Flash Marriage แต่งงานกับคน(ไม่)ธรรมดา - บทที่ 220 รอยแตกร้าวของท้องฟ้า
บทที่ 220 รอยแตกร้าวของท้องฟ้า
“ทำไมเธอทำแบบนี้? มาตีคนตามอำเภอใจได้ยังไง! ฉันว่าบ้านเธอก็คงไม่ได้อบรมมาสักเท่าไหร่ ตอนอยู่กับยินเสี้ยวเสี้ยวก็ไม่รู้ว่าจะทำตัวแบบไหน!” หลี่หมึ้งที่เห็นลูกสาวแสนรักของตัวเองโดนตี ก็รีบเข้าไปปกป้องทันที ถึงกับเงื้อมือขึ้นจะตบกู่ชูเหยา
เสียง‘เพียะ’ดังขึ้น แต่ครั้งนี้กลับเป็นฉีเคอหานที่ก้าวเข้ามาตบมือของหลี่หมึ้งทิ้ง ดังกว่าเสียงตบของกู่ชูเหยาเสียอีก ทำเอาทุกคนต่างตกตะลึง
เป็นเด็กเป็นเล็กกล้าหยาบคายขนาดนี้เชียว? แม้ที่ตีไปจะไม่ใช่หน้า แต่ตีมือก็ทำให้หลี่หมึ้งเสียหน้าพอแล้ว!
“เธอเป็นแบบนี้แล้วจะยังไง? ลูกสะใภ้ตระกูลฉีของเราคุณมาสิทธิ์มาว่างั้นเหรอ? อายุปูนนี้แล้วปากยังพูดอะไรดี ๆ ไม่ได้ ผมว่าคุณเองก็ไม่ได้อบรมมาดีสักเท่าไหร่หรอก!” เดิมทีฉีเคอหานก็พวกที่ควรหาเรื่องด้วยซะที่ไหนกัน หากมายั่วโมโหเขา เขาเป็นคนที่แม้แต่คุณย่าตระกูลจิ๋นก็กล้าปะทะ จะไปกลัวตัวแสดงเล็ก ๆ อย่างหลี่หมึ้งได้ยังไง?
ยังไงยินไป่ฝันก็อยู่ในห้างสรรพสินค้ามานาน จึงตอบสนองได้อย่างรวดเร็ว
ตระกูลฉี ตระกูลกู่ ไม่ใช่ตระกูลที่เพิ่งจะหมั้นกันไม่นานนี้หรอกเหรอ?
อย่างนั้นก็ไม่ใช่คนที่ตระกูลยินของพวกเขากล้าล่วงเกิน
ยินไป่ฝันก้าวไปข้างหน้าทันทีแล้วดึงตัวหลี่หมึ้ง ชื่อของฉีเคอหานอยู่ในระดับเดียวกับคุณชายใหญ่ตระกูลจิ๋น แต่คนหนึ่งเพียงพอที่จะไม่แยแสโลกอยู่ในสายตา ส่วนอีกคนกลับเป็นเพลย์บอยโดยสมบูรณ์
หลังจากหน้าเสียไปแล้ว ยินรั่วอวิ๋นก็โกรธจนลูกตาแทบถลนจากเบ้า แต่กู่ชูเหยาก็ไม่ได้สนใจเธอเลย
ยินเสี้ยวเสี้ยวร้องไห้อย่างหนักในอ้อมแขนของจิ๋นลี่ยวน สะอึกสะอื้นจนแทบหายใจไม่ออก จิ๋นลี่ยวนรีบอุ้มเธอพาเข้าไปในบ้าน ฉีเคอหานยืนอยู่ที่ประตูขวางสมาชิกตระกูลหยินทั้งหมดี่ให้อยู่ด้านนอก แม้แต่ยินจื่อเจิ้นก็ไม่ยกเว้น
จิ๋นลี่ยวนอุ้มยินเสี้ยวเสี้ยวกลับมาในห้องนอน โอบร่างสั่นเทาของเธอเอนเข้ามาในอ้อมกอดของตัวเอง
จิ๋นลี่ยวนเอนตัวลงบนเตียงปลอบประโลมซ้ำแล้วซ้ำเล่า “ไม่ต้องกลัวนะเสี้ยวเสี้ยว ฉันมาแล้ว ไม่มีใครกล้ารังแกเธอแล้ว ลูกน้อยของเราก็ไม่เป็นไรแล้ว ไม่ต้องร้องนะ….”
ยินเสี้ยวเสี้ยวยังคงตกใจกลัวกับการต่อสู้ของยินไป่ฝันกับหลี่หมึ้งอยู่ไม่น้อย กระซิบพูดได้เพียงแค่คำพูดแบบนั้น “ลูกของฉัน พวกเขาจะมาทำร้ายลูกของฉัน…..ฉันไม่อยากทำร้ายเขา ฉันอยากคลอดเขาออกมา ฉันอยากคลอดลูกของฉัน ลูกของฉันไม่ได้ชั่วร้าย….ไม่ใช่….เขามีพ่อนะ เขามี….”
แต่ละคำพูด ทำให้ลำคอของจิ๋นลี่ยวนตีบตัน
การแต่งงาน สุดท้ายแล้วมันคือความผิดพลาดสินะ งั้นสินะ….
“มีสิ เขามี พ่อของเขาชื่อจิ๋นลี่ยวน แม่ของเขาชื่อยินเสี้ยวเสี้ยว…..” เขาพูดออกมา ขอบตาของจิ๋นลี่ยวนเริ่มเป็นสีแดง “เขาเป็นเด็กที่มีความสุข พ่อและแม่ต่างรอคอยการมาของเขา…..”
เมื่อฟังคำพูดแบบนั้นของจิ๋นลี่ยวนน้ำตาของยินเสี้ยวเสี้ยวห็ยิ่งไหลเร็วมากขึ้น เธอเงยหน้าขึ้นเล็กน้อยมองชายหนุ่มตรงหน้า ใบหน้าราวดอกสาลี่เปื้อนหยาดฝนเอ่ยเบา ๆ “จิ๋นลี่ยวน ฉันไม่อยากเอาเขาออก ฉันอยากคลอดเขา ฉันอยากให้เขามีครอบครัวที่สมบูรณ์ มีพ่อ มีแม่….”
จิ๋นลี่ยวนพยักหน้าอย่าแรง พูดไม่ออกสักคำ
“แต่ว่า…แต่ว่า….” ยินเสี้ยวเสี้ยวพูดด้วยริมฝีปากที่สั่นเทา “แต่ตระกูลยินยอมรับเขาไม่ได้ ตระกูลมู่ยอมรับเขาไม่ได้ เสียงนินทาข้างนอกเองก็ไม่ยอมรับเขา แม้แต่นาย….นายก็ไม่ต้องการเขา…..”
ประโยคสุดท้ายนั้นทำให้หัวใจของจิ๋นลี่ยวนสั่นสะท้านไปด้วย
เขามองลงในยังหญิงสาวในอ้อมกอด เอ่ยด้วยน้ำเสียงแหบแห้ง “ฉันจะไม่ต้องการเขาได้ยังไง? เขาเป็นลูกของฉันนะ เธอจำได้ไหมว่าเราพยายามกันแค่ไหนเพื่อลูกสักคนแบบนี้น่ะ? ฉันเป็นพ่อของเขา ฉันจะไม่ต้องการเขาได้ยังไง….”
“แต่….” ยินเสี้ยวเสี้ยวกัดริมฝีปาก จ้องไปยังเขาอย่างละสายตา พูดทีละคำอย่างชัดเจน “แต่ว่า นายหย่ากับฉันแล้ว! จิ๋นลี่ยวน นายกับฉันหย่ากันแล้ว!”
จิ๋นลี่ยวนร่างแข็งทื่อในทันที เขาสบตากับดวงตาทั้งคู่ที่เปื้อนไปด้วยน้ำตาพูดอะไรไม่ออก
ใช่ พวกเขาหย่ากันแล้ว
ถ้าอย่างนั้น ตอนนี้ควรจะทำยังไงดี?
ยินเสี้ยวเสี้ยวยอมรับ ตอนนี้เธอเป็นที่สงสัยว่าถูกบังคับให้แต่งงาน แต่เพื่อลูกของเธอ เธอต้องเป็นอย่างนั้น บางทีเธออาจจะเห็นแก่ตัว กับผู้ชายคนนี้ ยังไงเธอก็ไม่ยอมแพ้หรอก……
เธอจ้องจิ๋นลี่ยวน แต่ผ่านไปนานจิ๋นลี่ยวนก็ยังไม่พูดอะไร
ในดวงตาสีดำขาว เดิมจากความคาดหวังไปสู่ความสิ้นหวังในตอนท้าย และท้ายที่สุดก็สงบนิ่ง ยินเสี้ยวเสี้ยวไม่รู้ว่าตัวเองใช้เวลาไปนานเท่าไหร่ เธอรู้เพียงว่า เธอเหนื่อยที่จะรอแล้ว เธอมองไปยังดวงตาคมเฉี่ยวที่คุ้นเคย ในนั้นมีความละอายใจ ความเจ็บปวด กระวนกระวาย กระทั่งความคิดถึง แต่กลับไร้ซึ่งความคิดที่อยากจะแต่งงานใหม่กับเธอ…..
เธอกัดริมฝีปาก ยินเสี้ยวเสี้ยวยังคงมองเขาอยู่อย่างนั้น มองจนน้ำตาของตัวเองร่วงหล่นลงมาก็ยังไม่ยอมแพ้…..
จิ๋นลี่ยวนสบตาเธอ ดวงตาคมหลบสายตาเป็นครั้งคราว แต่ไม่นานก็มองมาที่เธออีก ทุกครั้งที่เห็นสายตาที่หันกลับมา ในแววตาของเธอราวกับมีแสงประกายวาบขึ้นมา แต่เมื่อมันละไปก็มืดหม่นลงอีก….
ในที่สุด หลังจากผ่านไปเนิ่นนาน จิ๋นลี่ยวนก็ไม่พูดอะไรออกมาสักคำ ทันใดนั้นอยู่ ๆ ยินเสี้ยวเสี้ยวก็หัวเราะขึ้นมาในอ้อมกอดของเขา
“ฮ่า ๆ ๆ ….” ยินเสี้ยวเสี้ยวหัวเราะจนตัวโยนอย่างห้ามไม่ได้ แต่น้ำตากลับไหลอย่างบ้าคลั่ง ท่าทางแบบนั้นดู ๆ ไปก็น่ากลัวอยู่นิดหน่อย แต่จิ๋นลี่ยวนก็ยังคงมองเธออย่างไม่กะพริบตา “ฮ่า ๆ ๆ ฉันนี่มันโง่จริง ๆ กว่านายจะหย่ากับฉันได้ จะมาแต่งงานใหม่กับฉันได้ยังไงกัน? นายก็สัญญาจะแต่งกับคุณหนูใหญ่ตระกูลมู่เอาไว้แล้วด้วย จะมาสนใจฉันได้ยังไง?”
คำพูดนั้นพูดออกมาจนทำให้จิ๋นลี่ยวนโกรธขึ้นมาเล็กน้อย คิดอยากจะดึงยินเสี้ยวเสี้ยวมาในอ้อมกอดของตัวเองแน่น ๆ อย่างไม่รู้ตัว แต่เมื่อดึงเธอเข้ามาใกล้ กลับพบว่าหญิงสาวในอ้อมแขนยังคงยิ้มอยู่ กลายเป็นว่าในแววตาที่มองเขานั้นกลับมีความเย้ยหยันอยู่เล็ก ๆ
“ทำไม? จิ่งซานช่าวยังต้องการจะดื่มด่ำความสุขจากผู้คนงั้นเหรอ? มีคุณหนูใหญ่ตระกูลมู่ผู้มีชื่อเสียงดีงามยังไม่พอ ตอนนี้ยังคิดจะมีฉันคุณหนูใหญ่ตระกูลยินผู้ที่ชื่อเสียงฉาวโฉ่ต่ออีกงั้นรึไง? ฮ่าฮ่า….” ยินเสี้ยวเสี้ยวกำลังหัวเราะอยู่แท้ ๆ แต่ในดวงตาไม่ว่ายังไงก็กลับไม่สามารถหยุดน้ำตาได้เลย เธอพูดต่อ “ฮ่าฮ่า ใช่แล้ว ฉันลืมไปแล้วสิ คุณหนูใหญ่ตระกูลมู่สุขภาพไม่ดีล่ะสิ สภาพร่างกายแบบนั้นคงจะมีลูกไม่ได้ งั้นเด็กในท้องของฉันก็ประจวบเหมาะเลยใช่ไหม? หลังจากฉันคลอดออกมาแล้ว จิ่งซานช่าวเตรียมจะทำอะไรล่ะ? อุ้มเด็กไปให้คุณหนูมู่เลี้ยง จากนั้นฉันก็โค้งคำนับแล้วถอยออกมางั้นเหรอ?”
จิ๋นลี่ยวนขมวดคิ้วมองหญิงสาวตรงหน้า ลูกกระเดือกขยับอย่างรุนแรงแต่กลับไม่พูดอะไรออกมา
เพราะว่า ตัวเขาเองก็ยังไม่รู้เลยว่าแท้จริงเขาคิดจะทำอะไร!
มีเพียงเรื่องเดียวที่เขาแน่ใจมาก เขาต้องจะแก้แค้น และคนคนนั้นก็คือแม่ของยินเสี้ยวเสี้ยว!
เห็นจิ๋นลี่ยวนที่จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่มีปฏิกิริยาแม้แต่น้อย ยินเสี้ยวเสี้ยวกลับยิ่งหัวเราะอย่างเจิดจ้ามากขึ้น เพียงแต่น้ำตาที่มุมหัวตาก็ยิ่งไหลกระหน่ำออกมาเช่นกัน เธอหัวเราะจนตัวสั่นไปด้วยเล็กน้อย “จิ่งซานช่าว ดูเหมือนว่าฉันจะประเมินนายต่ำไปตั้งแต่เริ่มแรก และก็เป็นฉันเองที่ไม่รู้จักคนดีพอ ไม่นึกมาก่อนเลยว่าฉันจะหลงรักผู้ชายอย่างนาย รู้อยู่ว่านายอันตรายแท้ ๆ แต่ฉันก็ยังอดต้องการที่จะเข้าไปใกล้ไม่ได้ พอถึงช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อฉันก็ยังคิดถึงแต่ชื่อนาย มีชะตากรรมอย่างวันนี้เพราะฉันรนหาที่เองจริง ๆ ! ฉันโทษใครไม่ได้ทั้งนั้น!”
“เสี้ยวเสี้ยว” จิ๋นลี่ยวนเรียกเสียงเบา เขาอยากจะหยุดไม่ให้เธอพูด แต่กลับทำไม่ได้เลย
ยินเสี้ยวเสี้ยวผละออกจากอ้อมแขนของจิ๋นลี่ยวน เธอยืนอยู่ด้านล่างของเตียงมองชายหนุ่มที่อยู่บนเตียง
ที่เธอก่นด่า ขับไล่ หยั่งเชิงอยู่เรื่อยแบบนี้ ก็เพื่อจะดูว่าสุดท้ายแล้วเขามีเหตุผลจำใจถึงได้หย่ากับเธออยู่จริง ๆ รึเปล่า แต่หลังจากเมื่อเธอรับรู้ว่าเขามีเหตุผลจำใจ เขากลับไม่ยอมบอกเธอ กระทั่งในตอนที่ลูกถูกกระทำอย่างไม่เป็นธรรม เขาก็ยังคงนิ่งเฉย….
ในตอนนี้ ถึงจิ๋นลี่ยวนจะมีเหตุผลยิ่งใหญ่อะไร เธอยินเสี้ยวเสี้ยวก็จะพยายามลองขับไล่เขาออกไปจากโลกของเธอจริง ๆ เสียที….
ไม่ว่าจิ๋นลี่ยวนจะมีเหตุผลอะไร เธอก็จะไม่มีวันให้อภัยเขาที่ไม่ใส่ใจลูกของพวกเขา!
ดวงตาสีดำขาวคู่นั้นเต็มไปด้วยความผิดหวัง จิ๋นลี่ยวนยืนขึ้นหนักตื่นตระหนกแล้วจะเข้าไปใกล้เธอ แต่ยินเสี้ยวเสี้ยวกลับถอยกลับไปด้านหลังก้าวหนึ่งแล้วพูดอย่างเย็นชา “จิ่งซานช่าว ฉันจะคลอดเด็กคนนี้ออกมาอย่างปลอดภัย คุณไม่ต้องกังวล เพียงแต่ยังหวังว่าคุณจะทำให้รอบข้างของฉันปลอดภัยสักหน่อย พอหลังจากที่ฉันคลอดแล้วฉันจะเอาเด็กให้คุณ เพียงแค่ในช่วงเวลานี้ โปรดอย่ามาปรากฏตัวต่อหน้าฉัน”
แต่ละคำพูด ออกมาจากปากของยินเสี้ยวเสี้ยวด้วยความเร็วสม่ำเสมอ ทำเอาจิ๋นลี่ยวนตื่นกลัวจนสีหน้าขาวซีด
“เสี้ยวเสี้ยว” จิ๋นลี่ยวนเอื้อมมือออกไปอย่างต้องการสัมผัสเธอ
ยินเสี้ยวเสี้ยวช้อนสายตาขึ้นมองเขา เธอพูดต่อไปโดยไม่หลบเลี่ยง “จิ่งซานช่าว นี่เป็นพันธะสุดท้ายของการแต่งงานของเรา หลังจากฉันยกลูกให้คุณแล้ว กรุณาจำเอาไว้ อย่ามายุ่งกับฉันอีก ส่วนฉัน ก็จะไม่รบกวนสายตาของคุณด้วยเช่นกัน”
ท่าทีที่เย็นชา อารมณ์ไร้ความปรารถนา ทันใดนั้นก็ทำให้จิ๋นลี่ยวนหายใจติดขัดขึ้นมา ได้แต่เอื้อมมือออกไปเข้าใกล้แขนของยินเสี้ยวเสี้ยวทีละนิดแล้วเรียกเบา ๆ “เสี้ยวเสี้ยว….”
“จิ่งซานช่าว วันนี้ฉันจะให้โอกาสคุณอีกครั้ง ถ้าไม่คุณต้องการ งั้นเราก็มากำจัดมันให้เรียบร้อยเถอะ” พูดจบ ยินเสี้ยวเสี้ยวก็เดินผ่านตัวเขาไป ขณะที่เดินไปน้ำตากลับไหลนองเต็มใบหน้า
ชายคนนี้ ทั้งหมดเป็นเพราะเหตุผลนั้นในใจของเขา ไม่ต้องเธอ ไม่ต้องการลูกของพวกเขา….
ถ้าอย่างนั้น เธอเองก็ไม่ต้องการเขาแล้ว….
‘เสี้ยวเสี้ยว’สองคำนี้ค้างอยู่ในอากาศ สุดท้ายแล้วมือที่เอื้อมออกไปก็ไม่ได้จับมือของเธอเอาไว้ กระทั่งแม้แต่เสื้อผ้าของเธอก็คว้าไว้ไม่ได้ แล้วเธอก็เดินผ่านตัวเขาไปทั้งอย่างนั้น
ครั้งนี้ เขาเสียเธอไปอย่างสมบูรณ์จริง ๆ แล้วใช่ไหม?
จากนี้ไป เขาไม่ได้เห็นเงาของเขาในแววตาคู่นั้นของเธออีกต่อไปแล้วใช่ไหม?
วันหนึ่ง ข้างกายเธอจะมีผู้ชายคนอื่นมาแทนที่เขาแล้วใช่ไหม?
ทีละนิด เขาก็จะกลายเป็นคนหนึ่งที่แค่ผ่านเข้ามาในชีวิตของเธอ และวันหนึ่งก็คงจะลืมเลือนไป…
ความเจ็บปวดแล่นปราดจากในหน้าอก แต่จิ๋นลี่ยวนกลับทำได้แค่ขมวดคิ้วแน่นหายใจอย่างหนักหน่วง
ความเจ็บปวดนี้ เขาต้องจดจำไว้!
ขอแค่หลังจากล้างแค้นให้พ่อแม่ของเขาตอนที่เจอซูเหนียงแล้ว เขาถึงจะรู้ได้ว่าการกระทำของตัวเองให้วันนี้ถูกหรือผิดกันแน่! และจะได้รู้ว่าตัวเองจะเสียใจภายหลังไหม!
บางคนมักยึดติดกับบางสิ่งเป็นพิเศษ ในชีวิตคนเรามักจะพบกับเรื่องแบบนี้ได้ในช่วงเวลาหนึ่ง แต่จิ๋นลี่ยวนดันพบช่วงเวลานั้นในตอนที่เจอกับยินเสี้ยวเสี้ยวซะได้….
สายตาทอดออกไปนอกหน้าต่าง มุมปากของจิ๋นลี่ยวนยกขึ้นอย่างเย้ยหยัน อยู่ ๆ ทำไมเขาถึงได้รู้สึกว่าท้องฟ้าแตกร้าวเป็นทางยาวได้นะ?
เพื่อความรัก เขาจะอยู่รอดไปจนถึงตอนสุดท้ายไหมนะ?