Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน - ตอนที่ 962
บทที่ 962 กลายเป็นเถ้าเธอก็จำได้
คืนนั้น สโมสรหนึ่งภายใต้บริษัทลู่ซื่อ
ในวันปกติมันจะเป็นสถานที่สำหรับเหล่าสุภาพสตรีในการเล่นไพ่และพูดคุยนินทา จุดนี้ควรเต็มไปด้วยคน แต่ตอนนี้กลับเงียบสงบ
เมื่อมองอย่างรอบคอบถึงจะเห็น ที่ประตูมีป้ายแขวนว่าคืนนี้ปิดบริการ
และห้องส่วนตัวหนึ่งในนั้น มีสูหยิงนั่งอยู่
สูหยิงทำผมสูงมาก ต่างหูมุกสองอันข้างหูทำให้เธอไม่มีความอ่อนโยน เธอสวมโค้ตตัวใหญ่ มีแรงจูงใจจ้องมองไปที่ประตูตลอดเวลา
เสียงฝีเท้าเดินเข้ามา สูหวั่นเปิดประตูก่อน
“คุณนาย” เธอก้มศีรษะทักทาย
สูหยิงพยักหน้าเบาๆ ถือว่าเป็นการตอบ จากนั้นความสนใจทั้งหมดก็อยู่ที่คนคนนั้นที่เดินตามหลังสูหวั่นเข้ามา
ฉินซึ่งเทียน
พวกเขาก็ไม่ถือว่าไม่คุ้นเคยกัน เคยพบกันเป็นครั้งคราวในงานเลี้ยงค็อกเทลปาร์ตี้ และเป็นคนที่รู้จักกันอย่างตื้นเขิน
แต่สูหยิงไม่เคยคิดเลยว่า พวกเขาจะมาเจอกันในโอกาสแบบนี้
ฉินซึ่งเทียนมีผมหงอกที่มุมหน้าผากนิดหน่อย รูปลักษณ์ดูแล้วค่อนข้างมีความทุกข์ทางจิตใจ พยักหน้าเอ่ยทักทายสูหยิง “คุณนายลู่”
สูหยิงยังคงไม่เอ่ยปาก พยักหน้าอย่างเย็นชา
สูหวั่นมีไหวพริบที่สุด ปิดประตูออกไปแล้ว
“คุณหมายถึงสิ่งของอะไร” สูหยิงไม่ทักทายแม้แต่ประโยคเดียว ถามใส่หน้าโครมๆ
ฉินซึ่งเทียนดูเหมือนจะคาดไว้แล้วว่าเธอจะใจร้อน ไม่มีการเสแสร้งแกล้งทำ ควักรูปถ่ายสองสามใบออกมาจากกระเป๋าเสื้อ
“บางที คุณอาจจะรู้เรื่องของอดีตภรรยาผม? ” เขาพูดไม่รีบร้อน กระตุ้นให้สูหยิงขมวดคิ้ว
“รู้อยู่แล้ว จุลสารปีที่แล้วเป็นข่าวของเธอทั้งหมด” สูหยิงขมวดคิ้ว ราวกับกำลังมองอะไรบางอย่างที่ไม่เหมาะสม “ถูกคุณจับได้ว่าเธอมีชู้ จากนั้นก็กระโดดตึกฆ่าตัวตาย”
เธอพูดโดยไม่ใช้คำที่สละสลวยเลยสักนิด พูดขึ้นมาต่อหน้าฉินซึ่งเทียนอย่างไม่สนใจเลยสักนิด
แต่ฉินซึ่งเทียนก็ไม่ได้ใส่ใจเช่นกัน เขาแค่พลิกสิ่งของที่อยู่ในมือแล้วกดลงบนโต๊ะ พูดขึ้นอย่างไม่รีบร้อน “แล้วคุณรู้ไหม……เธอไปมีชู้กับใครจนถูกผมจับได้?”
“ไม่รู้น่ะสิ” สูหยิงเบ้ปากด้วยความรังเกียจ “ในหนังสือพิมพ์พูดแต่งเรื่องเธอ ไม่ได้พูดถึงคนรักของเธอ……”
สูหยิงพูด จู่ๆ ก็เห็นสีหน้าของฉินซึ่งเทียน
มียิ้มเรียบๆ บนใบหน้าเขา มันลุ่มลึกและเยาะเย้ย
สูหยิงหยุดปากทันที ลางสังหรณ์ไม่ดีเกิดขึ้นในใจ
“คุณหมายความว่าไง!” เธอเสียงแหลมทันที “คุณจะบอกว่า ชู้ของเธอคือสามีฉัน?”
รอยยิ้มน่าสงสารเวทนานิดๆ บนใบหน้าฉินซึ่งเทียนนั้นหนักขึ้น เขาไม่ตอบ เพียงแค่ดันกองภาพถ่ายบนโต๊ะนั้นมา
สายตาสูหยิงมองตามภาพทั้งหมด ขมวดคิ้วแน่น หยุดหลายวินาที ก่อนจะเอื้อมมือออกไปยังภาพถ่ายกองนั้น
ฝ่ามือเธอเย็นและมีเหงื่อ แขนสั่นเล็กน้อย
นานหลายปีแล้วที่เธอไม่ได้ประหม่าแบบนี้มาก่อน
และฉินซึ่งเทียนแค่นั่งอยู่อีกด้าน มีรอยยิ้มจางๆ บนใบหน้า กำลังมองทุกสิ่งทุกอย่างนี้
สุดท้ายสูหยิงก็หยิบรูปขึ้นมา สูดหายใจเข้าลึกๆ แล้วพลิกมัน
ทุกอย่างที่เห็นตรงหน้าทำให้ลมหายใจเธอติดที่หน้าอก
เธอเคยเจอเหยาหมิ่น รู้ว่าคนที่นอนหงายอยู่บนเตียงคือเหยาหมิ่นโดยธรรมชาติ แต่คนนั้นข้างๆ เธอ……
ทันใดนั้นสูหยิงก็หลับตา
กลายเป็นเถ้าเธอก็ยังจำได้
นั่นคือคนที่นอนข้างหมอนเธอมาหลายสิบปี
ลู่เหวย
ฉินซึ่งเทียนเห็นสีหน้าเธอค่อยๆ ไม่พอใจขึ้นเรื่อยๆ ถึงได้พูดขึ้นช้าๆ “ตอนคุณแต่งงานกับลู่เหวย รู้ไหมว่าตระกูลลู่มีความสัมพันธ์ที่ดีมากกับตระกูลเหยา? ”
สูหยิงเอามือกุมหน้าอก ไม่ได้ตอบ
ฉินซึ่งเทียนก้มหน้าก้มตาพูดต่อไป “เหยาหมิ่นและลู่เหวยรู้จักกันนานแล้ว ถือว่าเป็นหวานใจกันในวัยเด็ก แต่ตอนนั้นตระกูลลู่ล้มลง ตระกูลเหยาอยากผูกสัมพันธ์กับคนที่มีฐานะดี จึงบังคับเธอให้แต่งงานกับผม และคุณก็แต่งงานกับลู่เหวยในช่วงเวลานี้”
“การแต่งงานนี้มันไม่ยุติธรรมกับเราทั้งสี่คน ผมก็มีคนรักของตัวเอง และคุณ……ก็ถูกปิดบังไว้อย่างสิ้นเชิง”
“สองปีที่ผ่านมาพวกเขาติดต่อกันตลอดไม่ขาดสาย แต่ดูเหมือนจะเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันอยู่เสมอเท่านั้น ผมเองก็หลับตาข้างหนึ่ง แต่เมื่อต้นปีที่แล้ว มีคนบอกกับผมว่าพวกเขาทั้งคู่คบกัน ตอนแรกผมก็ไม่เชื่อ พอหลายครั้งเข้าก็ต้องเกิดความสงสัยนิดหน่อย”
“และเมื่อผมมาที่โรงแรมด้วยตัวเอง หลังจากถ่ายภาพนี้ ผมก็ต้องเชื่อแล้ว ที่แท้พวกเขาทั้งคู่ก็——”
“คุณไม่ต้องพูดแล้ว! ” ทันใดนั้นสูหยิงก็ร้องเสียงแหลมขึ้น “คุณหุบปาก หุบปาก……”
เธอหยิบรูปภาพบนโต๊ะขึ้นมา ฉีกแต่ละใบเป็นชิ้นๆ อย่างดุเดือด
บนใบหน้าฉินซึ่งเทียนยังคงมีสีหน้าน่าสงสารเวทนานั้น
“แต่ตอนนี้คุณก็ไม่สามารถแก้แค้นอีกฝ่ายได้แล้ว เหยาหมิ่นถูกผมจับชู้ได้บนเตียง หลังจากหย่าร้างด้วยความอับอาย กระโดดตึกฆ่าตัวตาย ส่วนสามีของคุณ……” ฉินซึ่งเทียนชะงักไปสองสามวินาที “เขาควรทำยังไง ไม่ใช่สิ่งที่ผมจะตัดสินใจได้”
“เขากล้าได้ยังไง……กล้าได้ยังไง……” สูหยิงจับหน้าอกตัวเอง พึมพำไม่กี่ประโยค จู่ๆ ก็จ้องมองฉินซึ่งเทียนอย่างดุเดือด “ฉันจะรู้ได้ยังไงว่ารูปนี้ของคุณเป็นของจริงหรือของปลอม! รูปภาพมัน P ได้ และคุณยังใส่ร้ายการตายของอดีตภรรยาคุณให้กับลู่เหวยได้ง่ายๆ”
สีหน้าฉินซึ่งเทียนกลับสงบนิ่งมาก เขาลุกขึ้น เก็บรูปภาพที่เป็นชิ้นๆ ตรงหน้าสูหยิงให้เรียบร้อย ใส่ไว้ในซองที่ตัวเองนำมา ก้มศีรษะลงโทรศัพท์
ห้องส่วนตัวนี้กันเสียงดีมาก สูหวั่นที่เฝ้าประตูไม่ได้ยินเสียงการเคลื่อนไหวใดๆ เลย จนกระทั่งได้รับสายจากฉินซึ่งเทียน ถึงได้เปิดประตูเข้ามา
พอเปิดประตูก็เห็นสูหยิงสีหน้าแดงก่ำ สภาพจิตใจไม่ดีแล้ว พุ่งเข้าไปข้างกายสูหยิง “คุณนาย! คุณยังโอเคไหม!”
เธอรู้ว่าไม่กี่วันนี้สูหยิงหัวใจย่ำแย่ ไม่สามารถทนต่อการกระตุ้นได้
ถูกกระตุ้นโดยข้อมูลของฉินซึ่งเทียนจนกลายเป็นแบบนี้ มันต้องเป็นข้อมูลที่คาดไม่ถึงแน่ๆ
ฉินซึ่งเทียนไม่ได้สนใจสีหน้าสูหยิง แค่พูดกับสูหวั่น “เธอเอาของในมือเธอให้เธอดูสิ”
สูหวั่นหันศีรษะไปเห็นสีหน้าสูหยิง ค่อนข้างลังเล “ตอนนี้……”
“เดี๋ยวนี้! ” ตอนนี้คนที่เอ่ยปากคือสูหยิง “เธอเอามาให้ฉันดูเดี๋ยวนี้ จะมีอะไรได้!”
สูหวั่นควักโทรศัพท์ออกมาอย่างลังเล “ไม่กี่วันก่อนตอนฉันไปสุสานกับลู่เซิ่นและฉินซี ไม่ระวังไปถ่ายเข้า……”
สูหยิงรับโทรศัพท์มามองดูอย่างตั้งใจ
คนในรูปภาพ ก็คือลู่เหวย
เขาสวมสูทเป็นทางการ ทรงผมก็ได้รับการดูแลอย่างพิถีพิถัน
และเขากำลังนั่งยองๆ อยู่หน้าหลุมฝังศพ วางช่อดอกไม้อย่างเคร่งขรึม
รูปภาพมันชัดมาก ชื่อบนหลุมฝังศพมองแวบเดียวก็เห็นได้
“หลุมศพเหยาหมิ่น”
ดอกไฮแดรนเยีย ดอกไม้หมายถึง “ความจงรักภักดี ความชั่วนิรันดร เต็มไปด้วยความสุขชื่นมื่น อยู่พร้อมหน้ากัน”
เมื่อมีปัจจัยเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ สูหยิงรู้สึกว่าตัวเองหายใจลำบากขึ้น เธอจับหน้าอกตัวเอง พยายามเค้นไม่กี่คำออกมา “หา……พวกเขา……มา……ให้ฉัน……ทั้งหมด……”
พูดประโยคนี้จบ การหายใจของเธอก็ยากลำบากขึ้นมา
เสียงร้องไห้ของสูหวั่นข้างหูค่อยๆ ห่างไกลออกไป เธอค่อยๆ จมลงสู่ความมืดมิด