Flash Marriage แต่งงานกับคน(ไม่)ธรรมดา - บทที่ 204 เหตุผลยินเสี้ยวเสี้ยวให้
บทที่ 204 เหตุผลยินเสี้ยวเสี้ยวให้
“เสี้ยวเสี้ยว!”เสียงที่ดุดันเรียกออกมา จิ๋นลี่ยวนอยากจะขัดขวางเธอ
พูดมาถึงตรงนี้ จิ๋นลี่ยวนก็ไม่รู้ว่าเธอคิดจะพูดอะไรกันแน่ แต่ก็พอจะเดาได้ว่าไม่ใช่วิธีที่ดีอะไรนัก ตอนนั้นน้ำเสียงก็แข็งกร้าวขึ้นมาเป็นพิเศษ มีการเตือนแฝงอยู่ในดวงตาเรียวเล็กที่ปลายชี้ขึ้นนั้น
“จิ๋นลี่ยวน หุบปาก!” สายตาของหญิงชราขยับเล็กน้อย ยืนมองพลางพูดกับเธออยู่ตรงหน้ายินเสี้ยวเสี้ยว “ปล่อยให้เธอพูด!”
ยินเสี้ยวเสี้ยวหลุบตา หลังจากนิ่งเงียบไปสองวินาทีก็กลับยื่นมือไปลูบท้องน้อยที่ราบเรียบของตนเองพูดเบาๆว่า “คุณท่าน คุณท่านรู้ว่ามั้ยคะว่าทำไมฉันถึงยังเป็นผู้หญิงบริสุทธิ์มาจนถึงอายุ23 ไม่ใช่ว่าฉันไม่เคยมีแฟน เมื่อก่อนฉันยังเคยมีแฟนที่เคยคบกันสี่ปี แต่ว่าแม้จะเป็นเช่นนี้แต่ฉันก็ยังรักษาขีดจำกัดเอาไว้ ฉันไม่กล้าพูดอะไรฉันก็เป็นผู้หญิงที่ถือพรหมจรรย์อย่างนั้น ในแง่ของความคิดอาจจะเป็นสาเหตุที่ไม่อาจจะรับได้ อีกสาเหตุหนึ่งก็คือ……ฉันมีความหวาดกลัวทางเพศ หวาดกลัวจนไม่กล้าให้ผู้ชายเข้าใกล้ฉัน”
พูดจบ คนทั้งหมดในบ้านก็หันมามองจิ๋นลี่ยวน
ความหวาดกลัวทางเพศหรือ
ไม่ยอมให้ผู้ชายเข้าใกล้เหรอ
อย่างนั้นช่วงเวลาจิ๋นลี่ยวนอยู่ด้วยกันกับยินเสี้ยวเสี้ยวครึ่งปีนั้น คืออยู่กันได้อย่างไร
ตอนแรก ทุกคนต่างก็คิด สาเหตุที่จิ๋นลี่ยวนยืนหยัดที่จะหย่าให้ได้ก็อาจเป็นเพราะเหตุผลข้อนี้ ถ้าเป็นอย่างนี้จริง อย่างนั้นก็ได้พิสูจน์ว่า การแต่งงานนี้สมควรจะหย่าถูกต้องแล้ว แม้แต่เรื่องถูกผิดก็ยังยากที่ตัดสินจริงๆ
คิ้วขมวดแน่น ดวงตาคุณย่าหรี่เล็กลงอย่างเร็วแรง “เพราะเหตุนี้”
คุณย่านั้นเป็นที่ผ่านมาค่อนศตวรรษ ไม่ต้องพูดถึงว่าดูคนได้แม่นยำ แต่ความรู้สึกระหว่างจิ๋นลี่ยวนและยินเสี้ยวเสี้ยวก็ยังมองออก บวกกับจิ๋นลี่ยวนเป็นหลานชายของตนเองจะไม่รู้จักนิสัยใจคเขาได้อย่างไร ถ้าเป็นสาเหตุจริงๆที่ทำให้หย่ากับยินเสี้ยวเสี้ยว อย่างนั้นก็น่าแปลกประหลาดมากเลย!จิตสำนึกของเธอ เธอรู้สึกว่ายังต้องมีแผนการอะไรซ่อนอยู่
หลังจากยินเสี้ยวเสี้ยวชะงักไปเล็กน้อยก็พูดต่อว่า “คุณท่านคะ ก่อนหน้านี้คุณท่านไม่ได้บอกให้ฉันตั้งท้องในระยะเวลาที่กำหนดเหรอคะ แต่ตอนนี้ฉันได้แต่บอกท่านว่า ฉันทำไม่ได้ค่ะ……”
นี่ถึงจะเป็นสิ่งที่ยินเสี้ยวเสี้ยวอยากพูดจริง
ในทุกตระกูล สิ่งที่ต้องห้ามมากที่สุดก็คือไม่มีลูกชายสืบสกุล
ยิ่งไปกว่านั้นจิ๋นลี่ยวนเป็นเลือดเนื้อเชื้อไขเดียวของจิ๋นหยวนเชิ่ง แม้ว่าหญิงชราจะโกรธจิ๋นหยวนเชิ่ง และรุ่ยซีมาก แต่ในก้นบึ้งหัวใจเธอก็ยังต้องการรักษาสายเลือดของพวกเขาไว้ มิฉะนั้นจิ๋นลี่ยวนจะไม่ได้รับการเอาอกเอาใจเช่นนี้
พอพูดประโยคนี้ออกมา ไม่เพียงแค่หญิงชรา แม้แต่สีหน้าของหยูเจียห้วยก็ขาวซีดลงเล็กน้อย
ลูกสะใภ้ที่ไม่อาจให้กำเนิดทายาทได้ พวกเธอไม่พอใจจริงๆ
จิ๋นลี่ยวนมองผู้หญิงตรงหน้าอย่างตกตะลึง เรื่องที่ผอมบาง จู่ก็ต้องมาแบกรับทุกอย่างเอาไว้ทั้งหมด เธอปฏิเสธความช่วยเหลือของเขา ปฏิเสธความเห็นใจของเขา ปฏิเสธแม้กระทั่งการเข้าใกล้ของเขา นับตั้งแต่ที่หนังสือข้อตกลงการหย่าส่งออกไปเขาก็อยากจะถามจริงๆ ว่าเธออยากจะตัดขาดไม่ให้เหลือเยื่อใยจริงๆหรือ!
เพื่อให้หญิงชราล้มเลิกความคิดที่จะให้พวกเขากลับมาแต่งงานกัน ถึงขึ้นพูดคำพูดแบบนี้ออกมา
เธอยินเสี้ยวเสี้ยว มีอะไรที่ไม่กล้าทำอีกบ้าง!
ทันใดนั้น จิ๋นลี่ยวนก็โกรธมากเป็นพิเศษ สีหน้าดูไม่ได้ มองมือกำหมัดแน่นไม่พูดไม่จาสักคำ
“คุณท่านคะ ฉันไม่สามารถมีเหลนให้ท่านได้ ไม่ว่าท่านจะกำหนดเวลาไว้หรือไม่ก็ไม่ได้ค่ะ” ยินเสี้ยวเสี้ยวพูดอย่างจริงใจเปิดเผย ไม่มีข้อห้ามแม้แต่น้อย ในเหตุการณ์ยังมีจิ๋นลี่หยาวและจิ๋นหยวนเฟิง เพราะเธอรู้ดี หากไม่เกลี้ยกล่อมทุกคนในตระกูลจิ๋นให้ได้แล้ว สุดท้ายพวกเขาก็ต้องบีบบังคับให้พวกเขาสองคนกลับมาแต่งงานกัน และการกลับมาแต่งงานกันเป็นสิ่งที่จิ๋นลี่ยวนไม่อยากเห็นมากที่สุด……
ร่างชราภาพสั่นสะท้านอย่างรุนแรงอยู่ครู่หนึ่ง หญิงชราที่เซถลายืนไม่อยู่ถอยหลังไปก้าวใหญ่ จิ๋นลี่โป๋มือไวรีบพุ่งไปข้างหน้าพยุงไว้ ตอนที่ดวงตคู่นั้นมองไปยังยินเสี้ยวเสี้ยวเต็มไปด้วยความเหลือเชื่อ
ยินเสี้ยวเสี้ยว ถึงขั้น……
พวกเขาไม่เคยคิดถึงเหตุผลมากมายนับไม่ถ้วน แต่ไม่คาดคิดเลยว่าเรื่องราวจะกลายเป็นเช่นนี้……
อายุเพียงยี่สิบสามปี แต่ไม่เพียงบอกพวกเขาว่าเธอเป็นโรคหวาดกลัวทางเพศ แต่เธออาจจะไม่อาจมีลูกได้เพราะเหตุผลด้วยอาการทางจิตนี้ แบบนี้ต่อไปต่อให้เขาคิดจะช่วยเธอ ในบ้านคงไม่มีใครเห็นด้วยแล้ว!
ไม่พูดไม่ได้ คำพูดนี้ของยินเสี้ยวเสี้ยวไม่เพียงตัดขาดคนตระกูลจิ๋น ยังตัดหนทางของตนเองด้วย นี่ต่อไปหากเธอยังอยากจะกลับมาอยู่กับจิ๋นลี่ยวนก็ต้องเป็นเรื่องที่ยากลำบากมาก แต่ก็พูดยากเธอก็ไม่ใช่เพราะต่อไปไม่อยากมีความสัมพันธ์เกี่ยวข้องอะไรกับตระกูลจิ๋นแม้แต่นิดเดียว!
“เธอ……เธอพูดอะไร” คุณย่าจิ๋นย้อนถามอย่างแปลกใจ ดวงตาทั้งสองข้างมองลงไปที่หน้าท้องแบนราบของเธอ
ไม่สามารถมีลูกได้เหรอ
ยินเสี้ยวเสี้ยวมีลูกไม่ได้อย่างนั้นเหรอ
นี่เป็นข่าวร้ายระดับไหนของตระกูลจิ๋นกัน!
ถ้าหากลูกชายของเธอที่อยู่ในยมโลกรู้เข้า จะตำหนิว่าเธอเป็นคนทำให้สายเลือดต้นตระกูลขาดไปหรือไม่
“เธอไปให้พ้น! ไปให้พ้นเดี๋ยวนี้!” ทันใดนั้นเอง หญิงชราก็ปลดปล่อยความโกรธออกมา ยกไม้เท้าแล้วก็เดินไปข้างหน้าคิดจะตียินเสี้ยวเสี้ยวสักครั้ง ปากก็ตะโกนออกมา “ยินเสี้ยวเสี้ยวเธอนี้มันลวงโลก ในเมื่อเธอมีลูกไม่ได้ เธอยังจะแต่งงานกับลี่ยวนทำไม เธอจงใจจะมาทำให้ตระกูลจิ๋นของพวกเราขายหน้าใช่มั้ย”
ผัวะ!
เสียงตีแรงๆดังขึ้นครั้งหนึ่ง ในชั่วเสี้ยววินาทีที่ไม้เท้าถูกยกขึ้นและลดลง สุดท้ายจิ๋นลี่ยวนก็หันไปด้านข้างและยื่นมือออกไปเพื่อปกป้องยินเสี้ยวเสี้ยวเอาไว้ในอ้อมกอดของเขา ไม้เท้านั้นก็ฟาดลงบนตัวเขา
ดวงตาที่สีขาวและดำแยกกันอย่างชัดเจนมองตรงเข้าไปในดวงตาเรียวเล็กคู่นั้น ทันใดนั้นยินเสี้ยวเสี้ยวก็ไม่อาจสะกดกลั้นน้ำตาไม่ให้ไหลลงมาได้ มือเล็กๆจับเสื้อของเขาไว้แน่นไม่ปล่อย ในชั่วพริบตาความขมขื่นที่มุมปากก็เหมือนจะหลอมละลายเข้าไปในเลือดและกระดูกอย่างนั้น
“ยินเสี้ยวเสี้ยว เธอมันลวงโลก กล้ามาหลอกตระกูลจิ๋นของฉัน!เธอนี่มันกล้าดีมากจริงๆ มีลูกไม่ได้เธอยังแต่งงานกับเขาอีก เธอนี่สมกับเป็นตัวกาลิณีจริงๆ ตอนนี้ยังมาสร้างความเสื่อมเสียชื่อเสียงให้ตระกูลจิ๋นของฉัน!” หญิงชราโกรธจัด หากไม่ใช่ว่าจิ๋นลี่โป๋ดึงอยู่อีกด้าน คาดว่าวันนี้เธอต้องตีหล่อนให้ได้ “จิ๋นลี่ยวนแกไสหัวออกไปเดี๋ยวนี้ ให้ฉันตีนังหน้าด้านลวงโลกนี่ให้ตาย!”
จิ๋นหยวนเฟิงตั้งสติกลับมาได้ก็รีบไปข้างหน้าช่วยดึงคุณย่า คนในห้องก็ดูเหมือนจะตกอยู่ในความสับสนวุ่นวายขึ้นมาทันที ไม่มีใครมีเวลาสนใจยินเสี้ยวเสี้ยวและจิ๋นลี่ยวนที่คุกเข่าอยู่ตรงนั้น
บนร่างของเขายังมีร่องรอยที่ถูกยินจื่อเจิ้นต่อยจนบาดเจ็บอยู่ ยังดีที่บนใบหน้าไม่มีร่องรอยบาดแผลที่เห็นชัดมิเช่นนั้นตอนนี้คงต้องยุ่งเหยิงอีก กอดรัดเอวยินเสี้ยวเสี้ยวไว้แน่น ในดวงตาเรียวเล็กปลายชี้ขึ้นนั้นเต็มไปด้วยความรักและหวงแหน
ยินเสี้ยวเสี้ยวน้ำตาร่วงโดยไม่มีเสียง สองมือกำเสื้อของเขาไว้ไม่พูดอะไร
“เสี้ยวเสี้ยว……” ในที่สุด จิ๋นลี่ยวนส่งเสียงเรียกออกมาเบาๆ ดวงตาคู่ที่สีขาวดำแบ่งกันอย่างชัดเจนนั้นเต็มไปด้วยความหวังทันที
ถ้าหาก ถ้าหากจิ๋นลี่ยวนในตอนนี้พูดมาประโยคหนึ่งว่าไม่หย่า อย่างนั้นเธอก็จะไม่หย่า ต่อให้ถูกหญิงชราโกรธจนตายก็ไม่ยอมหย่าเด็ดขาด!
“คุณย่าคะ นี่คุณย่าเป็นอะไรคะ ทำไมโกรธมากขนาดนั้น” ทันใดนั้น เสียงหวานๆก็ดังเข้ามา
ไม่ต้องหันไปมอง ยินเสี้ยวเสี้ยวก็รู้ว่าเป็นใคร นั่นคือมู่เยียนหรานคุณหนูใหญ่ตระกูลมู่ แฟนสาวที่เป็นข่าวกับจิ๋นลี่ยวนในตอนนี้
ในชั่วเสี้ยววินาทีที่เกือบจะสิ้นเสียงของมู่เยียนหราน มือเล็กๆของยินเสี้ยวเสี้ยวที่กำเสื้อของจิ๋นลี่ยวนก็คลายออก น้ำตาร่วงลงอย่างไร้เสียง นัยน์ตาก็เปลี่ยนเป็นสงบนิ่งลงโดยไม่เห็นความหวังแบบนั้นเมื่อครู่แล้ว
ใจของจิ๋นลี่ยวนก็ตื่นตระหนกทันที มือที่โอบรอบเอวของเธอยิ่งแน่นขึ้นเรื่อยๆ แต่ยินเสี้ยวเสี้ยวกลับไม่ยอมมองเขาอีกแล้ว……
“เสี้ยวเสี้ยว……” เสียงเรียกของจิ๋นลี่ยวนสั่นเทา แต่จะเรียกอย่างไรก็ไม่อาจเอาสายตาของเธอกลับคืนมาได้
“จิ๋นลี่ยวน แกยังจะทำอะไรอยู่ เอานังคนลวงโลกออกมาให้ฉัน นับจากวันนี้ตระกูลจิ๋นของฉันจะไมให้หล่อนยินเสี้ยวเสี้ยวย่างกรายเข้ามาแม้แต่ก้าวเดียว! ใครกล้าขัดคำสั่ง จะได้เห็นดีกันกับอีแก่อย่างฉันเนี่ย!” หญิงชราคำราม มู่เหยียนหรันที่รีบก้าวไปข้างหน้าเพื่อปลอบประโลมมองทุกสิ่งที่อยู่ตรงหน้าเธอด้วยความประหลาดใจ ในดวงตาลึกๆฉายความดีใจอิ่มเอมโดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเธอได้ยินคำพูดตอนท้ายของหญิงชราดีใจจนเกือบจะหัวเราะออกมาด้วยดีใจ “ไก่ที่ออกไข่ไม่ได้กล้าแต่งงานกับครอบครัวจิ๋นของฉัน ดูท่าแล้วยินไป่ฝันจะให้กำเนิดลูกสาวที่แสนดีจริงๆ! แกไสหัวไป”
ทั้งหมดทั้งมวล ยินเสี้ยวเสี้ยวล้วนมองเห็นได้ด้วยตา ได้ฟังจากหู สัมผัสได้ด้วยใจ
จิ๋นลี่ยวนราวกับไม่ได้ยินคำพูดของคุณย่าได้แต่จ้องมองยินเสี้ยวเสี้ยวที่อยู่ในอ้อมกอด เหมือนกับมดที่อยู่หม้อร้อนๆไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรดี
“คุณย่าคะ คุณย่าอย่าโมโหเลยนะคะ โกรธจนเสียสุภาพมันไม่ดีนะคะ” มู่เยียนหรานกระซิบขณะที่ลูบหลังให้หญิงชราเธอมองไปที่ ยินเสี้ยวเสี้ยวแล้วยิ้มพลางพูดต่อ “คุณย่าคะ คุณย่าก็พูดเกินไปนะคะ เรื่องแบบนี้ใครเขาจะเอามาพูดส่งเดชกันคะ ไปตรวจสอบดูเสียหน่อยเถอะค่ะ อย่าให้ถึงเวลาเป็นการเข้าใจผิดมันจะไม่ดีนะคะ”
“เข้าใจผิดเหรอ เข้าใจอะไรผิดมากมายขนาดนั้น ตัวหล่อนเองเป็นคนพูดจะเป็นเรื่องเท็จได้ยังไง” หญิงชราค่อยๆสงบลงบ้างแล้ว แต่ก็ยังโกรธมาก พูดเสียงดังว่า “ตระกูลจิ๋นของฉันจะอย่างไรก็แล้วแต่ ก็ไม่มีทางรับลูกสะใภ้ที่มีลูกไม่ได้! ในเมื่อมีลูกไม่ได้ก็ไม่ต้องเป็นผู้หญิง! แบบนี้จะต่างอะไรกับผู้ชาย!”
จิ๋นลี่โป๋และจิ๋นลี่หยาวล้วนยังตั้งสติกลับมาไม่ได้ ในตอนนี้เธอรู้ว่าไม่สามารถเติมเชื้อไฟได้ มู่เยียนหรานที่โผล่มาถึงบ้านอย่างกะทันหันไม่รู้สถานการณ์เธอก็พูดแบบนี้พูดไม่อาจจะพูดได้ว่าไม่ถูก แต่ก็ทำให้คนรู้สึกแปลกใจ ที่หญิงชราลดความความโกรธเกรี้ยวลงบ้างไม่น้อย! แต่ว่าอายุมากแล้ว เสียงก็ค่อยๆเบาลงมาบ้าง
“พยุงหญิงชรานั่งบนโซฟา มู่เยียนหรานรีบรินน้ำชาให้หญิงชราหนึ่งแก้วพูดว่า “คุณย่า อย่าโกรธเลยนะคะ เรื่องใหญ่แค่ไหนก็ไม่สำคัญเท่าสุขภาพร่างกายของคุณย่า ถ้าคุณย่ามีเรื่องอยากจะถามพวกเขาก็รอให้อารมณ์จะสงบก่อนค่อยว่ากันดีมั้ยคะ คุณย่าดูสิคะคุณย่าให้พวกเขาคุกเข่าอยู่แบบนี้ก็ไม่มีอะไร คนที่ไม่รู้ยังคิดว่าคุณย่าลงโทษพวกเขานะคะ!”
หญิงชราหันไปถลึงตาใส่ยินเสี้ยวเสี้ยวอย่างรวดเร็วพูดว่า “ยินเสี้ยวเสี้ยว เธอไสหัวออกไป ฉันรับการขอโทษของเธอไม่ไหว นับจากวันนี้ต่อไปเธอไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับตระกูลจิ๋นอีก ในเมื่อเธอก็หย่ากับจิ๋นลี่ยวนแล้ว อย่างนั้นต่อไปพวกเธอก็รักษาระยะห่างกันไว้อย่าไปเกี่ยวข้องกันอีก!”
สีหน้าของยินเสี้ยวเสี้ยวซีดลงยังคงไม่เงยหน้าขึ้น มู่เยียนหรานเห็นสายตาของเธอ จึงเดินไปเพื่อพยายามช่วยยินเสี้ยวเสี้ยว ช่วยยินเสี้ยวเสี้ยวให้รอดพ้นจากการพันธนาการของจิ๋นลี่ยวน หันไปหาเธอปากยังคงพูดว่า “เสี้ยวเสี้ยว อย่าคุกเข่าเลย ลุกขึ้นก่อนรอให้อารมณ์ของคุณยายสงบก่อนแล้วค่อยคุยกัน”
จิ๋นลี่ยวนไม่ยอมปล่อยมือ มู่เยียนหรานจึงดึงมันอย่างแรงและพูดกับเขาว่า“ลี่ยวน คุณรู้ไหมว่าคุณย่าสุขภาพไม่ค่อยดี คุณจงใจทำให้ท่านโกรธแบบนี้ระวังคุณย่าบีบบังคับคุณจริงๆ คุณจะทำยังไง ”
ด้วยคำพูดไม่กี่คำพูดด้วยเสียงเล็กๆน่ารักแต่มีประเด็นสำคัญอยู่ จิ๋นลี่ยวนแม้จะไม่เต็มใจแต่เขาก็ทำได้เพียงปล่อยมือและยืนขึ้น
ยินเสี้ยวเสี้ยวที่มองลงมาก็ยิ้มเล็กน้อยเพราะการกระทำนี้
มู่เยียนหราน สามารถมีอิทธิพลต่ออารมณ์และการตัดสินใจของ จิ๋นลี่ยวนได้อย่างง่ายดาย .