Flash Marriage แต่งงานกับคน(ไม่)ธรรมดา - ตอนที่59 ยินเสี้ยวเสี้ยวระเบิดอารมณ์
ตอนที่59 ยินเสี้ยวเสี้ยวระเบิดอารมณ์
หลี่หมึ้งและเซี่ยงเฉิงไม่ได้นั่งห่างกันมากนัก และตำแหน่งที่เซี่ยงเฉิงนั่งอยู่ก็อยู่ในระยะสายตาเธอพอดี เพียงแค่ผันไปมองแค่แวบตาเดียว ในใจของเธอนิ่งอึ้งออกมาเล็กน้อย จากนั้นก็ยิ่งตวาดเสียงดังลั่นออกมาด้วยความไม่พอใจ!
“ยินเสี้ยวเสี้ยว นังเด็กรังแต่จะสร้างเรื่องอับอายขายขี้หน้า รีบไสหัวออกไปให้พ้นจากหน้าฉันเดี๋ยวนี้! วันวันนึงเทียวแบกหน้าไปอ่อยผู้ชายมาตั้งไม่รู้กี่คน ไม่รู้จริงๆว่าทำไมบ้านยินของพวกเราถึงได้มีลูกสาวแบบแกได้!” หลี่หมึ้งพูดไปพลางเดินเข้าไปหายินเสี้ยวเสี้ยว ไม่เพียงแต่เข้าไปใกล้แค่นั้นแต่เธอได้ยกมือตั้งขึ้นมาหมายจะตบลงไปบนใบหน้าของยินเสี้ยวเสี้ยวที่ยังไม่ได้สติกลับมา ปากก็พูดออกไปว่า “วันนี้ฉันจะสั่งสอนแกเอง!”
ถาวหยีที่ยืนอยู่ข้างๆ เองก็ไม่ทันได้ตั้งตัว ก็เห็นว่าหลี่หมึ้งได้เงื้อมมือเข้ามาแล้ว ใบหน้าเล็กก็ซีดลงทันใด
ในตอนนั้นเองยินเสี้ยวเสี้ยวก็กำลังนิ่งอึ้งไม่ได้สติ ดวงตาทั้งสองข้างเบิกกว้างมองไปยังฝ่ามือที่หมายจะตบเข้ามาอย่างแรง
เล็บเจลสีฉูดฉาดของหลี่หมึ้งที่ดูเหมือนเพิ่งจะทำมาได้ไม่นาน เล็บคมๆแบบนี้ถ้าข่วนลงไปบนหน้าของเธอ ยินเสี้ยวเสี้ยวก็คงจะต้องเสียโฉมแน่!
ในตอนที่ จิ๋นลี่ยวนยืนอยู่ด้านหน้าของหลี่หมึ้งก็ได้เตรียมตัวเองไว้แล้ว ถึงแม้ว่าเขาจะไม่ได้คบค้าสมาคมกับคนบ้านยินนัก แต่เพียงแค่ไม่กี่ครั้งที่ได้เจอกับพวกเขาก็ได้ทำให้เขารับรู้นิสัยของพวกเขาได้อย่างชัดเจน คนบ้านยินนอกจากยินจื่อเจิ้นแล้วก็ล้วนแล้วแต่ไม่ชอบยินเสี้ยวเสี้ยวกันทั้งนั้น ดังนั้นในตอนที่หลี่หมึ้งก้าวเข้าไปนั้น จิตใต้สำนึกของจิ๋นลี่ยวนก็ได้บอกให้เขาเตรียมรับมือเอาไว้
เพี๊ยะ!
สุดท้ายฝ่ามือนั้นก็ได้ตบลงมา เพียงแค่ไม่ได้ตบลงบนใบหน้าของยินเสี้ยวเสี้ยว แต่ตบลงมายังหลังมือของจิ๋นลี่ยวนที่ขวางเอาไว้ได้ทัน ยินเสี้ยวเสี้ยวตกใจกับเสียงปะทะกันที่ดังออกมา จากนั้นก็ผ่อนลมหายใจออกมา…
ดวงตาทั้งสองข้างเบิกโพรง แม้แต่ถาวหยีที่ยืนอยู่ข้างกันก็อดไม่ได้ที่จะอ้างปากค้างออกมา ส่วนยินจื่อเจิ้นก็ยิ่งขมวดคิ้วแน่นออกมา
ฝ่ามือนั้นของหลี่หมึ้งได้ทำให้มือของจิ๋นลี่ยวนบาดเจ็บ!
ยินเสี้ยวเสี้ยวเอื้อมมือเข้าไปคว้ามือใหญ่ที่เข้ามาปกป้องเธอเอาไว้ราวกับคนเสียสติ รอยแผลหลังมือสีน้ำตาลจากบทเรียนครั้งที่แล้วได้ผลิออกจนเลือดไหลออกมา ส่วนหลี่หมึ้งเองก็ยิ่งร้องออกมาอย่างเจ็บปวด
“จิ๋นลี่ยวนบ้าไปแล้วหรอ! นายอยากตายหรือไง? โอ๊ย ฉันเจ็บเล็บมากเลย!” หลี่หมึ้งกุมเล็บตัวเองเอาไว้ สีหน้าซีดลง สายตามองไปยังจิ๋นลี่ยวนอย่างอาฆาตแค้น ราวกับเขาทำอะไรที่ไม่น่าให้อภัยออกไปยังไงอย่างนั้น “หมอกระจอกๆอย่างนายอย่ามาทำตัวเป็นวีรบุรุษแถวนี้ นายคิดว่านายจะอยู่คอยปกป้องยินเสี้ยวเสี้ยวได้ทุกวันหรือไง? ฉันบอกแกเอาไว้นะ! มันเป็นลูกสาวของบ้านยิน เพียงแค่ฉันอยากจะทำ ถ้าฉันอยากจะตบฉันก็จะตบ หรือถ้าอยากจะด่าฉันก็ด่า! แก…”
“หุบปากเดี๋ยวนี้!”
ทันใดนั้น หลี่หมึ้งที่กำลังส่งเสียงอันน่าหนวกหูอยู่นั้นก็ราวถูกสกัดจุดให้หยุดเอาไว้ เธอจ้องมองไปยังเด็กสาวตรงหน้าอย่างโง่งม ทั้งๆที่เป็นแค่นักศึกษาที่เพิ่งออกมาจากเขตมหาวิทยาลัยเท่านั้น แต่เธอเอาความน่ากลัวขนาดนี้มาจากไหนกัน?
ยินเสี้ยวเสี้ยวโกรธถึงขีดสุดแล้ว! เธอตวาดออกมาเสียงดังลั่นจนทำให้ความคิด คำพูด แม้กระทั่งการกระทำของทุกคนในห้องนี้หยุดลง
ถึงแม้ว่าเธอไม่ได้เรียนแพทย์ แต่เธอก็รู้ว่าสำหรับศัลยแพทย์แล้วมือคู่นึงมีความสำคัญแค่ไหน ยิ่งไม่ต้องพูดถึงมือของจิ๋นลี่ยวนที่ได้ชื่อว่ามือจอมฉมังของเขา บางทีอาจจะเทียบเท่ากับผู้ประกอบการมือผีในตลาดหุ้นที่ได้ร่ำลือกันคู่นั้นก็อาจเป็นได้ แต่วันนี้หลี่หมึ้งกลับทำร้ายมือเขาต่อหน้าต่อตาเธอแบบนี้!
ยินเสี้ยวเสี้ยวก้าวเข้าไปด้านหน้าของหลี่หมึ้ง เพื่อปกป้องจิ๋นลี่ยวนราวกับปกป้องลูกตัวเอง การกระทำแบบนั้นของเธอทำเอาถาวหยีเบิกตากว้างออกมา เธอไม่เคยเห็นยินเสี้ยวเสี้ยวที่เป็นแบบนี้มาก่อน!
“ฉันจะบอกแม่เอาไว้ว่าถ้าวันนี้มือของจิ๋นลี่ยวนเป็นอะไรขึ้นมาแม้แต่นิดเดียว ฉันไม่ปล่อยแม่ไปแน่!” ยินเสี้ยวเสี้ยวจ้องมองหลี่หมึ้งด้วยความโกรธ ถึงแม้ว่าจะพูดออกมาเสียงต่ำแต่ก็ไม่อาจปิดซ่อนสีหน้าไม่พอใจที่ออกมาได้ “ทางที่ดีแม่ก็สวดมนต์ภาวนาให้จิ๋นลี่ยวนไม่เป็นอะไรเอาไว้นะคะ ไม่อย่างนั้นฉันกลัวว่าถึงแม้ว่าแม่จะขายบ้านยินก็ยังชดใช้กลับมาไม่ได้!”
ทุกคนที่อยู่ในเหตุการณ์ในตอนนี้มองมายังยินเสี้ยวเสี้ยวที่ต่างไปจากเดิม รังสีพิฆาตนั้นทำให้คนเหล่านั้นรู้สึกหวาดกลัว
ยินรั่วอวิ๋นหันมองยินเสี้ยวเสี้ยวด้วยใบหน้าซีดเผือด สติหลุดลอยไปเป็นเวลานาน แม้แต่เซี่ยงเฉิงเองก็หวาดกลัวในท่าทางอย่างนี้ของเธอ ในช่วงระยะเวลาที่พวกเขาคบกัน ยินเสี้ยวเสี้ยวไม่เคยที่จะระบายความโกรธมากมายขนาดนี้ออกมาเลยสักครั้ง!
จิ๋นลี่ยวนที่ยืนอยู่ด้านข้างของยินเสี้ยวเสี้ยว เหลือบตามองหญิงสาวเล็กน้อย นัยน์ตาที่แหลมคมหรี่ลงเล็กน้อย ริมฝีปากเม้มเข้าหากัน
อืม ยินเสี้ยวเสี้ยวที่เป็นแบบนี้ก็ยังทำให้เขารู้สึกสนใจขึ้นมาจริงๆ อย่างน้อยก็ไม่ได้น่าเบื่อไปเสียทีเดียว
รู้จักปกป้องเขาแบบนี้ งั้นคงไม่ต้องส่งเธอไปอยู่กับคุณย่าที่โน่นแล้วสินะ…
ยินเสี้ยวเสี้ยวมองจ้องไปยังหลี่หมึ้ง ใบหน้าเล็กของเธอก็ไม่อาจยับยั้งความโกรธที่กำลังคลุ้มคลั่งอยู่ตอนนี้ได้ “ฉันเชื่อว่าแม่ไม่มีทางที่จะไม่รู้ว่าสำหรับศัลยแพทย์นั้นมือคู่นึงมีความสำคัญมากแค่ไหน แต่ตอนนี้แม่กลับมากังวลแค่เล็บของตัวเอง! ฉันกังวลจริงๆว่าเมื่อถึงวันนั้นแล้วคุณจะขายตัวคุณออกไปยังไงก็ยังไม่รู้เลย!”
ยินไป่ฝันเห็นภรรยาของตนกำลังตกที่นั่งลำบากอยู่ตรงด้านหน้าของลูกสาวของเขา จึงเกิดโทสะขึ้นมาทันที รีบสาวก้าวเข้าไปทว่ายังไม่ทันได้เอ่ยอะไรออกมา ก็เห็นดวงตาคู่นั้นของยินเสี้ยวเสี้ยวที่จ้องมายังเขา แล้วพูดเน้นชัดทุกถ้อยคำที่ต้องการเอ่ยออกมา “ผู้จัดการหวง ห้องส่วนตัวห้องนี้เป็นพวกเราจองเอาไว้ ตอนนี้ฉันอยากให้ไล่พวกคนที่ไม่เกี่ยวข้องพวกนี้ออกไปให้หมด จากนั้นก็ช่วยฆ่าเชื้อโรคในห้องนี้ให้ฉันด้วยนะคะ แม้แต่สิ่งของที่พวกเขาได้แตะต้องฉันก็ไม่อยากจะเห็นมันอีก! เพราะว่า…”
ยินเสี้ยวเสี้ยวมองไปยังยินไป่ฝันที่โกรธจนมือไม้สั่นออกมาเล็กน้อย จากนั้นก็เดินเข้าไปเอ่ยเสียงเรียบแต่ทรงพลัง “ฉันไม่ชอบของสกปรก!”
ทันทีที่คำพูดนั้นหลุดออกมา ก็ได้ยินผู้จัดการหวงตอบกลับมาอย่างนอบน้อมกว่าปกติ “คุณหนูโปรดวางใจได้เลยครับ ผมจะจัดการเรื่องนี้ให้เรียบร้อย และรับรองว่าครั้งหน้าเมื่อคุณหนูมาใช้บริการที่‘ร้านอาหารเทาถี้’รับรองได้เลยว่าจะไม่เกิดเรื่องอย่างวันนี้แน่นอนครับ วันนี้พนักงานของได้หละหลวมเกินไปแล้ว”
ยินเสี้ยวเสี้ยวก็ไม่ได้พูดอะไรออกมาอีก เพียงแค่ยืนมองคนที่เดินเรียงเข้ามาจากทางด้านหลังอย่างไม่ใส่ใจ พวกเขาเข้าไปยืนประชิดตัวคนของ บ้านยินและบ้านเซี่ยงกลุ่มนั้นนิ่งๆ ไม่มีคำพูดที่เอ่ยเร่งออกมา ถ้าพวกเขายอมให้ความร่วมมือพวกเราก็ยินดี แต่ยังไงคำพูดที่ยินเสี้ยวเสี้ยวได้พูดออกมาเมื่อสักครู่ก็ต้องเป็นจริงตามนั้นขึ้นมาให้ได้!
เซี่ยงโก่ซิวและยินไป่ฝันทั้งสองคนถึงแม้ว่าหลายปีมานี้จะคอยล้มลุกคลุกคลานอยู่ในเมืองTมาโดยตลอด อีกทั้งยังไม่เคยถูกใครมากดขี่เหมือนอย่างวันนี้เลยสักครั้ง นึกไม่ถึงเลยว่าจะถูกเด็กผู้หญิงที่อายุแค่ยี่สิบสามปีที่เพิ่งจะก้าวเท้าออกจากสถานศึกษามาไม่นานไล่ออกจาก‘ร้านอาหารเทาถี้’ที่มีชื่อเสียงไปทั่วเมืองT? ถ้าเรื่องวันนี้ได้แพร่ออกไป ก็คงถูกลือกันให้แซ่ดไปสักพักนึงแน่!
ในระหว่างนั้นเซี่ยงโก่ซิวเองก็ไม่พอใจไม่น้อยเลย เพียงแค่เขาไม่ได้ระบายความโกรธออกไปกับยินเสี้ยวเสี้ยวแต่กลับหันไปพูดกับยินไป่ฝันแทน! สำหรับเขาแล้ว การที่ไม่สามารถสั่งสอนลูกสาวตัวเองให้ดีได้นั้นเป็นความผิดของบิดา!
“เหอะ!” เขาเปร่งเสียงที่แสดงออกถึงความไม่พอใจออกไปเซี่ยงโก่ซิวลุกยืนขึ้น แล้วออกคำสั่งไปทางเซี่ยงเฉิงว่า “โทรหาน้องสาวของแกว่าไม่ต้องมาแล้ว วันนี้ที่นี่ไม่มีที่ยืนให้พวกเราแล้ว!”
ทันทีที่ยินไป่ฝันได้ยินคำนั้นก็รู้ได้ทันทีว่าบ้านเซี่ยงได้ถูกตนกระตุ้นอารมณ์โกรธออกมาแล้ว ถึงแม้ว่าในตอนแรกจะเป็นบ้านเซี่ยงที่คิดอยากยืมอำนาจของบ้านยินเข้าไปจัดการโครงการในมือให้สมบูรณ์ แต่เรื่องในแวดวงธุรกิจนั้นมันก็ไม่แน่นอนเสมอไป เขายินไป่ฝันเองก็ยังคงมีเรื่องที่ต้องพึ่งพาเซี่ยงโก่ซิวอยู่ แต่ตอนนี้ได้เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นมา จึงทำให้แต่เดิมที่ไม่ต้องยกเรื่องผลประโยชน์เข้ามาแลกเปลี่ยน คาดว่าเรื่องนี้จะต้องทำให้เขาจะต้องกระอักเลือดออกมากำโตแน่!
เซี่ยงโก่ซิวนำลูกชายและภรรยาของเขาเดินออกไป ในตอนที่กำลังจะเดินผ่านร่างของยินไป่ฝันออกไปนั้นก็ได้จงใจพูดเหน็บแนมออกมา “ยินไป่ฝัน ผมมองไม่ออกเลยว่าที่แท้บ้านยินของคุณไม่อบรมสั่งสอนคนในครอบครัวอย่างนี้! แม้แต่ลูกสาวของตัวเองยังจัดการไม่ได้ คุณยังคิดว่าจะจัดการ‘บริษัทจื่อยิน’ได้หรอ? เหอะๆ………..”
ยินไป่ฝันไม่พอใจกับคำพูดของเซี่ยงโก่ซิวที่ได้พูดออกมาจนโกรธแทบจะทนไม่ไหว แต่ในตอนนี้กลับไม่อาจพูดหรือทำอะไรออกไปได้ เนื่องจากคนที่อยู่ในที่แห่งนี้เยอะเกินไป แม้แต่ด้านหลังของเขาก็ยังมีรปภ.ของ‘ร้านอาหารเทาถี้’ยืนอยู่! นี่เป็นการ‘เชิญ’ให้พวกเขาออกไปอย่างแท้จริง
สายตาที่เห็นเซี่ยงโก่ซิวกำลังจะออกไปจากห้อง หลี่หมึ้งเองก็ถูกรปภ.ที่ยืนอยู่ทางด้านหลังผลักออกไปเล็กน้อย จากนั้นก็ได้ตะวาดเสียงดังลั่นออกมาด้วยความไม่พอใจ “พวกแกเป็นใครกล้ามาแตะต้องตัวฉัน ฉันเป็นแม่ของยินจื่อเจิ้นนะ คุณชายใหญ่แห่งบ้านจิ๋นเป็นเพื่อนกับลูกชายฉัน พวกแกไม่กลัวคนจากบ้านจิ๋นรู้แล้วจะทำให้พวกแกเดือดร้อนกันหรือไง?”
เพียงประโยคนั้นที่พูดออกมาทำให้เซี่ยงโก่ซิวที่จากเดิมไม่อยากสนใจเรื่องในบ้านของบ้านยินได้หยุดฝีเท้าลง ความมั่งคั่งของบ้านยินไม่ได้มาจาก‘บริษัทจื่อยิน’ของยินไป่ฝัน แต่เป็นความสัมพันธ์ระหว่างยินจื่อเจิ้นกับคุณชายใหญ่แห่งบ้านจิ๋น! เขาลืมเรื่องนี้ไปได้ยังไง?
ใบหน้าของเขาก็เผยรอยยิ้มออกมา เซี่ยงโก่ซิวได้เอื้อมมือออกไปลูบลงบนศีรษะของยินเสี้ยวเสี้ยวที่ยืนอยู่ข้างเขาพอดี แล้วเอ่ยออกมาเสียงเรียบว่า “ไฟโกรธของเด็กน้อยทำไมถึงได้เยอะนักล่ะ อย่าไประบายความโกรธกับพ่อแม่ตัวเองสิ เรื่องเล็กน้อยเท่านั้นเอง ถ้าเธอไม่อยากให้พวกเราอยู่ห้องนี้เดี๋ยวพวกเราย้ายห้องกันก็ได้”
คำพูดที่เอ่ยออกไปนั้นได้เป็นการหาทางหลบหลีกไปจากสถานการณ์อันน่าอับอายให้พวกเขาทุกคน เพียงแต่หลังจากที่เซี่ยงโก่ซิวพูดจบลงก็ได้หันกลับไปมองยินจื่อเจิ้น แล้วถามออกไปว่า “จื่อเจิ้น ผมคิดว่าตอนนี้‘ร้านอาหารเทาถี้’อาจจะไม่มีห้องส่วนตัวเหลือแล้ว ถ้าอย่างนั้นคุณก็บอกกับคุณชายใหญ่บ้านจิ๋นสักหน่อย แค่บอกเขาว่าพวกเราขอใช้ห้องหมายเลขหนึ่งของเขาสักหน่อยจะได้หรือเปล่า?”
ยินเสี้ยวเสี้ยวกลอกตาออกไปอย่างเย้ยหยัน
ชื่อเสียงของเซี่ยงโก่ซิวในแวดวงการค้าเธอก็พอจะได้ยินมาบ้าง ‘จิ้งจอกเจ้าเล่ห์’ล่ะมั้ง ทั้งๆที่มองดูแล้วจะไร้พิษสงคนนึงแต่กลับเป็นคนเจ้าแผนการกว่าใคร! คำพูดที่เขาพูดออกมาไม่เพียงแต่จะเพื่อให้ทุกคนโดยเฉพาะอย่างยิ่งยินไป่ฝันได้หาทางหลบหลีกไปจากสถานการณ์อันน่าอับอายนี้ได้ และในขณะเดียวกันก็ได้หยั่งเชิงว่าความสัมพันธ์ระหว่างยินจื่อเจิ้นกับคุณชายใหญ่บ้านจิ๋นจะดีเหมือนอย่างที่ได้ร่ำลือกันมาหรือเปล่า!
ยินจื่อเจิ้นเองก็มองแผนการของเซี่ยงโก่ซิวออกทันที ในตอนนี้เขาไม่อาจแสดงอาการไม่พอใจออกไปได้ ทำได้แค่เพียงตอบออกไปเสียงเรียบ “คุณลุงเซี่ยงคงเข้าใจผิดแล้ว ห้องส่วนตัวห้องนี้ไม่ได้เกี่ยวกับผมจริงๆครับ และไม่ได้เกี่ยวข้องกับคุณชายใหญ่บ้านจิ๋นเช่นเดียวกัน ล้วนเป็นเพราะคนอื่นจากบ้านจิ๋นทั้งนั้น ห้องหมายเลขศูนย์ห้องนี้พวกท่านก็น่าจะรู้ดีกันอยู่แล้วว่าเป็นถิ่นของคุณชายสามแห่งบ้านจิ๋น ไม่มีคำพูดของเขาใครจะกล้าเอ่ยปากขอกันครับ? ส่วนห้องหมายเลขหนึ่งผมเองก็ไม่สามารถขอคุณชายใหญ่จิ๋นให้อนุมัติทันทีได้อย่างตามใจตัวเองแบบนั้นได้หรอกครับ ใครจะรู้ว่าวันนี้เขาจะว่างหรือเปล่า ใช่มั้ยล่ะครับ?”
คำพูดนั้นของยินจื่อเจิ้นได้ปฏิเสธความต้องการของเซี่ยงโก่ซิวออกมาตรงๆ และในขณะเดียวกันก็ได้บอกเขาออกไปอย่างชัดเจนว่าห้องหมายเลขศูนย์แห่งนี้เขาไม่มีความสามารถมากพอที่จะเอามาได้ ถึงแม้ว่าจะเป็นคุณชายแห่งบ้านจิ๋นเองก็ยังไม่แน่….
ในตอนนี้ยินเสี้ยวเสี้ยวเองก็ไม่ได้มีเวลามากมายที่จะมายืนดูการแสดงที่ดูเหมือนจะเป็นการแสดงของตัวตลกของคนพวกนี้ เห็นพวกเขาแต่ละคนต่างก็เห็นแก่ผลประโยชน์ของตัวเอง ไม่มีใครเลยที่จะให้ความสำคัญกับบาดแผลของจิ๋นลี่ยวนเลยสักคน ไฟโทสะของยินเสี้ยวเสี้ยวได้ปะทุออกมาอีกครั้ง!
“ผู้จัดการหวง ภายในสิบนาทีนี้ฉันจะต้องเห็นห้องนี้ถูกเก็บกวาดจนเรียบร้อย! ฉันไม่อยากเห็นหน้าคนพวกนี้อีก!”
หลังจากที่ยินเสี้ยวเสี้ยวตะวาดออกไปเสียงดังลั่นอย่างนั้นแล้ว ก็ไม่ได้กลับไปสนใจคนพวกนั้นอีก เธอหันมาดึงมือของจิ๋นลี่ยวนออกไปด้านนอก ก้าวเท้าออกไปอย่างเร่งรีบ โดยที่ไม่สนใจเสียงร้องอย่างหมูถูกเชือดของหลี่หมึ้งที่ดังมาจากทางด้านหลังเลยสักนิด!