Flash Marriage แต่งงานกับคน(ไม่)ธรรมดา - ตอนที่ 34 นี่คือ สถานการณ์อะไร
ตอนที่ 34 นี่คือ สถานการณ์อะไร
จิ๋นลี่ยวนยังคงนั่งอยู่ในที่นั่งของตัวเอง มองคนรอบข้างที่ล้อมรอบผู้ชายคนนี้ไว้ หรี่ตาลงเล็กน้อยโดยไม่ทิ้งร่องรอย หลังจากนั้นเวลานาน ถึงได้ลุกขึ้นยืนข้างๆยินเสี้ยวเสี้ยวเตือนด้วยเสียงเบา “เสี้ยวเสี้ยว น้องสาวเธอยังยืนอยู่ข้างบนนะ”
เสียงของจิ๋นลี่ยวนไม่ดังมาก แต่เหมือนมีพลังเย้ายวนใจคนที่มหัศจรรย์ ในทันใดนั้น ผู้คนต่างก็รู้ตัวว่าได้ทำอะไรผิดพลาดไป กลับไปที่ตำแหน่งของตัวเองอย่างละอาย พยายามทำตัวเหมือนเหตุการณ์เมื่อครู่ไม่มีได้เกิดขึ้น
ยินรั่วอวิ๋นมองดู ยินเสี้ยวเสี้ยวแต่เม้นริมฝีปากไว้แน่น ไม่พูดอะไร
ยินเสี้ยวเสี้ยว! อีกไม่นาน อีกไม่นานฉันก็จะให้เธอรู้ว่า อะไรคือทรมานยิ่งกว่าความตาย!
ต่อให้พี่ใหญ่กลับมาแล้ว แล้วจะทำไม? ท้ายที่สุดแล้ว เธอก็เป็นได้แค่ของแลกเปลี่ยนเพื่อผลประโยชน์ของ บ้านยินเท่านั้น!
หลังจากที่ทุกคนกลับไปที่ตำแหน่งของตัวเองเสร็จ ยินรั่วอวิ๋น ก็ปรับอารมณ์ของตัวเองเรียบร้อยแล้วเช่นกัน แม้ว่า เซี่ยงเฉิงจะมีความไม่พอใจอยู่ แต่เพราะอีกฝ่ายคือ ยินจื่อเจิ้น เลยทำได้แค่กลั้นอารมณ์ไว้ ไม่พูดอะไร ในเมือง T ทุกคน ใครก็รู้ว่า ยินจื่อเจิ้นเหมือนกับคุณชายใหญ่ตระกูลแห่งบ้านจิ๋นร้ายลึกหน้าเนื้อใจเสือเหมือนกัน จัดการยากเหมือนกัน! มิฉะนั้นทั้งสองจะไม่กลายเป็นเพื่อนกัน!
แค่มองเพียงว่า ยินจื่อเจิ้น กับ จิ๋นลี่โป๋เป็นเพื่อนรักกัน ก็ไม่มีคนกล้าเข้าไปหาเรื่องยินจื่อเจิ้น แล้ว
การพูดบนเวทียังคงดำเนินต่อไป แต่ผู้คนที่อยู่ใต้เวทีเริ่มเคลื่อนไหวแล้ว ยินเสี้ยวเสี้ยวหันไปมองพี่ชายของตัวเอง ถามด้วยเสียงเบา ท่าทางนั้นเสมือนแมวที่กำลังขโมยปลา น่ารักยิ่งนัก “พี่ชาย พี่กลับมาก็ไม่บอกฉัน อย่างนั้นฉันจะได้ไปรับพี่ไง……”
ไม่ว่ายินจื่อเจิ้นจะจากไปนานกี่ปี ระหว่าง ยินเสี้ยวเสี้ยว กับยินจื่อเจิ้น เสมือนมีเส้นด้ายที่มองไม่เห็นเกี่ยวพันไว้
ยินจื่อเจิ้น ยิ้มเล็กน้อยไม่พูดอะไร เพียงแค่แววตาที่มองยินเสี้ยวเสี้ยว เต็มไปด้วยความเอ็นดูน้องสาว
“พี่ชาย พี่ไม่รู้ว่าพี่จากไปห้าปี ฉันต้องใช้ชีวิตลำบากมากขนาดไหน กลางคืนอยากกินมื้อดึก ก็ไม่มีใครทำให้ฉันกินแล้ว” ยินเสี้ยวเสี้ยวบ่นด้วยน้ำเสียงต่ำ แต่ในสายตาเป็นการพึ่งพาที่มีต่อยินจื่อเจิ้น ในบ้านยินมีเพียงเขาสองคนเท่านั้น ที่มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดสนิทกันมากที่สุด
“พี่ชาย ครั้งนี้พี่กลับมายังจะไปอีกไหม?”
ยินจื่อเจิ้น มองดูยินเสี้ยวเสี้ยว ที่อยู่ข้างๆ พูดจาไม่หยุด ส่ายหัวอย่างจนปัญญา กระซิบกลับไปว่า “ฉันเพิ่งจะกลับมา เธอก็อดไม่ไหวที่จะรีบไล่ฉันไปเลยหรือ?”
“เปล่าสักหน่อย!” ยินเสี้ยวเสี้ยว รีบโต้กลับทันที ใบหน้าเล็กๆเคร่งขรึมทันที “พี่ชาย พี่อย่าไปเลยนะ ถ้าพี่ไปอีก รอพี่กลับมาอีกที ฉันก็ไม่รู้ตัวเองจะไปอยู่ที่มุมไหนแล้ว……”
……
ยินเสี้ยวเสี้ยว กระซิบพูดคุยกับ ยินจื่อเจิ้นเสียงเบา ลืมไปอย่างสมบูรณ์แล้วว่า ด้านบนเวทียังจัดพิธีงานหมั้นอยู่ และก็ลืมไปแล้วว่า ด้านข้างเธอยังมี จิ๋นลี่ยวน……
เมื่อสิ้นสุดการสนทนา พิธีงานหมั้นก็ได้จบลงแล้ว ยินไป่ฝันก็ได้พา ยินจื่อเจิ้นออกไปแล้ว
เธอเพิ่งสังเกตเห็นว่า จิ๋นลี่ยวนที่อยู่ข้างกาย ดูเหมือนจะเงียบผิดปกติ แต่เธอยังอยู่ในความตื่นเต้น ที่ยินจื่อเจิ้น ได้กลับมาในประเทศแล้ว ระหว่างที่เดินเล่นในสวนกับจิ๋นลี่ยวน ก็พูดพร่ำไม่หยุด
——จิ๋นลี่ยวนคนเมื่อกี้คือพี่ชายของฉัน ฉันลืมแนะนำให้คุณเลย พี่ชายฉันชื่อ ยินจื่อเจิ้น…….
——จิ๋นลี่ยวน พี่ชายฉันเก่งมากเลย เขาได้รับปริญญาเอกด้านการบริหารจัดการจากมหาวิทยาลัยอ๊อกซฟอร์ดแล้ว……
——จิ๋นลี่ยวน พี่ชายฉันเป็นคนที่รักฉันมากที่สุดในครอบครัวของฉันแล้ว ที่ฉันชอบมากที่สุด ก็คือพี่ชายของฉัน……
——จิ๋นลี่ยวนฉัน……
ประโยคที่สี่ยังไม่ได้พูดจบ ยินเสี้ยวเสี้ยว ก็ถูกจิ๋นลี่ยวนหันกลับมาขังอยู่ระหว่างกำแพงด้านหลัง อยู่ในอ้อมกอดของเขา ความรักที่เธอมีต่อพี่ชายยังไม่ได้พูดจบ จูบของจิ๋นลี่ยวน ก็ประกบลงบนริมฝีปากของเธอ……
ในวินาทีที่ริมฝีปากทั้งสองประกบกัน ยินเสี้ยวเสี้ยวเหมือนได้ลอยตัวขึ้นมา ร่างกายหมดเรี่ยวแรง ทำได้เพียงยกมือขึ้นเพื่อจับเสื้อตรงหน้าอกของจิ๋นลี่ยวน ไว้แน่น แม้แต่หายใจยังไม่กล้า จังหวะการเต้นของหัวใจยิ่งวุ่นวายไปหมด……
นี่คือ สถานการณ์อะไร?
การสัมผัสที่อ่อนโยน ความรู้สึกอ่อนไหว ยินเสี้ยวเสี้ยวหยุดความคิดโดยไม่รู้ตัว และหลับตาลง
เสมือนว่าได้ผ่านไปเวลาเนิ่นนาน ในเวลาที่ใบหน้าเล็กๆของกลั้นไว้จนแดงก่ำ จิ๋นลี่ยวนเพลินจนลืมตัว และได้ปล่อยยินเสี้ยวเสี้ยวออก แต่ประโยคแรกคือ “ยินเสี้ยวเสี้ยว เธอทำเสียงหนวกหูมาก!”
เสียงปั้งดังขึ้นในสมอง ยินเสี้ยวเสี้ยวโกรธแล้ว
โธ่โว้ย! ฉันรบกวน คุณก็จูบฉันหรือ? นี่คือเหตุผลอะไร คือกฎหมายของประเทศไหน? ยังรังเกียจที่เธอวุ่นวายทำเสียงหนวกหู เธอไม่ฟ้องเขาที่ล่วงละเมิดก็ดีเท่าไหร่แล้ว!
จิ๋นลี่ยวน คุณนี่เก่งจริงๆ!
ยังไม่ทันที่จะพูดอะไร จิ๋นลี่ยวน ก็ได้ค่อยๆถอนตัวออกห่างจากยินเสี้ยวเสี้ยว แต่ท่าทางที่กักตัวเธอไว้ ไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงใดๆ ก้มหน้ามองดูหญิงสาวตรงหน้า
ครั้งแรก จิ๋นลี่ยวนพบว่าสายตาของยินเสี้ยวเสี้ยวไม่ได้มองที่ตัวเอง
ครั้งแรก จิ๋นลี่ยวนพบว่า ยินเสี้ยวเสี้ยวมีคนที่ใกล้ชิดสนิทมากกว่าเขา
ครั้งแรก จิ๋นลี่ยวนพบว่า ในใจเขารู้สึกรำคาญเล็กน้อย
ครั้งแรก จิ๋นลี่ยวนไม่สามารถควบคุมได้……
ครั้งแรกที่มากมายนี้ แต่เป็นเพราะคนเดียวเท่านั้น นี่เป็นความรู้สึกที่จิ๋นลี่ยวนในแต่ก่อน ไม่เคยสัมผัสมาก่อน เขารู้ดีว่า ตัวเองได้หึงแล้ว และยังเป็นการหึงพี่ชายของยินเสี้ยวเสี้ยวด้วย! ความรู้ความเข้าใจนี้ ทำให้เขาอยากที่จะสะบัดมือออกแล้วออกจากที่นี่ทันที แต่เมื่อนึกคิดได้ว่า ยินเสี้ยวเสี้ยวอาจกลับบ้านพร้อมกับยินจื่อเจิ้น ในตอนหลัง เขาเลยอดทนไว้ได้……
เขาไม่รู้ว่าตัวเองเป็นอะไรไป ถึงกลับต้องหึงพี่ชายยินเสี้ยวเสี้ยว
ทั้งสองยืนอยู่ที่นั่นอย่างเงียบๆ ในท่าทางที่คลุมเครือแบบนี้ ซึ่งจิ๋นลี่ยวนไม่ไม่ได้มองยินเสี้ยวเสี้ยวแต่ ยินเสี้ยวเสี้ยว กลับจ้องเขม็งจิ๋นลี่ยวนด้วยใบหน้าที่โกรธเคือง มือเล็กๆที่ดึงเสื้อเขาไว้ เหมือนว่ากำลังระบายความไม่พอใจของเธอออกมา ออกแรงขึ้นเรื่อยๆ
แกล้งทำเสียงกระแอม จิ๋นลี่ยวนปล่อยการกักตัวของยินเสี้ยวเสี้ยว และหันไปมองบรรยากาศโดยรอบแทน แต่ยินเสี้ยวเสี้ยวหันหลังเดินออกไปทันทีด้วยความโกรธ เมื่อจิ๋นลี่ยวน ดึงสติตั้งตัวได้ ร่างของ ยินเสี้ยวเสี้ยวก็หายตัวไปที่หัวมุมแล้ว
สัมผัสที่จมูกตัวเอง จิ๋นลี่ยวนตามไปด้วย จับมือของยินเสี้ยวเสี้ยว ไว้ ไม่ให้โอกาสเธอได้ปฏิเสธแล้วพาเธอเข้าไปในรถทันที
แม้ว่ายินเสี้ยวเสี้ยวจะโกรธ แต่การเดินออกไปของเธอ ไม่ใช่ว่าเป็นเพราะความโกรธ แต่เป็นเพราะ…… ความอับอาย
เธอเข้าใจดี จิ๋นลี่ยวนไม่ได้ชอบตัวเธอเลย แม้ว่าเขาจะจูบเธอ แต่เขาก็ยังไม่ชอบตัวเธออยู่ดี อย่าถามว่าเพราะอะไร นี่ก็คือสัญชาตญาณของผู้หญิง และในกรณีแบบนี้ ถูกจิ๋นลี่ยวน จูบ ยินเสี้ยวเสี้ยวรู้สึกถึงความน้อยใจเท่านั้น ภายในรถเงียบสงบเป็นเวลาเนิ่นนาน ทั้งสองคนใครก็ไม่พูดอะไรทั้งนั้น และมีก็ให้เวลายินเสี้ยวเสี้ยวได้คิดทบทวนพอดี
นี่เป็นครั้งแรก ที่เธอคิดถึงความสัมพันธ์ระหว่างกับจิ๋นลี่ยวนจริงจังขนาดนี้ จิ๋นลี่ยวนเคยพูดว่า การแต่งงานของพวกเขาไม่ใช่การเล่นของเด็กและไม่ใช่เป็นการแสร้งทำ ถ้าอย่างนั้นมันก็เป็นเรื่องจริง ในเวลานั้นตัวเธอยังไม่ทันตั้งตัว แต่เมื่อกี้เพราะจูบที่อธิบายไม่ได้ของจิ๋นลี่ยวน เธอนึกคิดได้แล้ว……
นี่เป็นความสัมพันธ์ที่แท้จริง ถ้าอย่างนั้นเธอผลักตัวเองจากกองไฟหนึ่งไปยังอีกกองหนึ่ง หนีเสือปะจระเข้ ใช่ไหม?
ที่ผู้จัดการจาง เธอยอมตายก็จะไม่มีการจำยอมแน่ๆ ถ้าอย่างนั้นจิ๋นลี่ยวนล่ะ? คือเขา เธอก็จะเต็มใจยอมหรือ? ส่ายหัวเบาๆ ยินเสี้ยวเสี้ยว รู้อย่างชัดเจน เธอไม่ยอม! ผู้ชายของเธอจะต้องรักเธอ ยอมให้อนาคตแก่เธอ เธอถึงจะเต็มใจที่จะมอบตัวเองให้เขาดูแล มีและจิ๋นลี่ยวนในขณะนี้ เห็นได้ชัดว่า ไม่ตรงตามเงื่อนไขของเธอ
นี่เป็นครั้งแรกที่ ยินเสี้ยวเสี้ยวมีความคิดที่จะพูดคุยกับจิ๋นลี่ยวนให้ชัดเจน
เมื่อรถจอดอยู่ที่ประตูบ้านของบ้านจิ๋น
ยินเสี้ยวเสี้ยวไม่ได้ขยับ จิ๋นลี่ยวนแค่จอดรถและนั่งรอเงียบๆอย่างฉลาด
สำหรับความวู่วามในเมื่อครู่ หัวใจของเขาก็หงุดหงิดเหมือนกัน สำหรับยินเสี้ยวเสี้ยวแล้ว หัวใจของเขายังไม่ได้อ่อนไหว ก็ทำถึงเพียงนี้ ถ้าอย่างนั้นหลังจากนี้จะหนักกว่าอีกใช่ไหม? ไม่รอเขาคิดกระจ่าง ยินเสี้ยวเสี้ยวก็เริ่มพูดก่อนแล้ว
“จิ๋นลี่ยวน เรามาคุยกันหน่อย เรื่องในอนาคตระหว่างเรา……” ยินเสี้ยวเสี้ยวไม่ได้มองที่จิ๋นลี่ยวน แต่มองไปที่ตึกสูงตระหง่านของบ้านจิ๋น ตรงข้างหน้า พูดขึ้นเสียงเบา ในน้ำเสียงมีความจริงจังที่ไม่เคยปรากฏมาก่อนประโยคสุดท้ายพูดอย่างชัดเจนและทำจำใจ
จิ๋นลี่ยวน ตอบกลับเบาๆ ยินเสี้ยวเสี้ยว ถึงได้พูดต่อไป “จิ๋นลี่ยวน ฉันไม่รู้ว่า ทำไมคุณถึงยอมแต่งงานกับฉันในตอนแรก ในเมื่อคุณบอกแล้วว่าคุณไม่อนุญาตให้ปฏิเสธ และไม่อนุญาตหย่าร้าง เว้นแต่เมื่อฉันจะทำผิดกฎร้ายแรงของบ้านจิ๋นดังนั้นฉันสามารถเข้าใจได้ไหมว่า ถ้าเราไปอย่างราบรื่นเสมอไป ฉันก็จะเป็นภรรยาของคุณตลอดไป?”
ยินเสี้ยวเสี้ยว เรียบเรียงความคิดของตัวเองพร้อมในพูดไปด้วย สำหรับบ้านจิ๋น ยินเสี้ยวเสี้ยวมีความรู้สึกต่อต้านโดยไร้เหตุผล
หลังจากได้ยินคำพูดของยินเสี้ยวเสี้ยว จิ๋นลี่ยวนหันมามองใบหน้าข้างที่สงบราบเรียบของเธอ ตอบกลับอย่างเด็ดเดี่ยวว่า “ใช่”
“ได้ ถ้าอย่างนั้นเกี่ยวกับเรื่องระหว่างเราในอนาคต ฉันสามารถเรียกร้องข้อตกลงหน่อยได้ไหม?”
สำหรับเรื่องนี้ ยินเสี้ยวเสี้ยวรู้สึกประหม่าจริงๆ ถึงตอนนี้เธอเพิ่งรู้ว่า ตัวเองเหมือนตกอยู่ในสถานะที่เป็นฝ่ายทอดสะพาน ไปอยู่ในอ้อมกอดของจิ๋นลี่ยวน
ความรู้สึกแบบนี้แย่มาก แย่มากจริงๆ ทำให้เธอรู้สึกเหมือนเธอไม่รู้ค่าของตัวเองเลย! ดังนั้นสำหรับคำสนทนาต่อไปนี้ ยินเสี้ยวเสี้ยว ฃจึงให้ความสำคัญอย่างยิ่ง
จำเป็นต้องบอกว่า คำพูดของยินเสี้ยวเสี้ยวให้ จิ๋นลี่ยวนรู้สึกแปลกใจมาก! กับคำพูดของ เอื้อมมือไปจับพวงมาลัยไว้แน่นด้วยความประหลาดใจ!
เขานึกว่า ยินเสี้ยวเสี้ยวนั้นแตกต่าง แต่ดูจากตอนนี้แล้ว ดูเหมือนว่าจะไม่มีความแตกต่างจากผู้หญิงคนนั้นเลย? และทั้งคู่ก็อดทนเก่งมากด้วย คนหนึ่งอดทนจนถึงตอนที่เขาเตรียมที่จะขอแต่งงานแล้วจากไป อีกคนอดทนจนเขาเหมือนจะมีอารมณ์หวั่นไหว แล้วเรียกร้องข้อตกลง……
ท้ายที่สุด ก็คือเขาเองที่ประเมินยินเสี้ยวเสี้ยวสูงเกินไปสินะ ใน เมืองTก็คงไม่มีผู้หญิงคนใดที่สามารถปฏิเสธการล่อใจของ บ้านจิ๋นได้! นั่นคือสถานที่ที่ผู้หญิงทุกคนหลงใหลปรารถนา!
และ ยินเสี้ยวเสี้ยว ก็เป็นเช่นนั้น!
หลังจากนิ่งเงียบไปนาน จิ๋นลี่ยวนก็ยังไม่ได้พูดอะไร เพียงแค่หันหน้ามองไปช้าๆ สีหน้าดูเย็นชามากยิ่งขึ้นเรื่อยๆ
ยินเสี้ยวเสี้ยว ไม่ได้สังเกตเลยแม้แต่น้อย นึกว่าจิ๋นลี่ยวน ไม่พูดก็ถือว่าเห็นด้วยแล้ว ตามด้วยพูดข้อเรียกร้องของตัวเองด้วยเสียงแผ่วเบาน้ำเสียงที่นุ่มนวล แต่ก็มีความแข็งแกร่ง “จิ๋นลี่ยวนเราสามารถแต่งงานกันได้ อยู่ด้วยกันได้ แต่ก่อนที่เราทั้งคู่จะมีใจให้ซึ่งกันและกัน ฉันหวังว่าคุณจะเคารพให้เกียรติฉัน”
ทันทีที่สิ้นเสียง จิ๋นลี่ยวนก็อดไม่ได้ที่จะจ้องมองไป แล้วเธอก็พูดต่อ “ฉันไม่รู้ว่าคุณคิดว่าตัวฉันเป็นอย่างไร คุณก็อาจคิดว่าฉันเหมือนในข่าวลือ หรือคุณอาจคิดว่าฉันเหมือนที่คุณพูดจริงๆเป็นเด็กผู้หญิงที่ดี แต่ไม่ว่าจะเป็นยังไง คุณก็ต้องยอมรับว่าฉันเป็นผู้หญิง ฉันมีความคิดของตัวเองในใจฉัน ในตอนแรกที่เสนอจะแต่งงานกับคุณบนถนน พูดตามความจริง มันเป็นเพียงข้อแก้ตัวสำหรับฉันที่จะหนีจากการแต่งงานที่บ้านเท่านั้น……”
ตามด้วยเสียงของยินเสี้ยวเสี้ยว จิ๋นลี่ยวน ถึงได้ค่อยๆหันหน้าเข้ามา มองดูท่าทางอย่างจริงจังของเธอ ในขณะนี้เขาพบว่า เขาดูเหมือนจะสามารถมองเห็นขนปุยเล็กๆบนผิวที่บอบบางของเธอ ซึ่งน่ารักเป็นพิเศษ และคำพูดของเธอก็ไม่ได้หยุดลง แต่ละประโยคต่อจากนี้ เหมือนจะตกเข้าไปอยู่ในก้นบึ้งหัวใจของเขา….