Flash Marriage แต่งงานกับคน(ไม่)ธรรมดา - ตอนที่26 ฉันสามารถให้พวกนายหย่ากันได้ตลอดเวลา!
- Home
- Flash Marriage แต่งงานกับคน(ไม่)ธรรมดา
- ตอนที่26 ฉันสามารถให้พวกนายหย่ากันได้ตลอดเวลา!
ตอนที่26 ฉันสามารถให้พวกนายหย่ากันได้ตลอดเวลา!
ยินไป่ฝันถูกแรงกดดันของจิ๋นลี่ยวนที่ปล่อยออกมาทำให้หวาดกลัว จ้องมองจิ๋นลี่ยวน ครึ่งวันก็ยังไม่ได้สติกลับมา? รอจนสติกลับมาก็โกรธอยู่บ้างอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
แค่หมอแผนกศัลยกรรมเล็กๆคนหนึ่งแถมไม่ได้มีความสามารถขนาดนั้น มีฐานะอะไรมาถามเขาแบบนั้น? เขาเป็นถึงหัวหน้าครอบครัวของบ้านยิน! หรือว่าจิ๋นลี่ยวนคิดว่าแต่งงานกับยินเสี้ยวเสี้ยวก็เป็นลูกเขยของบ้านยินแล้ว? มันคงไม่ได้ง่ายแบบนั้นหรอกนะ?
“เหอะ!” เหอะแรงๆออกมาครั้งหนึ่ง ยินไป่ฝันไม่สนที่จะแสดงท่าทางไม่พอใจในตัวจิ๋นลี่ยวนออกมา ในที่สุดคำพูดที่ติดในใจมาทั้งวันก็มีโอกาสพูดออกมา กลิ่นอายที่เต็มไปด้วยการหยั่งเชิง! น้ำเสียงทั้งหมดที่แสดงความไม่พอใจต่อจิ๋นลี่ยวน “ทำไม? เรื่องของบ้านยินของฉันนายยังไม่ได้แต่งงานกับลูกสาวฉันก็อยากที่จะเข้ามายุ่งเกี่ยวแล้ว? อย่าคิดนะว่านายแต่งงานกับยินเสี้ยวเสี้ยวเป็นลูกเขยของบ้านยินได้แล้ว ถ้าหากว่าฉันโกรธขึ้นมาสามารถที่จะสั่งให้เสี้ยวเสี้ยวหย่ากับนายได้ตลอดเวลา!”
เพียงประโยคเดียว ทุกคนในห้องรับแขกก็เงียบลง ใบหน้าของยินเสี้ยวเสี้ยวซีดขาวลง
หย่า?
การแต่งงานของเธอในสายตาของพ่อเป็นเพียงแค่เรื่องตลก เป็นเพียงแค่ข้อตกลง พวกเขาคิดว่าหากสามีของยินเสี้ยวเสี้ยวไม่สามรถทำประโยชน์อะไรให้บ้านยินได้ก็สามารถที่จะสั่งให้ยินเสี้ยวเสี้ยวหย่าได้ตลอดเวลา ไม่สนใจว่าเรื่องนี้จะส่งผลกระทบกับเธอ! และก็ไม่สนความคิดของเธอ!
นี้คือครอบครัวของเธอ เป็นพ่อแม่ของเธอ!
เหตุการณ์นี้ทำให้ยินรั่วอวิ๋นกับเซี่ยงเฉิงแอบดีใจอยู่เล็กน้อย ในตระกูลของพวกเขาก็เป็นแบบนี้ ไม่มีภูมิหลัง ไม่มีเบื้องหลัง อย่างนั้นก็เป็นเพียงเนื้อปลาของคนอื่น! ในสายตาของพวกเขาการมีอยู่ของจิ๋นลี่ยวนก็เป็นแบบนั้น!
“พ่อ ท่านอย่างโกรธเลย พี่เขยแค่ถามคำเดียวเองนะ” ยินรั่วอวิ๋น ยิ้ม “ให้คำแนะนำ” ยินไป่ฝันประโยคหนึ่ง หันกลับไปมองจิ๋นลี่ยวน “พี่เขย พี่ก็อย่าโกรธเลยนะ พ่อไม่ได้มีความหมายแบบนั้น เพียงแค่คิดว่าพวกเราบ้านยินไม่ใช่ตระกูลธรรมดา ทุกวันพ่อทำงานที่บริษัทยุ่งมาก อาจไม่มีเวลาไปกินข้าวกับพ่อแม่พี่ ดังนั้นการหมั่นของพี่กับพี่สาวก็ “จัดการเรียบร้อย” แล้ว………”
ตอนพูด ยินรั่วอวิ๋นก็หันไปมองเซี่ยงเฉิงอย่างเขินอายครั้งหนึ่ง หันไปจ้องยินเสี้ยวเสี้ยวสายตาก็แสดงความภูมิใจ เสียงที่เต็มไปด้วยความนุ่มนวล “เพียงแต่ฉันกับเซี่ยงเฉิงไม่เหมือนกัน………. เซี่ยงเฉิงเป็นคุณชายบ้านเซี่ยงถึงแม้เขาจะมีน้องสาวคนหนึ่ง แต่บ้านเซี่ยงก็ต้องให้เซี่ยงเฉิงสืบทอดต่อ ตอนนั้นเซี่ยงเฉิงก็เป็นคนที่มีอำนาจมาที่สุดในบริษัท “บริษัทเซี่ยงเวิ่น” แถมธุรกิจของบ้านยินยังร่วมมือกับบ้านเซี่ยงต้องหลายอย่าง ดังนั้นพวกเราถึงได้มีงานหมั่น………..”
แต่ละคำแต่ละประโยคต่างเป็นการเยาะเย้ยยินเสี้ยวเสี้ยวกับจิ๋นลี่ยวนถึงแม้เธอจะพูดไม่ได้ชัดเจนแต่ก็รู้สึกภูมิใจ ยินเสี้ยวเสี้ยวไม่ได้พูดอะไรสำหรับเธอแต่ไหนแต่ไรไม่เคยคิดที่จะไปสู้ด้วย ในเมื่อพวกเขาดูภูมิใจอย่างมาก งั้นก็ให้พวกเขาภูมิใจต่อไปเถอะ ยังไงก็ไม่มีใครสนใจชีวิตของเธอ!
จิ๋นลี่ยวนฟังที่ยินไป่ฝันกับยินรั่วอวิ๋นพูดจบไปครึ่งวันแล้วก็ยังไม่ได้พูดอะไร แม้แต่ตอนที่ยินรั่วอวิ๋นพูดจบไปตั้งนานแล้วก็ยังไม่มีทีท่าที่จะเปิดปากพูด ท่าทางแบบนั้นทำให้บ้านยินเข้าใจว่าเขายอมแพ้ไปแล้ว?
ยินเสี้ยวเสี้ยวเผยยิ้มมุมปากขึ้น คนพวกนี้มองยังไงว่าจิ๋นลี่ยวนเป็นคนที่ยอมแพ้ง่าย?
ยินรั่วอวิ๋นมองดูจิ๋นลี่ยวนในใจรู้สึกดีอย่างมาก!
จิ๋นลี่ยวนแล้วยังไงพูดให้ดีก็เป็นเพียงหมอศัลยกรรมธรรมดาคนหนึ่งเท่านั้น เป็นพวกที่ทำงานรับเงินเดือนไปวันๆ เพียงแค่มีผิวพรรณดีเท่านั้นก็เหมือนแม่ของเธอหลี่หมึ้งพูดไว้ จิ๋นลี่ยวนนอกจากหน้าตาแล้วก็ไม่มีอะไรมาสู้เซี่ยงเฉิงได้!
เปลี่ยนมาพูดถึงใบหน้าที่ดูน้อยใจและร้อนรนแบบนั้น ยินรั่วอวิ๋นก็เปิดปากพูดเพื่อหารือกับยินเสี้ยวเสี้ยวและจิ๋นลี่ยวน “พี่สาวพี่เขยหรือว่าเอาแบบนี้ ถึงเวลานั้นพี่ก็พาแม่ของพี่เขยมา พวกเราช่วยกันจัดงานหมั้นให้ ได้ไหม?”
แค่ฟังหลี่หมึ้งก็รู้สึกพอใจเป็นพิเศษ แถมยังพูด “ตำหนิ” ยินรั่วอวิ๋นออกไป “ลูกเจ้าเด็กโง่ ครอบครัวพี่เขยของเธอเป็นเพียงครอบครัวธรรมดา ไปถึงที่จัดงานแบบนั้นใจจะอยู่กับเนื้อกับตัวหรือไง? แบบนั้นลูกยิ่งไม่ใช่หาเรื่องเพิ่มให้พี่สาวกับพี่เขยหรือไง? แม่รู้ว่าลูกรักพี่สาว แต่ว่าจะจัดการแบบนั้นได้ไงกัน?”
สายตาหรี่ลงเล็กน้อย มุมปากของจิ๋นลี่ยวนเผยขึ้นเล็กน้อย สำหรับท่าทางที่เหมือนการเล่นกันแบบนั้นของยินรั่วอวิ๋นกับหลี่หมึ้งเขาแทบไม่ได้สนใจ สายตาดำจ้องมองไปยังคนที่นั่งอยู่หัวโต๊ะอย่างยินไป่ฝันอยู่ตลอด
ไม่มีงานหมั่น? ตอนนี้ยังคิดจะถอนหมั่น?
ถึงอย่างนั้นก็ต้องถามว่าเขาจิ๋นลี่ยวนเห็นด้วยหรือไม่!
ยินไป่ฝันรับรู้ได้ถึงสายตาของจิ๋นลี่ยวน กำลังที่จะหันไปก็ได้ยินน้ำเสียงของจิ๋นลี่ยวนที่มาพร้อมสามส่วนที่เยาะเย้ย สามส่วนที่ดูสบายๆ สี่ส่วนที่เต็มไปด้วยความหยิ่งผยอง
“ความหมายของคุณคือยังอยากที่จะเอาเสี้ยวเสี้ยวไปแต่งงานกับผู้จัดการจาง หวังเปลี่ยนเป็นผลประโยชน์ให้บ้านยิน? ฉันไม่เข้าใจจริงๆที่จริงแล้วหัวหน้าครอบครัวบ้านยินทำไมสายตาถึงได้สั้นแบบนั้น” พูดจบจิ๋นลี่ยวนก็ไม่ได้ปล่อยให้ยินไป่ฝันมีโอกาสได้พูด หันไปมองทางยินเสี้ยวเสี้ยว พูดเสียงเบา “วันนี้รีบกลับไปพักผ่อน ฉันกลับบ้านไปพูดกับพ่อแม่ก่อนพรุ่งนี้มากินอาหารกลางวันด้วยกัน”
ยินเสี้ยวเสี้ยวยังไม่ได้สติที่อยู่ดีดีจิ๋นลี่ยวนก็หันมา เพียงพยักหน้าไปอย่างไม่รู้ตัว
ใครก็ต่างคิดไม่ถึงว่าจิ๋นลี่ยวนจะยืนขึ้นมา การกระทำแบบนี้ในที่สุดก็ถูกย้อนกลับไปแล้ว ส่วนคนที่ถูกจิ๋นลี่ยวนทำให้สั่นอย่างยินไป่ฝัน เพียงพริบตาบรรยากาศห้องรับแขกโดยรอบก็ดูตึงเครียดขึ้นมา!
“จิ๋นลี่ยวน! นายหยุดเดี๋ยวนี้นะ! ท่าทางนายมันยังไงกัน! มีคนอย่างนายที่กล้าพูดกับผู้หลักผู้ใหญ่แบบนี้ด้วยหรือไง?”
ยินไป่ฝันโกรธจนลุกขึ้นยืนจากโซฟา เส้นประสาทหดเกร็งสายตาที่เบิ่งกว้าง มองจิ๋นลี่ยวนอย่างโกรธเคือง!
เป็นถึงหัวหน้าครอบครัวบ้านยิน เขายังไม่เคยพบไม่เคยเจอเด็กรุ่นหลังที่หยิ่งแบบนี้!
จิ๋นลี่ยวนเดินมาที่ด้านข้างโซฟา หันกลับไปมองผู้คนที่หนังอยู่ที่โซฟา คิ้วกระตุกเล็กน้อย ราวกับว่าไม่เข้าใจเลยว่าทำไมยินไป่ฝันถึงได้โกรธแบบนั้น พูดอย่างไร้เดียงสา “พ่อคุณกำลังโกรธอะไรอยู่?”
ประโยคที่ถามกลับ ความโกรธที่อัดแน่นอยู่ที่หน้าอกของยินไป่ฝันถูกกั้นไว้ หรือว่าเขาถูกจิ๋นลี่ยวนทำให้โกรธโดยไม่รู้ตัว? แบบนั้นไม่ใช่หาเรื่องใส่ตัวหรือไง? หากไม่พูดความโกรธนี้ก็คงติดอยู่ในอกแบบนั้นยากที่จะรับได้!
ยินเสี้ยวเสี้ยวมองดูจิ๋นลี่ยวน ไม่ได้พูดอะไร เธอลุกขึ้นจากที่ของตัวเองอย่างว่าง่าย ก้มลงไปพูดกับยินไป่ฝันเบาๆ “พ่อแม่ ฉันไปก่อนนะ ในเมื่อรั่วอวิ๋นต้องการแต่งงานก่อนก็แต่งเถอะ ฉันกับลี่ยวนไม่ได้รีบร้อน”
เป็นแค่งานๆหนึ่งเท่านั้น เธอไม่ได้คิดที่จะสนใจ ยังไงก็ตามหนังสือเล่มแดงๆที่สำคัญสำหรับการแต่งงานก็ไม่ใช่อยู่ในมือแล้วหรือไง?
พูดจบยินเสี้ยวเสี้ยวก็เดินออกมายืนอยู่ข้างจิ๋นลี่ยวนพอดี เงยหน้าไปมองที่ผู้ชายคนนั้น อดไม่ได้ที่จะพูด “ขับรถระวังหน่อย”
จิ๋นลี่ยวนก้มลงมามองยินเสี้ยวเสี้ยว ริมฝีปากเผยขึ้น ยื่นมือไปจับเส้นผมของเธอมาทัด พยักหน้า สายตา “ไม่ทันระวัง” มองเห็นเซี่ยงเฉิงกำมือแน่นเพราะการกระทำของเขา
มองดูยินเสี้ยวเสี้ยวขึ้นไปข้างบน จิ๋นลี่ยวนถึงเปิดปากพูดอย่างหยิ่งผยองและเยาะเย้ยเป็นพิเศษ “การแต่งงานของฉันกับเสี้ยวเสี้ยว ในเมื่อพ่อกับแม่ไม่อยากลำบาก งั้นก็ให้ทางบ้านฉันเป็นคนจัดการแล้วกัน งานหมั้นกับงานแต่งงานฉันจะไม่ทำให้เสี้ยวเสี้ยวดูด้อยแม้แต่น้อย เธอแต่งกับฉันต้องใช้ชีวิตอยู่ด้วยกัน ไม่ใช่แต่งมาเพื่อมาทนทุกข์ทรมาน ส่วนยินรั่วอวิ๋นกับเซี่ยงเฉิง จะหมั้นก็หมั้น จะแต่งงานก็แต่ง มันไม่ได้เกี่ยวอะไรกับฉัน”
คำพูดที่พ่นออกมา ทำให้ทุกคนในห้องรับแขกถูกจิ๋นลี่ยวนที่ดูทรงพลังมาตั้งแต่เกิดกดเอาไว้ ครึ่งวันสติก็ยังไม่กลับมา จนถึงตอนที่จิ๋นลี่ยวนมองเยาะเย้ยไปทางเซี่ยงเฉิง “คุณชายเซี่ยง ในเมื่อพวกคุณจะแต่งงานกันอย่างนั้นฉันที่เป็นพี่เขยก็ส่งของขวัญให้หน่อย จำไว้ ถ้าหากเงินไม่พอฉันให้นายยืมได้”
พูดจบจิ๋นลี่ยวนหันกลับไปยืนต่อหน้ายินไป่ฝัน โค้งคำนับอย่างมีมารยาทมาก จากนั้นก็หันตัวเดินจากไป
ท่าทางที่ดูหยิ่งและความคิดที่หยิ่งผยอง!
ความโกรธของยินไป่ฝันโกรธจนอยากฆ่าคน แค่หมอศัลยกรรมตัวเล็กๆ ช่างกล้ามาก! ทันใดนนั้นยินไป่ฝันก็นึกบางอย่างได้! เรียกหลี่หมึ้งสองคนเดินไปยังห้องสมุด
โทรศัพท์ของยินรั่วอวิ๋นดังขึ้น เธอหันตัวเดินไปรับโทรศัพท์ทางสวนดอกไม้เล็กๆของบ้านยิน ตอนนี้เหลือเพียงเซี่ยงเฉิงคนเดียวในห้องรับแขก สายตาจ้องไปทางชั้นบน อีกไม่นานสติของเซี่ยงเฉิงก็พาเดินไปยังห้องของยินเสี้ยวเสี้ยว
ภายในห้อง ยินเสี้ยวเสี้ยวนั่งอยู่ข้างเตียงด้วยใจที่เจ็บปวด หันไปมองดาวที่อยู่นอกหน้าต่าง
ฤดูร้อนมาถึงแล้ว ดาวบนท้องฟ้ายามค่ำคืนยิ่งดูยิ่งสวยงาม เธอถอนหายใจเบาๆ ยินเสี้ยวเสี้ยวยื่นมือไปหยิบกระเป๋าเงินที่ภายในมีกำไลเงินเล็กๆวางอยู่ ด้านข้างกำไลสลักว่า “ลูกสาวที่ฉันรักที่สุด” ไม่กี่คำ สายตาเผยความเสียใจ
เธอรู้ รู้ดีว่าตัวเองไม่ใช่ลูกของหลี่หมึ้ง เธอเป็นคุณหนูใหญ่ของบ้านยิน ทว่าแม่ของเธอก็ไม่ใช่แม่ใหญ่ของตระกูล ในบ้านยินการมีอยู่ของเธอเป็นเพียงสิ่งที่แปลกประหลาด พ่อก็ไม่ได้ชื่นชอบเธอ……….ส่วนเธอแม้แต่รูปซักใบของแม่ยังไม่มี สิ่งนี้เป็นสิ่งที่เธอเสียดายที่สุด……….
ทันใดนั้น ยินเสี้ยวเสี้ยวนึกถึงจิ๋นลี่ยวน ผู้ชายคนนั้นถูกเธอลากเข้ามาภายในบ้านที่ดูวุ่นวายแบบนี้ จะเกลียดเธอไหม? เผยปากเยาะเย้ยถึงแม้จะเกลียดเธอจะทำอะไรได้? ตอนนี้เธอยังหวังให้จิ๋นลี่ยวนช่วยเธอ คำพูดของยินไป่ฝันวันนี้ เขาฟังเข้าใจเธอก็ฟังเข้าใจ เพียงแค่ผู้จัดการจางฝั่งนั้นไม่ได้ตอบรับ ดังนั้นถึงมาลงที่เธอเท่านั้น……….
ยินเสี้ยวเสี้ยวกำลังอยู่ในภวังค์ ขณะที่เธอตกอยู่ในภวังค์เธอไม่แม้แต่เห็นว่าตอนนี้เซี่ยงเฉิงได้แอบเข้ามาในห้องของเธอเรียบร้อยแล้ว จนถึงตอนนี้ที่มายืนอยู่ข้างเตียงของเธอ
ใบหน้าที่อยู่ดีก็ซีดลง ยินเสี้ยวเสี้ยวรีบหันไปมองว่ามีอะไรบังแสงอยู่อย่างไม่คิด ก็พบกับเซี่ยงเฉิงที่อยู่ดีก็ปรากฎตัวขึ้นในห้อง เธอตกใจจนทำให้ทั้งตัวแข็งทื่อ เปิดปากกำลังจะส่งเสียงร้อง………..
อ่ะ!
ดวงตาทั้งสองของยินเสี้ยวเสี้ยวเบิ่งกว้าง มองไปยังเซี่ยงเฉิงอย่างไม่คาดคิด เพียงพริบตาก่อนเธอจะส่งเสียง เซี่ยงเฉิงก็เอามือปิดปากเธอไว้ เสียงกรีดร้องถูกปิดไว้ด้วยฝ่ามือ! เป็นเพราะตกใจและสับสนบวกกับแรงที่เยอะของเซี่ยงเฉิง ยินเสี้ยวเสี้ยวถูกเซี่ยงเฉิงปิดปากจนล้ม หมุนกลับ เซี่ยงเฉิงทับอยู่บนตัวเธอ!
สายตาเบิ่งกว้างด้วยความตกใจ ร่างกายของยินเสี้ยวเสี้ยวกำลังเตือนภัย มือเล็กต่อสู้สุดกำลังอยู่ที่หน้าอกของเซี่ยงเฉิง ท่าทางเหมือนแม่วัวกำลังปกป้องลูกวัว อีกไม่นานก็จะใช้กำลังทั้งหมดที่ตัวเองมี!
ตั้งแต่วันนี้ที่เธอถูกจิ๋นลี่ยวนเข้ามาในห้อง ตอนที่เธอกลับมาที่ห้องก็ล็อกประตูไว้ ทำไม่เธอคิดไม่ถึงว่าเซี่ยงเฉิงจะรู้ว่ากุญแจที่ใช้เปิดทุกห้องของบ้านยินวางไว้ตรงไหน ถึงได้เดินเข้ามาในห้องของเธออย่างง่ายดายเช่นนี้! และสิ่งที่เธอคิดไม่ถึงคือ ตำแหน่งของกุญแจที่ใช้เปิดทุกห้องของบ้านยินเป็นยินรั่วอวิ๋นที่บอกเขา!
“เสี้ยวเสี้ยว เสี้ยวเสี้ยว…………” เซี่ยงเฉิงกดยินเสี้ยวเสี้ยว สายตาที่เต็มไปด้วยความเสียใจ ร่างกายตอบสนองด้วยการแข็งทื่อ “เธออย่าแต่งงานกับจิ๋นลี่ยวนได้ไหม? พวกเราอยู่ด้วยกันได้หรือเปล่า?”