Flash Marriage แต่งงานกับคน(ไม่)ธรรมดา - ตอนที่22 ตระกูลจิ๋นที่ ‘หน้าตาดุร้าย’
ตอนที่22 ตระกูลจิ๋นที่ ‘หน้าตาดุร้าย’
หลังจากขึ้นรถ เขากำลังเตรียมพาเธอไปดูตึกที่เพิ่งจะเปิดใหม่ แต่มือถือกลับดังขึ้นก่อน
“ฮัลโหลครับ คุณย่า” พอได้ยินดังนี้เธอก็หูผึ่ง นี่เป็นครั้งแรกที่เธอได้ยินเรื่องครอบครัวจากปากของเขา “ผมรู้…เพิ่งออกมา ยังเลยครับ….ครับ ผมจะคุยกับเธอเอง คุณย่าสบายใจได้….แล้วเจอกันครับ”
หลังจากที่เขาวางสาย เธอก็มองหน้าเขา เท่าที่ฟังมาเธอน่าจะมีส่วนร่วมในการสนทนาในครั้งนี้ด้วย แต่เธอไม่กล้าถาม….
พอเห็นหน้าตื่นตระหนกของเธอ เขาก็เอ่ยบอกยิ้มๆ “ความจริงฉันอยากพาเธอไปดูบ้านใหม่ของเรา แต่ดูเหมือนว่าจะไปไม่ได้แล้ว คุณย่าอยากเจอเธอ”
เป็นอย่างที่คิด….เธอตกใจตาโต เจอคนในครอบครัวเขางั้นหรอ จู่ๆ เธอก็รู้สึกตื่นกลัวขึ้นมา ถึงแม้ว่าการที่ทั้งคู่แต่งงานกันอย่างรวดเร็วเพราะเรื่องของผลประโยชน์ แต่เธอก็อดไม่ได้ที่จะตื่นเต้น และหวาดกลัว
“อะไรนะ คือนี่มันเป็นครั้งแรกที่ฉันไปบ้านคุณ ไปมือเปล่าแบบนี้คงดูไม่ดี คุณพาฉันไปห้างหน่อยซิ จะได้แวะซื้ออะไรติดไม้ติดมือไปด้วย” พอพูดจบ เธอก็นึกถึงครั้งแรกที่เขาไปบ้านเธอ ซื้อของเยอะแยะเต็มไปหมด เธอก็รู้สึกเครียด เพราะเธอไม่ได้มีเงินเยอะขนาดนั้น และอีกอย่างเธอก็ไม่รู้ว่าคนในครอบครัวเขาชอบอะไร เธอจึงเอ่ยถามขึ้น “คนที่บ้านคุณมีใครบ้างอ่ะ พวกเขาชอบอะไรกันบ้าง ฉันไปแบบนี้จะเหมาะหรอ ไม่ได้ๆ วันนี้ฉันใส่ธรรมดาไป คงต้องกลับไปเปลี่ยนชุด คุณพาฉันกลับไปเปลี่ยนที่บ้านเถอะ….”
ยิ่งคิดเธอก็รู้สึกว่าตัวเองไม่สมควร ทำไมถึงปุ๊บปั๊บแบบนี้ล่ะ ไหนว่าตอนเย็นไง เรื่องพบผู้ปกครองมันเป็นเรื่องใหญ่นะ
เขายกยิ้มมุมปากกับการกระทำของเธอ เขาเลยยกมือข้างหนึ่งมาจับคางตัวเองไว้ พยายามปกปิดรอยยิ้มของตัวเอง แต่เธอเห็นมันได้อย่างชัดเจน
“จิ๋นลี่ยวน คุณอย่ามาขำนะ นี่มันเรื่องใหญ่นะคุณ” เธอร้อนรน แต่เขากลับไม่รู้สึกรู้ร้อนอะไร มองดูเขาขับไกลออกไปเรื่อยๆ ถ้าถึงเวลาเธอจะไปหาซื้อของได้ที่ไหนล่ะ อันที่จริงชื่อเสียงของเธอก็ไม่ดีอยู่แล้ว ถ้าเธอยังทำเรื่องที่ไม่เข้าตาคนในครอบครัวเขาอีก เรื่องระหว่างเขากับเธอก็คงจบลงในไม่ช้าแน่นอน คิดได้ดังนั้น เธอก็รู้สึกร้อนใจมากขึ้นกว่าเดิม “คุณรีบกลับรถเลย ฉันจะได้ไปซื้อของด้วย”
เขาตอบกลับ “อืม รู้แล้ว”
แค่คำง่ายๆ ที่เขาตอบกลับ แต่เธอสามารถรับรู้ได้ว่าตอนนี้เขาอารมณ์ดี แต่กลับกันเธอไม่รู้สึกอารมณ์ดีเลยสักนิด เต็มไปด้วยความตื่นเต้น วิตกกังวล หลังจากที่รถจอดสนิทเธอก็เปิดประตูเดินลงจากรถ เขาเองก็เดินตามเธอเข้าไป
ในห้าง ไม่ว่าเธอจะซื้อของอะไรมักจะถามเขาทุกครั้ง “คนในบ้านคุณชอบมั้ย”
ท่าทางจริงจังของเธอทำให้เขามองเธอไม่วางตา เธอซื้อของมากมาย ซื้อผ้าพันคอให้คุณย่า ซื้อน้ำหอมให้แม่ของเขา ส่วนพ่อเธอซื้อกระเป๋าตังค์ให้เขา ตอนรูดบัตร จู่ๆ เธอก็ถูกเขาจับมือเอาไว้
เธอหันกลับไปมองเขาด้ยความงง “เสี้ยวเสี้ยว ฉันเป็นแค่หมอธรรมดาคนหนึ่งเงินเดือนห้าหกพัน เธอจะแต่งงานกับฉันจริงๆ หรอ ไม่ว่าชื่อเสียงเธอจะไม่ดีแค่ไหน แต่อย่าลืมว่าเธอเป็นถึงคุณหนูตระกูลยิน ถึงจะยังไงเธอก็คงไม่ได้แต่งงานกับคนที่ธรรมดาอย่างฉัน”
เธอมองแรงเขา เธอดึงแขนออกจากมือเขา ยื่นบัตรเครดิตในมือให้กับพนักงาน แล้วหันกลับมาพูดกับเขา “จิ๋นลี่ยวน คุณมาพูดอะไรเอาตอนนี้ ไม่คิดว่ามันจะสายไปหรอ แต่ถึงแม้คุณจะเสียใจตอนนี้คุณก็คงไม่มีโอกาสนั้นแล้ว”
เธอพูดไปด้วยยื่นของในมือให้เธอด้วยใบหน้ามั่นอกมั่นใจ แล้วเอ่ยพูดอย่างเอาแต่ใจ “พี่เป็นคนที่เอาอะไรจะไม่เปลี่ยนใจง่ายๆ ใครใช้ให้คุณรับปากว่าจะแต่งงานกับฉัน ตอนนี้อยากจะเปลี่ยนใจ บอกเลยไม่มีทาง”
พูดจบ เธอก็เดินหันหลังแล้วเดินจากไป ไม่แม้แต่จะสนใจว่าเขาจะเดินตามเธอรึเปล่าตอนแรกเธอกะจะซื้อกระโปรงเปลี่ยนแต่เขาไม่เปิดโอกาสให้เธอ เขาเดินเข้ามาคว้ามือเธอไว้
เธอตกใจเล็กน้อย เธอค่อยๆ เงยหน้าขึ้นจากมือของเขาแล้วมองไปที่หน้าของเขา
“ยินเสี้ยวเสี้ยว ถ้าเป็นแบบนี้ เราก็อย่าหันหลังกลับไปกันเลย” เขามองหน้าเธอ แล้วเดินจูงมือเธอเดินออกจากร้านไป สักพักเขาก็เอ่ยพูดขึ้น “ยินเสี้ยวเสี้ยว ยินดีและขอให้เรามีความสุขในชีวิตแต่งงาน”
คำพูดธรรมดาๆ แต่ยินเสี้ยวเสี้ยวกลับรู้สึกดีใจแปลกๆ คำพูดของเขาอยู่ติดอยู่ในหัวของเธอไปสักพัก
ขอให้เรามีความสุขในชีวิตแต่งงานงั้นหรอ
หมายความว่ายังไง
หลังจากที่ถูกจิ๋นลี่ยวนพาขึ้นรถ เธอเองก็อย่างงงอยู่ เลยหันไปมองหน้าเขาด้วยความไม่เข้าใจ
เขาหมายความว่า เขารับปากจะลอง ลองใช้ชีวิตคู่หลังแต่งงานด้วยกันงั้นหรอ
เห็นหน้างุนงงของเธอ เขากลับรู้สึกอารมณ์ดี เขายกยิ้มตลอดทาง ถ้าปกติแล้วการที่เห็นเขาเป็นแบบนี้ เธอคงรู้สึกหลงใหลเขาจนถอนตัวไม่ออก แต่ตอนนี้เธอไม่มีอารมณ์นั้น พอตอนเธอกลับมาได้สติเธอก็ไม่มีโอกาสได้เห็นแล้ว
เพราะ ถึงบ้านจิ๋นแล้ว
เธอยังไม่ทันได้เตรียมพร้อม จิ๋นลี่ยวนก็เดินอ้อมมาเปิดประตูให้เธอแล้ว ในมือเขาถือของที่เธอซื้อมาพร้อม
เธอก้าวลงมาจากรถด้วยใบหน้าตื่นตระหนก พอเธอเห็นบ้านตรงหน้า เธอก็ตกใจขาอ่อน
นี่บ้านจิ๋นหรอ บ้านของจิ๋นลี่ยวนงั้นหรอ
ยินเสี้ยวเสี้ยวไม่ได้เป็นลูกสาวคนธรรมดา ถึงเธอจะไม่ได้มีหน้ามีตาในตระกูล เธอก็ไม่ได้เป็นคนที่ไม่รู้อะไรเลย ตอนนี้หน้าบ้านที่เธอกำลังยืนอยู่มันไม่ใช่บ้านในความคิดของเธอ
ปิดประตูรถ เขาเอื้อมมือไปจับมือเธอมาวางไว้ตรงหน้าอกของตัวเอง แล้วเขาก็ได้ยินเธอเอ่ยถามเขาด้วยความงง “จิ๋นลี่ยวนเรามาผิดบ้านรึเปล่า ที่นี่คงไม่ใช่….บ้านคุณหรอมั้ง”
สีหน้าเธอไม่ค่อยสู้ดีนัก เธอคิดไม่ว่าใครมาที่นี่ครั้งแรกก็คงจะไม่มีดีเท่าไหร่นักหรอก
เขาเห็นสีหน้าไม่เชื่อของเธอ เขาเลยเลิกคิ้วถามเธอ “แล้วเธอคิดว่าบ้านฉันจะเป็นยังไงล่ะ”
เธอกะพริบตาอย่างไม่น่าเชื่อ สักพักก็ตอบกลับเขา “ก็น่าจะเป็นบ้านที่อยู่ในชนบท มีเพื่อนบ้านที่อบอุ่น ทำอาหารจากฝืน มีชีวิตธรรมดาไม่ใช่หรอ”
ครั้งนี้เขาหัวเราะออกมาอย่างไม่ปิดบังแล้ว ดึงเธอให้เดินตามเขาเข้าไป เป็นบ้านที่ค่อนข้างเก่าแก่แต่ยังคงคงสภาพให้สวยงามเหมือนเดิมไม่เปลี่ยน
ตระกูลจิ๋นอาจจะไม่ยอมรับเธอเป็นลูกสะใภ้ก็ได้
จู่ๆ เธอก็มีความคิดนี้ผุดเข้ามาในหัว ไม่นานก็เดินมาถึงหน้าประตูบ้านแล้ว เธอชะงักเท้ายืนนิ่งอยู่กับที่ ทำให้เขาที่จูงมือเธออยู่ก็ต้องหยุดไปด้วย ทั้งสองหันกลับมามองหน้าด้วยความเงียบ
ยินเสี้ยวเสี้ยวรู้สึกกลัวขึ้นมา เธอไม่กล้าเข้าบ้านเขา
ตระกูลจิ๋นนะ เป็นถึงตระกูลที่มีชื่อเสียงของเมืองT เป็นบริษัทที่มีบริษัทย่อยมากมายนับไม่ถ้วน เธอไม่เคยคาดคิดมาก่อนว่าเขาจะเป็นคนของตระกูลจิ๋น เธอเลยกล้าแต่งงานกับเขา และเธอคิดไม่ถึงว่าเขาจะเป็นคุณชายคนที่สามที่เป็นถึงหมอ และยังถูกเธอดึงเข้ามายุ่งเกี่ยวกับปัญหาของเธอแบบนี้
เขาหรี่ตามองเธอ เขาฉลาดขนาดนี้ดูก็รู้ว่าเธอกำลังคิดอะไรอยู่
เขาก้าวเข้าไปจับมือที่พยายามหนีของเธอไว้แน่น จนเธอขมวดคิ้วรู้สึกเจ็บเล็กน้อย
“ยินเสี้ยวเสี้ยว เธอลงเรือมากับฉันขนาดนี้แล้ว ยังคิดว่าตัวเองจะมีโอกาสขึ้นฝั่งได้อยู่อีกหรอ” เขาเอ่ยถามเธอด้วยน้ำเสียงเยือกเย็น โมโหเล็กน้อย เธอใจหายเพราะนี่เป็นครั้งแรกที่เขาเห็นเธอโกรธ
เธอมองหน้าเขา แววตาเขาเต็มไปด้วยความแน่วแน่ เธอหัวใจเต้นแรงขึ้นมาเล็กน้อย
“ยินเสี้ยวเสี้ยว ตั้งแต่วินาทีที่เธอตัดสินใจแต่งงานกับฉัน เธอก็หมดโอกาสที่จะกลับใจแล้ว”
เห็นสายตาจริงจังของเขา เธอก็รู้สึกเหมือนหายใจเริ่มติดขัด
เขาจ้องหน้าเธอ ไม่พูดอะไรต่อ แล้วดึงแขนให้เธอเดินตามเขาเข้ามาด้วยความเอาแต่ใจแต่การกระทำยังคงอ่อนโยนเหมือนเดิม เดินขึ้นบันไดไปทีละขั้น
พอเดินมาถึงหน้าประตู เธอกับกุมมือเขาไว้แน่น เขาหันมามองเธอ แต่เธอไม่ได้มองเขา เธอก้มหน้าตั้งสติสูดหายใจเข้าลึกๆ
สำหรับเธอแล้ว คนในบ้านจิ๋น ต่างก็น่ากลัว ไม่งั้นก็คงไม่มีทางที่ตระกูลจะอยู่ได้มานานเป็นร้อยๆ ปีแบบนี้หรอก และอีกอย่างเมืองนี้ก็ไม่ได้มีอายุนานขนาดนั้น ถ้าบอกว่าไม่มีอะไร ก็คงจะไม่มีใครเชื่อหรอก
จิ๋นลี่ยวนเองก็ไม่ได้รีบร้อน รอให้เธอทำใจให้เสร็จ เขารู้ดีว่าท่าทางแบบนี้ของเธอ เธอคงเตรียมใจยอมรับได้แล้ว ยอมรับคนในครอบครัวเขา ยอมรับเขาเป็นสามีของเธอ นี่เป็นครั้งแรกที่เขารู้สึกได้ถึงการมีใครสักคนที่คอยตามใจแบบนี้นี้ก็รู้สึกดีไปอีกแบบ
ประตูถูกเปิดออก เธอมีความรู้สึกเหมือนกับว่าตัวเองกำลังเดินเข้าไปในปราสาท ผู้ชายที่อยู่ข้างๆ พาเธอเดินเข้ามาในโลกของตัวเองอย่างเอาแต่ใจ และบังคับไม่ให้เธอหนีไปไหนได้
“คุณหญิงย่า คุณหญิงย่า คุณชายสามพาคุณผู้หญิงกลับมาแล้วค่ะ”
หลังจากเดินเข้าไปได้เพียงไม่กี่ก้าว ก็มีเด็กรับใช้ตะโกนแล้ววิ่งเข้าไปในห้องครัว ท่าทางเหมือนตื่นเต้นที่ได้เจอผู้หญิงของเขา
ไม่นาน เธอก็ได้ยินเสียงของใครบางคนเอ่ยพูดขึ้น ทำให้เธอตื่นเต้นขึ้นมากกว่าเดิม
“มาแล้วหรอ ไหน อยู่ไหน” เธอเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงดีใจ แล้วเธอก็มองเห็นผู้หญิงที่เดินเข้ามาทางเธอ เธอพูดขึ้นต่อ “ในที่สุดวันที่ฉันรอคอยก็มาถึง ในที่ฉันก็มีหลานสะใภ้กับคนอื่นสักที ฉันจะดูซิว่าใครน่าไหนจะกล้ามาข่มฉันอีก”
หลังจากที่ได้ยินเสียงจบ ในที่สุดเธอก็ได้เห็นคุณหญิงย่าที่ขึ้นชื่อของความโหดของตระกูลจิ๋นสักที