Flash Marriage แต่งงานกับคน(ไม่)ธรรมดา - ตอนที่64 ช่วงนี้ฉันดูใจดีมากไปงั้นหรอ
ตอนที่64 ช่วงนี้ฉันดูอบอุ่นไปงั้นหรอ
อยู่ที่บ้านของบ้านจิ๋นมาสองวันแล้ว ยินเสี้ยวเสี้ยวไม่ได้เห็นจิ๋นลี่ยวนที่สภาพเหมือนศพออกมาเหมือนเมื่อก่อน ได้เพียงแค่อยู่กับหยูเจียห้วยและคุณย่าจิ๋นไปเดินเที่ยวเล่น บอกว่าเพื่อเตรียมรายละเอียดเล็กๆ ของงานแต่ง
ทั้งสามคนเข้าไปที่ร้านดังที่ชื่อว่า ‘หมั่นห้านชู้สี’ในเมืองT ร้านและบรรยากาศดูกลมกลืน ยินเสี้ยวเสี้ยวได้หยอกล้อทั้งสองยิ้มไม่หุบ แต่เดิมเธอก็เป็นคนที่ปากดีอยู่แล้ว แค่ทำดีกับคนคนหนึ่งนั้นเป็นเรื่องง่ายๆ สบายๆ สำหรับเธอ
หลังจากที่หยูเจียห้วยซื้อเดรสยาวเสร็จ ยินเสี้ยวเสี้ยวก็แนะนำให้พวกเขาไปที่คาเฟ่พักสักหน่อย นี่ก็นับว่าเสี้ยวเสี้ยวและหยูเจียห้วยรับได้ แต่ว่าคนอายุเยอะอย่างคุณย่าจิ๋นรับไม่ได้
ระหว่างทาง ยินเสี้ยวเสี้ยวไปที่ห้องน้ำ พอกลับมาก็เจอเข้ากับหยูเจียห้วยเข้ามาพอดี ทั้งสองคนทักทายกัน และยินเสี้ยวเสี้ยวก็รีบไปยืนอยู่ที่ด้านข้างของคุณย่าจิ๋น เพียงแต่ว่ายังไม่ทันที่จะเข้าไป ก็เห็นเข้ากับคุณย่าจิ๋นกำลังนั่งอยู่คนเดียวและมองไปที่คนที่เดินผ่านไปผ่านมาด้านนอก พอดีมันเป็นภาพของกับสามีภรรยาวัยรุ่นอยู่กับพ่อและแม่ ยินเสี้ยวเสี้ยวสงสัยเล็กน้อยแล้วเดินเข้าไป และถามเบาๆ ว่า “คุณย่าคะ คุณย่ามองอะไรอยู่หรอคะ”
คุณย่าจิ๋นหันหน้ากลับมา ยิ้มจนเห็นตีนกาโผล่ออกมาและพูดว่า “ฉันก็แค่มองดูบรรยากาศไปรอบๆ น่ะ ฉันน่ะแก่แล้ว คนแก่ๆ แบบฉันเนี่ยไม่ได้ออกมาข้างนอกนาน”
ยินเสี้ยวเสี้ยวเม้มปากไม่พูดอะไร ผู้เฒ่าไม่อยากพูด เธอเองก็ไม่อยากจะไปบังคับเธอให้พูดออกมา รอจนหยูเจียห้วยออกมา ทั้งสามคนก็เดินเข้าไปในโซนของผู้ชาย ยินเสี้ยวเสี้ยวมองซ้ายแลขวาดูรอบๆ ไป
คุณย่าจิ๋นและหยูเจียห้วยเห็นดังนั้น ได้แต่หัวเราะไม่พูดอะไร
“พี่ก็มาซื้อของที่นี่หรอ” อยู่ๆ ก็มีเสียงที่นุ่มนวลดังขึ้นมา ยินเสี้ยวเสี้ยวก็เงยหน้าขึ้นไปมอง กลับพบกับยินรั่วอวิ๋น มีแค่เธอเท่านั้นที่จะใช้น้ำเสียงและท่าทีนี้เรียกเธอ
คุณย่าจิ๋นและหยูเจียห้วยหันหน้าไปมองยินเสี้ยวเสี้ยว ยินเสี้ยวเสี้ยวไม่ได้พูดอะไร ได้เพียงแต่มองทางที่ยินรั่วอวิ๋นเดินเข้ามา
ยินรั่วอวิ๋นเดินจูงมือของเซี่ยงเฉิงเข้ามา ใบหน้าเล็กของเธอมีการแต่งหน้าสีสดใส ยิ้มออกมาอย่างดีใจ และดูอบอุ่น
ยินรั่วอวิ๋นมองไปที่หยูเจียห้วยและคุณย่าจิ๋น ในใจก็แอบสงสัย และก็มองรอยที่เสื้อผ้าของคนทั้งสองคน เห็นว่าเสื้อผ้าพวกนั้นไม่ได้เป็นเสื้อผ้าแบรนด์ที่เธอรู้จัก เดรสที่อยู่ในมือของหยูเจียห้วยที่เพิ่งซื้อมาเมื่อกี้ พอมองเห็นlogo ในใจก็แอบสงสัย
“พี่ ทำไมช่วงนี้ถึงไม่กลับบ้านเลยล่ะ ฉันรอพี่ทุกวันเลยนะ”ยินรั่วอวิ๋นหันหน้าไปมองทางยินเสี้ยวเสี้ยวอย่างห่วงใย แต่ในคำพูดที่ดูเหมือนห่วงใยนั้น พอฟังจนจบแล้วมันดูเหมือนกำลังพูดให้ยินเสี้ยวเสี้ยวดูไม่ดี “ช่วงนี้พี่ดึกดื่นไม่กลับบ้าน พ่อและแม่ต่างก็โกรธกันหมด พี่ไปที่ไหนมา ไปอยู่ที่ไหนหรอ”
พอพูดจบ ยินรั่วอวิ๋นเพิ่งจะราวกับมองเห็นหยูเจียห้วยและคุณย่าจิ๋นที่อยู่ด้านข้างเหมือนกัน จากนั้นเธอก็ฉีกยิ้มและก็พูดเบาๆ ว่า “สวัสดีทั้งสองท่านค่ะ ฉันคือน้องสาวของยินเสี้ยวเสี้ยว ฉันชื่อยินรั่วอวิ๋น”
ยินเสี้ยวเสี้ยวยืนอยู่อีกด้านมองดูท่าทางของยินรั่วอวิ๋นก็เกือบจะหัวเราะออกมา แบบนี้สิถึงเรียกได้ว่าเป็นน้องสาวของเธอ
คุณย่าจิ๋นขมวดคิ้ว สีหน้าไม่ค่อยสบอารมณ์มองไปที่ยินรั่วอวิ๋นและถามขึ้นว่า “เสี้ยวเสี้ยว นี่ใคร”
ช่วงนี้ยินเสี้ยวเสี้ยวอาศัยอยู่ที่คุณย่าจิ๋น ยัยยินรั่วอวิ๋นมาใส่ร้ายแบบนี้ได้ยังไงห้ะ ชั่วขณะ เธอเองก็อยากที่จะรู้เหมือนกันว่าคุณย่าจิ๋นจะจัดการกับยินรั่วอวิ๋นยังไง เธอยิ้มและตอบออกมา “คุณย่าคะ นี่คือยินรั่วอวิ๋นค่ะ เป็นน้องสาวต่างแม่ของฉันค่ะ”
สีหน้าของยินรั่วอวิ๋นเปลี่ยนไป และหันหน้าไปมองยินเสี้ยวเสี้ยว
จะต้องรู้ว่า ตอนแรกที่หลี่หมึ้งแต่งย้ายเข้ามาที่บ้านยินก็นับว่าเป็นเรื่องใหญ่แล้ว กระทั่งทุกคนในเมืองT ต่างก็รู้ข่าวสกปรกนี้กันหมดทั้งเมือง ตอนนี้ยินเสี้ยวเสี้ยวมาพูดแบบนี้ฐานะของเธอก็ไม่สามารถที่จะให้คนอื่นรู้เห็นไม่ใช่หรอ
เซี่ยงเฉิงขมวดคิ้ว เขาไม่เคยคิดเลยว่ายินเสี้ยวเสี้ยวก็มีวันที่จะตอบกลับคนอื่นเขาไปบ้าง กลับไม่เคยคิดเลยว่า ถ้าหากไม่ใช่เพราะยินรั่วอวิ๋นเหยียบย้ำทุกครั้ง เธอจะทำยังไง
“เธอเป็นลูกสาวคนที่สองของบ้านยินงั้นหรอ?”คนที่ถามขึ้นมาไม่ใช่คุณย่าจิ๋น แต่เป็นหยูเจียห้วย เห็นหยูเจียห้วยแบบนั้นก็เป็นคนที่รู้เรื่องตอนนั้นไม่ขาดไม่น้อย สายตาแสดงออกอย่างเห็นได้ชัดว่าไม่ชอบ แต่ความรู้สึกนั้นมันยังน้อยเกินไป จะเรียกได้ว่าดูถูกเลยจะดีกว่า เพียงแต่ยินเสี้ยวเสี้ยวไม่คิดเลยว่า หลังจากที่หยูเจียห้วยหันไปถามเข้ากับยินรั่วอวิ๋นแล้ว ก็หันหน้าไปมองทางเซี่ยงเฉิง และก็พูดออกไปลอยๆ ว่า“เสี้ยวเสี้ยว ละทิ้งจากความเลวร้าย ก็จะพบเจอกับอนาคตที่งดงาม นั่นมันเป็นหมากที่ดีเลยล่ะ”
แค่คำเดียว ยินเสี้ยวเสี้ยวเกือบหัวเราะออกมา
ทำไมเธอไม่เคยรู้เลยว่า จริงๆ แล้วหยูเจียห้วยก็เป็นงูพิษคนหนึ่งเลยล่ะ
เซี่ยงเฉิงไม่ได้เป็นฟ้ามืด และจิ๋นลี่ยวนไม่ได้เป็นฟ้าที่สว่างอยู่งั้นหรอ
ที่บ้านจิ๋น เรื่องของเธอคงจะไม่ใช่ความลับอะไร
เซี่ยงเฉิงฟังคำพูดที่เสียดสีแบบนี้ออกที่ไหน สีหน้าเริ่มซีดลง และก็พูดออกมาว่า “ทั้งสองคนคงจะเป็นแม่และย่าของจิ๋นลี่ยวนสินะครับ สวัสดีครับ ผมคือผู้จัดการของ‘เซี่ยงเวิ่น’ ชื่อเซี่ยงเฉิงครับ เคยเจอกับจิ๋นลี่ยวนก็หลายครั้งแล้ว”
คุณย่าจิ๋นเบ้ปาก ทำตัวเหมือนไม่สนใจเขา
ล้อเล่น ตอนนี้ยินเสี้ยวเสี้ยวตอนนี้นับว่าเป็นสะใภ้บ้านจิ๋นแล้ว ในเมื่อคนในครอบครัวถูกรังแกจะอยู่นิ่งได้อย่างไรกัน นับว่าหยูเจียห้วยก็รู้สึกว่าลูกชายของตัวเอง ของที่ดีที่สุดของเขาอยู่ด้านใน แต่การปกป้องยินเสี้ยวเสี้ยวนั้นเป็นเรื่องจริงทำจริง!
เซี่ยงเฉิงคิดว่า ฐานะผู้จัดการของ‘เซี่ยงเวิ่น’จะมาช่วยทำให้อีกฝ่ายไม่เอาเรื่อง ตัวเองเลยหันไปบอกกับฉันอย่างดีๆ ว่า “เสี้ยวเสี้ยวคิดว่าจิ๋นลี่ยวนเป็นคนดีมาตลอด แท้จริงแล้วถ้ามองตามปกติแล้ว ก็แค่หมอธรรมดาๆ ช่วยคนไปวันวันคนหนึ่ง ที่ไม่ได้มีฐานะอะไรสูงส่งเท่านั้นเอง ก็แค่มีคำพูดบางอย่างที่ผมอยากที่จะพูดออกไป……”
สีหน้าของยินเสี้ยวเสี้ยวขรึมไป หันหน้ามาก็เจอกับเซี่ยงเฉิงหันหน้ามามองเธอพอดี
“เสี้ยวเสี้ยว เธอเป็นพี่ใหญ่ของบ้านยิน ก็ถือว่าเธอจะต้องอยู่กับจิ๋นลี่ยวน แต่เธอก็ควรจำไว้นะ บ้านยินก็คือบ้านยิน และ บ้านจิ๋นก็คือบ้านจิ๋น……”เซี่ยงเฉิงพูดอยู่แล้วก็ก้มลงไปมองของที่หยูเจียห้วยซื้อมาในมือ เห็นได้ชัดว่ารู้สึกว่ายินเสี้ยวเสี้ยวใช้เงินของบ้านยินเลี้ยงดูบ้านจิ๋น“เธอกับบ้านจิ๋นเซ็นต์ข้อตกลงกันผมเองก็รู้ เพียงแต่หวังว่าวันหลังเธอจะมีความสุขนะ”
พูดอยู่ เซี่ยงเฉิงรู้สึกว่าเวลาดีแล้วที่จะต้องไปแล้ว กลับไม่ได้คิดเลยว่าจะได้ยินคำพูดเสียดสีกลับมา
“ก็แค่‘เซี่ยงเวิ่น’เล็กๆ ถึงขนาดที่กล้ามาอวดดีต่อหน้าของคุณย่าของฉันเลยหรอ คงเป็นเพราะช่วงนี้ฉันคงใจดีมากไป”คุณย่าจิ๋นไม่เคยได้รับบรรยากาศแบบนี้มาก่อน ตอนนี้เธอโกรธมากๆ แต่ก็เป็นเพียงแค่เรื่องที่เกิดขึ้นเพียงชั่วครู่ ในเมื่อคุณย่าจิ๋นก็อายุอานามมากแล้ว รู้ว่าอะไรควร อะไรไม่ควร “ฉันอยากจะรอดูนัก รอดูวันที่หลานของฉันแต่งงานกับหลานสะใภ้ ดูสิว่าคนบางคนจะทำหน้ายังไง!”
พอพูดจบ คุณย่าจิ๋นก็โกรธมาก และดึงมือของยินเสี้ยวเสี้ยวและหยูเจียห้วยหันหลัง เตรียมที่จะออกไป เหลือแต่เพียงยินรั่วอวิ๋นและเซี่ยงเฉิงที่หน้าดำคร่ำเครียดอยู่ด้านหลัง
โดนคุณย่าจิ๋นแหกหน้าขนาดนั้น นับว่าเป็นเรื่องที่ไม่ดีเลย
ความโมโหนี้ไม่ว่าจะเป็นยินรั่วอวิ๋นหรือว่าเซี่ยงเฉิงทั้งหมดก็ข่มการโมโหไม่ได้ ทั้งสองคนรู้สึกกันสองคนได้ว่าจะต้องเอาคืนยินเสี้ยวเสี้ยวและจิ๋นลี่ยวนสักดอกหนึ่ง อย่าเอาใครก็ได้มาเป็นเกราะคุ้มกันตัวเอง!
สายตามองพวกเธอเดินไปไกล ยินรั่วอวิ๋นอยู่ๆ ก็ตะโกนเสียงดังขึ้นมาว่า “พี่ วันมะรืนฉันแต่งงาน พี่มาได้ไหมล่ะ อยู่‘โรงแรมหซือซัน’ข้างๆ กับโรงแรมเฉิงหยูบ้านเซี่ยงจองทั้งชั้นเลยนะ!”
ระยะห่างของทั้งสองฝ่ายก็ห่างกันพอสมควร พูดเสียงดังแบบนี้ก็แอบดังพอสมควรอยู่นะ เห็นสายตาของคนที่เดินไปเดินมาแถวนั้นทำตาลุกวาวอิจฉา ยินรั่วอวิ๋นและเซี่ยงเฉิงต่างก็รู้สึกภาคภูมิใจ แม้ว่าจะเป็นพื้นที่ที่อยู่ด้านข้างของ‘โรงแรมหซือซัน’ก็ตาม แต่ใครๆ ก็รู้ งานแต่งที่จัดตรง ‘โรงแรมหซือซัน’ไม่ใช่ว่าใครก็ไปจองได้ ดังนั้นห้องที่ว่านั้นใช้จัดงานเลี้ยงวันเกิด งานหมั้นต่างๆ ถ้าบอกว่าแต่งงานอยากที่จะจัดที่‘โรงแรมหซือซัน’ งั้นนอกจากที่เมืองTเหมือนบ้านจิ๋น,ตระกูลมู่ หรือไม่ก็ตระกูลใหญ่ๆ ที่มีชื่อเสียงอื่นๆ ไม่อย่างนั้นก็ทำได้แค่ อยู่ด้านข้างเฉิงหยูจัดเท่านั้น นั้นก็ไม่ได้ถือว่าเป็นที่ต่ำต้อยเท่าไหร่
คุณย่าจิ๋นได้ยินคำนี้ อยู่ๆ ก็มีความสุขขึ้นมา หันหน้าไปแล้วใส่แว่นสายตายาวของตัวเอง และมองไปที่สองคนนั้น จากนั้นก็พูดกับหยูเจียห้วยว่า “สองคนนี้ช่างหยอกล้อจริงๆ นะ!”
คำเดียว หยูเจียห้วยหัวเราะออกมาชุดใหญ่
คุณย่าจิ๋นไม่ได้สนใจอะไรมากมาย มองไปทางพวกเขา และพูดกับหยูเจียห้วยว่า “ไปเอาตัวอักษรมงคลที่เพิ่งพิมพ์เสร็จเมื่อวานให้พวกเขาอันหนึ่งสิ พี่แต่งงานอย่างไรน้องถึงไม่ไปงานล่ะ”
หยูเจียห้วยได้ยินดังนั้น ก็เลิกคิ้วขึ้นมา ยื่นมือออกไปควักเอาตัวอักษรมงคลออกมา นี่คือล็อตแรกที่พิมพ์ออกมา ตัวอักษรมงคลสีเงิรสีทอง มีเพียงแค่ผีเสื้อสีฟ้าอ่อนติดอยู่เท่านั้น เรียบง่าย ใจกว้าง นี่เป็นลักษณะของบ้านจิ๋น
ยินเสี้ยวเสี้ยวไม่มีทางที่จะให้หยูเจียห้วยเอาตัวอักษรมงคลยื่นให้กับพวกเขาเองกับมือเเน่นอน และหลังจากที่หยูเจียห้วยเอาตัวอักษรมงคลออกมาแล้ว ตัวเองก็เดินไป หยิบตัวอักษรมงคลนั่นยื่นให้ตรงหน้าของเซี่ยงเฉิงและยินเสี้ยวเสี้ยว
“หวังว่าตอนงานแต่งฉัน พวกเธอจะมานะ” ท่าทางไม่เลว ไม่ได้แสะ และก็ไม่ได้เย่อหยิ่งแต่อย่างใด เรียบง่ายเป็นธรรมชาติ “แน่นอน งานแต่งของพวกเธอเดี๋ยวฉันก็จะร่วมเช่นเดียวกัน”
สีหน้าของยินรั่วอวิ๋นยังเต็มไปด้วยการเสียดสี ยื่นมือไปรับอักษรมงคลที่มือของยินเสี้ยวเสี้ยว พลิกไปด้วย พูดไปด้วยว่า “พี่คะ สามีของพี่นี่มีเงินจัดงานแต่งจริงหรอคะ พี่ก็อย่าเพราะงานแต่งทำจนหมดจนสิ้น แบบนั้นคงหมดตัวแน่……”
พูดยังไม่ทันจบ ตาของยินรั่วอวิ๋นก็เบิกกว้างขึ้น มือที่ถือเข้ากับตัวอักษรมงคลก็สั่น
‘โรงแรมหซือซัน’!
“ยินเสี้ยวเสี้ยว งานแต่งของพี่จัดที่‘โรงแรมหซือซัน’งั้นหรอ” ยินรั่วอวิ๋นถามขึ้นอย่างตกใจ สีหน้าแบบไม่เชื่อ!
เซี่ยงเฉิงได้ยินแบบนี้ก็หน้าซีด และก็แย่งบัตรที่อยู่ในมือของเธอมาดู เห็นตัวอักษรที่อยู่ข้างหน้า ก็ทำเอาหายใจแทบลำบาก
เจ้าสาว:ยินเสี้ยวเสี้ยว
เจ้าบ่าว:จิ๋นลี่ยวน
ครั้งแรกเห็นชื่อของยินเสี้ยวเสี้ยวใส่ชื่อคู่ใกล้กับกับผู้ชายคนอื่น ทำเอารู้สึกไม่ค่อยสบายตัว พอรู้สึกตัวขึ้นอีกที เซี่ยงเฉิงก็ถามขึ้นว่า “ยินเสี้ยวเสี้ยว เธอจะต้องแต่งกับจิ๋นลี่ยวนงั้นหรอ จะไม่เสียใจภายหลังใช่ไหม”
ยินเสี้ยวเสี้ยวผงกหัวไม่ได้สนใจอะไรเขา จากนั้นก็เดินหันกลับไปยืนที่ข้างๆ คนของบ้านจิ๋น
บัตรมงคลใบนั้นทำเอาเซี่ยงเฉิงถือไว้จนแทบจะเปลี่ยนรูปแบบบัตรไป ใบหน้าที่หล่อเหลาของชายคนนั้นเปลี่ยนไป จนทำให้คนที่พบเห็นรู้สึกได้ว่าแอบน่ากลัว
ยินเสี้ยวเสี้ยว ผมจะคอยดู ว่าเธอจะแต่งกับจิ๋นลี่ยวนยังไง!ผมก็จะรอดู รอดูวันที่จะกลับมานั่งคุกเข่าขอร้องผม!สำหรับคุณแล้ว ผมต้องเป็นแบบนั้น!