Flash Marriage แต่งงานกับคน(ไม่)ธรรมดา - บทที่134 ภรรยาของหลานในอนาคตของบ้านจิ๋น
- Home
- Flash Marriage แต่งงานกับคน(ไม่)ธรรมดา
- บทที่134 ภรรยาของหลานในอนาคตของบ้านจิ๋น
บทที่134 ภรรยาของหลานในอนาคตของบ้านจิ๋น
มีคนไม่น้อยเลยที่กำลังชื่นชมยินเสี้ยวเสี้ยว บอกคุณย่าจิ๋นว่างานเลี้ยงฉลองวันเกิดทำเองทุกกระเบียดนิ้ว แล้วก็บอกคุณย่าจิ๋นบ้านจิ๋นว่าเป็นความสามารถของภรรยาของหลาน บรรยากาศก็ดูดีขึ้นมาก ท่าทีดูออกได้ไม่ยากว่าคุณย่าจิ๋นเปลี่ยนมุมมองที่มีต่อยินเสี้ยวเสี้ยวแล้ว
ทันใดนั้น ก็มีคนหนึ่งที่รีบเดินเข้ามายืนอยู่ไม่ไกลจากคุณย่าจิ๋นกับมู่เยียนหรานมากนัก ด้วยท่าทีร้อนรน มู่เยียนหรานเองก็ไม่สังเหตุ แต่คุณย่าจิ๋นเห็นก่อน เลยถามเบาๆ ว่า: “เยียนหราน นั่นใช่คนของตระกูลมู่หรือเปล่า?”
มู่เยียนหรานตกตะลึงเล็กน้อยก่อนจะมองไปทางคนนั้น พลางหันกลับมาบอกคุณย่าจิ๋นว่า: “คุณย่า เยียนหรานเองก็เอาของขวัญมาให้คุณเหมือนกัน ตอนนี้ของขวัญน่าจะมาถึงแล้ว”
“อ๋อ?เหรอ?” คุณย่าจิ๋นได้ยินอย่างนั้นก็แอบสงสัย ของขวัญมากมายเธอก็ได้รับหมดแล้ว ขนาดของขวัญของหยูเจียห้วยกับจิ๋นหยวนเฟิงยังได้รับตั้งแต่เดือนที่แล้วเลย เพียงแต่เธอคิดไม่ถึงเลย ว่ามู่เยียนหรานยังกลับมาได้ไม่นาน ก็จำได้ว่าต้องเตรียมของขวัญให้กับเธอ “เยียนหรานเตรียมของขวัญอะไรให้คุณย่าเหรอ?”
“เยียนหรานไม่บอกคุณย่าหรอก คุณย่าลองทายดูสิ” เอียงศีรษะเล็กน้อยด้วยความขี้เล่น มู่เยียนหรานแสดงความเป็นลูกสาวตัวน้อยของเธอออกมา แต่ว่าในครั้งนี้ในใจของคุณย่าจิ๋นก็มีความคิดที่อยากมีเด็กมาง้องอนแบบนี้ผุดขึ้นมา เด็กในบ้านสามคนไม่ได้โตขึ้นมาตามๆ เธอ เมื่อเธอสามารถพาลูกๆ ไปไหนมาไหนได้แล้ว ขนาดจิ๋นลี่ยวนที่เด็กที่สุดในบ้านก็ยังเลยวัยที่จะมาง้องอนแบบนี้แล้ว ในจุดนี้คุณย่าจิ๋นรู้สึกเสียดายเป็นอย่างมาก ตอนนี้มู่เยียนหรานกลับแสดงความรู้สึกนี้ออกมาอย่างธรรมชาติ มีคนสูงอายุที่ไหนจะไม่ดีใจบ้างล่ะ?
“หึๆ ยัยเด็กน้อย” ถึงจะพูดแบบนั้น แต่คุณย่าจิ๋นกลับมีความสุขเป็นอย่างมาก “ตั้งแต่เล็กคุณกล้าแสดงออกมาก ฉันจำได้ว่าตอนเด็กๆ คุณอยู่ที่อเมริกาตลอดเลย ตอนนั้นฉันก็อยู่ที่นั่น ดูแลมาจนโต เลยรู้สึกเอ็นดูคุณมากกว่าหลานๆ ทั้งสามของฉันเอง ของที่คุณให้นั้นมันมีความหมายกับฉันมาก แต่ตอนนี้เนี่ย มันหลายปีมาแล้ว ฉันเลยเดาไม่ถูกหรอก”
มู่เยียนหรานยิ้มเบาๆ
ใช่สิ เธอเป็นโรคหัวใจมาตั้งแต่เด็ก ดังนั้นเลยอยู่ที่เมืองTกี่ปีก็ไปที่อเมริกาแล้ว อยากจะซื้อหัวใจมาผ่าตัดจากตลาดมืดที่นั่งตลอดเวลา แต่กลับไม่มีโอกาสเลย แต่โชคชะตาที่ไม่เข้าข้างก็กลับมามีโชคอีกครั้ง เมื่อตอนนั้นคุณย่าจิ๋นอยู่ที่อเมริกา และอยู่บ้านใกล้ๆ กับเธอ ตอนเด็กๆ คุณย่าจิ๋นเห็นเธอโตมา นี่เป็นเหตุผลที่เธอเรียกว่า ‘คุณย่า’ มาตลอด และก็ทำให้ตระกูลมู่กับบ้านจิ๋นสนิทกัน
คุณย่าจิ๋นรักเธอมาก ทุกๆ คนรู้กันหมด ถ้าไม่อย่างนั้นคงไม่ให้บ้านจิ๋นกับตระกูลมู่มางานหมั้นเกิดขึ้นมาหรอก
มู่เยียนหรานไม่ได้ตอบคำถามของคุณย่าจิ๋น แต่หันไปทางคนที่มา หลังจากที่ได้ฟังเขาพูดอยู่สักพัก สีหน้าก็กลับเปลี่ยนไปเป็นไม่ดีซะงั้น เธอเดินบึ้งตึงไปหาคุณย่า พลางกัดปากไม่พูดไม่จา
“เป็นอะไรเหรอ?ไม่ใช่ว่าเมื่อครู่เยียนหรานหยอกย่าเล่นใช่ไหม?” คุณย่าจิ๋นพูดหยอก
มู่เยียนหรานดูเธอเติบโตมา จนเธอบรรลุนิติภาวะ เธอได้กลับประเทศ ถ้าจะบอกว่าไม่รู้สึกอะไร คงจะเป็นไปไม่ได้ มู่เยียนหรานเป็นคนสูงส่ง เด็กแบบนี้แต่งเข้ามาก็มีแต่จะทำให้ดีขึ้นๆ แต่น่าเสียดายที่หลานของเธอกลับโง่แต่งกับสะใภ้อย่างยินเสี้ยวเสี้ยว……
เมื่อมองไปที่ยินเสี้ยวเสี้ยว ในสายตาคุณย่า ถึงแม้ว่าเธอจะขยันสักแค่ไหน ก็ยังขาดความสูงส่งอยู่ คนที่ยืนข้างๆ จิ๋นลี่ยวนนั้นมันขาดไปหน่อยเดียวเอง…
ความรู้สึกแบบนี้ ไม่ว่ายินเสี้ยวเสี้ยวจะพยายามขนาดไหนก็ยากที่จะชนะ ลองๆ คิดดู เธอมองด้วยอคติมาตั้งแต่แรก เธอจะเปลี่ยนมันอย่างไรดีนะ?ยิ่งในสถานการณ์แบบนี้ที่คุณย่าจิ๋นมีคนสมบูรณ์แบบอย่างมู่เยียนหรานอยู่ตั้งแต่แรกแล้วด้วย
“เยียนหรานเป็นอะไรเหรอ?ทำหน้าเหมือนจะร้องไห้เลย” เมื่อเห็นท่าทีที่ขมขื่นของมู่เยียนหราน คุณย่าจิ๋นก็รู้สึกสงสารจับใจ คิดว่าเธอไม่ค่อยสบายเสียอีก เลยรีบพูดว่า “เยียนหราน ไม่สบายตรงไหนหรือเปล่า?คุณเอายามาด้วยหรือเปล่า?หรือให้พวกเราพาไปโรงพยาบาลตอนนี้เลยดีไหม?”
มู่เยียนหรานส่ายหัว พลางพูดด้วยท่าทีจะร้องไห้ว่า: “คุณย่า ของขวัญที่เยียนหรานเตรียมเอาไว้ให้ได้ยินว่าโดนนักเลงเอาไปแล้ว ตอนนี้เขาบอกว่าถ้าฉันไม่ขายก็จะฆ่าหมาให้ตายให้หมด……”
คุณย่าจิ๋นได้ยินดังนั้น ก็โกรธขึ้นมา คุณย่าจิ๋นรักหมามาก คนทั้งเมืองTรู้กันหมด
“ไม่มีเหตุผลเลยจริงๆ กล้ามาจากไหน ถึงมาทำอะไรหมาของเยียนหราน!” คุณย่าจิ๋นเสียงดัง จนคนในงานเงียบกันหมด ไม่มีใครกล้าพูด ยินเสี้ยวเสี้ยวกำลังเจรจากับผู้จัดการหวง อาหารเตรียมเอาไว้หมดแล้ว ตอนที่แขกสามารถมาได้คุณย่าจิ๋นกลับพูดขึ้น “ฉันอยากไปดู ว่าใครกล้าขนาดนี้ จะมาทำร้ายของของฉัน!มันเป็นของที่ภรรยาหลานบ้านจิ๋นในอนาคตเตรียมเอาไว้ให้เลยนะ!”
พูดไป คุณย่าจิ๋นก็จูงมู่เยียนหรานเตรียมจะเดินออกไป โดยที่ไม่ได้สนใจคำพูดของตัวเอง ‘ภรรยาหลานบ้านจิ๋นในอนาคต’ ว่ามันทำให้คนในงานตกใจกันหมด
ภรรยาของหลานบ้านจิ๋นในอนาคต?
จิ๋นลี่โป๋หรือจิ๋นลี่ยวนล่ะ?
ใครไม่รู้บ้างว่ามู่เยียนหรานกับจิ๋นลี่ยวนนั้นทะเลาะกันยกใหญ่ตอนที่เธอยังไม่กลับประเทศ จิ๋นลี่โป๋ก็ไม่มีทางเอาผู้หญิงที่ความสัมพันธ์ไม่ชัดเจนของน้องชายตัวเองมาแน่……
ตอนนั้น ยินเสี้ยวเสี้ยวที่ยืนอยู่ได้รับรู้สึกสายตามากมาย จนรู้สึกทำตัวไม่ถูก
ขมวดคิ้วเป็นปม จิ๋นลี่หยาวเดินขึ้นไปประคองคุณย่าจิ๋น: “คุณย่า ให้ฉันไปดูเถอะ ทางนี้เตรียมกินข้าวกันแล้ว เดี๋ยวยังมีการอวยพรให้อายุยืนอีก ไม่อยากฟังเหรอ?”
คุณย่าจิ๋นตอนนี้กลับยังคงโกรธอยู่มาก ไม่ได้สนใจเลยแม้แต่น้อย เลยผลักจิ๋นลี่หยาวก่อนจะพูด: “ตอนน้มันจะไปอร่อยอะไร เยียนหรานของฉันไม่สบายใจ ฉันไม่ไปช่วยเธอ แล้วใครจะไป?งานในวันนี้พวกคุณทำกันไปก่อนก็แล้วกัน ฉันจะไปดูกับเยียนหราน”
พูดเสร็จ คุณย่าจิ๋นก็เดินต่อไปกับมู่เยียนหรานโดยที่ไม่ได้สนใจใคร
มู่เยียนหรานดึงคุณย่าเอาไว้พลางพูด: “คุณย่า วันนี้เป็นวันเกิดคุณ ทำแบบนี้ได้อย่างไร?ฉันไปดูเอง ตอนแรกฉันจะเอาหมาจากศูนย์ช่วยเหลือสุนัขมาให้เป็นของขวัญ แต่ตอนนี้ไม่มีแล้ว……”
คนรอบๆ แค่ฟังก็รู้ ว่ามู่เยียนหรานของขวัญที่เอามาจากศูนย์ช่วยเหลือสุนัขนั้นถูกคนขัดขวางเอาไว้ จู่ๆ ก็เกิดขึ้นเลยคิดวิธีได้ไม่มาก เลยคิดได้แค่ว่าโชคของคุณนายน้อยสามตระกูลจิ่นไม่ดี
“คุณย่า จะถึงเวลากินข้าวแล้ว คุณชื่นมื่นไปกับงานเถอะ เรื่องอื่นฉันจัดการเอง” มู่เยียนหรานพูดออกมาเบาๆ ก่อนจะมองยินเสี้ยวเสี้ยวพลางพูด “จะว่าไป คุณดูสิ งานในวันนี้เสี้ยวเสี้ยวจัดเองคนเดียวเลยนะ คุณมีเหตุผลอะไรในการออกจากงานก่อนล่ะ?”
คุณย่าจิ๋นในตอนนั้นเองเพิ่งจะคิดขึ้นได้ว่ายินเสี้ยวเสี้ยวก็อยู่ เลยตะลึงไป ก่อนจะมองตาแดงๆ ของมู่เยียนหราน พลางูดด้วยความมั่นใจ “ไม่เป็นไร งานเลี้ยงแปดสิบปีไม่มีแล้ว แต่ก็ยังมีตอนเก้าสิบอยู่ ถ้าไม่มีงานในบ้านจิ๋นให้เธอเตรียมก็ได้ ไม่น้อยไปกว่างานนี้หรอก แต่ว่าคุณเพิ่งจะกลับมา คุณย่าจะปล่อยให้ใครมาแกล้งได้อย่างไร!”
พูดไป คุณย่าจิ๋นไม่ได้มองยินเสี้ยวเสี้ยวแม้แต่นิดเดียวก็ออกไป สุดท้ายมู่เยียนหรานเลยปล่อยมือของคุณย่าจิ๋น ให้เธอรอสักพัก ก็เห็นว่ามู่เยียนหรานเดินมาตรงหน้ายินเสี้ยวเสี้ยว
“เสี้ยวเสี้ยว ขอโทษจริงๆ ที่วันนี้ ทำให้คุณเสียเวลาจนเหนื่อยฟรี” มู่เยียนหรานพูดด้วยความรู้สึกผิดในแววตาก็มีแต่ความสำนึกผิดต่อยินเสี้ยวเสี้ยวเป็นอย่างมาก
ยินเสี้ยวเสี้ยวในตอนนั้นเอง ถึงแม้ว่าทั้งเนื้อทั้งตัวของเธอจะรู้สึกเย็นยะเยือกแต่ก็ไม่ยิ้ม และตอบกลับไปไม่ได้: “ไม่เป็นไร คุณย่า รักคุณเหมือนกับหลานสาว การออกหน้าเพื่อคุณก็เป็นสิ่งที่สมควรแล้ว”
มู่เยียนหรานได้ยินคำพูดของยินเสี้ยวเสี้ยวดังนั้น เธอก็ผลุบตาลงแต่ก็ไม่ได้พูดอะไรก่อนจะเดินไปข้างๆ คุณย่าแต่ก็ยังไม่รู้จะพูดอะไรต่อไปคุณย่าเลยพูดออกมาว่า: “ลี่ยวน คุณไปกับฉัน”
ในตอนนั้นเอง ทุกคนในที่นั้นก็เงียบลงอีกครั้ง
สีหน้าของยินเสี้ยวเสี้ยว ก็อดไม่ได้ที่จะซีดเผือดลง
ตอนที่มาบ้านจิ๋นครั้งแรก คุณย่าจิ๋น ยังค่อนข้างชอบเธออยู่เลย ถึงแม้ว่าจะไม่ชอบแต่ก็ไม่แสดงออกมา โดยเฉพาะเวลาที่อยู่ต่อหน้าคนอื่น แต่ว่าวันนี้กลับทำติดกันหลายครั้งแล้ว ขนาดหยูเจียห้วยกับจิ๋นหยวนเฟิงเองยังไม่รู้จะทำตัวอย่างไรเลย
คนเราก็เป็นแบบนี้แหละ ก่อนที่จะมีอะไรมาเปรียบเทียบ บางทีคุณอาจจะดีไปซะทุกอย่าง แต่เมื่อเริ่มมีการเปรียบเทียบแล้ว ก็มักจะคิดว่าคุณเที่ยวกับใครไม่ติดเลย
ตอนที่ยินเสี้ยวเสี้ยว ยังไม่มีใครให้เปรียบเทียบนั้น ในแววตาของคุณย่าจิ๋นก็ยังคิดว่าเป็นคนกันเอง แต่เมื่อยินเสี้ยวเสี้ยวมีมู่เยียนหรานมาเป็นตัวเปรียบเทียบ ทุกอย่างก็ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป ยินเสี้ยวเสี้ยวไม่เข้าตาของคุณย่าจิ๋นเลยแม้แต่น้อย ไม่ได้ว่าขนาดหยูเจียห้วย เองก็คงคิดว่าไม่ว่าจะในทางไหนยินเสี้ยวเสี้ยว ก็ไม่เหมาะสมกับจิ๋นลี่ยวน!
ถ้าเกิดว่าสถานการณ์ไม่เกิดการเปลี่ยนแปลงอะไร ไม่แน่ว่าคนของบ้านจิ๋นอาจจะยอมรับ ‘คุณนายน้อยสาม’ เป็นมู่เยียนหรานไปแล้ว!
ไม่ได้พูดอะไร ยินเสี้ยวเสี้ยวเงียบอย่างไม่น่าเชื่อ
“คุณย่า คุณยังมีเรื่องให้ทำอีกเยอะเลยไม่ใช่เหรอ?ลี่ยวนจะไปได้อย่างไร?” ในเมื่อของจิ๋นลี่โป๋ ถือแก้วไวน์แกว่งไปมา และพูดอย่างสบายอารมณ์ “หรือไม่ให้ฉันไปดูแทนก็ได้ถ้าคุณไปแล้วมันก็ถือว่าให้เกียรติคนพวกนั้นมากเกินไปแล้วไม่ใช่เหรอ?คนที่ไม่รู้ก็คงคิดว่าเขาสำคัญมาก”
จิ๋นลี่หยาวแค่ได้ฟังก็ต้องรีบลุกขึ้นพูด “คุณย่า วันเกิดแท้ๆจะออกไปก่อนได้อย่างไร คุณต้องอยู่ที่นี่เพื่อฉลองวันเกิดนะ เดี๋ยวทางนั้นพี่ชายจะจัดการให้เอง”
คำพูดเหล่านั้น ใครก็ไม่เห็นด้วยที่จะให้คุณย่าจิ๋นไปช่วยมู่เยียนหราน
เพียงแต่ไม่มีใครคิดถึง คนบ้านจิ๋นอย่างคุณย่ายิ่งแก่ตัวก็ยิ่งไม่ชอบคนมาขัดตัวเอง มู่เยียนหรานพูดเรื่องนี้ไปแล้วรอบหนึ่ง ตอนนี้ยังมีจิ๋นลี่โป๋กับจิ๋นลี่หยาวอีก มันทำให้คุณย่าจิ๋น อารมณ์ไม่ดี ตัวเองเลยหันเพื่อไปเกาะแขนของจิ๋นลี่ยวนก่อนจะพูดว่า: “ตอนนี้คุณไปกับฉัน ฉันจะบอกไว้ให้นะ ถ้าเกิดว่าวันนี้ฉันจัดการเรื่องนี้ไม่เรียบร้อย ฉันก็กินข้าวไม่ลงหรอก!”
ประโยคนี้ ทำให้ทุกคนในงานไม่พูดอะไร จากนั้นจิ๋นลี่ยวนก็ถูกคุณย่าจิ๋นพาเดินออกจากงานไป