Flash Marriage แต่งงานกับคน(ไม่)ธรรมดา - บทที่ 124 ตัวตนที่แท้จริงของยินรั่วอวิ๋น
- Home
- Flash Marriage แต่งงานกับคน(ไม่)ธรรมดา
- บทที่ 124 ตัวตนที่แท้จริงของยินรั่วอวิ๋น
บทที่ 124 ตัวตนที่แท้จริงของยินรั่วอวิ๋น
เฉินผูลี่กับเก๋อเฉิงเฟยยังไม่ทันพูดอะไร จิ๋นลี่ยวนก็เปิดประตูห้องนอนออกมาและหมุนตัวมานั่งลงที่โซฟา คนอื่นไปกันหมดแล้ว เหลือแค่เฉินผูลี่กับเก๋อเฉิงเฟยสองคนนี้
รอจนเฉินผูลี่ปิดประตูเรียบร้อย เก๋อเฉิงเฟยถึงเอ่ยปากว่า “คุณชายสาม เรื่องสืบได้เรียบร้อยแล้วครับ…”
“เรื่องนี้พักไว้ก่อน เฉินผูลี่ บอกสถานการณ์ข้างนอกหน่อยสิ” จิ๋นลี่ยวนเบรกคำพูดไว้ เรื่องเช้าวันนี้ที่เขาให้เก๋อเฉิงเฟยไปสืบมา ดูออกเลยว่าเขาเสียใจมากกับการกระทำของตัวเอง
เก๋อเฉิงเฟยยืนอยู่อีกด้านไม่ได้พูดอะไร เขาใช้ไอแพทติดต่อคนข้างล่างบ้างเป็นพักๆ
เฉินผูลี่คิ้วขมวดบอกว่า “ด้านนอกวุ่นวายมากครับ เครือบริษัทบ้านจิ๋น บ้านจิ๋น บ้านยินและบ้านเซี่ยง ไม่มีบ้านไหนรอดเลยครับ กระทั่งมีนักข่าวสืบไปถึงว่าคุณนายน้อยสามเคยไปทำงานที่เก๋อหลิน ตอนนี้ก็มีคนขุดข่าวใหม่ออกมาเพิ่ม แม้แต่คุณหนูรองบ้านมู่ก็โดนโยงเข้ามา มีคนมากมายไปถามความคิดเห็นเธอ…หลังจากนั้นในอินเทอร์เน็ตพูดกันไปเรื่อยเปื่อย บางคนพูดดี และบางคนพูดไม่ดี…”
ทุกคำพูดที่ออกมาทำจิ๋นลี่ยวนขมวดคิ้วแน่นขึ้นเรื่อยๆ ดวงตาคมหรี่มอง มือคู่เรียวยาวกำแน่น เหมือนกำลังอดกลั้นความโกรธของตัวเอง
ผ่านไปนานพอดู จิ๋นลี่ยวนถึงพูดว่า “ส่งคนไปรับถาวหยีมาอยู่เป็นเพื่อนเสี้ยวเสี้ยว และก็ไปรับจิ๋นลี่หยาวมาด้วย พวกนายตามฉันออกไปข้างนอก”
พูดจบปุ๊บ เฉินผูลี่กับเก๋อเฉิงเฟยแยกย้ายกันไปจัดการ พวกเขาไปรับสองคนนั้นมาภายในยี่สิบนาที เวลานี้ไม่ต้องพูด พวกเธอก็รู้ว่าต้องทำยังไง
“ไปเถอะ มีฉันอยู่นี่ ไม่มีอะไรแน่นอน” จิ๋นลี่หยาวยิ้มมุมปากพูดกับจิ๋นลี่ยวน
ในสถานการณ์แบบนี้ จิ๋นลี่ยวนยังคิดแทนยินเสี้ยวเสี้ยว ต้องยอมรับเลยว่ามันอบอุ่นใจมาก แม้แต่ถาวหยียังอดมองเขาเพิ่มสองทีไม่ได้
พวกเธอสองคน คนหนึ่งสามารถรับประกันได้ว่ายินเสี้ยวเสี้ยวจะไม่คิดมาก อีกคนรับประกันได้ว่าไม่มีทางให้คนข้างนอกบุกเข้ามาได้แน่!
จิ๋นลี่ยวนคิดวางแผนไว้หมดแล้ว นอกนั้นก็เป็นเรื่องที่เขาในฐานะสามีควรทำแล้ว
เฉินผูลี่กับเก๋อเฉิงเฟยที่ตามหลังจิ๋นลี่ยวนออกไป ตอนพวกเขามองแผ่นหลังเจ้านาย อดรู้สึกถึงคำว่า ‘ความเงียบสงบก่อนพายุเข้า’ขึ้นมาไม่ได้
จิ๋นลี่ยวนโกรธแล้ว!
ที่ประตูบ้านเซี่ยงเต็มไปด้วยนักข่าว ตากล้องมากมายตั้งกล้องแบบเจาะจงแพลนไปที่ประตูบ้านเซี่ยง ใบไม้แห้งของฤดูใบไม้ร่วงพลิ้วหมุนในอากาศก่อนตกลงบนพื้น พริบตาเดียวก็โดนคนเดินไปมาเหยียบลอยหายไป
เซี่ยงโก่ซิวนั่งขมวดคิ้วอยู่ในบ้าน สภาพนั้นบอกไม่ถูกว่าอยู่ในอารมณ์อะไรกันแน่ จะพอใจกับการกระทำของยินรั่วอวิ๋นหรอืไม่พอใจกันนะ?
เขาโกรธแทบอยากโพล่งด่ายินเสี้ยวเสี้ยวออกมากลางที่ประชุมของบริษัทเซี่ยงเวิ่นตอนพึ่งรู้ข่าวยินรั่วอวิ๋นแท้งลูก! ดังนั้นตอนยินรั่วอวิ๋นบอกเขาว่าจะแก้แค้น เขาถึงไม่ได้ถามอะไร และปล่อยเธอไปทำตามที่อยาก แค่เขาไม่คิดว่ายินรั่วอวิ๋นจะทำเรื่องใหญ่โตขนาดนี้!
เพียงแต่ยินรั่วอวิ๋นโง่เกินไปหน่อยละที่ไม่รู้จักยืมมือคนอื่นมาทำ
นี่เป็นครั้งแรกที่เซี่ยงโก่ซิวสงสัยในความสามารถของยินรั่วอวิ๋น
ยินรั่วอวิ๋นพึ่งจะแท้งลูก ร่างกายยังไม่ฟื้นฟู สีหน้าซีดขาวจนน่ากลัว แต่ที่บ้านเซี่ยงกลับไม่มีใครสนใจเธอ หลายวันก่อนเธอแท้ง เธอยังเป็นคนสำคัญ พอแท้งลูกปุ๊บ เธอกลับกลายเป็นหมาหัวเน่าทันที
มองดูลมของฤดูใบไม้ร่วงพัดนอกหน้าต่างนั่น ยินรั่วอวิ๋นอดยิ้มมุมปากประชดขึ้นมาไม่ได้
ยินเสี้ยวเสี้ยว ในเมื่อฉันอยู่ดีไม่ได้ เธอก็เป็นเพื่อนฉันละกัน!
เธอแท้งลูกแต่กลับดึงยินเสี้ยวเสี้ยวให้พังไปด้วยไม่ได้ มีหรือจะยอมแพ้? ที่น่าแค้นที่สุดคือ ยินเสี้ยวเสี้ยวหลอกเธอ ถ้าตอนนั้นยินเสี้ยวเสี้ยวไม่ได้หลอกเธอว่าเธอท้อง มีหรือเธอจะมาถึงจุดนี้ในวันนี้?
ยินรั่วอวิ๋นในตอนนี้ไม่ได้คิดให้ถี่ถ้วนเลยว่า เธอตัดโอกาสที่ยินเสี้ยวเสี้ยวอยากพูดอะไรด้วยไปหมดแล้ว
หลี่หมึ้งกว่าจะฝ่าฝูงนักข่าวเข้าบ้านเซี่ยงได้ พอเห็นคนทั้งห้องเอาแต่คุยเล่นกัน ไม่มีใครสนใจไยดีลูกสาวตัวเองเลย เธอไม่พอใจมาก แต่ยินรั่วอวิ๋นครั้งนี้ทำเกินไปจริงๆ ทำเอาขนาดเธอเองยังพูดเข้าข้างออกมาไม่ได้ ได้แค่ทักทายพลางยกน้ำแกงที่ตุ๋นมาขึ้นไป
เธอไม่ได้สังเกตว่า เซี่ยงเฉิงขมวดคิ้วพลางตามขึ้นมาด้วย
พอเข้าห้อง หลี่หมึ้งปิดประตู เดินไปทางลูกสาวอย่างปวดใจ
ยินรั่วอวิ๋นในวัยแค่ยี่สิบสองปีก็มาแท้งลูกแล้ว สำหรับผู้หญิงคนหนึ่งแล้วมันเป็นการทำร้ายร่างกายอย่างที่สุด
“รั่วอวิ๋น ยังเจ็บตรงไหนอยู่หรือเปล่า? ถ้าเจ็บตรงไหนต้องรีบบอกนะ อย่าเก็บไว้” หลี่หมึ้งพูดอย่างเป็นห่วง พลางเทน้ำแกงมาให้ยินรั่วอวิ๋นดื่ม “ตอนนี้ลูกอายุยังน้อย รักษาร่างกายให้ดี ต่อไปจะมีลูกใหม่ได้นะ ถึงเวลานั้นลูกก็จะได้ช่วยสืบสกุลให้เซี่ยงเฉิงไง”
ยินรั่วอวิ๋นได้ยินคำพูดของหลี่หมึ้ง คิ้วขมวดแน่นขึ้น ไม่แม้แต่เหลียวตามองน้ำแกงที่วางตรงหน้า เธอเอื้อมมือปัดถ้วยน้ำแกงตกพื้น นั่งตัวตรงกดเสียงต่ำพูดอย่างโกรธแค้นว่า “แม่จะรู้อะไรล่ะ? ถ้าไม่ใช่เพราะแม่ไม่สืบเรื่องให้รู้แน่ชัดตั้งแต่แรก หนูจะมาถึงวันนี้ไหม? หนเสียลูกไปก็อยากให้ลูกของยินเสี้ยวเสี้ยวตายตามไปด้วย แล้วค่อยใส่ร้ายเพิ่ม เท่านี้ยินเสี้ยวเสี้ยวมันก็จะโดนไล่ออกจากบ้านจิ๋นแล้ว! ถึงตอนนั้นหนูถึงจะมีโอกาส! แต่ต้องโทษแม่น่ะแหละ แม่ไม่ได้สืบเรื่องให้มันดีก่อนก็แย่แล้ว ตอนนั้นแม้แต่จะตบหรือถีบให้มันท้องไม่ได้อีกเลยก็ไม่ทำอีก!”
หลี่หมึ้งได้ยินปุ๊บตกใจมาก รีบหันไปมองประตูว่าปิดเรียบร้อยไหม เธอรีบปิดประตูอย่างรวดเร็ว แต่เพราะร้อนใจกับคำพูดของยินรั่วอวิ๋นเลยไม่ได้มองออกไป ถ้ามอง คงเห็นเซี่ยงเฉิงที่ยืนด้วยสีหน้าทะมึนแน่นอน
ยินรั่วอวิ๋นตอนนี้โกรธจนหน้ามืด เธอตะคอกใส่หลี่หมึ้งว่า “แม่รู้ทั้งรู้ว่าตอนนั้นต่อให้มันไม่แท้ แค่แม่เข้าไปถีบท้องมันแรงๆสองสามที ต่อให้ต่อไปมันอาจจะท้องได้ แต่โอกาสมันก็น้อย แต่ทำไมแม่โง่แบบนี้ล่ะ? แค่ถีบไปสองสามทีแค่นี้ก็ทำไม่เป็น!”
หลี่หมึ้งมองยินรั่วอวิ๋นอย่างปวดใจ ไม่ว่ายินรั่วอวิ๋นจะทำยังไงกับเธอ ยินรั่วอวิ๋นก็เป็นลูกสาวเธอ เป็นลูกที่เธอรักใคร่ดุจแก้วตาดวงใจมาหลายปี มีหรือจะไม่สนใจเพียงเพราะคำพูดยามโกรธพวกนี้?
หลี่หมึ้งเก็บชามที่ตกบนพรมขึ้นมา พยายามข่มกลั้นความปวดใจเทน้ำแกงถ้วยใหม่พลางว่า “จ้า แม่โง่เอง แต่แม่โง่ยังไง ลูกก็ไม่ควรอารมณ์รุนแรงขนาดนี้นะ ดูแลตัวเองให้ดีก่อนค่อยว่ากันได้ไหม? รั่วอวิ๋น ต่อให้ลูกจะโกรธแค่ไหน ก็ต้องรักษาร่างกายให้แข็งแรงก่อนนะ ส่วนจิ๋นลี่ยวน ถ้าลูกอยากได้ งั้นต่อไปลูกมีแผนการอะไร แม่จะช่วยเองนะ จะให้ลูกสมหวังแน่นอน ตอนนี้แม่ขอแค่ให้ลูกดูแลร่างกายให้ดีก่อน…”
ยินรั่วอวิ๋นมองบน อารมณ์เริ่มสงบลง แต่ปากกลับเม้มแน่น
หลี่หมึ้งยกถ้วยน้ำแกงมาอย่างระมัดระวัง ยินรั่วอวิ๋นกลั้นใจดื่มไปหลายคำ พอดื่มเสร็จก็ถามทันทีว่า “ข้างนอกมีนักข่าวเยอะไหม?”
หลี่หมึ้งพยักหน้า พอเงยหน้ามาก็เห็นยินรั่วอวิ๋นยิ้มชั่วร้าย
ในห้องนั่งเล่นบ้านเซี่ยง เซี่ยงเฉิงนั่งกำหมัดข่มกลั้นความโกรธอย่างสุดความสามารถ
ยินรั่วอวิ๋นกล้าฆ่าลูกของพวกเขาเพื่อจิ๋นลี่ยวน! ลูกเขาพึ่งสามเดือนเองนะ! ใจยักษ์ใจมากจริงๆ! ถ้าไม่ใช่ว่าเขาได้ยินยินรั่วอวิ๋นพูดเองกับปากวันนี้ เขาคงยังคิดว่ายินรั่วอวิ๋นเป็นองค์หญิงน้อยที่น่าสงสารและโดนกลั่นแกล้งในมหาวิทยาลัยคนนั้นแน่!
เซี่ยงหลินช่วงนี้อารมณ์ไม่ค่อยดี แต่พอเห็นข่าวยินเสี้ยวเสี้ยวเธอก็ดีใจ ดีใจได้ไม่นานก็เห็นหลี่หมึ้งพยุงยินรั่วอวิ๋นลงบันไดมา
เว่ยโถ้หยีวางถ้วยชาในมือลง พูดเสียงเรียบๆว่า “อ้าว ลงมาทำไมล่ะ? พึ่งแท้งลูกมา น่าจะนอนพักผ่อนดีกว่านะ เดินไปมาแบบนี้มันไม่ดีกับร่างกายนะจ้ะ”
พูดแต่ปาก แต่เว่ยโถ้หยีไม่คิดจะขยับตัวไปช่วยสักนิด
หลี่หมึ้งเห็นแล้วเดือด เลยโพล่งไปว่า “คุณนาย รั่วอวิ๋นของฉันแต่งมาเข้าบ้านคุณก็อยู่ในโอวาทมาตลอด แกพึ่งแท้งลูก ยังห่วงว่ามีนักข่าวกรูกันมาอยู่หน้าประตูบ้านเซี่ยงทำให้พวกคุณเข้าออกไม่สะดวก และยังทำให้ชื่อเสียงไบริษัทเซี่ยงเหวินไม่ดีไปด้วย นี่ยังไม่สนว่าร่างกายยังไม่พักฟื้นดีและจะลงมาช่วยอธิบาย แต่คุณกลับมีท่าทีแบบนี้เนี่ยนะ?”
เว่ยโถ้หยีเงยหน้ามองหลี่หมึ้งอย่างไม่พอใจ
ที่นี่บ้านเซี่ยง! หลายปีแล้วที่ไม่มีใครกล้าพูดจาแบบนี้กับเธอ!
“หรือคุณนายเซี่ยงคิดว่า บ้านยินของฉันจะยอมโดนทำร้ายหรือไง? อย่าว่าแต่ฉันเลย ต่อให้ลูกชายฉันก็ไม่มีทางยอมให้น้องสาวตัวเองโดนทำร้ายแบบนี้แน่!” คำว่า ‘ลูกชายฉัน’ หลี่หมึ้งจงใจเน้นคำพลางกัดฟันกรอด และได้เห็นสีหน้าเว่ยโถ้หยีกับเซี่ยงโก่ซิวเปลี่ยนสีเล็กน้อย
ไม่ว่าเมื่อไหร่ ยินจื่อเจิ้นก็เป็นไพ่ไม้ตายที่ทำให้คนบ้านยินสามารถไปกร่างข้างนอกได้!
เซี่ยงโก่ซิวส่งสายตาให้เซี่ยงหลินกับเซี่ยงเฉิง เซี่ยงหลินลุกไปช่วยพยุงยินรั่วอวิ๋นอย่างไม่เต็มใจ เซี่ยงเฉิงก็เดินตามหลังพวกเขา สีหน้าหลี่หมึ้งถึงดีขึ้นเล็กน้อย
“ในเมื่อเป็นแบบนี้ พวกเราออกไปจัดการกันหน่อย ต้องรบกวนคุณนายช่วยเตรียมอาหารบำรุงร่างกาย ลูกสาวฉันยังต้องช่วยบ้านเซี่ยงสืบสกุลอยู่นี่นา อย่าให้ถึงเวลานั้นจะเลี้ยงไม่รอดนะคะ” คำนี้ประชดกระแทกแดกดันความใจดำของบ้านเซี่ยงเข้าเต็มๆ ทำเอาสีหน้าเซี่ยงโก่ซิวดูไม่ดีนัก
หลี่หมึ้งไม่แคร์อะไรมากนัก เธอพยุงยินรั่วอวิ๋นเดินไปทางหน้าประตู และพวกนักข่าวที่กรูกันมารอหน้าประตูบ้านเซี่ยงพอเห็นมีคนออกมา ก็ปรี่กันเข้ามาหาอย่างตื่นเต้น!
—คุณนายเซี่ยง ไม่ทราบว่าทำไมคุณถึงปล่อยคลิปนั้นออกมาครับ!
—คุณนายเซี่ยง ความสัมพันธ์คุณกับพี่สาวไม่ดีใช่ไหม?
—คุณนายเซี่ยง คุณกำลังแก้แค้นใช่ไหมครับ? เพราะคุณแท้งลูกใช่ไหม?
…
คำถามรัวมาเป็นชุด จนสีหน้าเซี่ยงหลินไม่ดีนัก นี่มันใส่ร้ายบ้านเซี่ยงชัดๆนี่นา?
พอเจอกองทัพนักข่าวประชิดมา ยินรั่วอวิ๋นกลับร้องไห้เบาๆ ภาพนี้อดทำให้ชาวมุงแปลกใจไปตามๆกัน ยินรั่วอวิ๋นจะพูดยังไง? จะอธิบายการกระทำของเธอว่ายังไงนะ?
เซี่ยงเฉิงยืนมองทุกอย่างด้วยสายตาเย็นชา ยิ้มมุมปากอย่างประชดและไม่ได้พูดอะไร