Flash Marriage แต่งงานกับคน(ไม่)ธรรมดา - บทที่133 ถูกทำให้โง่งมจนอยากจะหลั่งน้ำตา
- Home
- Flash Marriage แต่งงานกับคน(ไม่)ธรรมดา
- บทที่133 ถูกทำให้โง่งมจนอยากจะหลั่งน้ำตา
บทที่133 ถูกทำให้โง่งมจนอยากจะหลั่งน้ำตา
ในครั้งนี้ จิ๋นลี่ยวนโกรธขึ้นมาแล้วจริงๆ พลางมองยินเสี้ยวเสี้ยวด้วยความถมึงทึง ก่อนจะเลิกสนใจเธอไป
ยินเสี้ยวเสี้ยวงงอยู่สักพัก จิ๋นลี่ยวนเป็นอะไรกันแน่?
แต่ยินเสี้ยวเสี้ยวก็เป็นคนเชื่อฟัง ถึงจะไม่รู้ว่าเพราะอะไรจิ๋นลี่ยวนถึงได้โกรธเธอ แต่ก็ยังเอื้อมมือไปโอบเอวของเขาก่อนจะสำนึกผิดว่า: “เพราะว่าวันนี้ตอนบ่ายฉันไม่ได้ทำอาหารที่คุณชอบเหรอ?”
จิ๋นลี่ยวนไม่ขยับ ยินเสี้ยวเสี้ยวเลยพูดต่อ: “หรือว่าเพราะว่าฉันใส่เสื้อผ้าที่คุณไม่ชอบในวันนี้งั้นเหรอ?”
จิ๋นลี่ยวนยังคงไม่ตอบสนองอะไร ยินเสี้ยวเสี้ยวขมวดคิ้วเป็นปม ก่อนจะพูดออกมาเบาๆ ว่า: “งั้น เพราะว่าช่วงนี้ฉันไม่สนใจคุณเหรอ?”
เมื่อถามคำถามนี้ออกไป ยินเสี้ยวเสี้ยวไม่ได้สังเกตว่าเธอเองก็หยุดหายใจเพื่อรอฟังคำตอบ
บางที เธอนั้นหลงตัวเองมากไปหรือเปล่านะ?
แต่ว่าครั้งนี้จิ๋นลี่ยวนเพียงแค่พึมพำเบาๆ เท่านั้น แต่ก็ยังคงไม่ตอบสนองอะไรเธอเลย
ในตอนนั้นเอง ความกกระตือรือร้นของยินเสี้ยวเสี้ยวถูกทำลายลง เธอเลยไม่อยากจะคิดแล้ว ก่อนจะกอดเขาเอาไว้อย่างนั้นพลางหลับตานอนไป จิ๋นลี่ยวนรออยู่นานเมื่อเห็นว่าไม่ได้ยินเสียงคนจากด้านหลังแล้ว เลยหันกลับไป ก็เห็นว่าผู้หญิงคนนี้หลับไปแล้ว!
เขาถอนหายใจอย่างไร้ทางเลือก จิ๋นลี่ยวนก็อดไม่ได้ที่จะประคองหน้าผากเอาไว้
มันเริ่มตั้งแต่เมื่อไหร่กันนะ ที่ตัวเขาเองรู้สึกงอนขึ้นมา?
โง่จริงๆ !
โง่จนอยากจะร้องไห้จริงๆ !
แต่ว่า เมื่อเห็นยินเสี้ยวเสี้ยวนอนอย่างสวยงาม ความไม่พอใจเมื่อสักครู่มันก็หายไปทันที
ไม่รู้ก็ช่างมัน ถึงอย่างไรก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรอยู่แล้ว……
งานครบรอบแปดสิบปีของบ้านจิ๋นคุณย่า ครอบครัวที่สนิทสนมกับบ้านจิ๋นก็เริ่มติดต่อกับบ้านจิ๋นมาสักพักแล้ว ส่วนบางคนที่มีน้ำใจงดงามนั้น ก็เริ่มเตรียมของขวัญให้ตั้งนานแล้วเช่นกัน แต่เมื่อถึงวันนี้ ทั้งเมืองTก็สามารถเห็นว่ารถหรูต่างๆ พากันขับไปที่ ‘ร้านอาหารเทาถี้’
ก่อนหน้านี้ ยินเสี้ยวเสี้ยวเดินทางไปถึง ‘ร้านอาหารเทาถี้’ ตั้งนานแล้ว หลังจากที่ตรวจสอบความเรียบร้อยทุกอย่างเสร็จเรียบร้อยแล้ว กลับยังมีความตึงเครียดอยู่ แต่ ‘ร้านอาหารเทาถี้’ ในวันนี้ มีคนไม่ร้อยเลยที่อยากจะมาดูคนของบ้านจิ๋น ‘ร้านอาหารเทาถี้’ เลยมีการกั้นรอบๆ ถึงสามสิบเมตร คนที่ไม่ได้ถูกเชิญ และไม่ใช่พนักงาน ก็ไม่สามารถเข้ามาได้
ตอนหกโมงเย็นก็เริ่มมีแขกทยอยมากัน เพียงแต่ตอนที่พวกเขาลงจากรถมาก็อดไม่ได้ที่จะตกใจเล็กน้อย
มีพรหมแดงลากยาวออกไปถึงห้องโถง พนักงานของ ‘ร้านอาหารเทาถี้’ ก็อยู่ตามหน้าที่ของตัวเอง มีที่รักษาความปลอดภัยห่างออกไปจากประตูไม้หรูไม่ไกลนัก แต่มันกลับเข้ากันกับคนใหญ่คนโตแบบคุณย่าจิ๋นเป็นอย่างมาก และสามีภรรยาที่ยืนอยู่ตรงพรหมแดงก็ทำให้คนตะลึงไม่น้อย
ยินเสี้ยวเสี้ยวใส่ชุดกระโปรงยาวเปิดไหล่สีม่วง ม้วนผมลอนอ่อนๆ มัดเอาไว้ทางด้านหลัง และปล่อยลูกผมลงมาเล็กน้อย แต่กลับดูหวานอย่างเรียบง่าย และแต่งหน้าสวยและสง่างาม ชุดสีม่วงขับผิวขาวของเธอเป็นอย่างมาก ใบหน้าเล็กๆ นั้นดูอ่อนโยนและสงบเสงี่ยม ไม่ว่าจะเจอคนแบบใดในเมืองT แต่ก็ยังมีสีหน้าปกติ
จิ๋นลี่ยวนยืนอยู่เงียบข้างๆ เธอ ด้วยชุดสูทสีดำ เนกไทที่ดูหรูหรา ดูมีท่าทีเหมือนกันเทพบุตร ยิ่งยืนข้างๆ ยินเสี้ยวเสี้ยวแล้วล่ะก็เหมือนมีเพียงสองคนนี้บนโลก
แต่สิ่งที่ทำให้น่าตกใจมากกว่านั้นก็คือ ไม่ว่าใครจะเดินเข้าไปตรงหน้าของยินเสี้ยวเสี้ยว ขอเพียงแค่เป็นแขกในวันนี้ เธอก็เรียกอีกฝ่ายได้อย่างถูกต้อง ถึงแม้ว่าจะไม่เคยเจอแต่เธอก็รู้จัก จากนั้นก็คุยกับอีกฝ่ายเล็กน้อย ก่อนจะให้พนักงานข้างหลังพาแขกไปที่โถง
งานในห้องรับแขกก็จะส่งต่อให้จิ๋นลี่โป๋กับจิ๋นลี่หยาว เมื่อถามอย่างละเอียดแล้วถึงได้รู้ว่าวันนี้ในงานเลี้ยงฉลองวันเกิดเป็นการจัดเตรียมของยินเสี้ยวเสี้ยวเพียงคนเดียว เลยทำให้แขกในงานอดไม่ได้ที่จะต้องชื่นชมสักหน่อย
‘ร้านอาหารเทาถี้’ ถูกจัดให้โล่ง ภายในห้องรับแขกทั้งสี่ทิศมีแต่ดอกกุหลาบเรียงรายสวยงาม เห็นได้ชัดว่ามันไม่ใช่ดอกไม้ตามฤดูกาล แต่ว่ามันก็มีดอกไม้รายล้อมอยู่เต็มไปหมด มีคนที่รู้นึกขึ้นได้ ว่าเป็นของที่ตอนนั้นคุณย่าจิ๋นกับคุณท่านจิ๋นให้กันเอาไว้ ได้ยินว่าเป็นดอกกุหลาบสีชมพู
มันไม่ใช่ดอกไม้ที่สูงส่งอะไร แต่กลับแสดงถึงความสวยงามอย่างมีเอกลักษณ์
ในงานเลี้ยงมีแต่ดอกไม้เต็มไปหมด แต่กลับไม่ได้ทำให้แขกรู้สึกสับสน หรือไม่สบายตัว แต่เป็นเพราะว่าอยู่ภายในอาคาร ตั้งสี่มุมเป็นประตูบานไม้ หรือไม่ก็เป็นเสากลม เลยให้ความรู้สึกซับซ้อนลึกลับ และยังมีกลิ่นหอมอ่อนๆ ของดอกไม้ปนอยู่ด้วย ดูสดใหม่และธรรมชาติ……
ที่นี่ คนวัยหนุ่มสาวให้ความรู้สึกถึงจินตนาการที่ลึกลับ ส่วนวัยกลางคนก็จะรู้สึกได้ถึงความผ่อนคลาย คนมีอายุก็จะรู้สึกระลึกถึงวันวาน วันวานนั้นมันช่างโดนใจคุณย่าเสียเหลือเกิน
ภายในงานทั้งงานนั้น ทุกอย่างนั้นละเอียดมากตั้งแต่อาหารที่อยู่ในจานไปยันดอกไม้ที่ใช้ในการประดับ ทุกอย่างนั้นเป็นผลลัพธ์จากการทำงานจนแทบกระอักเลือด!
มันแน่นอน ว่าจะมีคนไม่น้อยเลยที่เทใจให้กับคุณนายน้อยของบ้านจิ๋น
ความใจกว้าง และจิตใจที่งดงามนั้นไม่ใช่เพียงแค่คำพูดลอยๆ ของคนอื่นอีกต่อไป
ทุ่มตรง เมื่อรายชื่อที่ยินเสี้ยวเสี้ยวทำนั้น ทุกคนมากันครบแล้วเธอก็เข้าไปในงานกับจิ๋นลี่ยวน อาจจะเป็นเพราะคำพูดของจิ๋นลี่โป๋กับจิ๋นลี่หยาว เลยมีแต่คนมองเธอด้วยความชื่นชม
ทุ่มสิบนาที ผู้จัดการหวงมาประกาศ คุณย่าจิ๋นถึงแล้ว คนของบ้านจิ๋นเดินออกไปรอหน้าประตู คนในงานนั้นเงียบขึ้นมาทันที ทุกคนถือแก้วไวน์ในมืออย่างใจจดใจจ่อ
ประตูไม้หนักนั้นถูกพนักงานสองคนเปิดออกอย่างช้าๆ ทุกๆ คนยกแก้วไวน์ขึ้นอย่างไม่ทันตั้งตัว พร้อมพูดออกมาเบาๆ ว่า: “สุขสันต์วันเกิด”
ฉากที่ตอนแรกทุกคนพูดคุยกันเป็นอย่างดีนั้น ตอนที่ทุกคนพูดคุยกันเพื่อรอแต่เมื่อได้เห็นคุณย่าจิ๋นกลับตกตะลึงกันยกใหญ่
คุณย่าจิ๋นมาแล้ว เธอเดินเข้ามาตรงหน้าทุกคนพร้อมชุดกี่เพ้าสีแดง อีกทั้งยังกล่าว ‘ขอบคุณ’ อีกด้วย เพียงแต่สิ่งที่ทำให้แขกทุกคนทำตัวไม่ถูกก็คือ คุณหนูใหญ่ที่ยืนข้างๆ คุณย่าจิ๋นไม่ได้ปรากฏตัวในเมืองTมานาน ก็คือมู่เยียนหราน!
“ขอบคุณทุกๆ คน” คุณย่าจิ๋นพูดไป พลางเดินเข้าไปที่ตรงกลางของงานเลี้ยง เมื่อทุกคนมีสติกลับได้ ปากที่ยิ้มให้อย่างทำตัวไม่ถูกก็กลับมาเป็นปกติ เลยอดไม่ได้ที่จะมองไปทางยินเสี้ยวเสี้ยว
ก่อนหน้านี้ เรื่องที่คุณชายจิ๋นที่สามกัยคุณหนูตระกูลมู่ไปเที่ยวกันอย่างสวีทที่เมืองโบราณนั้น ตอนนี้คุณหนูตระกูลมู่มาเดินข้างๆ คุณย่าจิ๋นเป็นการกลับมาอยู่ในเมืองTโดยปริยาย ตอนที่เกิดเรื่องขึ้นกับยินเสี้ยวเสี้ยว ท่าทีของทุกคนของบ้านจิ๋นก็ไม่เหมือนเคย
งานเลี้ยงเริ่มดำเนินการต่อไป ทุกคนในตอนนั้นเองกลับดูท่าทีของยินเสี้ยวเสี้ยวกับมู่เยียนหรานอย่างใจจดใจจ่อ เหมือนกับว่าถ้าใครไม่สนใจ พวกเธอจะทำร้ายขึ้นมาแบบนั้นเลย ขณะที่ทุกคนกำลังสนใจอยู่นั้น มู่เยียนหรานกลับเดินมาทางยินเสี้ยวเสี้ยว
มายืนอยู่ตรงหน้าของยินเสี้ยวเสี้ยว มู่เยียนหรานยิ้มก่อนจะยื่นมือของตัวเองออกไปพลางพูดว่า: “สวัสดี ฉันคือมู่เยียนหราน”
ในตอนนั้นเอง สถานการณ์มันดึงดูดสายตาผู้คนนับไม่ถ้วน
ยินเสี้ยวเสี้ยวแทบจะไม่ได้รู้สึกตกใจเลยแม้แต่น้อย เธอยื่นมือออกไปกุมมือของมู่เยียนหรานเบาๆ ก่อนจะพูดว่า: “สวัสดี คุณมู่ ฉันคือยินเสี้ยวเสี้ยว”
ทั้งสองคนไม่ได้คุยอะไรกันมาก เพียงแค่ยืนคุนจิปาถะกันอยู่สักพักก่อนจะแยกย้ายกันไป
แต่นอกจากที่ยินเสี้ยวเสี้ยวจะตกตะลึงในตอนแรกเล็กน้อยแล้วนั้นก็ไม่ได้มีอะไรมาก เพียงแค่คล้องแขนของจิ๋นลี่ยวนจากนั้นก็เดินเข้าไปในคนที่เกี่ยวข้องกับบ้านจิ๋น ก่อนจะหยุดแล้วทำอะไรที่เหมาะสมแล้วตัวเองควรจะทำ ไม่มีอะไรผิดไปเลย จากนั้นสักพัก จิ๋นลี่โป๋ที่เป็นหลานชายคนโตของบ้านจิ๋นก็เอาของขวัญของตัวเองมอบให้ต่อหน้าแขกทุกคน
“คุณย่า หลานขอให้มีความสุขเป็นอย่างมาก และอายุยิ่งยืนนาน” พูดไป ผู้ช่วยของจิ๋นลี่ยวนก็เอากล่องผ้าไหมยื่นให้คุณย่าจิ๋น คนรอบๆ โห่ร้อง คุณย่าจิ๋นเองก็เปิดกล่องออกด้วยความดีใจ
มันเป็นหยกสีเขียวมรกตคู่หนึ่งวางอยู่ในนั้น สีสวยเป็นอย่างมาก แค่มองแวบเดียวก็รู้ว่าเป็นของล้ำค่า
คุณย่าจิ๋นยิ้มจนหุบไม่อยู่ ก่อนจะพูดว่า ‘เด็กดี’
ของขวัญชิ้นทราสองนั้นคือของจิ๋นลี่หยาว ผู้ช่วยฮวาฉีของเธอเอาช่อดอกไม้ที่มีกล่องทรงจัตุรัสมาให้ ขณะที่เธอกำลังพูด ฮวาฉีก็เปิดกล่องออก: “คุณย่า หลานขอให้มีกันและกันตลอดไป”
เมื่อพูดออกไป มันเป็นชุดกี่เพ้าที่จิ๋นลี่หยาวออกแบบด้วยตัวเองที่กำลังแสดงต่อหน้าทุกคนในตอนนี้ มีการเดินเส้นด้ายที่ละเอียด และออกแบบอย่างเรียบง่ายตรงใจคุณย่าจิ๋น
สุดท้ายที่เดินขึ้นไปก็คือจิ๋นลี่ยวนกับยินเสี้ยวเสี้ยว ยินเสี้ยวเสี้ยวควงแขนของจิ๋นลี่ยวนก่อนจะเดินเข้าไปท่ามกลางผู้คนมากมาย จนคนแถวนั้นก็อดไม่ได้ที่จะมองเธอสักพัก เมื่อหลายวันก่อนสะใภ้ใหม่ของบ้านจิ๋นเพิ่งจะเจอเรื่องไม่ดีมา ไม่รู้ว่างานวันเกิดในวันนี้เตรียมของขวัญมาทันได้อย่างไร
ทั้งสองคนสบตากันเล็กน้อย ก่อนจะพูดกับคุณย่าจิ๋น: “คุณย่า หลาน(ภรรยาของหลาน)ขอให้คุณมีความสุขสมดังปรารถนา”
คำพูดอวยพรง่ายๆ กลับเป็นคำอวยพรที่จริงใจที่สุด ผู้จัดการหวงพาพนักงานถึงสองคนไปยกเค้กแปดชั้นที่ยินเสี้ยวเสี้ยวทำให้คุณย่าจิ๋น คนในงานก็พากันซุบซิบเบาๆ
ไม่ต้องพูดถึงว่าเค้กมี 8 ชั้นนั้น ทำด้วยวัตถุดิบที่พิถีพิถัน มันไม่หวานจนเลี่ยนมาก เค้กทั้งหมดมีการตกแต่งด้วยกลีบกุหลาบสีแดง ทั้งแปดชั้น ติดดอกกุหลายทีละใบๆ มันสวยมาก สวยกระแทกใจ มันเป็นของขวัญที่ยินเสี้ยวเสี้ยวเตรียมให้คุณย่าจิ๋น
เมื่อเห็นเค้ก คุณย่าจิ๋นก็พยักหน้าเบาๆ หลังจากที่เธอเข้ามาได้ยินคนไม่น้อยเลยที่ชื่นชมยินเสี้ยวเสี้ยว ดวงตามีการขยับเล็กน้อย คุณย่าจิ๋นเอาเครื่องปั้นที่จิ๋นลี่ยวนให้วางเอาไว้ข้างๆ ก่อนจะถามเบาๆ ว่า: “เสี้ยวเสี้ยว ได้ยินมาว่างานเลี้ยงฉลองวันเกิดนี้คุณเป็นคนเตรียมการคนเดียวเลย ฉันก็คิดว่านี่มันเป็นของขวัญแล้วเสียอีก ทำไมยังมีเค้กอีกล่ะ?”
ยินเสี้ยวเสี้ยวได้ยินดังนั้นก็ยิ้มให้พลางมองคุณย่าจิ๋น แล้วถามกลับว่า: “คุณย่า การที่เป็นสะใภ้ใหม่ของบ้านจิ๋นปีนี้ ฉันควรเตรียมงานเลี้ยงฉลองวันเกิดอย่างสุดความสามารถ ไม่ใช่เหรอ?”
คำพูดนี้ ทำให้คนในงานอดไม่ได้ที่จะยิ้มให้ยินเสี้ยวเสี้ยวเล็กน้อย
ในฐานะภรรยาของหลาน การเตรียมงานเลี้ยงฉลองวันเกิดให้คุณน่าก็เป็นสิ่งที่ควรทำ แต่จะเหนื่อยยากขนาดนี้ได้ที่ไหนกัน?
ตั้งแต่แรก ยินเสี้ยวเสี้ยวก็ไม่ได้คิดจะนับว่างานเลี้ยงฉลองวันเกิดจะเป็นของขวัญวันเกิดของคุณย่าจิ๋น!
จิ๋นลี่ยวนที่ยืนอยู่ข้างๆ เธอยิ้มเบาๆ เสี้ยวเสี้ยวของเขานั้นเข้าใจคิดดีว่าจะเอาใจคุณย่าอย่างไร