Flash Marriage แต่งงานกับคน(ไม่)ธรรมดา - ตอนที่ 35 พรุ่งนี้ฉันไปที่สำนักงานเขตกับเธอ หย่าร้าง
- Home
- Flash Marriage แต่งงานกับคน(ไม่)ธรรมดา
- ตอนที่ 35 พรุ่งนี้ฉันไปที่สำนักงานเขตกับเธอ หย่าร้าง
ตอนที่ 35 พรุ่งนี้ฉันไปที่สำนักงานเขตกับเธอ หย่าร้าง
“ฉันไม่สนใจที่จะมีประวัติการหย่าร้าง เพราะในตอนแรกฉันก็แค่ต้องการหาใครก็ได้คนหนึ่งที่จะมาแต่งงานกัน รอให้ทางบ้านสงบหน่อย แล้วค่อยหย่าร้างกัน แต่ฉันไม่ได้คิดว่า……” ยินเสี้ยวเสี้ยวกะพริบตาเบาๆ พูดออกมาด้วยเสียงเบา “ฉันได้พบกับคุณ”
——ฉันได้พบกับคุณ
มีความจำใจ ความรู้สึกโชคดีประกอบอยู่ และความ…….ที่สวรรค์ถูกกำหนดไว้
“ฉันอยู่ในบ้านยิน คือฐานะอะไร คุณก็ได้เห็นแล้ว ถ้าบ้านจิ๋น สามารถที่จะยอมรับฉัน อย่างนั้นฉันก็ยินดีที่จะอยู่กับคุณต่อไป แต่ถ้าหากบ้านจิ๋นไม่ยอม ฉันจะไม่บีบบังคับ ฉันรู้ว่าบ้านจิ๋นจะไม่บังคับคุณ ดังนั้นสิทธิ์ในการหย่าร้างจึงอยู่ในมือของคุณเสมอ……” ยินเสี้ยวเสี้ยวพูดออกมาอย่างราบเรียบ ในแววตาดูแนวแน่เป็นพิเศษ เธอไม่มีแม่ และยังไม่เคยเห็นแม่ของเธอตั้งแต่เด็กด้วยซ้ำ
ใน บ้านยินนอกจากพี่ชายแล้ว ไม่มีใครสนใจเธอ เธอจำเป็นต้องเรียนรู้ที่จะปกป้องตัวเอง แม้ว่าบุคคลนั้นจะคือจิ๋นลี่ยวน ก็ไม่สามารถอยู่นอกเขตป้องกันของเธอได้ จากนั้นยินเสี้ยวเสี้ยว ก็ได้หันหน้าแล้วมองตรงไปที่ดวงตาของจิ๋นลี่ยวน ในน้ำเสียงเต็มไปด้วยความจริงจัง “คำขอของฉันง่ายมากๆ ก็แค่อย่าแตะต้องฉัน ก่อนที่เราสองคนจะมีใจให้ซึ่งกันและกัน”
จิ๋นลี่ยวนดึงสติกลับมาไม่ได้เป็นเวลานาน ทั้งสองนั่งอยู่ในรถ มองสบตากันอย่างเงียบๆ
ในขณะนี้ จิ๋นลี่ยวนไม่รู้ว่าจะพูดอย่างไร และไม่รู้ว่าจะตอบสนองอย่างไร คือยินเสี้ยวเสี้ยว ที่กระทบอารมณ์เขาอย่างแรง หรือความสามารถในการแบกรับของเขาต่ำเกินไป เขาไม่รู้เลย สิ่งเดียวที่เขารู้ก็คือ ยินเสี้ยวเสี้ยว ไม่ได้เรียกร้องเขาหรือบ้านจิ๋นทำอะไรเพื่อเธอเลย?
หลังจากเงียบไปนาน จิ๋นลี่ยวนก็ตั้งสติได้ ถามกลับด้วยความงุนงงว่า “ยินเสี้ยวเสี้ยวเธอยังมีอะไรที่จะพูดอีกไหม?”
เธอ ยังมีอะไรที่พูดไม่จบหรือเปล่า?
ยินเสี้ยวเสี้ยว คิดทบทวนอย่างจริงจัง จากนั้นก็พูดว่า “ตอนนี้ฉันยังเป็นนักศึกษา ฉันหวังว่างานแต่งงานจะจัดขึ้นหลังจากที่ฉันสำเร็จการศึกษา ก็แค่เป็นเวลาเพียงเดือนเดียวเท่านั้น ได้ไหม?”
ครั้งนี้ จิ๋นลี่ยวนแค่ได้มองดูยินเสี้ยวเสี้ยว แล้วค่อยๆระบายรอยยิ้มของตัวเองออกมา ในแววตามีความปลาบปลื้มใจ
ยินเสี้ยวเสี้ยวมองรอยยิ้มของจิ๋นลี่ยวน ด้วยความงุนงง ไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้นเป็นเวลานาน แค่ได้มองเขาอย่างเงียบๆ หลังจากนั้นเวลานาน จิ๋นลี่ยวน ก็พูดว่า “ยินเสี้ยวเสี้ยว ฉันสัญญากับเธอ ก่อนที่เราทั้งคู่จะมีใจให้กัน ฉันจะไม่แตะต้องเธอ”
พวกเขาในเวลานี้ ต่างก็ได้ลืมไปแล้วว่า ถ้าพวกเขาไม่มีใจให้กันเลยล่ะ?
หลายปีต่อมา ทั้งสองคิดถึงตัวเองในเวลานี้ ก็คิดได้ทันทีว่า เรื่องบางเรื่อง ถูกโชคชะตากำหนดไว้ ตั้งแต่แรกแล้ว
หลังจากได้รับคำตอบของจิ๋นลี่ยวน ยินเสี้ยวเสี้ยวก็ถอนหายใจยาวๆด้วยความโล่งอก ไม่ได้สนใจว่าจิ๋นลี่ยวนยังอยู่ข้างๆ ก็นั่งพิงเบาะรถด้วยร่างกายที่เหนื่อยล้า ท่าทางนี้สามารถเห็นได้อย่างชัดเจนว่า เมื่อครู่ที่เธอเผชิญหน้ากับจิ๋นลี่ยวน คือความพยายามแกล้งทำตัวแข็งแกร่งเท่านั้น
รอยยิ้มที่มุมปากไม่สามารถเก็บซ่อนไว้ได้ จิ๋นลี่ยวนเงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้านอกกระจกรถ รู้สึกว่าโลกนี้ช่างสวยงามมากจริงๆ
ทันใดนั้น เสียงโทรศัพท์มือถือดังขึ้น ไม่ต้องพูดว่ายินเสี้ยวเสี้ยวแม้แต่ จิ๋นลี่ยวน ยังสะดุ้งตกใจ
ยินเสี้ยวเสี้ยวหยิบโทรศัพท์ออกมาอย่างเร่งรีบ เห็นว่าเป็นหมายเลขโทรศัพท์ที่ ยินจื่อเจิ้นใช้เมื่อห้าปีก่อน มุมปากยกขึ้นโดยไม่รู้ตัว แต่จิ๋นลี่ยวนอยู่ด้านข้าง กลับเก็บรอยยิ้มทันที ดวงตาหรี่ลงเล็กน้อย
ยินจื่อเจิ้นพี่ชายที่ยินเสี้ยวเสี้ยวพึ่งพาไว้ใจมากที่สุด……
“พี่ชาย……” ยินเสี้ยวเสี้ยวรับโทรศัพท์ แล้วเรียกเสียงหวาน แต่ยินจื่อเจิ้นที่อยู่อีกด้านของโทรศัพท์ ดูเหมือนจะอารมณ์ไม่ดีนัก เป็นครั้งแรกที่พูดด้วยน้ำเสียงจริงจังกับยินเสี้ยวเสี้ยว
ถ้าเสี้ยวเสี้ยว เธอกลับมาเดี๋ยวนี้ ฉันรอเธออยู่ที่บ้าน!”
เคร่งครัดเป็นพิเศษ หนักแน่นเป็นพิเศษ ยินเสี้ยวเสี้ยวอดไม่ได้ที่จะรู้สึกกลัว ตอนที่กำลังจะถามอะไรเพิ่ม คนปลายสายวางโทรศัพท์โดยที่ไม่รอให้เธอวางสายก่อนเป็นครั้งแรก ถือโทรศัพท์ไว้ ยินเสี้ยวเสี้ยว ตื่นตระหนกไปทั้งตัว
จิ๋นลี่ยวนเหมือนอย่างกับมองไม่เห็น ปลดเข็มขัดนิรภัยแล้ว ก็เตรียมที่จะลงจากรถ พร้อมพูดว่า “ลงมาเถอะ คุณย่าได้พูดถึงเธอมาหลายวันแล้ว ถ้าเธอยังไม่ปรากฏตัวอีก ท่านต้องไปรบกวนที่บ้านยินแล้ว”
ทันทีที่ลงมือทำ จิ๋นลี่ยวน ก็ใช้คุณย่าจิ๋นมาบังคับโดยตรง แต่สุดท้าย จิ๋นลี่ยวนก็ยังคงประเมินค่าของ ยินจื่อเจิ้น ที่มีอยู่ในหัวใจของยินเสี้ยวเสี้ยวต่ำเกินไป ยังไม่รอให้เขาได้ลงจากรถก่อน ยินเสี้ยวเสี้ยวก็จับแขนของเขาไว้อย่างเร่งรีบ แค่หันหน้ากลับไป ก็ได้เห็นใบหน้าที่น่าสงสารและตื่นตระหนกอย่างมากของ ยินเสี้ยวเสี้ยว
“จิ๋นลี่ยวน ตอนนี้ฉันจะไม่ไปที่บ้านจิ๋น คุณส่งฉันกลับบ้านก่อนได้ไหม?” ยินเสี้ยวเสี้ยวพูดออกมาทันที แค่ได้นึกถึงพี่ชายของตัวเองโกรธแล้ว เธอก็อดไม่ได้ที่จะขนหัวลุก แค่กลับมาวันแรกเอง เธอไปทำอะไรให้พี่ชายโกรธกันแน่นะ ต่อไปเธออาจจะไม่มีพี่ชายอีกเลยหรือไม่? ไม่สามารถไปสนใจอย่างอื่นได้อีก ยินเสี้ยวเสี้ยว วิงวอนขอร้องจิ๋นลี่ยวน “จิ๋นลี่ยวน ขอร้องคุณ ตอนนี้ฉันจำเป็นต้องกลับ บ้านยินทันที ทางคุณย่า ฉันจะมาอธิบายให้ท่านฟังพรุ่งนี้ได้ไหม ตอนนี้คุณรีบส่งฉันกลับไปก่อนเถอะนะ!”
ระหว่างพูด ยินเสี้ยวเสี้ยว ก็ยกมือขึ้นมาไหว้อย่างจริงใจ กำลังขอร้องจิ๋นลี่ยวน
ในแววตาพาดผ่านความเย็นชา จิ๋นลี่ยวนไม่พูดอะไร และในตอนที่ยินเสี้ยวเสี้ยวคิดว่า จิ๋นลี่ยวนตกลงแล้วจิ๋นลี่ยวนกลับได้ลงจากรถอย่างกระฉับกระเฉง กระแทกประตูรุนแรง เดินก้าวใหญ่ไปในทิศทางของบ้านจิ๋นไม่มีความสนใจยินเสี้ยวเสี้ยวที่อยู่ข้างหลังแม้แต่น้อย
เมื่อมองเห็นฉากนี้ ยินเสี้ยวเสี้ยวตะลึงนิ่งอึ้ง แต่ก็ตั้งสติได้อย่างเร็วไว ในสายตาของเธอแล้ว ในโลกนี้น่าจะไม่มีใครที่จะสำคัญกว่ายินจื่อเจิ้นอีกแล้ว ผู้ชายคนนั้นไม่เพียงแต่เป็นพี่ชายเธอเท่านั้น ยังเป็นผู้ที่ให้ชีวิตใหม่อีกครั้งแก่เธอ……
ไม่ไปสนใจความโกรธที่ไม่ทราบสาเหตุของ จิ๋นลี่ยวน ยินเสี้ยวเสี้ยวก็รีบออกจากรถ แล้วหันหลังวิ่งไปทางด้านหลังทันที สถานที่ที่ บ้านจิ๋นอาศัยอยู่ เดิมทีก็เป็นบ้านพักตากอากาศบนภูเขา คฤหาสน์ทั้งหมดมีเพียงห้าหกหลังเท่านี้ ล้วนเป็นบุคคลมีชื่อเสียงของ เมืองT สถานที่แบบนี้ ไม่เคยมีรถแท็กซี่ปรากฏมาก่อน แม้แต่คนรับใช้ที่บ้านเวลาออกไปซื้อของ ก็มีรถรับส่ง ในเวลานี้ ยินเสี้ยวเสี้ยว ไม่สามารถหารถได้จริงๆ เป็นเพราะเหตุนี้ เธอจึงได้ขอร้องจิ๋นลี่ยวน……
จิ๋นลี่ยวน เดินไปที่บ้านจิ๋น ด้วยความโกรธ ได้ยินเสียงปิดประตูจากข้างหลัง ใบหน้าผ่อนคลายเล็กน้อย ตั้งใจชะลอความเร็ว ต้องการที่จะรอคนข้างหลัง แต่ได้ยินเสียงของรองเท้าส้นสูงเคลื่อนไหวไปในทิศทางตรงกันข้ามกับเขาอย่างรวดเร็ว ก็ได้หันหลังกลับไปทันที ได้เห็นยินเสี้ยวเสี้ยววิ่งอยู่บนถนนที่กว้างขวางใต้ดวงอาทิตย์ที่ร้อนจัดพอดี……
ไฟโกรธ ยิ่งร้อนระอุขึ้นเรื่อยๆ
ตั้งแต่เล็กจนโต จิ๋นลี่ยวนไม่เคยโกรธมากขนาดนี้มาก่อน! ในตอนนั้นโกรธจนรีบหันตัวเดินไปทางบ้านจิ๋น ทันที ไม่ไปสนใจยินเสี้ยวเสี้ยว ที่อยู่ข้างหลังเลยสักนิด เห็นได้ชัดว่าได้โกรธมากจริงๆ!
ยินเสี้ยวเสี้ยวรู้สึกกังวลในใจมาก พอวิ่งได้ไม่กี่ก้าวก็รู้สึกเจ็บเท้ามาก มองดูถนนที่คดเคี้ยวอยู่ตรงหน้า ถอดรองเท้าส้นสูงของตัวเองแล้วถือไว้ในมืออย่างเด็ดเดี่ยว แล้ววิ่งด้วยเท้าเปล่า……
เธอก็ไม่รู้ว่าตัวเองได้วิ่งมานานแค่ไหน ในที่สุดก็ลงมาจากภูเขา หลังจากที่เรียกแท็กซี่ได้ ก็บอกให้คนขับรถ ใช้ความเร็วที่เร็วที่สุด พุ่งตรงไปที่ บ้านยินคนขับดูเหมือนว่าจะตกใจเพราะยินเสี้ยวเสี้ยว เลยได้ขับรถเร็วมาก……
เมื่อถึงบ้านยิน ยินเสี้ยวเสี้ยวทิ้งเงินไว้แล้วก็วิ่งเท้าเปล่าต่อไป ไม่มีเวลาที่จะทักทาย ยินไป่ฝันและ หลี่หมึ้งด้วยซ้ำ ก็รีบวิ่งพุ่งขึ้นไปชั้นบน จากระยะไกลก็ได้เห็นประตูห้องนอนของตัวเองเปิดอยู่ ในใจยิ่งรู้สึกประหม่ามากยิ่งขึ้น
เฮ้ย ในที่สุดก็มาถึงแล้ว
ภายในห้อง ยินเสี้ยวเสี้ยวยืนอยู่หน้าประตูหอบอย่างดุเดือด ในเวลานี้เธอรู้สึกสงสัยตัวเองว่าเป็นโรคหอบหืดหรือเปล่า และคนที่ยืนอยู่ข้างหน้าต่าง สวมเสื้อยืดสีขาว กางเกงลำลอง เหยียบรองเท้าแตะนุ่มๆ หันหลังให้เธอ พลังความเคร่งขรึมที่กระจายออกมาทั่วทั้งตัว ทำให้ยินเสี้ยวเสี้ยวเกรงกลัวจนหายใจอย่างระมัดระวัง
“พี่ชาย……” เพราะวิ่งมาเป็นเวลานาน ยินเสี้ยวเสี้ยวคอแห้งและเจ็บอย่างมาก ‘พี่ชาย’ คำนี้ ประกอบด้วยน้ำเสียงที่แหบห้าวและเธอไม่กล้าพูดอะไรอีกเลย แค่มองชายชายหนุ่มตรงหน้าอย่างประหม่า
ยินจื่อเจิ้น พยายามระงับความโกรธในใจของเขาไว้ ยินเสี้ยวเสี้ยวใช้เวลาสองชั่วโมงใช้เวลาสอง ในการกลับถึงบ้าน แต่เขาใช้เวลามากกว่าสองชั่วโมง ยังไม่สามารถจัดการความสะเทือนใจของตัวเอง ที่เพิ่งได้รับรู้ถึงข่าวนั้น หันกลับไป เขาคิดว่าตัวเองกำลังจะระเบิดแล้ว แต่เมื่อได้เห็นท่าทางของยินเสี้ยวเสี้ยวแล้ว ยินจื่อเจิ้นก็ทำได้แค่เพียงถอนหายใจเท่านั้น
ยินเสี้ยวเสี้ยวในขณะนี้ ดูทุลักทุเลมาก ราวกับว่าได้หนีออกจากกระท่อมผู้ลี้ภัย เส้นผมกระจัดกระจายใบหน้าเล็กๆและผิวบางส่วนที่เผยออกมา ถูกเผาไหม้จากดวงอาทิตย์จนน่ากลัว เท้าดำเลอะเทอะไปหมด บางครั้งยังสามารถที่จะเห็นรอยแผลบนหลังเท้า ในมือยังคงถือรองเท้าส้นสูงของตัวเองไว้แน่น หากไม่ใช่ว่าใบหน้าและเสื้อผ้าของยินเสี้ยวเสี้ยว ยังถือว่าเรียบร้อย ยินจื่อเจิ้นต้องสงสัยว่า ยินเสี้ยวเสี้ยวอาจจากเกิดเรื่องอะไรขึ้นหรือเปล่า?
ยินจื่อเจิ้น ไม่ได้พูดเนิ่นนาน ยินเสี้ยวเสี้ยว สังเกตสีหน้าของยินจื่อเจิ้น อย่างระมัดระวัง รู้สึกโล่งใจบ้าง พี่ชายของเธอยังคงเป็นห่วงเธออยู่ รีบเรียกขึ้นเสียงเบาๆ “พี่ชาย……”
ยินจื่อเจิ้นมองสภาพของยินเสี้ยวเสี้ยวอย่างเป็นห่วง อดไม่ได้ที่จะถอนหายใจยาวๆ หันหลังแล้วเดินไปทางประตูทันที แล้วพูดด้วยเสียงเอ็นดู “จัดการเรียบร้อยแล้วโทรหาฉัน ฉันจะมาทันที”
ในตอนที่ยินจื่อเจิ้นกำลังจะเดินออกไปจากด้านข้างของเธอ ยินเสี้ยวเสี้ยวก็ทำแก้มป่องขึ้นมา
โดยไม่รู้ตัว ใบหน้ากลมซาลาเปาที่น่ารักนั้น มีร่องรอยถูกเผาไหม้ที่แดงก่ำจากดวงอาทิตย์แต่เมื่อสายตาของยินจื่อเจิ้น กวาดมองมาจากข้างๆ ยินเสี้ยวเสี้ยวรู้ตัวทันที รีบพยักหน้าอย่างรุนแรง
หลังจากยินเสี้ยวเสี้ยวจัดการตัวเองให้เรียบร้อยแสงเปล่งประกายของดวงอาทิตย์ก็มองไม่เห็นอย่างสมบูรณ์แล้ว ในขณะที่เช็ดผมเปียกของตัวเธอ ก็โทรหายินจื่อเจิ้น ไปด้วย ยังไม่ถึงเวลาหนึ่งนาที ยินจื่อเจิ้นก็ปรากฏตัวขึ้นในห้องของเธออีกครั้ง นั่งอยู่หลังโต๊ะทำงานเล็กๆของเธออย่างมั่งคง และประโยคแรกของเขา ก็ทำให้ยินเสี้ยวเสี้ยวประหลาดใจไปหมดแล้ว
หน้าบึ้งขมวดคิ้ว ยินจื่อเจิ้นพูดโดยตรง “เสี้ยวเสี้ยวพรุ่งนี้ฉันไปที่สำนักงานเขตกับเธอ ไปหย่ากับจิ๋นลี่ยวน”
ประโยคเดียว ยินเสี้ยวเสี้ยวเบิกตากว้าง มองไปตรงคนที่อยู่ด้านหลังโต๊ะทำงาน เนิ่นนานถึงหาเสียงของตัวเองเจอ “พี่ชาย ทำไม? ฉันกับจิ๋นลี่ยวนได้แต่งงานกันแล้ว?”
ถ้าก่อนที่เธอกับจิ๋นลี่ยวนจะเจรจาตกลงกัน ยินจื่อเจิ้นพูดเช่นนี้ออกมา ยินเสี้ยวเสี้ยว อาจจะพิจารณาจริงๆ แต่ตอนนี้เธอไม่อยากที่จะไปคิด
จิ๋นลี่ยวนชายคนนั้น ได้เข้ามาอยู่ในหัวใจของเธอโดยไม่รู้ตัวแล้ว ได้ครอบครองพื้นที่ส่วนหนึ่ง
นัยน์ตายินจื่อเจิ้นหรี่ลงเล็กน้อย แล้วพูดขึ้นอย่างราบเรียบ “เสี้ยวเสี้ยว แฟนที่เธอคบมาสี่ปีก่อนหน้านั้น ไม่ใช่จิ๋นลี่ยวน! เธอก็รู้ ดีฉันจะไม่ให้เธอแต่งงานกับผู้ชายที่เธอไม่รู้จัก ต่อให้เขาคือคนของบ้านจิ๋น!”
ประโยคสั้นๆไม่กี่คำ เปิดเผยข้อมูลจำนวนมาก ยินเสี้ยวเสี้ยวมองยินจื่อเจิ้น อย่างน่าทึ่ง กัดริมฝีปากไว้แน่น แต่รู้สึกเพียงว่า แม้แต่หายใจเข้าออกก็ไม่กล้าแล้ว
ในบ้านยิน ในตอนนี้นอกจากยินไป่ฝันแล้ว ไม่มีใครกล้าขัดคำสั่งของยินจื่อเจิ้น และไม่มีใครกล้าที่จะไม่ฟังคำพูดของเขา ยิ่งกว่านั้น ยินจื่อเจิ้น ผู้ทำเรื่องต่างๆโดยไม่ชอบที่จะอธิบาย ได้ให้เหตุผลที่เพียงพอแล้ว
ยินเสี้ยวเสี้ยว ไม่มีเหตุผลที่จะปฏิเสธได้เลย!