Flash Marriage แต่งงานกับคน(ไม่)ธรรมดา - บทที่ 90 อุบัติเหตุอยู่บ่อยครั้ง
บทที่ 90 อุบัติเหตุอยู่บ่อยครั้ง
เที่ยงคืนนี้ ยินเสี้ยวเสี้ยวกำลังนอนหลับสนิท ตอนที่เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นมายังบ่นพึมพำอย่างไม่พอใจ จิ๋นลี่ยวนรีบหยิบโทรศัพท์ขึ้นมารับอย่างรวดเร็ว และเปลี่ยนมาจริงจังขึ้นแทน
ฉีเคอหานเด็กคนนี้ ยังคงไม่เห็นโลงศพไม่หลั่งน้ำตาเสียจริง !
จิ๋นลี่ยวนตื่นขึ้นมาปลุกยินเสี้ยวเสี้ยว หลังจากที่ถามไปสองประโยคอย่างเบาๆ รู้แล้วว่ากู่ชูเหยาเกิดเรื่องก็รีบลุกขึ้นเปลี่ยนเสื้อผ้าตามจิ๋นลี่ยวนไปโรงพยาบาลหนันหยู
ถึงโรงพยาบาลหนันหยู ยังไม่ทันได้ถึงห้องผ่าตัดก็ได้ยินเสียงสะอึกสะอื้นที่ทางเดิน ทำให้ใจของยินเสี้ยวเสี้ยวและจิ๋นลี่ยวนเต้นขึ้นมาอย่างมาก
เมื่อเห็นจิ๋นลี่ยวนปรากฏที่นี่ ทางเยี่ยนรีบวิ่งอย่างสะดุดมาจับแขนของจิ๋นลี่ยวนพร้อมพูดว่า : “ ลี่ยวนอ่ะ ลูกช่วย คุณป้ากู่ ไปถามให้หน่อยได้เปล่า ก็แค่ถาม ถามก็พอแล้ว หมอและพยาบาลต่างก็ไม่สนใจพวกเรา…… ”
ทางเยี่ยนเห็นได้ชัดว่าโดนปลุกให้ตื่นในตอนที่กำลังนอนหลับ ไม่ได้แต่งหน้า ในช่วงเวลาสั้นๆราวกับว่าแก่ขึ้นสิบปีอย่างนั้น ท่าทางที่จับจิ๋นลี่ยวนราวกับว่าจิ๋นลี่ยวนเป็นคนที่ผ่าตัดให้กับกู่ชูเหยาอย่างนั้น
“ป้ากู่ ป้าอย่าเพิ่งร้อนใจ พวกเรารอดูว่าหมอจะว่ายังไงก่อน……” ยินเสี้ยวเสี้ยวเดินไปประคองทางเยี่ยนไว้ ดวงตาเต็มไปด้วยความเป็นห่วง ในเวลานี้ กู่เฉิงยู่ก็เดินเข้ามายื่นมือมาประคองทางเยี่ยน ไม่ได้พูดอะไร เพียงแค่เห็นสายตาที่มองไปที่จิ๋นลี่ยวนเห็นได้ชัดว่านำมาซึ่งการรอคอย
ทางเยี่ยนยังไงก็คิดไม่ถึง ลูกสาวของเธอออกไปอย่างดี แต่ตอนที่รับโทรศัพท์นั้นก็กลับว่าเข้ามาโรงพยาบาลแล้ว และยังบอกเธอว่ากำลังช่วยชีวิตอยู่ ? นี้เป็นภัยพิบัติแบบฉับพลันเหรอ?
ยินเสี้ยวเสี้ยวรู้สึกความเจ็บปวดหัวใจแทนทางเยี่ยนแล้ว หันไปมองฉีเคอหานที่ยืนอยู่ตรงมุมกำแพงไม่พูดไม่จาและถอนหายใจเบาๆ
ไม่มีทางทางเลือกใดๆ จิ๋นลี่ยวนทำได้เพียงตบ ทางเยี่ยนเบาๆแล้วจับมือเขาพูดว่า : “ป้ากู่ ผมไปช่วยป้าถามๆดู ป้าอย่าเพิ่งร้อนใจ”
หันหลังไป จิ๋นลี่ยวนตรงไปที่แผนกสมอง หวังว่าที่นั่นจะมีหมอพอที่จะรู้สถานการณ์คร่าวๆ
คนตระกูลฉียืนอยู่นอกห้องผ่าตัดอย่างใจจดใจจ่อเช่นกัน พวกเขายังไงก็คิดไม่ถึง จู่ๆจะเกิดเรื่องอย่างนี้ ? เห็นชัดๆว่าเป็นอุบัติเหตุ แต่พวกเขากลับเป็นว่าจะพูดกับตระกูลกู่ก็พูดไม่ออก ก็ลูกชายของพวกเขามีคุณธรรมขนาดนั้น ใครจะเชื่อ ?
“แม่ยาย คุณอย่า……” เฉินฉินก้าวไปข้างหน้าพร้อมปลอบด้วยน้ำเสียงเบาๆ แต่ยังไม่ทันได้พูดจบก็โดนตัดบทแล้ว
“ฉันไม่ใช่ แม่ยายของเธอ เธออย่ามาเรียกมั่ว!” ทางเยี่ยนตอนนี้นั้นรู้สึกเสียใจภายหลังอย่างถึงที่สุด ถ้าหากไม่ใช่เพราะว่าตระกูลฉีและตระกูลกู่จำเป็นจะต้องแต่งงานกัน เมื่อตอนที่ฉีเคอหานเอ่ยปากปฏิเสธในครั้งแรกนั้นเธอคงจะไม่ให้ลูกสาวของเธอไปแต่งงานด้วย ลูกสาวของเธอดีขนาดนี้ จำเป็นจะต้องรีบขนาดนี้เหรอ? ตระกูลฉีอย่างพวกคุณรังแกผู้อื่นเกินไป! ลูกสาวของฉันจริงๆแล้วทำผิดอะไรเหรอ? คนที่บอกว่าต้องแต่งงานคือพวกคุณ ถ้าไม่ใช่เพราะไว้หน้าให้แกคุณตาของทั้งสองบ้านนั้น ฉันจะรีบเอาลูกสาวของฉันแต่งงานให้พวกคุณเหรอ ? ฝันไปเถอะ! ชูเหยาของฉันเป็นเด็กดีขนาดนี้ ลูกชายของพวกคุณหาได้ไม่ยาก คนแบบอื่นหายากกว่าอีก!
พูดๆแล้ว ทางเยี่ยนก็ร้องไห้ ยิ่งอยู่ยิ่งเสียใจ สุดท้ายแล้วก็หันไปจับฉีเคอหานแล้วพูดว่า “ฉีเคอหาน ชูเหยาของฉันจริงๆแล้วไปยั่วโมโหนายตรงไหน นายถึงทำกับเธออย่างนี้ !นายรู้หรือเปล่า เธออยู่ที่บ้านยังพูดกับฉัน ให้ฉันให้เห็นอกเห็นใจนาย ให้ฉันให้อภัยนาย เธอบอกว่าเธอจะมาพูดกับนายดีดี ถ้าหากว่านายไม่ยินยอมที่จะแต่งงานในครั้งนี้จริงๆก็ช่างมันเถอะ แต่ว่าแล้วทำไมล่ะ? ลูกของฉันไปหาดีๆ แต่ตอนนี้กลับเป็นว่าอยู่ในห้องผ่าตัด!นายทำกับเธอได้อย่างไร!
ทางเยี่ยนลงไม้ลงมือไปที่ร่างกายของฉีเคอหาน เขาก็ไม่หลบพร้อมปล่อยให้เธอตีมา ขมวดคิ้วแน่นไม่พูดจาสักคำ
“ชูเหยาของฉัน……ชูเหยาของฉันอ่ะ……”
คนตระกูลฉีกำลังตกที่นั่งลำบาก ที่จริงแล้วเรื่องเกิดที่ตระกูลฉี แม้ว่าเรื่องนี้จะเกิดจากความไม่ระวังของฉีเคอหานก็เถอะ แต่ก็เป็นห่วงเด็กที่อยู่ในห้องผ่าตัดนั้นจริงๆ จริงๆแล้วก็เป็นเด็กที่พวกเขาเฝ้ามองการเติบโตมา เดิมทียังคิดว่าพวกเขามีความรู้สึกดีดีต่อกันมานานแล้ว กลับคิดไม่ถึงว่าสุดท้ายแล้วเรื่องราวจะวุ่นวายมาเป็นแบบนี้!
จิ๋นลี่ยวนรู้ว่ากู่ชูเหยาโดนแจกันฟาดเข้าที่ศีรษะ ดีที่ส่งโรงพยาบาลทันเวลา จัดการได้ทันเวลาหลังจากที่ไม่มีปัญหาอะไรก็เดินออกมาบอกคนที่รออยู่ข้างนอก ถึงแม้ว่าเป็นอย่างนี้ เมื่อไม่ได้เห็นด้วยตาทุกคนก็ยังคงเป็นห่วง
ตอนที่ประตูห้องผ่าตัดถูกผลักออกนั้น กลุ่มต่างก็รายล้อมกันเข้าไป ถามอย่างรีบร้อนใจว่าเป็นอย่างไรบ้าง ยินเสี้ยวเสี้ยวสังเกตุได้ว่าฉีเคอหานก็ยืนตรงขึ้นอย่างช้าๆมองที่หมออย่างคาดหวัง
เข้าผ่าตัดเป็นเวลาหลายชั่วโมง หมอแสดงอาการเมื่อยล้าเล็กน้อยแต่ยังคงพูดอย่างเบาๆว่า : “คนไข้ได้พ้นขีดอันตรายเป็นที่เรียบร้อยแล้ว แต่หน้าผากของเธอได้รับบาดเจ็บจากเศษแจกันทำให้มีรอยแผลเป็นยาวสามเซนติเมตร ถ้าหากว่าต้องการกำจัดแผลเป็นออกล่ะก็ต้องรอให้คนไข้แข็งแรงขึ้นก่อนถึงจะศัลยกรรมตกแต่งได้”
ได้ยินข่าวว่ากู่ชูเหยาไม่เป็นอะไรแล้ว คนของทั้งสองบ้านก็ถอนหายใจอย่างโล่งอก เมื่อหันไปยินเสี้ยวเสี้ยวก็เห็นกู่ชูเหยาเข็นออกมาจากห้องผ่าตัด เนื่องจากการผ่าตัดผมยาวที่สวยงามของเธอจึงโดนตัดทิ้ง ศีรษะที่ถูกพันด้วยผ้ากอซสามารถเห็นได้ว่าไม่มีร่องรอยของเส้นผมสักนิด หน้าผากก็ถูกแปะด้วยผ้ากอซยาว น่าจะเป็นรอยแผลเป็นนั้น……
คนตระกูลกู่เฝ้าอยู่ข้างเตียงกู่ชูเหยาทุกวัน ในที่สุดสองวันหลังจากการผ่าตัด กู่ชูเหยาก็ตื่นขึ้นแล้ว แต่ครั้งนี้การแต่งงานระหว่างตระกูลกู่กับตระกูลฉีก็ระงับเอาไว้แล้ว อย่างนี้ตระกูลกู่ก็แสดงออกอย่างชัดเจนว่าจะไม่ยินยอมให้ลูกสาวไปแต่งงานด้วย
ช่วงกี่วันมานี้ ยินเสี้ยวเสี้ยวมักจะไปๆมาๆระหว่างโรงพยาบาลกับ‘เก๋อหลิน’ จริงๆแล้วชีวิตหลังแต่งงานี้ไม่ง่ายเลยจากที่เห็นมีเนื้อมีหนังแปปเดียวก็ไม่เห็นซะแล้ว ดูแล้วว่าตอนที่จิ๋นลี่ยวนกอดเธอนอนทุกคืนนั้นต้องบ่นหลายประโยคเป็นแน่ แต่กลับทำให้ยินเสี้ยวเสี้ยวหัวเราะ
คิดว่าตัวเองกลายเป็นทารกของเขาแล้ว?
แต่ว่า เธอชอบความรู้สึกนี้มาก เริ่มรู้สึกว่าจิ๋นลี่ยวนกำลังค่อยๆยอมรับตัวเองแล้ว
วันนี้ ยินเสี้ยวเสี้ยวทำซุปไปที่โรงพยาบาลเพื่อเยี่ยมกู่ชูเหยา ความสัมพันธ์ของจิ๋นลี่ยวนกับกู่ชูเหยาค่อนข้างดี บางครั้งเมื่อไม่มีผู้ป่วยก็จะไปดูสักหน่อย สุดท้ายคนทั้งโรงพยาบาลก็รู้ข่าวว่าน้องสาวของจิ๋นลี่ยวนพักรักษาตัวที่โรงพยาบาลหนันหยู บางครั้งก็มีคนมาเยี่ยม
ยินเสี้ยวเสี้ยวในมืออุ้มกระติกคุมความร้อนไปทางห้องผู้ป่วย แต่ระหว่างทางไม่ระวังจึงชนคนเข้า รีบพูดคำว่า: “ขอโทษค่ะ”
“เสี้ยวเสี้ยว?” เสียงที่คุ้นเคยดังขึ้น ยินเสี้ยวเสี้ยวขมวดคิ้วและเงยหน้าขึ้น ที่แท้ก็เห็นเซี่ยงเฉิงกับยินรั่วอวิ๋นยืนอยู่ตรงหน้าตัวเอง เมื่อกี้ที่เธอไม่ระวังเดินชนก็คือยินรั่วอวิ๋น “คุณทำไมมาอยู่ที่นี่?”
เมื่อถามถึงประโยคนี้ น้ำเสียงของเซี่ยงเฉิงมีความโกรธเล็กน้อย
ยินเสี้ยวเสี้ยวปฏิกิริยาเร็วมาก เมื่อเธอมาถึงโรงพยาบาลเธอไปพบจิ๋นลี่ยวนก่อนที่จะขึ้นมา แต่ถ้าต้องการไปแผนกสมองจำเป็นต้องผ่านมาทางแผนกสูติศาสตร์และนรีเวชวิทยา เธอได้พบกับพวกเขาที่นี่โดยบังเอิญ
ตากะพริบ ยินเสี้ยวเสี้ยวพูดด้วยรอยยิ้มสดใส: “พวกคุณมาที่นี่ทำอะไรฉันก็มาที่นี่ทำอันนั้นแหละ”
พูดประโยคเดียว ฝั่งตรงข้ามสองคนนั้นมีแววตาที่ไม่ค่อยดีนัก เซี่ยงเฉินมองไปที่ท้องแบนของยินเสี้ยวเสี้ยวอย่างเหลือเชื่อ เร็วขนาดนี้เธอก็ท้องแล้วเหรอ? ยินรั่วอวิ๋นก็มองเธอด้วยความอิจฉา!
หลังจากรู้จักฐานะของจิ๋นลี่ยวน เธอก็รู้ว่าตัวเองจะมองเซี่ยงเฉินยังไงก็ไม่พอใจ ความสามารถในการทำงานก็ธรรมดา ครอบครัวก็ธรรมดา………. ทุกสิ่งที่ดีที่สุดในสายตาของเธอกลายเป็นเรื่องธรรมดา ในทางตรงกันข้ามจิ๋นลี่ยวนก็ดูดีขึ้นมากในสายตาของเธอ! ช่วงนี้เธอไม่สบายนิดหน่อยก็ถูกเซี่ยงโก่ซิวสามีภรรยาคู่นั้นก็เอะอะโวยวายให้มาที่โรงพยาบาล ก็พบว่าตัวเองท้องได้สามสัปดาห์แล้ว!
ยินเสี้ยวเสี้ยวแต่งงานเข้ามาในบ้านจิ๋นอย่างขาวสะอาด ตอนนี้ถ้าท้องล่ะก็ คาดว่าเวลาก็น่าจะสามสัปดาห์แล้ว! คิดแบบนี้แล้ว ในสายตาของยินรั่วอวิ๋นก็ยิ่งไม่พอใจ
ทำไมยินเสี้ยวเสี้ยวจะต้องท้องสายเลือดของบ้านจิ๋นด้วยนะ แต่ตัวเองกลับท้องสายเลือดของบ้านเซี่ยง?
“ยินเสี้ยวเสี้ยว คุณท้องเหรอ?” ยินรั่วอวิ๋นรอยินเสี้ยวเสี้ยวอย่างไม่พอใจ ในสายตาล้วนแล้วแต่อิจฉา
ยินเสี้ยวเสี้ยวไม่แสดงออกถึงความอ่อนแอแล้วก็มองไปที่ยินรั่วอวิ๋น เมื่อเร็ว ๆ นี้ยังมีบัญชีระหว่างเธอสองคนที่ยังไม่ได้เคลียร์ชัดเจน!
“ทำไม ฉันท้องมันแปลกมากเหรอ? เมื่อเทียบกับคุณแล้วหลังจากเรียนจบฉันก็แต่งงานตามปกติจึงท้อง แต่คุณล่ะ…….” ยินเสี้ยวเสี้ยวมองไปที่หน้าท้องแบนของ ยินรั่วอวิ๋นและพูด: “คุณตอนนี้ยังเรียนไม่จบนิ นี้คงอยู่ในขั้นตอนพักการเรียนเพื่อคลอดลูกซินะ? แน่นอนว่าการแต่งงานมันแตกต่างกัน”
ยินเสี้ยวเสี้ยวประชดไปสองสามประโยค ทันใดนั้นก็รู้สึกดีขึ้นมามาก
ยินรั่วอวิ๋นจ้องมองเธอด้วยความโกรธ แม้ว่าเธอจะแต่งงานแล้ว แต่ไม่ว่ามหาวิทยาลัยจะเปิดแค่ไหนก็มีนักศึกษาบางคนที่ชอบพูดกระแทกคนอื่น เมื่อข่าวการตั้งครรภ์ของยินรั่วอวิ๋นแพร่ออกไป ในโรงเรียนต้องเป็นเรื่องใหญ่ที่คุยสนุกปากแน่นอน
ส่วนเซี่ยงเฉินไม่เป็นไร คนที่อยู่ในโรงเรียนไม่ใช่เขา แต่ยินรั่วอวิ๋นไม่เหมือนกัน เพิ่งจะอายุยี่สิบสอง ตัวเธอเองยังเป็นแค่เด็ก จะยอมได้ที่ไหนให้เด็กคนหนึ่งมาฉุดรั้งชีวิตตัวเอง?
ทันใดนั้น ยินรั่วอวิ๋นหรี่ตาอย่างโมโห ระหว่างนั้นทั้งตัวยินเสี้ยวเสี้ยวอดไม่ได้ที่จะระวังตัวขึ้นมา แม้กระทั่งก้าวขายังถอยหลังไปไม่กี่ก้าว ยังคิดว่ายินรั่วอวิ๋นจะพูดอะไร กลับคิดไม่ถึงว่ายินรั่วอวิ๋นจะอ้างว่าตัวเองเหนื่อยแล้วอยากจะออกไป ตอนนี้เธออยากจะไปจากที่นี่แต่ เซี่ยงเฉินกลับไม่อยากไป!
“เซี่ยงเฉิน ฉันไปเข้าห้องน้ำประเดี๋ยวนะ คุณก็รอฉันตรงนี้ล่ะกัน” พูดแล้ว ยินรั่วอวิ๋นก็หมุนตัวแล้วเดินไปทางห้องน้ำ นี่เป็นครั้งแรกที่กล้าให้ยินเสี้ยวเสี้ยวและเซี่ยงเฉินอยู่ด้วยกัน
ยินรั่วอวิ่นไปปุ๊บ เซี่ยงเฉินจ้องไปที่ยินเสี้ยวเสี้ยวอย่างโกรธเคือง ใบหน้าเต็มไปด้วยความเหลือเชื่อ: “เสี้ยวเสี้ยว คุณเพิ่งจะแต่งงาน คุณคิดว่าท้องตอนนี้จะดีเหรอ? บ้านจิ๋นไม่คิดถึงคุณ คุณก็ควรนึกถึงตัวเองบ้าง แม้แต่ตัวคุณเองยังดูแลไม่ดีเลย จะดูและเด็กคนหนึ่งได้ยังไง?”
ยินเสี้ยวเสี้ยวมองไปที่การแต่งตัวของเซี่ยงเฉินที่ดูเป็นห่วงเธออย่างเป็นธรรมชาติ ทันใดนั้นก็ยิ้ม พูดไปว่า: “เซี่ยงเฉิน สิ่งที่คุณพูดมันแปลก ๆ ฉันมีลูกให้สามีมันไปขัดขวางเรื่องอะไรของคุณเหรอ? คุณบอกว่าฉันดูแลตัวเองไม่ได้ แล้วยินรั่วอวิ๋นสามารถดูแลตัวเองได้? คิดดูแล้ว เธออายุน้อยกว่าฉันอีก ถ้าคุณมีเวลาว่างมาห่วงฉัน ไม่สู้เอาเวลาไปห่วงเธอก่อนเถอะ!
พูดเสร็จ ยินเสี้ยวเสี้ยวไม่อยากพูดอะไรกับเซี่ยงเฉินอีกแม้แต่คำเดียว หันตัวแล้วเดินจากไป ปล่อยให้เซี่ยงเฉินมองไปที่หลังของเธอกำหมัดแน่นอย่างไม่พอใจ!
เซี่ยงเฉินและยินเสี้ยวเสี้ยวไม่รู้ด้วยซ้ำ ยินรั่วอวิ๋นเฝ้าดูปฏิกิริยาทั้งหมดของเขาจากด้านข้าง!
ยิ้มที่มุมปาก นี่เป็นรอยยิ้มที่จริงใจครั้งแรกของยินรั่วอวิ๋นตั้งแต่เธอแต่งงานมา
ยินเสี้ยวเสี้ยว ครั้งนี้คุณเองที่เปิดโอกาสให้กับฉันตรงหน้า ฉันจะรักษามันไว้ให้ดี!