Flash Marriage แต่งงานกับคน(ไม่)ธรรมดา - บทที่216 แม่ได้ดีเพราะลูก
บทที่216 แม่ได้ดีเพราะลูก
“จัดการ?” คุณย่าจิ๋นได้ยินคำนี้ก็โมโหขึ้นมา เธอยืนขึ้นแล้วมองตรงไปยังจิ๋นลี่ยวน ดวงตาทั้งสองข้างเต็มไปด้วยความเหลือเชื่อ จากนั้นก็ถามขึ้น “เธอพูดว่าจะ‘จัดการ’น่ะหมายความว่ายังไง? เธอคิดว่าจะ‘จัดการ’ยังไง? หลานคนแรกของตระกูลจิ๋นเธอคิดจะบอกว่า‘จัดการ’ก็จะ‘จัดการ’ได้หรือยังไง? จิ๋นลี่ยวน! ถ้าเธอกล้าแตะต้องเด็กในท้องของยินเสี้ยวเสี้ยว ก็ออกไปจากตระกูลจิ๋นของฉันซะ!”
ด้วยเสียงคำรามนั้น คนทั้งห้องรับแขกต่างตกตะลึง
ยินเสี้ยวเสี้ยวตั้งครรภ์แล้ว ในเวลาที่เพิ่งจะหย่าร้างไปไม่ถึงสามวัน แต่ตอนนี้จิ๋นลี่ยวนดันบอกว่าจะจัดการเด็กในท้องของยินเสี้ยวเสี้ยวทิ้งเสียอย่างนั้น ส่วนคุณย่าจิ๋นที่เกลียดชังยินเสี้ยวเสี้ยวมาก่อนกลับแสดงออกถึงการปกป้องอย่างชัดเจน
หากยินเสี้ยวเสี้ยวอยู่ที่นี่ ก็คงจะหัวเราะออกมาแน่
นี่มันอย่างที่เขาว่า’ แม่ได้ดีเพราะลูก’สินะ!
ดวงตาคมเบิกขึ้นเล็กน้อย จิ๋นลี่ยวนมองไปยังคุณย่าจิ๋นอย่างไร้อารมณ์ เขาจำได้แม่น เมื่อตอนที่ยินเสี้ยวเสี้ยวบอกเหตุผลของการหย่าออกมาคุณย่าพูดจาทิ่มแทงอย่างเย็นชายังไง ไม่ใส่ใจด้วยซ้ำว่าในเวลาครึ่งปีที่ยินเสี้ยวเสี้ยวอยู่ในตระกูลจิ๋นก็เคยเป็นคนของตระกูลจิ๋นเหมือนกัน!
หัวใจมนุษย์ก็สร้างจากเลือดเนื้อ มีความรู้สึกทั้งนั้น
ตอนนี้ ถึงจะรู้ว่าคุณย่าจิ๋นเป็นคนในครอบครัว จิ๋นลี่ยวนก็อดผิดหวังไม่ได้
“คุณย่า ผมหย่ากับเสี้ยวเสี้ยวล้ว คุณย่ารู้รึเปล่า?” เขาพูดเสียงเบา ในน้ำเสียงของจิ๋นลี่ยวนเต็มไปด้วยความเย็นชา “ถ้าคุณย่าจำไม่ได้แล้ว งั้นผมจะเตือนให้ว่าผมกับเธอหย่ากันแล้ว แถมตอนที่หย่ากันเธอก็ยังบอกว่าไม่ต้องการอะไรจากตระกูลจิ๋นเลย แต่ตอนนี้เรากลับอยากจะได้เด็กในท้องของคนอื่นตาเป็นมันอย่างนั้นเหรอ?”
“อยากได้ตาเป็นมัน? อะไรคืออยากได้ตาเป็นมัน?” หญิงชราได้ยินก็โกรธมาก “เด็กในท้องของเธอก็เป็นคนตระกูลจิ๋นของฉัน หล่อนคิดจะพาเหลนตระกูลจิ๋นของฉันไปไหน? ฉันจะบอกให้นะ ยินเสี้ยวเสี้ยวทำแบบนี้มันผิดกฎหมายนะ! ฮึ ถึงเธอจะหย่ากับยินเสี้ยวเสี้ยวแล้ว แต่ถ้าหล่อนจะพาเหลนของฉันไปจากตระกูลจิ๋นก็ต้องดูด้วยว่าฉันอนุญาตไหม! อยากจะหย่ามันก็ได้นะ แต่เอาเด็กไว้ให้ฉัน! เหลนตระกูลจิ๋นของฉันไม่อนุญาตให้ไหลออกไปหรอกนะ!”
ด้วยคำพูดนั้น สายตาของจิ๋นลี่ยวนที่มองคุณย่าก็เปลี่ยนไป แต่ก็ไม่ได้พูดออกมา
หยูเจียห้วยฟังอยู่อีกด้าน ทันใดนั้นก็พูดขึ้นเสียงเบา ๆ “ตอนที่ยินเสี้ยวเสี้ยวจากไปก็พูดว่าจะทำให้เสียใจภายหลัง ตอนนั้นฉันก็สงสัยว่าเธอมีแล้วรึยัง แต่ฉันคิดว่าเธอหมายถึงตัวเอง…ก็เลยนึกว่าระหว่างจิ๋นลี่ยวนกับเธอไม่ได้มีอะไรเกิดขึ้น ตอนนี้ดูเหมือนว่า….”
คำพูดนั้นไม่ได้เอ่ยออกมา แต่ที่หยูเจียห้วยพูดครึ่งหนึ่งแล้วเหลืออีกครึ่งไว้เช่นนี้ กลับทำให้หญิงชรายิ่งไม่พอใจแล้วถามขึ้นทันที “ตอนนี้ที่ยินเสี้ยวเสี้ยวนั่นหย่าบอกว่าเธอกลัวเรื่องเพศ เข้าใกล้ผู้ชายไม่ได้ไม่ใช่เหรอ? ทำไมตอนนี้ถึงท้องได้? หา? ฉันว่าหล่อนจงใจทำตั้งแต่แรก หล่อนจะต้องรู้อยู่แล้วว่าท้องลูกของเธอแน่ ตอนนี้ก็ตั้งใจเปิดเผยข่าวแบบนี้เพื่อให้ตระกูลจิ๋นของเราต้องเสื่อมเสีย! ถ้าเมืองTมีข่าวว่าตระกูลจิ๋นเราขับไล่หลานสะใภ้ที่ตั้งท้องลูกอยู่ออกไป แล้วฉันเอาหน้าแก่ ๆ นี่ไปไว้ที่ไหน?”
หญิงชรายิ่งคิดก็ยิ่งรู้สึกว่านี่คือแผนของยินเสี้ยวเสี้ยวและโกรธมาก เธอนั่งลงบนที่นั่งตำแหน่งหลักก่อนออกคำสั่งกับจิ๋นลี่ยวน “จิ๋นลี่ยวน ฉันไม่สนว่าเธอจะทำยังไง เด็กในท้องของยินเสี้ยวเสี้ยวจะต้องคลอดออกมาปลอดภัยและต้องมาอยู่ที่ตระกูลจิ๋นของฉัน ส่วนการแต่งงานระหว่างเธอกับยินเสี้ยวเสี้ยวในเมื่อมันไม่มีแล้วก็คือไม่มี กลับกันฉันก็ให้สัญญากับเยียนหรานไว้แล้ว เมื่อถึงเวลา…..”
“คุณย่า!” ยังไม่ทันพูดจนจบ จิ๋นลี่ยวนก๋แทรกขึ้นมาในคำพูดของเธอ ในดวงตาคมเกินกว่าคำว่ายะเยือก “แต่ไหนแต่ไรมู่เยียนหรานก็ไม่ใช่ผู้หญิงที่ผมต้องการ! การแต่งงานของผมผมจะเลือกเอง ไม่ต้องรบกวนท่านให้ลำบาก!”
คุณย่าโกรธจนพูดไม่ออก ได้แต่จ้องเขม็งไปที่เขา ถูกหลานต่อปากต่อคำแบบนี้เป็ครั้งแรกเลยจริง ๆ แต่จิ๋นลี่ยวนกลับลุกเดินออกไปโดยไม่สนใจเธอแม้แต่น้อย ราวกับว่ามันทรมานที่ต้องอยู่ที่นี่ต่ออีกสักวินาที!
“เนรคุณ!” คุณย่าจิ๋นด้านหลังโกรธจนด่าออกมา แต่จิ๋นลี่ยวนกลับไม่หันกลับไป
หยูเจียห้วยและจิ๋นลี่หยาวรีบร้อนเข้าไปปลอบ จิ๋นหยวนเฟิงที่มองอยู่ขมวดคิ้วแน่น
ข้างหูได้ยินคำสาปแช่งด่าทอของหญิงชราลอยมาไม่ขาด “ยินเสี้ยวเสี้ยว นังแพศยา! หล่อนมาก่อความหายนะให้ตระกูลจิ๋นของฉันได้ยังไง? ท้องเด็กอยู่ยังกล้าทำแบบนี้ คงอยากจะเห็นหญิงแก่อย่างฉันเชิญหล่อนกลับมาล่ะสิ! ช่างบังอาจจริง ๆ ! หลายสะใภ้แบบนี้ ตระกูลจิ๋นของฉันเลี้ยงไว้ไม่ได้หรอก!”
จิ๋นลี่หยาวขมวดคิ้วไม่พูดอะไร หยูเจียห้วยเองก็ไม่รู้ว่ากำลังคิดอะไรจึงไม่ได้ตอบ เพียงแต่พวกเขากำลังคิด ตระกูลจิ๋นนี้ ทำไมอยู่ ๆ ถึงวุ่นวายขึ้นมาได้กัน? มันเกิดขึ้นตั้งแต่ตอนไหน?
ตระกูลมู่
“ว่ายังไงนะ?” มู่เยียนหรานตะโกน เธอที่เดิมทีนั่งดูทีวีเป็นเพื่อนจื่อผู่หยางอยู่บนโซฟาเด้งลุกขึ้นยืน ชามผลไม้ที่อยู่บนตักเธอร่วงลงที่พื้น ลูกส้มกลิ้งไปทั่วพื้น บางลูกถูกมู่เยียนหรานเหยียบจนดูไม่ได้
จื่อผู่หยางและมู่หลงต่างตกใจจนพากันหันไปมองเธอ แม้แต่มูซูวที่นิ่งเงียบอยู่อีกด้านยังต้องเหลือบมามองเธอ
มู่เยียนหรานเองก็รู้ตัวว่าเธอโอเวอร์แอคติ้งไป เธอรีบถือโทรศัพท์กลับเข้าไปในห้องตัวเอง ท่าทางนั้นทั้งหมดก็เพราะไม่ต้องการให้คนรู้ว่าเธอติดต่อกับใคร แววตาของมู่เยียนหรานวูบไหวไม่กะพริบ
ปิดประตูแล้ว มู่เยียนหรานจึงถามอีกครั้งอย่างทนไม่ไหว “นายว่ายังไงนะ? ยินเสี้ยวเสี้ยวท้องงั้นเหรอ?”
ชายที่อยู่อีกฝั่งของสายตอบเธออีกครั้ง “ใช่ครับ คุณหนู ยินเสี้ยวเสี้ยวตั้งครรภ์แล้ว เพิ่งจะตรวจออกมา”
มู่เยียนหรานโกรธจนกวาดทุกอย่างบนโต้ะเครื่องแป้งของตัวเองระเนระนาด เสียงของแตกดังขึ้นทันทีดึงความสนใจของจื่อผู่หยางและมู่หลงจนเอื้อมมือเคาะประตูแล้วถามเสียงดัง “เยียนหราน เป็นอะไรไป? ไม่เป็นไรใช่ไหม?”
มู่เยียนหรานในตอนนี้จะไปมีกะใจไปสนใจพวกเขาได้ยังไง ในตาของเธอแทบลุกเป็นไฟ!
“เยียนหราน ลูกเปิดประตูให้แม่เข้าไปหน่อย” จื่อผู่หยางรู้สึกเป็นห่วงเล็กน้อย อาการของมู่เยียนหรานจะให้ตื่นเต้นมากไม่ได้ “เยียนหราน เด็กดี เปิดประตูหน่อย มีเรื่องอะไรบอกกับแม่ซิ แม่จะได้ช่วยลูก….”
“ไปให้พ้น!” มู่เยียนหรานตะคอก อารมณ์ของเธอแทบจะพูดได้ว่ากำลังระเบิดอย่างเต็มที่ เธอขว้างโทรศํทพ์ใส่ประตู มันแตกกระจายเป็นสี่ส่วนในทันที
ในขณะเดียวกัน มู่เยียนหรานกุมเสื้อที่หน้าอกของตัวเองก่อนวิ่งไปยังหัวเตียงของตัวเองก่อนยื่นมือเทยาออกมาแล้วกลืนมันลงไป ท่าทางนั้นดูน่ากลัวอยู่ไม่น้อยจริง ๆ !
“เยียนหราน เยียนหราน ลูกไม่เป็นอะไรใช่ไหม?” ความกังวลของจื่อผู่หยางที่อยู่ด้านนอกประตูยังดำเนินต่อไป แต่ตอนนี้กลับไม่ได้อยู่ในหูของมู่เยียนหรานเลยแม้แต่น้อย
ยินเสี้ยวเสี้ยว! ยินเสี้ยวเสี้ยว!
ตอนนี้เธอแทบอยากจะถลกหนังหล่อนออกมาแล้วดื่มเลือดของหล่อนเลยจริง ๆ
เธอหาหล่อนเจออย่างยากลำบาก กระทั่งมั่นใจแล้วว่าจะผ่าตัดในอีกสองเดือนให้หลัง แต่หล่อนดันท้องขึ้นมาตอนนี้ซะได้!
ท้องแล้ว ร่างกายของหญิงตั้งครรภ์มีการเปลี่ยนแปลงอย่างชัดเจน ในเวลานี้ไม่เหมาะจะรับการผ่าตัดอยู่แล้ว!
ยินเสี้ยวเสี้ยว หล่อนมาเพื่อทำลายเรื่องดี ๆ ของเธอจริง ๆ ! ครั้งแล้วครั้งเล่า!
มู่เยียนหรานหายใจอย่างรุนแรง ควบคุมอารมณ์ของตัวเองอย่างยากลำบาก การหายใจค่อย ๆ กลับมาเป็นปกติ แต่แววตากลับยังคงน่าสยดสยอง
ยินเสี้ยวเสี้ยว เธอบังคับฉันเองนะ! อย่ามาเกลียดฉันก็แล้วกัน!
เมื่อในใจมีความคิดดังนั้น มู่เยียนหรานก็ลุกขึ้นไปเปิดประตู
นอกประตู จื่อผู่หยางและมู่หลงไม่กล้าจากไปไหนเลยสักก้าว
มู่เยียนหรานไม่ได้ดีไปกว่ามู่ซูว ถึงตอนนี้มู่ซูวจะเป็นคนพิการ แต่สุดท้ายมู่ซูวก็ยังมีความสามารถในการช่วยเหลือตัวเองได้บ้าง แต่มู่เยียนนั้นหากเกิดเรื่องอะไรขึ้นโดยไม่มียาอยู่ข้างตัว ก็ได้แต่รอความตายเท่านั้น!
เมื่อเห็นมู่เยียนหรานเปิดประตูออกมาจื่อผู่หยางก็รีบเข้าไปจับมือเธอตรวจดูอย่างระมัดระวัง แล้วถาม “เยียนหราน เกิดอะไรขึ้น? ใครทำให้ลูกเสียใจ แม่จะช่วยลูกระบายให้เองดีไหม? ลูกอย่าโกรธอย่าตื่นเต้นเลยนะ…”
แต่มู่หลงกลับไม่พูดอะไร เพียงแค่ขมวดคิ้วมุ่นดูเหมือนกับไม่ชอบใจนัก
มู่เยียนหรานฝืนตัวเองยิ้มแล้วพูดขึ้น “หนูไม่เป็นไร แค่ได้ข่าวไม่ดีนิดหน่อยเท่านั้นเองค่ะ”
จื่อผู่หยางไม่ใช่คนโง่ สายตามองเข้าไปเห็นความยุ่งเหยิงเต็มไปหมดในห้องเธอก็ให้มู่หลงออกไปก่อนแล้วตัวเองก็ดึงมู่เยียนหรานเข้าไปในห้องด้วยกัน ดึงเธอขึ้นไปนั่งบนเตียงแล้วถาม “เยียนหราน เกิดอะไรขึ้นกันแน่?”
เมื่อก่อนมู่เยียนหรานรักร่างกายของตัวเองมาก แต่ไหนแต่ไรก็ไม่ใช่คนที่เอะอะอะไรก็โมโหขึ้นมา สิ่งต้องห้ามที่สุดสำหรับคนที่เป็นโรคหัวใจก็คืออารมณ์แปรปรวน แต่มู่เยียนหรานแปรปรวนเกินกว่าจะอธิบายได้แล้ว เดิมทีก็โมดหอยู่แล้ว และทั้งหมดก็เหมือนจะเริ่มขึ้นหลังจากที่เธอกลับมาจากต่างประเทศ….
มู่เยียนหรานมองแม่ของตัวเอง เม้มปากแน่นไม่ยอมพูด แต่เมื่อจื่อผู่หยางถามรบเร้าจึงเอ่ยตอบเสียงเบาอย่างทนไม่ไหว “แม่ หนูควรทำยังไงดี? หนูกลัวตายมากเลย หนูกลัวว่าพรุ่งนี้หนูจะไม่ลืมตาขึ้นมา หนูกลัวว่าพอหลับไปแล้วหนูจะหลับไปตลอดกาล แม่ หนูไม่อยากจากแม่กับพ่อไป แม่จ๋า แม่ช่วยหนูหน่อยได้ไหม…”
เสียงร่ำไห้ของมู่เยียนหรานทำให้หัวใจของจื่อผู่หยางบีบรัดขึ้นมา เดิมเธอก็รู้สึกติดค้างกับลูกสาวคนนี้อยู่มาก ตั้งแต่เด็กมู่เยียนหรานก็ไม่เคยสร้างปัญหาให้เลย แต่ตอนนี้กลับเป็นเรื่องขึ้นมาทำให้เธอเจ็บปวดใจอย่างมาก ค่อย ๆ โอบกอดเธอไว้ในอ้อมแขนและปลอบโยนเธออย่างนุ่มนวล “เยียนหรานไม่ต้องกลัวนะ แม่กับพ่อจะต้องหาหัวใจที่เหมาะสมกับลูกให้ได้ วางใจเถอะ แม่จะไม่ให้ลูกจากแม่ไปทั้งที่ยังเด็กขนาดนี้อย่างแน่นอน….”
“แม่ หนูกลัว หนูกลัวจริง ๆ ….” มู่เยียนหรานโผเข้าสู่อ้อมกอดของจื่อผู่หยางแล้วร้องไห้ แต่แววตากลับเต็มไปด้วยความชิงชัง ท่าทางนั้นช่างน่าหวาดกลัว “แม่ พวกเรายังจะหาหัวใจได้งั้นเหรอ? เราทำเรื่องผิดกฎหมายไม่ได้ แต่ตอนนี้มันยากที่จะรอหัวใจแล้วนะ แม่คะ หนูจะยังดูแลแม่อยู่ข้าง ๆ ได้ไหม?”
แต่ละคำที่พูดออมามันบีบหัวใจของจื่อผู่ยางจนเจ็บปวดแทบไม่ไหว มองดูลูกในท้องที่เลี้ยงดูจนโตมาจน25ปีได้อย่างยากลำบาก ใน25ปีนี้ครอบครัวของพวกเขาต่างหวาดหวั่น แต่ถ้าจะให้เธอมองดูลูกของตัวเองตายไปแบบนี้ เธอเองก็ไม่ยอมเหมือนกันจึงโพล่งออกไป “จะผิดไม่ผิดกฎหมาย แม่ก็ขอแค่ให้ลูกมีชีวิตอยู่ก็พอ! แม่จะไปคุยกับพ่อ ให้เขาไปซื้อหัวใจในตลาดมืดให้ลูก! มู่เยียนหรานของเราต้องได้ใช้ชีวิตอย่างดี จากนั้นก็แต่งงานกับคนที่ลูกรักสุดหัวใจแล้วมีความสุขไปตลอดชีวิต!”
พูดจบ จื่อผู่หยางก็ลุกขึ้นไปหามู่หลง
แม้มู่หลงจะอารมณ์ร้อน แต่สุดท้ายแล้วเขาก็ยังทำอะไรมีความพอดี เรื่องที่จะไปซื้อหัวใจในตลาดมืดนั้นเขาไม่กล้าผลีผลามจริง ๆ จะเอาหัวใจที่ไม่แน่ว่าจะซื้อได้ไม่ได้เข้ามาในบ้านอย่างไม่ระวัง มันได้ไม่คุ้มเสีย