Flash Marriage แต่งงานกับคน(ไม่)ธรรมดา - บทที่ 73 ความสุขที่ได้จากการบีบบังคับเธอ
- Home
- Flash Marriage แต่งงานกับคน(ไม่)ธรรมดา
- บทที่ 73 ความสุขที่ได้จากการบีบบังคับเธอ
บทที่ 73 ความสุขที่ได้จากการบีบบังคับเธอ
‘โรงแรมหซือซัน’ ในวันนี้ปิดการให้บริการคนนอกทั้งหมด แม้แต่‘ร้านอาหารเทาถี้’เองก็เช่นนั้น ทั้งสองร้านล้วนเป็นร้านที่มีชื่อเสียงในเมือง T มีชื่อเสียงด้านการบริการในระดับเดียวกันและปิดการให้บริการแก่คนนอกในวันเดียวกัน ล้วนเพื่องานแต่งงานในครั้งนี้……
ตามข่าวที่แพร่สะพัดออกไปนั้นวันนี้เป็นงานแต่งงานของคุณชายสามแห่งตระกูลจิ๋น หน้าประตู‘โรงแรมหซือซัน’มีรถหรูจอดเอาไว้มากมายจนนับไม่ถ้วน เด็กรับรถสิบกว่าคนเปลี่ยนกันไปมาจนเทียบจะไม่ทัน ห้องพักใน‘โรงแรมหซือซัน’ล้วนนำออกมาให้แขกในงานพัก ส่วนทางด้าน‘ร้านอาหารเทาถี้’นั้นมีการตรวจสอบอย่างเข้มงวด นับตั้งแต่เมื่อวานก็ได้มีการตรวจสอบอย่างเข้มงวด ทั้งอาหาร วัตถุดิบ และเครื่องใช้ในการรับประทานอาหารล้วนถูกตรวจสอบอย่างละเอียด การที่ทำแบบนี้ด้วยตนเองนั้นล้นเพื่อให้งานในวันนี้สมบูรณ์แบบมากขึ้นกว่าเดิม……
การแต่งงานในครั้งนี้ เธอเป็นงานแต่งงานที่อลังการและโอเวอร์มากที่สุดในเมือง T…….
ด้านนอกของ‘โรงแรมหซือซัน’วันนี้ล้วนถูกจัดให้ว่างเว้น นอกจากสถานที่จัดงานแต่งแล้วนั้นที่อื่นๆล้วนประดับไปด้วยดอกกุหลาบแชมเปญรวมถึงรูปถ่ายพรีเวดดิ้งของยินเสี้ยวเสี้ยวและจิ๋นลี่ยวน ทางด้าน‘ร้านอาหารเทาถี้’ก็ได้ส่งอาหารมาให้โดยไม่ขาดสาย…..
——นี่คือคุณชายสามแห่งตระกูลจิ๋นและคุณผู้หญิงของคุณชายสาม?
——พระเจ้า นี่มันคุณหนูใหญ่ตระกูลยินไม่ใช่หรอ? คิดไม่ถึงจริงๆว่าจะเป็นคุณผู้หญิงสามแห่งตระกูลจิ๋น!
——ว่ากันว่าคุณหนูใหญ่ตระกูลยินแต่งงานกับหมอคนหนึ่งไม่ใช่หรอ? ทำไมจู่ๆถึงเปลี่ยนเป็นคุณชายสามแห่งตระกูลจิ๋นได้ล้ะ?
……
แขกที่มาในงานนั้นมีบ้างที่ไม่มีอำนาจและไม่ได้อยู่สูงในระดับเดียวกับตระกูลจิ๋น ตระกูลมู่ ตระกูลเฉิง และตระกูลใหญ่ตระกูลอื่นๆ ดังนั้นเมื่อได้เห็นรูปถ่ายพรีเวดดิ้งในงานล้วนตกใจ คิดว่าคนที่ไม่ตกใจคงจะมีแต่คนในตระกูลใหญ่ๆไม่กี่ตระกูลในเมืองT
เก๋อเฉิงเฟยและเฉินผูลี่ท่ามกลางผู้คนนั้นพวกเขาต่างก็ยุ่งกับงานของตนเอง อีกทั้งต้องคอยตอบคำถามของแขกเรื่อที่มาในงาน สำหรับตัวแทนของคุณชายสามแห่งตระกูลจิ๋น พวกเขานั้นมีชื่อเสียงมาก เก๋อเฉิงเฟยนั้นในเวลานี้ได้ทำงานใน‘โรงแรมหซือซัน’ ส่วนเฉินผูลี่นั้นได้ยินว่าคอยทำงานกับคุณชายสามแห่งตระกูลจิ๋นมาโดยตลอด……
คุณย่าจิ๋นสวมชุดกี่เพ้าสีแดงก่ำ ยิ้มจนตาหยี โดยเฉพาะตอนที่ได้ยินคนอื่นๆพูดชมว่าถ่ายรูปพรีเวดดิ้งได้สวยมาก แทบจะยิ้มไม่หยุด ทางด้านหยูเจียห้วยและจิ๋นหยวนเฟิงเดินไปมาท่ามกลางแขกเหรื่อมากมาย ดีใจกับการแต่งงานของลูกชายตนเอง แม้แต่คุณชายใหญ่ตระกูลจิ๋นและคุณหนูตระกูลจิ๋นที่กลับมาจากต่างประเทศเพื่องานนี้โดยเฉพาะก็ล้วนดีใจเป็นอย่างมาก……
——พระเจ้า ตอนนี้ฉันเพิ่งรู้ว่าคุณชายสามแห่งตระกูลจิ๋นนั้นเป็นหมออยู่ที่โรงพยาบาลหนันหยู!
——สิ่งที่ทำให้ฉันตกใจยิ่งกว่าก็คือ ที่แท้คุณหนูใหญ่แห่งตระกูลยินมีเส้นมีสายขนาดนี้!
——การแต่งงานในครั้งนี้คุณชายใหญ่ตระกูลยินเป็นคนจับคู่ให้น้องสาวตัวเองรึเปล่า? ฉันได้ยินมาว่าในครอบครัวยินเขาชอบน้องสาวต่างแม่พ่อเดียวกันคนนี้ที่สุด
…….
คำพูดของทุกคนคนในครอบครัวยินและครอบครัวเซี่ยงต่างก็ได้ยิน สีหน้าของทั้งสองครอบครัวไม่สู้ดีนัก โดยเฉพาะสีหน้าของคนในครอบครัวยิน!
วันนี้ตอนเช้าขณะที่พวกเขากำลังกินอาหารเช้ากันอยู่นั้น เก๋อเฉิงเฟยไปรับพวกเขาด้วยตนเอง แน่นอนว่ายินไป่ฝันและเซี่ยงโก่ซิวที่อยู่ในแวดวงธุรกิจนั้นต้องรู้จักเขาเป็นอย่างดี ใครจะไปคิดอะไรมากพวกเขาจึงขึ้นรถโดยไม่ได้พูดอะไร เพียงแต่ตอนที่พวกเขามาถึงที่นี่ มองเห็นรูปถ่ายพรีเวดดิ้งในห้องโถงใหญ่ของ‘โรงแรมหซือซัน’ จากนั้นก็ได้ยินประโยคสนทนาของคนอื่นๆ จะไม่รู้ได้อย่างไรว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้น?
สีหน้าของเซี่ยงเฉิงและยินรั่วอวิ๋นซีดขาวจนหน้าตกใจ เพียงแต่คนละเหตุผลกันก็เท่านั้น ยินรั่วอวิ๋นรู้สึกโมโหที่ยินเสี้ยวเสี้ยวได้แต่งงานกับผู้ชายที่ดีกว่าผู้ชายของตน ส่วนเซี่ยงเฉิงนั้นเป็นเพราะรู้สึกว่าวันข้างหน้ายินเสี้ยวเสี้ยวคงไม่เห็นเขาในสายตาอีกแล้ว ทางด้านเซี่ยงโก่ซิวและยินไป่ฝันสีหน้าก็ไม่สู้ดีนัก โดยเฉพาะยินไป่ฝัน!
เขาเคยสงสัยมานับครั้งไม่ถ้วน เพียงแต่คิดไม่ถึงจริงๆว่าสิ่งที่เขาสงสัยนั้นจะเป็นความจริง!
เขาเคยถามจิ๋นลี่ยวนว่าเป็นใครกันแน่ไม่เพียงแค่ครั้งเดียว แต่ว่าสุดท้ายผู้ชายคนนั้นก็ไม่เคยบอกความจริงกับเขา!
ช่วงระยะเวลาหนึ่ง ครอบครัวยินรู้สึกเหมือนเป็นของเล่นในมือของคนอื่น!
“ทุกท่านครับ ต้องขอบคุณทุกท่านจริงๆที่มาร่วมงานแต่งงานในวันนี้” เก๋อเฉิงเฟยโน้มตัวลงตรงหน้าครอบครัวยินและครอบครัวเซี่ยงเพื่อแสดงความขอบคุณ ทั้งๆที่เป็นท่าทีขอบคุณทว่ากลับรู้สึกเหมือนถูกมองอย่างดูถูก “คุณชายสามสั่งแล้วว่า ต้องดูแลต้อนรับพวกคุณเป็นอย่างดี”
คำพูดนี้ทำให้คนในครอบครัวยินและครอบเซี่ยงโมโหจนแทบจะสำลัก!ทว่าเป็นเพราะฐานะของตนเองจึงไม่กล้าที่จะอาละวาด การเงียบนี้ไม่ว่าอย่างไรก็ต้องทำ!
ก่อนที่พิธีแต่งงานจะเริ่มต้นขึ้น ยินรั่วอวิ๋นอดทนแทบตายกว่าจะหาตัวยินจื่อเจิ้นเจอ เอ่ยถามด้วยสีหน้าไม่พอใจ:“พี่คะ ใครกันแน่ที่เป็นน้องสาวแท้ๆของพี่ ทำไมในสายตาของพี่ถึงมีแค่ยินเสี้ยวเสี้ยวแค่คนเดียว? ยังช่วยเธอปูทางแบบนี้อีก พี่ไม่เคยคิดถึงฉันบ้างหรอ?”
วันนี้ยินจื่อเจิ้นอยู่ในงานทั้งวันเขาจึงรู้ว่าคนอื่นพูดอะไรกันบ้าง หลังจากที่ได้ยินคำถามของยินรั่วอวิ๋นแล้วนั้นจึงเอ่ยตอบกลับ:“รั่วอวิ๋น น้องลองคิดดูดีๆนะ เรื่องทุกอย่างที่เกิดขึ้นในวันนี้พี่เป็นคนปูทางหรือว่าเรากับแม่เป็นคนบีบให้เสี้ยวเสี้ยวต้องมาเดินทางนี้”
คำพูดนี้ทำให้ความโมโหของยินรั่วอวิ๋นหมดไปในทันที จริงด้วย เธอลืมไปได้ยังไง แรกเริ่มเดิมทีพวกเขาอยากจะให้ยินเสี้ยวเสี้ยวแต่งงานกับผู้จัดการจางเพื่อที่จะได้ผลประโยชน์ที่มากขึ้นจึงบีบบังคับให้ยินเสี้ยวเสี้ยวไปแต่งงาน เพียงแต่คิดไม่ถึงว่ายินเสี้ยวเสี้ยวจะโชคดีขนาดนี้ ที่ได้พบเจอกับจิ๋นลี่ยวน!
ยินรั่วอวิ๋นถลึงตามองดูยินจื่อเจิ้นอย่างไม่เชื่อ “พี่ค่ะ ฉันยอมรับว่าฉันกับแม่เป็นคนบีบบังคับให้ยินเสี้ยวเสี้ยวแต่งงาน แต่พี่กล้าพูดไหมคะว่าถ้าพี่ไม่ยื่นมือเข้ามาช่วย ยินเสี้ยวเสี้ยวจะได้รู้จักกับจิ๋นลี่ยวน? พี่อย่าบอกฉันนะว่าพี่ไม่รู้ว่าจิ๋นลี่ยวนคือคุณชายสามแห่งตระกูลจิ๋น!ฉันไม่เชื่อหรอก!”
ยินจื่อเจิ้นมองดูน้องสาวที่ยืนอยู่ตรงหน้าของตนเหมือนคนไม่รู้จัก ตอนเด็กๆเขาชอบเธอมาก เพียงแต่เธอยิ่งอยู่ก็ยิ่งใจแคบไม่ว่าอะไรก็จะเอาไปเทียบกับยินเสี้ยวเสี้ยวจากนั้นก็แย่งไป จู่ๆยินจื่อเจิ้นก็รู้สึกเหนื่อยขึ้นมา เขาพูดตอบเสียงเบา:“พี่จะพูดแค่ครั้งเดียว พี่ไม่ได้ปูทางให้เสี้ยวเสี้ยว ตอนแรกพี่เองก็ไม่รู้ว่าสามีของเธอคือจิ๋นลี่ยวน ตอนที่พี่กลับประเทศมานั้นเธอน่าจะรู้ดี เสี้ยวเสี้ยวแต่งงานแล้ว”
พูดจบ ยินจื่อเจิ้นก็เดินออกไปด้วยความไม่อยากสนใจยินรั่วอวิ๋นและยินไป่ฝันที่เดินตามยินรั่วอวิ๋นมา
พวกเขาเอาแต่คิดว่าคนอื่นผิดไปหมด ไม่ว่าอะไรก็ควรจะทำเพื่อพวกเขาจึงจะเป็นสิ่งที่ถูก คนแบบนี้ แม้จะเป็นคนในครอบครัวเดียวกัน แต่ว่าวันหนึ่งก็เหนื่อยเป็นเหมือนกัน……
จิ๋นลี่ยวนเป็นเจ้าบ่าวจงไม่ต้องถูกขังเอาไว้ในห้องแต่งตัวเจ้าสาวเหมือนยินเสี้ยวเสี้ยว เขาสวมใส่ชุดทักซิโด้สีดำ จิ๋นลี่ยวนเหมือนเจ้าชายที่หลุดออกมาจากช่วงกลางศตวรรษของยุโรป สง่าผ่าเผย ทว่ากลับดึงดูดสายตาของผู้คนนับไม่ถ้วน
คุณชายสามแห่งตระกูลจิ๋นนั้นเป็นความน่าหลงใหลของเมืองT ในที่สุดวันนี้ก็มีโอกาสได้พบเจอแน่นอนว่าไม่มีวันพลาดโอกาสนี้อย่างแน่นอน เพียงแต่ตอนที่เห็นตัวจริงของเขานั้นก็อดไม่ได้ที่จะหัวใจเต้นแรง ทำไมพวกเธอถึงไม่ได้เจอผู้ชายแบบนี้?
ยินเสี้ยวเสี้ยวต้องโชคดีมากแค่ไหนกัน ที่สามารถได้เจอกับผู้ชายแบบนี้……
ในมือของจิ๋นลี่ยวนถือแก้วแชมเปญเอาไว้เขาคลายยิ้มและพยักหน้าก้มลงไม่หยุด มีบ้างบางครั้งที่ได้เจอกับญาติผู้ใหญ่ที่สนิทก็จะหยุดเดินแล้วพูดคุยด้วย จนกระทั่งเฉินผูลี่เดินไปอยู่ข้างๆเขาบอกกับเขาว่าพิธีแต่งงานใกล้จะเริ่มขึ้นแล้วให้เขาไปยืนเตรียมตัวในที่ที่ควรจะยืน จิ๋นลี่ยวนจึงค่อยวางแก้วแชมเปญในมือลงแล้วเดินไป……
งานแต่งงานในครั้งนี้มีการคุ้มกันอย่างหนาแน่น ไม่มีนักข่าว ไม่มีการถ่ายรูปหรือถ่ายวีดีโอใดๆทั้งสิ้น นอกจากช่างกล้องที่อยู่ภายใต้ชื่อของบริษัทจิ๋นซื่อแล้วนั้น วันนี้ทุกอย่างล้วนถูกจับตาอย่างเข้มงวด คล้ายกับว่าคุณชายสามที่ถูกพูดถึงนั้น ทั้งๆที่ความเป็นจริงแลดูโอ้อวดทว่ากลับแสดงให้แลดูเหมือนถ่อมตน
ยินเสี้ยวเสี้ยวถูกถาวหยีพามายืนตรงซุ้มประตู อดไม่ได้ที่จะสูดลมหายใจเข้าลึกๆ ซุ้มประตูสีขาวนั้นถูกพันด้วยผ้าสีขาวสะอาดร่วมกับสีขมพูอ่อน แต่ละจุดล้วนเผยให้เห็นถึงความใส่ใจในงานแต่งงานครั้งนี้
ขณะที่ยินเสี้ยวเสี้ยวปรากฏตัวขึ้นอย่างพร่ามัวตรงซุ้มประตูนั้น จิ๋นลี่ยวนที่ยืนอยู่ตรงพรมแดนรู้สึกตื่นเต้นขึ้นมาเป็นครั้งแรก รู้สึกเหมือนตอนที่ตนเข้าห้องผ่าตัดเป็นครั้งแรก รู้แค่เพียงมองตรงไปที่ยินเสี้ยวเสี้ยวในชุดเจ้าสาวสีขาว
——คุณชายสามไม่อาจละสายตาไปได้จริงๆ เอาแต่มองตรงไปด้านหน้า
——จริงด้วย ตอนแรกฉันนึกว่าถูกบีบบังคับให้แต่งงานเสียอีก ตอนนี้ดูท่าทั้งสองคนจะรักกันจริง
——ในที่สุดคุณหนูใหญ่ตระกูลยินก็ได้เจอเรื่องดีๆหลังจากที่ผ่านเรื่องร้ายๆมาสักที
……
ผู้คนพูดสนทนากัน เพียงแต่เวลานี้พวกเขาล้วนอวยพรให้กับจิ๋นลี่ยวนและยินเสี้ยวเสี้ยว การคาดเดาทุกอย่างล้วนขึ้นอยู่กับท่าทีของจิ๋นลี่ยวนและยินเสี้ยวเสี้ยว อย่างสุดจะทน
ยินรั่วอวิ๋นที่นั่งอยู่ด้านล่างเวที จับมือของตนเองเอาไว้นั้น เม้มกัดปากจนซีดขาว
เซี่ยงเฉิงได้แต่มองดูร่างบางในชุดเจ้าสาวนั้น โกรธที่ทำไมเจ้าบ่าวถึงไม่ใช่ตนเอง!
หันกลับไปมองดูเซี่ยงเฉิงที่นั่งอยู่ข้างๆ ยินรั่วอวิ๋นกระตุกยิ้มด้วยความเย็นชา ความเกลียดแค้นภายในใจที่มีต่อยินเสี้ยวเสี้ยวยิ่งมากขึ้นกว่าเดิม!
ยินเสี้ยวเสี้ยว เธอจะรอดูเอาไว้ให้ดี รอดูวันที่เธอตกจากบนฟ้าลงมาบนดินโคลน!
ดนตรีบรรเลงขึ้นมา ในที่สุดยินจื่อเจิ้นก็เดินพายินเสี้ยวเสี้ยวขึ้นไปบนพรมแดง ถาวหยีที่นั่งอยู่ด้านล่างมองดูยินเสี้ยวเสี้ยวอดไม่ได้ที่จะน้ำตาคลอ
ยินไป่ฝันไม่ยอมเป็นคนพาเธอเดินเข้าไปในพิธีตั้งแต่แรก จึงจำต้องให้ยินจื่อเจิ้นเป็นคนไปแทน ทำให้ตอนนี้ในสายตาของทุกคนรู้สึกว่าแท้ที่จริงแล้วคุณหนูใหญ่ตระกูลยินอายุโตพอที่จะแต่งงาน แต่คุณชายใหญ่ตระกูลยินกลับยังบริสุทธิ์อยู่……
จิ๋นลี่ยวนที่ยืนอยู่อีกด้านหนึ่งมองดูยินเสี้ยวเสี้ยวเดินใกล้เข้ามาเรื่อยๆ ในตัวของเขามีพลังบางอย่างไหลเวียน ชุดแต่งงานของยินเสี้ยวเสี้ยวเป็นชุดที่ดีไซเนอร์ของตระกูลจิ๋น จิ๋นลี่โป๋เป็นคนออกแบบ เมื่อวานเพิ่งส่งมาถึงเมือง T ชุดเจ้าสาวเกาะอกนั้นเผยให้เห็นไหปลาร้าที่สวยงามของยินเสี้ยวเสี้ยว ชุดแต่งงานสีขาวประกายชมพู กลีบดอกสีชมพูแต้มอยู่ตรงชุดเจ้าสาว ล้อมหน้าอกของเธอ ล้อมขาของเธอ ทั้งๆที่แลดูบริสุทธิ์ทว่ากลับแลดูเซ็กซี่ในเวลาเดียวกัน……
ระยะทางที่เดินนั้นไม่ไกล ถึงขั้นที่เรียกว่าใกล้ก็ได้ ยินจื่อเจิ้นไม่อาจจะละมือของยินเสี้ยวเสี้ยวยื่นไปให้กับจิ๋นลี่ยวนได้ อ้าปากมองดูน้องสาวทว่ากลับพูดไม่ออกแม้สักคำ สุดท้ายแล้วพูดได้เพียงคำว่า:“จำเอาไว้ พี่จะคอยอยู่ด้านหลังเราตลอดไป”
คำพูดเพียงประโยคเดียวยินเสี้ยวเสี้ยวน้ำตาแทบแตก มาถึงตรงนี้ หัวใจของเธอที่เอาแต่เป็นกังวลนั้นเริ่มสงบนิ่งลง หรือเป็นเพราะเธอคิดมากไปแล้ว บางทีสัมผัสที่หกของเธอในครั้งนี้อาจจะผิดก็ได้ เพียงแต่ในตอนหลังเธอเพิ่งรู้ว่า เรื่องหลายๆอย่างถ้ายังไม่ถึงตอนจบ คุณจะไม่มีวันรู้เลยว่าวินาทีต่อไปจะเกิดเรื่องอะไรขึ้น