Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน - ตอนที่ 993
บทที่ 993 ไม่ใช่บ้านของเธอ
อานหยันนิ่งอยู่สักใหญ่
ประโยคของฉินซี คุ้นหูนัก
ยังไงซะก็เป็นเพื่อนรักกันมาตั้งหลายปี ฉินซีรับรู้ได้ในชั่วพริบตา ว่าเธอนั้นคิดอะไรอยู่
“เหมือนที่ฉินซึ่งเทียนทำกับเหยาหมิ่น ต่อให้สงสัยเขาอย่างไร หากไม่มีหลักฐาน ก็ทำอะไรเขาไม่ได้อยู่ดี” ฉินซียิ้มอย่างเย็นชา “ฉันเคยบอกแล้ว สิ่งที่แม่ฉันเคยได้รับ ฉันจะให้เขาได้รับรู้ถึงความรู้สึกนั้น”
อานหยันนิ่งอยู่นาน ก่อนเอื้อมมือตบบ่าเธอแผ่วเบา “แต่เธอไม่เหมือนกับเขา”
ฉินซีสงสัยเล็กน้อย เธอหันกลับไปมองเธอ
“คุณน้าเหยาถูกใส่ร้าย ฉะนั้นท้ายที่สุดต้องหาหลักฐานได้ เพื่อพิสูจน์ว่าเธอเป็นผู้บริสุทธิ์” อานหยันหนักแน่น “แต่เรื่องของบริษัทฉินซื่อกรุ๊ป เป็นผลการกระทำของพวกเขาเอง ก็ต้องรับบทลงโทษทั้งหมดอยู่แล้ว”
ฉินซีได้ยินเช่นนั้น เธอค่อยๆเผยรอยยิ้มบนใบหน้า
“ฉันเก็บของก่อน” อานหยันดึงแฟลชไดร์ฟออกจากโน๊ตบุ๊ค ก่อนส่งคืนให้ฉินซี “เธอเก็บไว้ด้วยก็ดี จะเปิดเผยเมื่อไหร่ดี?”
ฉินซีนิ่งไปสักครู่ : “ข้อมูลเหล่านี้ ฉันให้คนส่งไปที่คณะกรรมการผู้ตรวจสอบเรียบร้อยแล้ว เขาว่ายังไง ฉันจะบอกเธออีกที แล้วเธอค่อยเผยแพร่”
อานหยันตอบรับโดยไม่คิด : “ได้”
ตอนฉินซีและเหยาหมิ่นถูกขับไล่ ทั้งคู่มีชีวิตที่ยากลำบากเช่นไร ทั้งหมดประจักษ์แก่สายตาของอานหยัน
เพียงแต่ในเวลานั้นมีใจแต่ไร้กำลัง ไม่สามารถให้ความช่วยเหลือแก่ฉินซีได้ ทำได้เพียงจ้องมองความยากลำบากของเธอเท่านั้น
ตอนนี้มีโอกาสช่วยเหลือเธอได้ เธอไม่มีทางปฏิเสธอยู่แล้ว
ระหว่างสนทนาทั้งคู่กวาดอาหารที่อยู่บนโต๊ะเรียบ ไม่เหลือ
ช่วงนี้ฉินซีไม่ค่อยได้ออกไปรับประทานอาหารข้างนอก แม้อาหารตระกูลลู่รสเลิศเพียงใด แต่มีเพียงรสจืดเท่านั้น ไม่ดึงดูดเท่านี้ กระทั่งเติมน้ำไปหลายรอบ ฉินซีถึงได้รู้สึกอิ่มท้อง
เมื่อมองไปที่อานหยัน ไม่ได้ดีไปกว่าเธอเลย
“ไปกันได้แล้ว” อานหยันลุกขึ้นอย่างยากลำบาก เธอบิดกายอยู่ครู่หนึ่ง “อิ่มจังเลย…..”
ฉินซีหัวเราะ ก่อนยันตัวลุกขึ้น
ต่อให้เหยาหมิ่นจากไปแล้ว ลู่เซิ่นจากไปแล้ว ยังมีคนเคียงข้างเธอเสมอ
ทั้งคู่มุ่งไปสู่ที่จอดรถอย่างเชื่องช้า อานหยันสตาร์ทเครื่อง ก่อนหันไปทางฉินซี : “เธอจะกลับไหน?”
ฉินซีนึกอยู่นาน “รีสอร์ทชิงหยวน”
ไม่ทันขาดคำ เธอรับรู้ได้ถึงรังสีที่กวาดมาทางเธอ
“นานขนาดนี้แล้ว…..เธอยังอยู่ที่รีสอร์ทชิงหยวนอีกหรือ?” น้ำเสียงแผ่วเบาของอานหยัน พร้อมสายตาอยากรู้อยากเห็น
ฉินซีเอ่ยตอบ : “ช่วงนี้ยุ่งมาก ไม่มีเวลาหาห้องพัก”
อานหยันเบี่ยงสายตา : “ครั้งก่อนเธอให้ฉันช่วยหาบ้านนี่? ฉันได้อยู่หลายที่ ถ้าอย่างนั้นเธอไม่ต้องรีบกลับไปหลอก ไปดูกับฉันก่อนเป็นไง?”
ฉินซีหันกลับไปมองทางอานหยันที่เต็มไปด้วยความสอดรู้ พร้อมพยักหน้ารับ : “ก็ได้”
อานหยันเผยรอยยิ้ม ก่อนเหยียบคันเร่ง
เธอไม่เอ่ยใดๆอีก ฉินซีกลับนึกอะไรบางอย่างขึ้นมาได้
หลังลู่เซิ่นตกลงยอมหย่ากับตนในวันที่สอง ฉินซีไปดื่มเหล้าที่บ้านอานหยัน อานหยันโทรศัพท์หาเธอในเช้าวันต่อมา พร้อมบ่นใส่เธอชุดใหญ่…..
“วันที่เธอโทรศัพท์หาฉัน วันที่เราดื่มจนเมา ตอนที่ลู่เซิ่นมารับฉัน เขาว่าอย่างไรบ้าง ฉันขอคิดเองก่อน” ฉินซีนึกอยู่พักหนึ่ง ที่สุดจึงเอ่ยปาก
อานหยันยิ้มอย่างชั่วร้าย : “คำพูดของสามีเธอเอง เธอจำไม่ได้หรือ? จำไม่ได้ ก็ไปถามเขาสิ”
ฉินซีถลึงตาใส่เธอ : “จะให้ฉันเอ่ยยังไง?”
เธอไม่นึกต่อต้าน ไม่ใช่ “สามี” แต่เป็น “อดีตสามี”ไปแล้ว
อานหยันยิ้มอย่างอารมณ์ดี : “ฉันไม่สนหลอกนะ นี่เป็นเรื่องของคู่สามีภรรยา ฉันไม่คิดที่จะเข้าไปยุ่งเกี่ยวหลอกนะ”
ทีท่าลึกลับของเธอ ฉินซีถูกเย้าแหย่จนหมดความอดทน : “อานหยัน!”
อานหยันยังคงเผยใบหน้าหยอกล้อ เพียงแค่ไม่เอ่ยใดๆ
ฉินซีทำได้เพียงเปลี่ยนวิธี เพื่องัดปากเธอ : “วันนั้นเธอบอกว่า…..เธอมั่นใจว่าเขามีความรู้สึกต่อฉัน หมายความว่ายังไง?”
ข้างหน้าไฟแดง อานหยันหยุดรถ เธอหันไปมองเธอ : “ฉินซี เธอจะดึงดันกับคำตอบนี้ไปทำไมกัน?”
ฉินซีอ้าปากค้าง ไร้คำพูดใดเล็ดลอดออกมา
อานหยันหันหน้ากลับ ไฟแดงข้างหน้ากำลังนับถอยหลังช้าๆ เธอวางคันเบรกลง พร้อมเอ่ยเสียงแผ่ว : “หากเธออยากรู้ ก็ต้องไปดูบ้านกับฉันก่อน”
ฉินซีเต็มไปด้วยความสงสัย : “ดูบ้าน แล้วจะมีคำตอบ?”
อานหยันหัวเราะอย่างได้ใจ : “หากเธอย้ายออกมา เธอจะรู้เอง ว่าลู่เซิ่นเขาคิดอย่างไรกับเธอกันแน่”
ฉินซีพูดไม่ออก : “ความคิดเธอไม่ได้เรื่องเลย…..”
อานหยันยักไหล่ : “หากเธอไม่เชื่อฉัน ก็ช่างมันเถอะ! รอเธอนึกขึ้นเองแล้วกัน ว่าคืนนั้นเขาพูดว่าอะไร”
ฉินซีถูกแดกดัน เธอทำได้เพียงข้ามผ่าน : “ได้ ฉันจะไปดูกับเธอ”
อานหยันไม่ได้หลอกเธอ เธอช่วยฉินซีดูบ้านเอาไว้จริงๆนั่นแหละ ตำแหน่งใกล้เคียงกับบ้านของเธอ
ทั้งช่วงบ่าย ทั้งคู่ใช้เวลากับการดูบ้าน
ดีที่ทั้งคู่ทานไปไม่น้อยเมื่อเที่ยง เดินไปทั่วเช่นนี้ถือว่าเป็นการเผาผลาญไปในตัว
หลังแรกอยู่ติดถนน เป็นคอนโดสำหรับอยู่คนเดียว
รับแสงได้ดี แถมยังสะดวกอีกด้วย แต่ฉินซีกลับรู้สึกโหวกเหวกเล็กน้อย
อานหยันยืนสัมผัสสักครู่ เธอรู้สึกโหวกเหวกเช่นเดียวกัน จึงพยักหน้า ไปหลังต่อไป
หลังต่อไปเงียบสงบนัก แต่อานหยันกลับรู้สึกต่ำเกินไป รับแสงได้ไม่ค่อยจะดีนัก
อานหยันเดินวนโดยรอบ รู้สึกมืดเกินไป
หลังที่สาม ไม่มีเสียงโหวกเหวก มีระเบียง รับแสงและถ่ายเทอากาศได้ดี
ฉินซีลังเลสักครู่ ก่อนเอ่ยเสียงแผ่ว : “ดีหมดทุกอย่าง เพียงแต่…..เล็กเกินไป พวกอุปกรณ์เลนส์ของฉันกินที่อยู่ไม่น้อย…..”
อานหยันเดินเท้าอยู่นานพอสมควร เธอล้าตั้งนานแล้ว ได้ยินประโยค ในที่สุดก็ได้พักสักที
“เธอ…..” อานหยันหมดแรง “ที่รัก เธอดูสิ บ้านที่ประชาชนอยู่ก็ประมาณนี้ทั้งนั้นแหละ เธออย่าได้เปรียบกับรีสอร์ทชิงหยวนเชียว ไม่งั้นเธอจะเช่าบ้านได้อย่างไร? กลับไปอยู่ที่นั่นแต่โดยดีเถอะ!”
ฉินซีถูกแทงใจดำ เธอถึงได้รู้ตัวเดี๋ยวนี้เอง ตัวเธอเหมือนว่า….เทียบบ้านทุกหลังกับรีสอร์ทชิงหยวนอยู่จริง
รีสอร์ทชิงหยวนเงียบสงบ พื้นที่กว้างขวาง รับแสงได้ดี แถมยังถ่ายเทได้ดีอีกด้วย
แต่ไม่ว่าจะดีมากเช่นไร…..ก็ไม่ใช่บ้านของเธออยู่ดี
ฉินซีแข็งทื่ออยู่สักพัก ก่อนพยักหน้าให้กับบุคคลที่เดินตามเธออยู่ตลอด : “หลังนี้แหละ