Flash Marriage แต่งงานกับคน(ไม่)ธรรมดา - บทที่247 อาการป่วยมู่เยียนหรานกำเริบ
บทที่247 อาการป่วยมู่เยียนหรานกำเริบ
ร่างกายสูงยาวชะงักเล็กน้อย จิ๋นลี่ยวนเม้มปากแน่นไม่พูดอะไร
เมืองT!
ซูเหนียงอยู่ในเมืองTงั้นเหรอ!
ในตอนนี้จิ๋นลี่ยวนแทบจะระเบิดในทุกอณูรูขุมขน! สองมือกำหมัดแน่นแทบจะคำรามออกมาแล้ว
ซูเหนียงอยู่เมืองTงั้นก็หมายความว่าเขาก็จะได้แก้แค้นแล้ว?
ดวงตาเต็มไปด้วยแรงอาฆาต เก๋อเฉิงเฟยขมวดคิ้วเป็นปมแต่ก็ไม่ได้พูดอะไร
เฉินผูลี่เข้ามาก็ได้รับรู้ข่าวนี้ ขมวดคิ้วแน่นกว่าเก๋อเฉิงเฟยเสียอีก มองดูยินเสี้ยวเสี้ยวที่กำลังนอนหลับอยู่ก็อดไม่ได้ไอกระแอม และพูดว่า “ซานช่าว จะลงมือจริงเหรอ? งั้นคุณนายน้อย……”
“เฉินผูลี่ ซานช่าวหย่าแล้ว” เก๋อเฉิงเฟยพูดแก้ไขคำพูดของเขา
ยินเสี้ยวเสี้ยวตอนนี้เป็นเพียงแค่ ‘คุณยิน’ ไม่ใช่ ‘คุณนายน้อย’ แล้ว ยิ่งไปกว่านั้นระหว่างจิ๋นลี่ยวนกับยินเสี้ยวเสี้ยวยังมีหุบเหวลึกที่ขวางกั้นกันไว้ ดูยังไงแล้วก็รู้สึกว่าอนาคตช่างมืดมน
จิ๋นลี่ยวนตอนนี้ไม่ผ่อนคลายเหมือนคนอื่น ยิ่งเห็นยินเสี้ยวเสี้ยวที่ตอนนี้กำลังนอนอยู่บนเตียง
ซูเหนียงอยู่ในเมืองT ยินเสี้ยวเสี้ยวก็อยู่เมืองT ยิ่งไปกว่านั้นตอนนี้ยินเสี้ยวเสี้ยวยังท้องลูกตัวเองอีก……
เขาควรจะทำยังไงให้เธอได้รับบาดเจ็บน้อยที่สุดนะ?
ตระกูลมู่ทุกคนในตระกูลมู่วันนี้รู้สึกถึงบรรยากาศที่ผิดปกติอย่างเห็นได้ชัด ความผิดปกตินั้นยังทำให้มู่ซูวยังต้องระวังไม่ปรากฏตัวตรงหน้ามู่เยียนหราน
ตั้งแต่คืนนี้เป็นต้นไป คนทั้งบ้านที่ตอนแรกดูท่าทางเหมือนจะออกไปด้านนอก จื่อผู่หยางกับมู่หลงเดินวนไปมาในบ้านอย่างตื่นเต้น ยังคอยปลอบใจมู่เยียนหรานให้เธอวางใจอย่าตื่นเต้น ท่าทางนั้นเหมือนกับว่า มู่เยียนหรานจะได้รับแจ้งว่ามีหัวใจที่เหมาะสมกับเธอ และเธอจะได้ผ่าตัดในทันที
มู่ซูวเห็นแล้วก็ขมวดคิ้วเป็นปมแต่ก็ไม่ได้คิดว่าจะมีเรื่องแบบนั้นเกิดขึ้น ในระยะเวลาสั้นๆนี้ก็ไม่รู้ได้
ตอนนี้เธอเป็นเหมือนมนุษย์ล่องหนในตระกูลมู่ ถ้าไม่ใช่จื่อผู่หยางกับมู่หลงที่รู้สึกผิดกับเธอ งั้นเธออาจจะถูกคนในบ้านนี้เพิกเฉยแล้วก็ได้ ยิ่งไปกว่านั้นจะตายยังไงก็ยังไม่รู้เลย ยิ่งไม่ต้องพูดถึงที่เธออยากให้มีคนของตัวเองไปสืบเรื่องมู่เยียนหรานเลย
แต่ทั้งสามคนที่ตอนแรกตื่นเต้นอย่างมากแต่กลับเปลี่ยนไปทันทีเพราะได้รับสายหนึ่งในคืนวันนั้น
มู่เยียนหรานขว้างข้าวของในห้องรับแขกกระจัดกระจายเต็มพื้นในทันที จื่อผู่หยางคอยปลอบใจเธออยู่ข้างๆไม่ห่าง มู่หลงก็โกรธมากแต่เทียบกับมู่เยียนหรานแล้วก็ควบคุมได้มากกว่า แต่ว่าเห็นมู่เยียนหรานโมโหแบบนี้ครั้งแรกก็ต้องอึ้งไปชั่วขณะ มู่ซูวเห็นสายตาที่ตกใจของมู่หลงอย่างง่ายดาย
เหอะ อดไม่ได้กระตุกยิ้ม
มู่เยียนหรานมีบุคลิกเป็นเด็กดีมาตั้งแต่เด็ก ลักษณะที่ผอมแห้งแรงน้อยถูกรังแกได้ง่าย เคยโกรธขนาดนี้เมื่อไหร่กัน? ท่าทางนั้นดูเหมือนจะเคยชินแล้วด้วย เขารู้ตัวตนที่แท้จริงของมู่เยียนหราน แต่จื่อผู่หยางกับมู่หลงกลับไม่รู้……
มู่ซูวมองดูอย่างเฉยชา เขาอยากจะไล่มู่เยียนหรานออกไปในทันทีเลยด้วยซ้ำ!
แต่มู่เยียนหรานจะโง่ขนาดนั้นเหรอ?
พอขว้างของเสร็จแล้วเธอก็เห็นว่า มู่หลงกับจื่อผู่หยางตกใจกับเธอมาก ยิ่งไปกว่านั้นก็มองเธอด้วยสายตาที่สงสัย ขณะนั้นมู่เยียนหรานก็รู้ว่านิสัยไม่ดีของตัวเองถูกจับได้แล้ว ดวงตากระสับกระส่าย ทันใดนั้นมู่เยียนหรานอาการก็กำเริบ……
หายใจหอบแรง มู่เยียนหรานล้มลงไปกับพื้นกุมหน้าอกตัวเองไว้แน่น น้ำตาไหลออกมาอย่างควบคุมไม่ได้ จื่อผู่หยางก็ยังเป็นห่วงเธอ รีบเข้าไปกอดเธอไว้และพูดว่า “มู่เยียนหราน มู่เยียนหรานเธอเป็นอะไร? อย่าตื่นเต้นมากสิ ไม่ได้นะ!”
มู่หลงได้สติ ก็รีบสั่งคนให้เอายาของมู่เยียนหรานมา!
มู่เยียนหรานถูกจื่อผู่หยางกอดไว้ร้องไห้จนแทบหายใจไม่ทัน ยื่นมือไปจับเสื้อของจื่อผู่หยางไว้และพูดติดๆขัดๆว่า “แม่ ทำไม? ทำไม……หนู……หนู……แค่……แค่อยากกับ……พ่อกับแม่เองนะ……ทำไม? ทำไม……ทำไมถึง……ทำแบบนี้……กับหนูได้ล่ะ?”
แม้คำพูดจะติดๆขัดๆ แต่มู่หลงกับจื่อผู่หยางก็ฟังออก
นั่นสิ สวรรค์ทำไมถึงทำกับตระกูลมู่แบบนี้นะ? พวกเขาทำบาปทำกรรมอะไรไว้กันแน่?
ลูกสาวตระกูลมู่ที่มากความสามารถแบบนี้กลับป่วยเป็นโรคหัวใจ และยังหาแหล่งบริจาคที่ไม่เหมาะสมไม่ได้อีก!
จื่อผู่หยางอดไม่ได้น้ำตาคลอ กอดมู่เยียนหรานไว้แน่นพูดว่า “มู่เยียนหราน มู่เยียนหราน แม่ขอโทษด้วย เป็นความผิดแม่เอง ตอนนั้นแม่ไว้ใจคนผิด ไม่งั้นลูกก็คงไม่เป็นแบบนี้……”
มู่เยียนหรานอดทนกับอาการมืนหัวที่ตามมาจากอาการป่วยกำเริบ พยายามดึงจื่อผู่หยางไว้แน่น น้ำตาคลออาบแก้มไม่หยุด และพูดต่อว่า “แม่คะ……หนู……ขอโทษนะ……”
จื่อผู่หยางส่ายหน้าอย่างบ้าคลั่ง ล้มตัวลงพื้นที่มีของเกะกะเต็มพื้น กอดมู่เยียนหรานร้องไห้จวนจะขาดใจ
มู่หลงเห็นภรรยาตัวเองกับลูกสาวร้องไห้จนหัวใจอ่อนระทวยไปหมด กว่าจะได้เห็นความหวังแต่สุดท้ายก็หายไปพริบตาตรงหน้า ใครจะไม่โกรธบ้างล่ะ ยิ่งไปกว่านั้นมู่เยียนหรานหวังแบบนี้มานานกว่ายี่สิบห้าปี! ไม่รู้ตัว น้ำตารื้นขอบตา เห็นสีหน้ามู่เยียนหรานที่ซีดเซียวจนน่าตกใจ ดูท่าทางเหมือนจะหมดลมหายใจในไม่ช้านี้ จึงรีบหันไปตะโกนว่า “ยา! รีบเอายามาให้ฉัน!”
คนรับใช้พอเห็นมู่หลงโมโหใหญ่ ก็รีบเดินมาอย่างเร็ว ป้อนยาให้มู่เยียนหรานอย่างเร็ว พ่อบ้านในบ้านเห็นมู่เยียนหรานอาการกำเริบก็ได้เรียกรถพยาบาลไว้แล้ว ในตอนนี้รถพยาบาลก็มาพอดี จื่อผู่หยางกับมู่หลงรีบส่งมู่เยียนหรานขึ้นรถพยาบาลไปอย่างเร็ว
ยังไงวันนี้พวกเขาก็ยังต้องไปโรงพยาบาลก่อน แต่ไม่เหมือนกับความคิดในตอนนี้แรกเท่านั้น
มู่เยียนหรานอาการป่วยกำเริบครั้งแรกหนักมากเกินไป บวกกับที่เธอยังฝืนพูดไปมาก ร่างกายอ่อนล้าอย่างรวดเร็ว พอเข้าโรงพยาบาลหนันหยูก็ถูกส่งไปในห้องผ่าตัดทันที คุณได้รับข่าวก็มาแล้วนานแล้ว เข้าสู่ภาวะการทำงานในทันที
ก่อนมู่เยียนหรานจะเข้าห้องผ่าตัด อดไม่ได้คว้ามือจื่อผู่หยางไว้พูดว่า “แม่ ลี่ยวน……”
จื่อผู่หยางรีบพยักหน้าตบมือเธอเบาๆพูดว่า “ลูกเข้าไปก่อนนะ เดี๋ยวแม่ไปเรียกจิ๋นลี่ยวนมา ไม่ต้องกลัวนะ ไม่ต้องกลัว แม่กับพ่อจะรอลูกข้างนอกนี้เอง ลูกเข้าไปเดี๋ยวก็ได้ออกมาแล้วนะ……”
พูดแล้ว จื่อผู่หยางทนไม่ไหวน้ำตาไหลออกมา มองดูลูกสาวตัวเองถูกเข็นเข้าห้องผ่าตัดในสภาพที่หมดสติ เธอที่อยู่ด้านหลังก็ร้องไห้ออกมาแทบจะขาดใจอยู่แล้ว
มู่หลงกอดจื่อผู่หยางไว้ในอ้อมกอดและพูดปลอบใจเธออย่างเจ็บปวดหัวใจ
“อะหลงอะหลง ทำไมชีวิตมู่เยียนหรานถึงโชคร้ายแบบนี้นะ? ทำไมกัน? ทั้งที่เธอเป็นคุณหนูตระกูลมู่ของพวกเราแท้ๆ ทั้งๆที่พวกเราดูแลเธอเหมือนไข่ในหิน แต่ทำไมเธอถึงได้ป่วยเป็นโรคนี้นะ?” พูดแล้ว จื่อผู่หยางก็โทษตัวเองขึ้นมา และยังทุบตีไปที่หน้าอกตัวเอง พูดต่อว่า “โทษฉันเอง ต้องโทษตัวฉัน ถ้าไม่ใช่ตอนนั้นฉันอยากมีลูกชายให้คุณ จะถูกซูเหนียงนังคนนั้นหลอกได้ยังไง! ถ้าไม่ใช่เธอให้ฉันดื่มยาพวกนั้นนะ มู่เยียนหรานจะเป็นแบบนี้ได้ยังไง!”
พอพูดถึงซูเหนียง มู่หลงก็โกรธจนแทบจะกระอักเลือดออกมาได้
ซูเหนียงในตอนนั้น ทำเอาทั้งเมืองTวุ่นวายไปหมด ตระกูลที่เกี่ยวข้องกับเธอเล็กน้อยก็ต้องเกิดเรื่องทั้งหมด แต่ผู้หญิงคนนั้นกลับหลบไปเงียบๆโดยไม่มีข่าวคราวอะไรเลย พอหลบได้ก็หลบไปยี่สิบสามปีเต็มๆ! ถ้าพวกเขารู้ว่าเธออยู่ไหนละก็ ผู้หญิงคนนั้นจะต้องถูกสั่งสอนอย่างโหดเหี้ยมแน่นอน!
“มู่เยียนหรานของฉัน มู่เยียนหรานลูกแม่……” จื่อผู่หยางร้องไห้ไม่หยุด นานมากกว่าจะนึกถึงเรื่องของมู่เยียนหรานและจิ๋นลี่ยวน เธอรีบให้พยาบาลไปตามจิ๋นลี่ยวนมา “พยาบาล รบกวนคุณไปเชิญหมอจิ๋นที่แผนกศัลยกรรมห้องหนึ่งมาได้ไหม บอกว่ามู่เยียนหรานกำลังผ่าตัดให้เขารีบมาด่วน”
พอพยาบาลได้ยินชื่อจิ๋นลี่ยวน เงยหน้าขึ้นมาเห็นจื่อผู่หยางก็รีบเดินตรงไปทันทีท่าทางเหมือนคนเห็นผี ไม่สนใจเธอเลยด้วยซ้ำ ตอนนี้จื่อผู่หยางไม่มีอารมณ์มาสนใจพวกนี้ แค่คิดว่าพยาบาลคนนี้ทำไมถึงเป็นแบบนี้ แต่ตามหาเท่าไหร่ก็เป็นแบบนี้ทั้งหมด เธอเริ่มรู้สึกอารมณ์ไม่ดีแล้ว
ในที่สุดก็หยุดหมอคนหนึ่งไว้ได้ จื่อผู่หยางพูดด้วยท่าทีหยิ่งยโสขึ้นมา “คุณหมอคนนี้ ขอคุณไปเชิญหมอจิ๋นลี่ยวนแผนกศัลยกรรมห้องหนึ่งมาผ่าตัดให้ลูกสาวฉันด้วย บอกไปแค่ว่าพวกเราแซ่มู่ก็พอ”
โชคไม่ดี คนที่จื่อผู่หยางหยุดไว้ได้คือคุณหมอฉิงที่เดินมาพอดี
ไม่เจอกันนาน ด้านในเธอสวมชุดเดรสถักไหมพรมเส้นใหญ่คอสูง หุ่นสง่างามของเธอนั้นดูไร้ที่ติ มองดูจื่อผู่หยางที่พูดเหมือนเกรงใจแต่เห็นได้ชัดว่าเป็นน้ำเสียงที่ดูถูกเหยียดหยาม ก็อดไม่ได้หัวเราะออกมา
“ตระกูลมู่? มู่เยียนหรานคุณมู่ของตระกูลมู่น่ะเหรอ?” ถามกลับเสียงเบา คุณหมอฉิงมองไปที่ห้องผ่าตัดแน่ใจในตำแหน่ง แต่รอบยิ้มมุมปากกลับดูสะใจมาก “ถึงแม้จะเป็นตระกูลมู่แล้วยังไง? ตอนนี้หมอจิ๋นไปอยู่กับอดีตภรรยา ใครจะมีเวลามาดูคุณหนูคนนี้กัน”
พูดแล้ว คุณหมอฉิงก็โบกมือจื่อผู่หยางกลับหลังหันเดินออกไปทันที เห็นได้ชัดว่าคงอารมณ์ไม่ดีมาก
ตอนแรกเธอยังคิดว่า หย่าแล้วเธอยังมีโอกาส แต่ใครจะรู้ยินเสี้ยวเสี้ยวกลับโชคดีท้องลูกคนแรกของบ้านจิ๋น ทำเอาจิ๋นลี่ยวนรีบกลับหัวทันที
จื่อผู่หยางอึ้งกับคำพูดของคุณหมอฉิง แต่ไม่นานก็ตั้งสติได้
ตอนที่พวกเขาได้รับโทรศัพท์ก็บอกว่าจิ๋นลี่ยวนนำกำลังคนไปช่วยยินเสี้ยวเสี้ยวนี่? ตอนนี้คงจะเป็นเรื่องจริงสินะ!
กัดริมฝีปากตัวเองแน่น ตอนนี้จื่อผู่หยางยิ่งอคติกับจิ๋นลี่ยวนเข้าไปกว่าเดิม! ถ้าไม่ใช่เพราะเขา มู่เยียนหรานของเธอคงไม่ต้องถูกส่งเข้าโรงพยาบาลเพราะอาการป่วยวิกฤต และกำลังทำการผ่าตัดย้ายหัวใจ! จิ๋นลี่ยวน ช่างไม่รู้อะไรเลยจริงๆ เสียดายที่เธอยังคิดจะให้ลูกสาวแต่งงานกับเขา!
“อะหลง นายเฝ้าอยู่ที่นี่ ฉันไปดูก่อน” พูดแล้ว จื่อผู่หยางก็ไม่รอมู่หลงตอบ เดินเข้าไปอย่างโมโห วันนี้เธอจะดูซิในสายตาจิ๋นลี่ยวน มู่เยียนหรานสำคัญหรือยินเสี้ยวเสี้ยวที่ไม่มีอะไรเลยชื่อเสียงยังไม่ดีอีกสำคัญกว่ากัน!
ลูกของเธอจะแพ้ให้คนแบบนั้นได้ยังไงกัน?
มาถึงแผนกศัลยกรรม จื่อผู่หยางหาจิ๋นลี่ยวนไม่เจอก็เดินเข้าไปถามพยาบาลทันที พยาบาลกำลังยุ่งจนไม่มีเวลา ก็ไม่ทันสังเกตจึงพูดไปว่าจิ๋นลี่ยวนอยู่แผนกสูติ ทำเอาจื่อผู่หยางได้ยินแล้วก็โกรธจนหน้าดำหน้าแดง
ลูกของเธอยังอยู่ในวิกฤต แต่ยินเสี้ยวเสี้ยวกลับท้องลูกของจิ๋นลี่ยวนแล้วไปใช้ชีวิตอย่างมีความสุขงั้นเหรอ!
ได้ยังไงกัน?
ไม่ได้รับอนุญาตจากเธอ ลูกของจิ๋นลี่ยวนจะออกมาจากท้องของผู้หญิงอื่นได้ยังไง?