Flash Marriage แต่งงานกับคน(ไม่)ธรรมดา - บทที่ 217 เงียบแทนการรอมรับ
บทที่ 217 เงียบแทนการรอมรับ
ทันใดนั้นมู่เยียนหรานก็ก้าวไปข้างหน้าและกอดจื่อผู่หยาง ร้องห่มร้องไห้และพูด “แม่คะ อย่าไปนะ พ่อเขาไม่ยอมให้ไปซื้อหัวใจที่ตลาดมืดต้องมีเหตุผลของเขาอย่างแน่นอน อย่าทะเลาะกับพ่อเพราะหนูเลย…….”
เมื่อเธอพูดออกมาเช่นนั้นจื่อผู่หยางก็ยิ่งรู้สึกเสียใจกับเธอมากยิ่งขึ้น ยืนกรานที่จะไปหามู่หลง และในเวลานี้มู่หลงก็เข้ามา ยังไงก็ยังอดเป็นห่วงลูกสาวไม่ได้ พอเดินเข้ามาก็ได้ยินจื่อผู่หยางพูด “อะหลง พวกเราไปซื้อหัวใจที่ตลาดมืดให้เยียนหรานกันเถอะ”
“วุ่นวายน่า!” เสียงพูดเงียบลง สิ่งที่ได้กลับมาคือเสียงคำรามของมู่หลง “ตลาดมืดเป็นสถานที่ที่เข้าไปพัวพันได้ตามใจหรือไง? ผู้หญิงหัวใจอ่อนแอ! เธอรู้ไหมว่าใครเป็นผู้ดูแลตลาดมืดในตอนนี้? ‘พญายม’ นั่นคือคนที่สามารถขัดใจได้ง่าย ๆ อย่างนั้นเหรอ? ถึงเวลานั้นจะซื้อหัวใจได้หรือไม่นั้นเรื่องเดียวกันแล้ว แม้แต่พวกเราก็ไม่รู้ว่าจะมีชีวิตอยู่ที่นี่ไหมนั่นคือปัญหา!
ยังไงแล้วผู้ชายที่เที่ยวไปมาจนทั่ว ต้องเข้าใจเรื่องเหล่านี้มากกว่าจื่อผู่หยางกับมู่เยียนหรานแน่นอน
แต่ทว่าจื่อผู่หยางสนใจเรื่องนี้ที่ไหน กระโจนเข้าไปแล้วร้องไห้แตะต่อยมู่หลงและพูด “งั้นคุณก็บอกฉันมาสิว่าจะทำอย่างไรดี? ลูกสาวฉันเพิ่งจะ 25ปี 25 ปีเองนะ ช่วงเวลาดีๆช่วงชีวิตวัยรุ่นที่ดีของเธอต้องถูกทำลายด้วยโรคนี้เหรอ? ฉันเป็นแม่ของเธอคุณก็เป็นพ่อของเธอ แต่ทำไมคุณถึงทนดูเธอตายได้ล่ะ! ถ้าหากยังหาหัวใจที่เข้ากันไม่ได้ เยียนหรานก็ ก็……”
มู่หลงไม่ตอบโต้ได้แต่ปล่อยให้จื่อผู่หยางตบตีอยู่อย่างนั้น มองดูในแววตาของมู่เยียนหรานด้วยความรู้สึกละอายใจ แต่ตระกูลมู่แม้แต่ท่านปู่มู่ก็ยังไม่กล้าคิดเช่นนี้ แล้วเขาจะมีความกล้าได้อย่างไรล่ะ?
‘พญายม’ คนที่ถูกเรียกด้วยชื่อนี้ได้จะเป็นคนดีเหรอ?
มู่เยียนหรานมองดูพวกเขา แววตาเต็มไปด้วยความเศร้าโศก ก้าวไปข้างหน้าดึงแม่ของเธออกมาและพูดเบาๆ “แม่คะ อย่าเป็นแบบนี้เลย พ่อก็ลำบากใจมากหนูรู้ และหนูก็รู้ว่าพ่อกับแม่รักหนูมาตลอด หลายปีมานี้ไม่เคยทอดทิ้งหนูเลย เพียงแต่หนูยังไงก็ไม่สามารถจะอยู่กับพ่อแม่ได้นานกว่านี้แล้ว……แต่ว่าหนูไม่ได้เต็มใจนะ ไม่ได้เต็มใจเลยจริงๆ……”
จื่อผู่หยางหันกลับมากอดมู่เยียนหรานร้องไห้จนแทบขาดใจ มู่เยียนหรานก็พูดราวกับระบายความทุกข์ว่า “ทำไมกัน ฉันก็เป็นพี่สาวคนโตของตระกูลมู่ แต่ฉันมีร่างกายที่ไม่สมบูรณ์ ยินเสี้ยวเสี้ยวคือพี่สาวคนโตที่ไม่ได้รับความรัก แต่เธอกลับมีร่างกายสมบูรณ์แข็งแรง……”
“ยินเสี้ยวเสี้ยว?” มู่หลงอดไม่ได้ที่จะถามออกมา ทำไมถึงพูดถึงเธอในเวลานี้ล่ะ?
จื่อผู่หยางก็มองไปที่เธอเช่นกัน เมื่อเห็นมู่เยียนหรานหยุดพูดทันทีก็รีบบังคับเธอและพูด “เยียนหราน ลูกอยากพูดอะไร?” หรือว่ายินเสี้ยวเสี้ยวทำให้ลูกอึดอัดใจ? เธอเป็นแค่รองเท้าขาดๆที่จิ่งซานช่าวไม่ต้องการ มีสิทธิ์อะไรมาทำให้ลูกไม่สบายใจ? ลูกวางใจได้ พรุ่งนี้แม่กับพ่อจะทวงความเป็นธรรมให้ลูกเอง!”
ส่ายหัวอย่างแรง มู่เยียนหรานร้องไห้พร้อมพูด “แม่คะ เธอไม่ได้ทำหรอกค่ะ เธอไม่ได้ทำ เพียงแต่ครั้งก่อนที่ไปโรงพยาบาลหนูได้เห็นรายงานผลตรวจร่างกายของเธอโดยบังเอิญ ดูเหมือนว่าเธอจะถือโอกาสทำไว้ตอนผ่าตัดไส้ติ่งอักเสบ รายงานชี้ว่าเหมือนกับของหนูทุกอย่าง”
เพียงประโยคเดียว ไม่ต้องพูดอะไรไปมากกว่านี้ จื่อผู่หยางและมู่หลงก็รับรู้ว่านี้หมายความว่าอะไร
หัวใจของยินเสี้ยวเสี้ยวเข้ากับมู่เยียนหราน เธอจึงอิจฉายินเสี้ยวเสี้ยวขนาดนั้น! อิจฉาที่เธอมีร่างกายที่แข็งแรง อิจฉาที่เธอแต่งงานกับจิ๋นลี่ยวน! อิจฉาที่ที่เธอมีชีวิตที่สมบูรณ์แบบ!
ภายในห้องเงียบลงอย่างกะทันหันเป็นเวลานาน
ทันใดนั้นสายตาของจื่อผู่หยางก็แผ่ความแน่วแน่ออกมา “เยียนหราน ลูกวางใจได้ หัวใจของยินเสี้ยวเสี้ยวดวงนั้นแม่จะเอามาให้ลูกให้ได้ ทั้งหมดที่ยินเสี้ยวเสี้ยวมีมันควรจะเป็นของลูก! เป็นของลูก!
ภายในห้องที่เงียนสนิท ไม่มีใครพูดอะไร ความเงียบเป็นตัวแทนของการยอมรับ
กลางดึก ยินเสี้ยวเสี้ยวที่นั่งอยู่ในห้องนอนคนเดียวโดยไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไร ขมวดคิ้ว
มือเล็กลูบไปที่หน้าท้องแบนราบของตัวเองโดยไม่รู้ตัว ถึงตอนนี้เธอก็ยังไม่อยากจะเชื่อว่าตนเองนั้นท้องจริงๆ
เม้มริมฝีปากแน่น ยินเสี้ยวเสี้ยวคลี่แผ่นทดสอบที่เธอถือไว้ในมือ
ในนั้นเขียนอย่างชัดเจนว่าลูกของเธออยู่ในท้องของเธอตอนนี้ ถึงแม้จะเป็นก้อนเนื้อขนาดเล็กที่มีเส้นผ่านศูนย์กลางแค่1เซนติเมตร แต่ก้อนเนื้อเล็กๆนี้จะเริ่มเติบโตอย่างช้าๆ โตเป็นหัวใจดวงน้อยๆ หลังจากนั้นก็มีแขนขาเล็กๆ…….ลูกของเธออยู่ในท้องของเธอนี้เอง……
ตอนนี้พวกเขาทั้งคู่ใช้ร่างกายเดียวกัน เขายังไม่ทันได้เติบโตเป็นรูปร่างคนก็จะถูกเธอบีบคอให้ตายแล้วเหรอ?
น้ำตาไหลอาบใบหน้าโดยไม่รู้ตัว
มือหนึ่งกำใบทดสอบไว้แน่น อีกมือหนึ่งก็ลูบท้องน้อยของตนเองเบา ๆ ยินเสี้ยวเสี้ยวสะอื้นอยู่คนเดียว
เด็กคนนี้ เธอเก็บไว้ไม่ได้ เก็บไว้ไม่ได้จริงๆ!
ถึงแม้ว่าไม่มีคำเตือนของยินจื่อเจิ้น แต่เมื่อเธอมีสติขึ้นมาเล็กน้อยก็รู้ว่าตนเองรักษาไว้ไม่ได้! ตระกูลจิ๋นที่จ้องจะทำร้าย เธอไม่มีกำลังที่จะต่อสู้อยู่แล้ว! พวกเขาอยากให้อยู่ เด็กคนนี้ก็อยู่ต่อไปได้ แต่ถ้าพวกเขาไม่อยากให้อยู่ แค่จะให้เด็กคนนี้เป็น ‘คน’ ก็ไม่ได้ด้วยซ้ำ!
“ลูกจ๋า……” กระซิบเสียงเบา ยินเสี้ยวเสี้ยวร้องห่มร้องไห้อยู่บนเตียง “ลูกจ๋า ลูกรักของแม่……”
บนโลกใบนี้ ไม่มีแม่คนไหนที่ไม่รักลูกของตัวเอง แม้แต่ยินเสี้ยวเสี้ยวเองก็เป็นลูกคนหนึ่ง แต่ในท้องของเธอก็มีลูกของเธอเองอย่างชัดเจน เธอก็เป็นแม่คนหนึ่งแล้ว……
ร้องไห้มาเป็นเวลานาน ยินเสี้ยวเสี้ยวถึงหยุดร้องไห้ได้ คิดถึงของที่ตนเองกินไปวันนี้ก็อยากอ้วกออกมา เพราะกลัวว่าจะทำร้ายเด็กโดยไม่รู้ตัว นึกออกก็ลุกไปดื่มนมอุ่น ๆ สักถ้วย แต่เมื่อเดินผ่านหน้าต่างกลับมองเห็นชายหนุ่มที่อยู่ชั้นล่าง
ในความมืด คนสองคน คนหนึ่งอยู่ชั้นบนคนหนึ่งอยู่ชั้นล่าง ถึงขนาดมองเห็นอีกฝ่ายไม่ชัด แต่พวกเขาก็รู้สึกได้ รับรู้ความรู้สึกจากสายตาของอีกฝ่าย
ทนไม่ไหวแล้ว ยินเสี้ยว ๆ ปิดปากของตนเองแล้วร้องไห้ออกมา
จิ๋นลี่ยวน จิ๋นลี่ยวน……
คาดไม่ถึงว่าเขาใจร้ายขนาดนี้ แล้วยังจะจัดการเรื่องผ่าตัดให้เธอด้วยตัวเองอีกหรอ?
แต่ว่านี้มันลูกของพวกเขานะ……
แต่เพียงแค่คิดว่าตัวเองไม่ต้องการเด็กคนนี้ตั้งแต่แรก ยินเสี้ยวเสี้ยวก็ยิ่งรู้สึกว่าตนเองนั้นไม่ได้เป็นคนดีเลย…….
ทำไมเด็กคนนี้ถึงไม่มาให้เร็วกว่านี้?
ถ้าหากว่ามาเร็วกว่านี้แล้ว บทสรุปในตอนนี้ก็คงไม่เหมือนกันแล้วใช่ไหม?
จิ๋นลี่ยวนที่อยู่ชั้นล่าง รถเรนจ์โรเวอร์คันใหญ่ที่ดับไฟจอดนิ่งอยู่ด้านหลังเขาแต่กลับไม่ได้ช่วยให้คนรู้สึกถึงความปลอดภัยเลยสักนิด ยังคงรักษาท่าทาง จิ๋นลี่ยวนดูราวกับว่าไม่รู้จักเหนื่อย
เธอก็อยู่ชั้นบน ขนาดเธอจะอยู่ริมหน้าต่าง แต่ว่าเขากลับไม่กล้าขึ้นไป……
เขากลัวที่จะได้ยินเธอพูดว่าเธอไม่ต้องการมีลูก
ต้องเตรียมการผ่าตัดทำแท้งจริง ๆ งั้นเหรอ?
หลังจากนั้นไม่นาน ในที่สุดก็ยังคงเป็นยินเสี้ยวเสี้ยวที่หันหลังจากไปก่อน ไม่นานแม้แต่ไฟที่ติดอยู่ในห้องก็ดับลง
หัวใจรู้สึกขมขื่นเล็กน้อย เขายกมุมปากขึ้นอย่างเหน็บแนม จิ๋นลี่ยวนถอยหลังไปสองเก้าก่อนที่จะเอนตัวไปที่รถเรนจ์โรเวอร์และเริ่มสูบบุหรี่ทีละมวน ในโลกที่มืดมิดอบอวลไปด้วยควันบุหรี่ ลมหนาวก็พัดจนเสื้อผ้าของคนปลิวไสว
ยินเสี้ยวเสี้ยวยืนอยู่หลังหน้าต่างและมองดูชายหนุ่มที่อยู่ชั้นล่างอย่างระมัดระวัง ไม่นานก็หันหลังกลับอย่างใจร้ายโดยไม่สนใจเขา
เพียงแต่ในคืนนี้ ถูกกำหนดให้เป็นคืนที่หลายคนนอนไม่หลับ
วันรุ่งขึ้น หลังจากที่ยินเสี้ยวเสี้ยวตื่นนอนก็เหลือบไปมองชั้นล่างโดยไม่รู้ตัว ที่นั่นไม่มีเงาของรถเรนจ์โรเวอร์หรือแม้แต่เงาของจิ๋นลี่ยวน มีเพียงก้นบุหรี่จำนวนมากที่เหลือไว้บนพื้น ดูเหมือนว่าเมื่อคืนนี้จิ๋นลี่ยวนก็คงจะไม่ค่อยสบายใจเท่าไหร่
เมื่อหันสายตากลับมา ยินเสี้ยวเสี้ยวก็ลูบหน้าท้องของตนเองอย่างเงียบๆหันหลังกลับไปยังห้องครัวเพื่อทำอาหารสำหรับตนเอง ถือโอกาสเปิดทีวี แต่ใครจะรู้ว่าข่าวในทีวีนั้นเต็มไปด้วยข่าวที่เกี่ยวข้องกับเธอ
เวลาชั่วข้ามคืน ไม่รู้ว่าใครเป็นคนเผยแพร่ข่าวที่เธอตั้งครรภ์ออกไป รู้ไปทั้งเมืองTแล้ว
ความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับจิ๋นลี่ยวนในตอนนี้ กลายเป็นจุดสนใจของทุกคนอีกครั้ง
——เมื่อสามวันก่อนพวกเราทราบว่า คุณชายสามตระกูลจิ๋นได้หย่าขาดกับคุณหนูใหญ่ตระกูลยินแล้ว แต่เมื่อคืนที่ผ่านมาคุณหนูใหญ่ตระกูลยินก็ได้รับการยืนยันจากสูตินรีเวชของโรงพยาบาลหนันยูว่าตั้งท้องได้6สัปดาห์แล้ว นับจากเวลาแล้วก็คือช่วงที่สองคนแต่งงานกัน แต่เพึ่งจะท้องลูกก็หย่ากันไปแล้ว และไม่รู้ว่ามีเงื่อนงำอย่างอื่นอีกหรือไม่……
นักข่าวไม่กล้าพูดมากนัก แต่ทุกคนต่างก็คาดเดาเช่นนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งภายใต้คำโน้มนำที่ไม่ถูกต้องของเธอ
ตั้งท้องแล้วหย่าร้าง แต่หลังจากหย่าแล้วถึงพบว่าท้องลูกแต่ว่ามีสองปัญหา……
ใบหน้าของเธอซีดเซียวเล็กน้อย ยินเสี้ยวเสี้ยวในที่สุดก็ปิดทีวีและไม่สนใจอีก เมื่อนมร้อนเธอก็อยากไปยกมาดื่ม คิดไม่ถึงว่าตนเองยังไม่ทันเข้าใกล้มัน ก็ต้องรีบพุ่งไปห้องน้ำและอาเจียนออกมาอย่างหนักเพราะกลิ่นของมัน อาเจียนจนร่างกายแทบยืนไม่ไหว แต่กลิ่นของนมก็ยังอยู่รอบๆปลายจมูก กลิ่นหอมของนมร้อน ๆ ฟุ้งไปทั่วทั้งห้อง ยินเสี้ยวเสี้ยวไม่สามารถที่จะเคลื่อนที่ได้ ทำได้เพียงยันเอาไว้แบบนี้……
ทันใดนั้นเสียงออดประตูก็ดังขึ้นมา เธอทำได้เพียงแค่เหลือบมองก็เริ่มอาเจียนอีกครั้ง
หลังจากนั้นไม่นาน รหัสผ่านประตูในบ้านก็ถูกคนเปิดออก ยินเสี้ยวเสี้ยวยังคงคิดว่าเป็นยินจื่อเจิ้น ประคองตัวแล้วพูดหนึ่งประโยค “นม……” หลังจากนั้นก็เริ่มอาเจียนต่อ
ทันทีที่ผู้มาเยือนได้ยินก็รีบพุ่งไปที่ห้องครัวเพื่อเทนมทิ้ง ทันทีที่ได้ยินเสียงก๊อกน้ำไหลออก ต้องการที่จะระงับกลิ่นของนมที่โชยมาในทันที หลังจากนั้นบนร่างกายของยินเสี้ยวเสี้ยวก็ถูกคลุมด้วยเสื้อคลุมอุ่น ๆ ตัวหนึ่ง แต่ทว่าหน้าต่างในบ้านถูกคนเปิดจนหมด ดูเหมือนว่าจะพยายามขจัดกลิ่นนมให้เร็วที่สุด
ในขณะที่เสื้อคลุมลงบนร่างของตนเอง ร่างกายของยินเสี้ยวเสี้ยวก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกเกร็งเล็กน้อย
กลิ่นของนมถูกชะล้างออกไปโดยน้ำและอากาศที่เข้ามาไม่น้อย ยินเสี้ยวเสี้ยวยืดตัวขึ้นมาและค่อย ๆ หันไปมองร่างนั้นที่กำลังยุ่งอยู่ในบ้าน
จิ๋นลี่ยวนสวมเสื้อกันหนาวถักแบบบางวิ่งวุ่นอยู่ในบ้าน สักพักก็วิ่งไปเปิดหน้าต่าง สักพักก็ไปเปิดพัดลมระบายอากาศในห้องครัว จากนั้นก็นำนมทั้งหมดในบ้านไปทิ้งถังขยะและขนไปไว้ที่ประตู……ทั้งหมดนั้นที่อยู่ในสายตาของยินเสี้ยวเสี้ยว ต่างเป็นความทรมานรูปแบบหนึ่ง
ในเมื่อไม่ต้องการเธอ ไม่ต้องการลูกของเธอ ถ้าอย่างนั้นตอนนี้เขากำลังทำอะไรอยู่ล่ะ?
สีหน้าค่อยๆเย็นชาลง ยินเสี้ยวเสี้ยวเดินไปถอดเสื้อคลุมของเขาทิ้งไว้บนโซฟา แต่ทว่าเสื้อยังไม่ทันออกจากตัวเธอเกินห้าวินาทีก็ถูกพาดอยู่บนไหล่ของเธออีกครั้ง อีกทั้งมีเสียงที่คุ้นเคยนั้นดังขึ้นข้างหู “ใส่เสื้อซะ เดี๋ยวจะไม่สบาย ไม่ดีต่อร่างกาย……”
ยินเสี้ยวเสี้ยวหายใจเข้าลึก ๆ แล้วหันไปมองเขาปล่อยให้เสื้อที่อยู่บนบ่าตกลงที่พื้น
ในเมื่อเขาจำไม่ได้ว่าพวกเขาหย่ากันแล้วถ้าอย่างนั้นเธอก็จะช่วยเขาให้จำให้ขึ้นใจ!
มือของจิ๋นลี่ยวนยังคงห้อยอยู่ในอากาศก็เห็นยินเสี้ยวเสี้ยวหันกลับมาด้วยสีหน้าเย็นชา สายตาที่ไร้ความรู้สึกนั้นทำให้เขากลับมามีสติในทันที ลูกกระเดือกขยับเล็กน้อยแต่เขายังคงไม่ยอมรับ ไม่อยากนึกถึงเรื่องนั้น……
ที่นี่ไม่ใช่บ้านของพวกเขา เธอก็ไม่ใช่ภรรยาของเขา แม้แต่ลูกในท้องของเธอก็ได้สูญเสียพ่อที่ ‘ชอบธรรม’ ไปแล้วในตอนนี้…