ทันใดนั้นเธอรีบวิ่งลงไปชั้นล่าง
ลิฟต์หยุดทำงาน โรงพยาบาลกำลังอพยพผู้คนออกไป ผู้คนกำลังวิ่งลงกันอย่างวุ่นวายชุลมุนที่บันไดหนีไฟ มีเพียงเวินจิ้งที่สวนไป
ชั้นห้า ไฟยังคงแพร่กระจายนักผจญเพลิงยังไม่มาถึงมีเพียงเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยเท่านั้นที่รักษาความสงบเรียบร้อย
“คุณเห็นหมอมู่ไหม!” เวินจิ้งคว้าชายข้างเธอและถาม
“หมอมู่? หมอมู่ยังอยู่ที่ห้องวินิจฉัย!”
ใบหน้าของเวินจิ้งซีดเซียว และร่างกายเธอแทบล้มทั้งยืน
เธออยากเข้าไปด้านในเพื่อตามหาเขา
เมื่อเธอจะเดินเข้าไปก็ถูกหมอคนหนึ่งดึงเอาไว้ “คุณผู้หญิง ไฟไหม้รุนแรงมาก ทางนั้นคือทางออก”
เวินจิ้งไม่สนใจ เธอผลักเขาและวิ่งต่อ
พื้นทั้งหมดวุ่นวายมากและไม่มีใครดูแลใครได้
“มู่วี่สิง!” เวินจิ้งตะโกน เธอเดินเข้าไปทุกห้องวินิจฉัย และทั้งหมดนั้นก็ว่างเปล่า
ด้านหน้าเป็นกองเพลิง เวินจิ้งหยิบผ้าเช็ดตัวชุ่มน้ำขึ้นมาและกัดฟัน เมื่อเธอจะวิ่งเข้าไป มือหนึ่งก็ยื่นออกมาโอบกอดเธอเอาไว้
ลมหายใจที่คุ้นเคยทำให้เวินจิ้งนิ่งงัน เมื่อเธอเงยหน้าขึ้นมาก็พบว่าเป็นมู่วี่สิง น้ำตาค่อยๆไหลออกมา
เธอรีบกอดเขาไว้แน่น ความว้าวุ่นในใจของเธอก็ค่อยๆสงบลง เขาไม่เป็นไร ไม่เป็นไร…ดีแล้ว