Flash Marriage แต่งงานกับคน(ไม่)ธรรมดา - บทที่94 ความเอาใจใส่ของคนในบ้านยิน
บทที่94 ความเอาใจใส่ของคนในบ้านยิน
สายตานี้มองจนยินเสี้ยวเสี้ยวเอ๋อไปเลย
เธอไปตั้งท้องตั้งแต่เมื่อไหร่กัน? แม้แต่เธอเองก็ยังไม่รู้เรื่องเลย!
“ฉัน…..” กำลังจะเปิดปากพูด หลี่หมึ้งก็พูดขัดจังหวะเธอ
“เสี้ยวเสี้ยวก็นะ เรื่องใหญ่แบบนี้ทำไมไม่บอกให้ที่บ้านรู้ก่อน ถ้าไม่ใช่เพราะน้องสาวของลูกกลับมาเล่าให้พวกเราฟัง แม่กับพ่อยังถูกลูกปิดบังเอาไว้เลยนะ” หลี่หมึ้งยิ้มได้อ่อนโยนมากๆ หลังจากว่ายินเสี้ยวเสี้ยวเสร็จก็มองไปที่จิ๋นลี่ยวนที่นั่งอยู่ข้างๆ “ลี่ยวน เสี้ยวเสี้ยวลูกสาวฉันตั้งท้องลูกคนแรกของบ้านจิ๋นเชียวนะ ใช่มั้ยคะ? นั่นเป็นหลานคนแรกของบ้านจิ๋นเลยนะคะ!”
จิ๋นลี่ยวนดึงสายตากลับจากยินเสี้ยวเสี้ยว แล้วหันไปจ้องที่หลี่หมึ้ง และไม่พูดอะไร
เขาไม่มีทางสงสัยว่ายินเสี้ยวเสี้ยวจะลับหลังเขาออกไปมั่วกับใครอยู่แล้ว เขาแค่สงสัยว่าเรื่องนี้มันแพร่ไหลออกมาได้ยังไง
ตั้งท้อง?
เขาสองคนนอนอยู่บนเตียงเดียวกันก็จริง เขาเองก็ไม่มีปัญหาอะไรจริงๆ ดูเหมือนยินเสี้ยวเสี้ยวก็ไม่มีปัญหาอะไร แต่ทั้งสองคนได้รักนวลสงวนตัวเอา แต่มาตอนนี้กลับมีลูกโผล่มาคนหนึ่งอย่างอย่างหลาดใจ?มาเล่นตลกรึไงกัน?
“พ่อคะ ฉัน…..” ยินเสี้ยวเสี้ยวกลัวว่าจิ๋นลี่ยวนจะเข้าใจผิด จิตใต้สำนึกทำให้เธอยื่นมือไปจับมือของเขาไว้ หันหน้าอยากจะอธิบายกับยินไป่ฝัน แต่ตอนนี้ดันไม่มีคนสนใจเธอ
“พี่คะ ฉันว่าพี่นั่งอยู่เงียบๆจะดีกว่านะ ไม่ต้องพูดแล้ว” ยินรั่วอวิ๋นใช้ช้อนโคนน้ำซุปที่เข้มข้นในถ้วย คำพูดช่างอ่อนโยน แต่สีหน้ากลับเย็นชามาก “อยู่ในบ้านนี้ กลายเป็นว่าพ่อแม่ต้องเชื่อฟังพี่ตั้งแต่เมื่อไหร่? ถึงแม้พี่จะตั้งท้องหลานชายคนแรกของบ้านจิ๋นก็ตาม ก็ไม่ได้หมายความว่าฐานะของพี่ได้ยกระดับขึ้นมาทันทีนะ!”
แต่เสียใด ถึงจะพูดอย่างนี้ก็เถอะ ยินรั่วอวิ๋นกลับปฏิเสธไม่ได้ว่า หลังจากที่ตัวเองกับหลี่หมึ้งและยินไป่ฝันรู้ว่ายินเสี้ยวเสี้ยวตั้งท้องแล้ว ลมในบ้านได้เปลี่ยนทิศทันที! แต่เดิมที่เธอแต่งงานกับเซี่ยงเฉิงก็เพื่อจะรักษาความสัมพันธ์ระหว่างบ้านเซี่ยงกับบ้านยินไว้ แต่เดิมบ้านเซี่ยงก็ไม่ใช่ตระกูลที่กระจอกๆอยู่แล้ว ถึงแม้เทียบกับบ้านจิ๋นแล้วจะห่างกันเยอะก็ตาม แต่เมื่อเทียบกับบ้านยินแล้วกลับถือได้ว่าสูสีกัน แต่แรกเธอรู้ทั้งรู้ว่ายินเสี้ยวเสี้ยวคบกับเซี่ยงเฉิงอยู่แล้ว แต่ก็ยังลงมือกับเซี่ยงเฉิง ไม่เพียงแค่เห็นแก่ฐานะของบ้านเซี่ยง แต่ยังเป็นเพราะการสนับสนุนจากหลี่หมึ้งกับยินไป่ฝัน!
ก็แน่อยู่แล้ว ทุกคนใช้ชีวิตอยู่ใต้ชายคาเดียวกัน จะไม่รู้ได้ยังไง?
หลี่หมึ้งกับยินไป่ฝันก็แค่รู้สึกว่าเธอดีกว่ายินเสี้ยวเสี้ยวหน่อยนึง ไม่งั้นจะตามใจเธอให้ทำเรื่องที่ไปแย่งพี่เขยได้ยังไง?
แต่ตอนนี้ เธอมาเสียใจที่หลังเสียแล้ว!
วันนี้ยินไป่ฝันยิ้มอย่างมีความสุขมาก และก็ยิ้มอย่างมีเมตตามาก หันหน้าไปมองจิ๋นลี่ยวนกับยินเสี้ยวเสี้ยวแล้วพูดว่า:“ลี่ยวน เสี้ยวเสี้ยวเป็นลูกรักในดวงใจของบ้านเรานะครับ คุณแต่งงานกับเธอแล้วต้องดูแลเธอให้ดีๆนะครับ ถ้าหากให้ผมรู้ว่าเธอถูกรังแกและน้อยใจล่ะก็ ถึงแม้คุณจะเป็นคุณชายสามของบ้านจิ๋นก็ตามผมก็จะตามไปหาเรื่องถึงที่บ้านคุณแน่นอน!”
ยินเสี้ยวเสี้ยวที่นั่งอยู่ข้างๆอึ้งไปเลย ดวงตาที่แวววาวจ้องมองที่ยินไป่ฝัน
นี่เป็นคำพูดที่น่าฟังที่สุดที่เธอเคยได้ยินมาแล้วมั้ง?
ตั้งแต่เล็กจนโต มีเวลาไหนบ้างที่ยินไป่ฝันเคยเป็นห่วงตัวเองขนาดนี้?
ยินเสี้ยวเสี้ยวได้หยุดความใจร้อนที่จะอธิบายอย่างไม่รู้ตัว แค่เพียงนั่งเงียบๆอยู่ข้างๆรับรู้ความรู้สึกในเวลานี้
ถ้าหากตั้งท้องแล้วถึงจะสามารถทำให้ครอบครัวนี้สมบูรณ์แบบ และกลับมาเป็นปกติ อย่างงั้นเธอจะลองดูก็ได้ใช่มั้ย?
ถึงยังไงจิ๋นลี่ยวนก็ไม่ใช่คนในบ้านยิน เขาสามารถยืนมองความไปมาของเรื่องนี้จากภายนอกได้กระจ่างมาก เขามั่นใจมากว่ายินเสี้ยวเสี้ยวไม่ได้ท้อง แค่นี้ เรื่องทั้งหมดนี้ก็สามารถดูออกได้อย่างโจ่งแจ้งแล้ว
ขมวดคิ้ว จิ๋นลี่ยวนตอบอย่างเสียงเบา:“แน่นอนอยู่แล้วครับ ถ้ายินเสี้ยวเสี้ยวตั้งท้องแล้ว ก็ต้องเป็นหลานชายคนแรกของบ้านจิ๋นอยู่แล้วครับ”
พอหลี่หมึ้งกับยินไป่ฝันได้ยินเขาพูดแบบนี้แล้วได้ยิ้มออกมาทันที ยิ้มจนสามารถมองเห็นริ้วรอยที่หางตา หลี่หมึ้งได้คีบกับข้าวให้จิ๋นลี่ยวน แล้วถามเสียงเบาว่า:“เราก็เป็นคนครอบครัวเดียวกันแล้ว เราเข้ากันอย่างนี้ถึงจะถูก…..”
ยินเสี้ยวเสี้ยวกัดริมฝีปากและมองไปที่หลี่หมึ้งกับยินไป่ฝันที่อยู่ตรงหน้า ณ วินาทีนี้ สำหรับเธอแล้วการแสดงออกของพวกเขาในตอนนี้ถึงจะเป็นเหมือนพ่อแม่ในครอบครัวที่ปกติ ถึงแม้หลี่หมึ้งจะเป็นแม่เลี้ยงเธอก็ไม่ถือสา ตั้งแต่เด็กเธอก็จำแม่ตัวเองไม่ได้เลยแม้แต่นิด แม้แต่รูปถ่ายสักใบก็ไม่มี ตั้งแต่เล็กจนโตในชีวิตเธอก็มีแค่พ่อกับพี่ชาย เธอก็เคยหวังจะมีความรักจากแม่ ถ้าตอนนี้สถานการณ์ดีขึ้น แล้วใครจะไม่หวังอย่างนั้นล่ะ?
เพียงแต่ เธอลืมคำพูดนึงไปแล้วว่า—— ยิ่งคาดหวังก็ยิ่งผิดหวัง
วินาทีต่อมา ยินเสี้ยวเสี้ยวก็ได้ยินที่หลี่หมึ้งพูดอย่างชัดเจนว่า:“ใช่แล้ว ฉันได้ยินมาว่าตระกูลฉีกับตระกูลกู่จะจัดงานหมั้นแล้ว ฉันค่อนข้างเป็นห่วงร่างกายของเสี้ยวเสี้ยว วันงานฉันก็ตามไปด้วยนะ จะได้ดูแลเธอ พอดีเลยลี่ยวนก็สามารถแนะนำพวกเราให้ทุกคนรู้จักด้วย ถึงเวลานั้นก็จะได้ไม่มีคนไม่รู้จักเราและขวางเราเอาไว้ก็จะไม่ดีนะ ถึงยังไงบ้านจิ๋นก็เป็นตระกูลมีหน้ามีตาทุกคนต้องให้เกียรติอยู่แล้ว ใช่มั้ย?”
ยินเสี้ยวเสี้ยวหน้าซีดไปเลย พริบตาเดียวสีหน้าก็เย็นชาขึ้นมา และจ้องตรงไปที่หลี่หมึ้ง
ถึงยังไงก็ไม่ใช่ลูกแท้ๆสินะ ดังนั้นถึงได้อยากขุดเอาผลประโยชน์จากตัวเธอตลอด?
แต่สิ่งที่ยินเสี้ยวเสี้ยวคิดไม่ถึงเลยก็คือ พริบตาเดียวเธอก็ได้ยินยินไป่ฝันพูดว่า:“ใช่แล้ว ลี่ยวน ฉันได้ยินมาว่าเพิ่งผ่านมาไม่นานนี้บริษัทจิ๋นซื่อของพวกคุณมีโปรเจคนึง พอดีเลยก่อนหน้านี้’บริษัทจื่อยิน’ของเราก็สนใจอยากจะเข้าร่วมด้วย และตอนนี้เรามีความสัมพันธ์อย่างนี้ พรุ่งนี้คุณให้คนมาเซ็นต์สัญญากับ’บริษัทจื่อยิน’ให้เสร็จเถอะ”
สองคำพูดที่ติดต่อกัน ทำให้ยินเสี้ยวเสี้ยวรู้สึกว่าตัวเองเหมือนตัวตลกอะไรอย่างนั้น!
ความรักจากครอบครัวที่เธอคาดหวัง ก็คือแบบนี้หรือ?
ทำให้เธอเหมือนตุ๊กตาที่เปลือยกาย ยืนอยู่ตรงนั้นปล่อยให้คนอื่นดูตลก!
ไม่ต้องเงยหน้า ยินเสี้ยวเสี้ยวก็สามารถมองเห็นยินรั่วอวิ๋นกับเซี่ยงเฉิงที่อยู่ตรงข้ามโต๊ะยิ้มสมเพชเธออย่างไม่ซ่อนเร้น!
ความรักที่พวกเขามีต่อเธอเป็นแค่สิ่งจอมปลอม แต่การที่หลอกใช้เธอคือเรื่องจริง!
ยินเสี้ยวเสี้ยว ทำไมเธอถึงโง่อย่างนี้นะ? ตั้งแต่เด็กจนโตยังถูกหลอกใช้ไม่พอรึไง? ตอนนี้ถึงได้ยังเชื่อคำพูดแบบนี้ หัวใจถูกหมากินไปแล้วจริงๆ!
ถอนหายใจลึกๆ ยินเสี้ยวเสี้ยวเงยหน้าขึ้นเตรียมจะพูด แต่ฝ่ามือกลับถูกคนกุมด้วยแรงเบาๆ หันหน้าไปก็มองเห็นแววตาที่น่าหลงใหลของจิ๋นลี่ยวน พริบตาเดียวคำพูดที่ขึ้นถึงคอก็ได้หายไปอย่างไร้ร่องรอย และรู้สึกจะร้องให้ออกมา…..
จิ๋นลี่ยวน……..
ผู้ายคนนี้ มักคอยมองเธอในเวลาที่เธอซมซานที่สุด นิสัยเด็กๆที่สุด และตอนที่เธออ่อนแอที่สุด……
ยินเสี้ยวเสี้ยวก้มหน้าอย่างเงียบๆไม่พูดอะไร แค่กุมมือจิ๋นลี่ยวนไว้
สายตาจ้องตรงไปที่ยินไป่ฝัน จิ๋นลี่ยวนพูดด้วยเสียงเบาว่า:“งานหมั้นของตระกูลฉีกับตระกูลกู่กำลังจะเริ่มขึ้นจริงๆครับ ถ้าหากพวกคุณอยากจะไปล่ะก็ ผมจะเตรียมการ์ดเชิญไว้ให้ แต่เรื่องสัญญาโปรเจคไม่ใช่เรื่องที่ผมควบคุมได้ บริษัทจิ๋นซื่อพี่ใหญ่ของผมเป็นรับผิดชอบมาโดยตลอด มีปัญหาอะไรผมว่าคุณพ่อไปหาพี่ใหญ่ของผมด้วยตัวเองจะดีกว่าครับ”
ได้ยินคำพูดเริ่มแรก หลี่หมึ้งกับยินไป่ฝันดีใจกันใหญ่เลย เพราะว่าตระกูลฉีกับตระกูลกู่มีความสัมพันธ์ที่ดีกับบ้านจิ๋น อยู่ในเมืองTก็ไม่ใช่ความลับอะไร คนที่ไปร่วมงานงานหมั้นระหว่างสองตระกูลนี้ก็ต้องมีแต่คนชนชั้นสูงทั้งนั้น พวกเขาไปด้วยแล้วต้องมีแต่ข้อดี ไม่มีข้อเสียแน่นอน แต่พอได้ยินว่าสัญญาของโปรเจคคว้าน้ำเหลวแล้ว ยินไป่ฝันก็รู้สึกอารมณ์ไม่ค่อยดีแล้ว
ฮึ เขาเป็นลูกเขยของตัวเองแท้ๆ เรื่องแค่นี้ยังจัดการไม่ได้ ยังจะมีประโยชน์อะไร?
ยินไป่ฝันกลับไม่คิดเลยว่า การที่เขาเปิดปากพูดอย่างนี้มันไม่ใช่สัญญาโปรเจคธรรมดาๆเลยนะ โปรเจคนั้นมูลค่าหลายสิบล้านเชียวะล่ะ สำหรับบริษัทจิ๋นซื่อแล้วไม่ใช่โปรเจคใหญ่อะไร แต่ว่าบริษัทเล็กๆอย่าง’จื่อยิน’จะสามารถกลืนเข้าไปได้จริงๆหรือ? อย่าบอกว่าสุดท้ายแล้วยังต้องให้บริษัทจิ๋นซื่อมาช่วยเก็บกวาดขยะอีก เขาจะโง่ขนาดนั้นหรือ?
อยู่ดีไม่ว่าดี หาเรื่องใส่ตัวรึไง!
จิ๋นลี่ยวนไม่ได้อธิบายอะไร แค่หยิบตะเกียบขึ้นมาอย่างเงียบๆและเตรียมจะทานข้าว หลี่หมึ้งเห็นยินไป่ฝันกำลังจะโมโหแล้วจึงรีบส่งสายตาให้เขา ส่งซิกให้เขาว่าอย่าวู่วาม มีโอกาสที่จะได้ไปงานหมั้นแล้ว เธอไม่เชื่อหรอกว่าพอถึงตอนนั้นบริษัทจิ๋นซื่อจะไม่แบ่งเค้กให้’จื่อยิน’บ้าง?
“อย่าไปถือสาพ่อเลยนะลูก ช่วงนี้สมองของเขาเบลอๆน่ะ มา เรารีบทานข้าวกันเถอะ” พูดแล้ว หลี่หมึ้งก็กลับไปสนใจเรื่องบนโต๊ะอาหาร ตั้งแต่ต้นจนจบเอาใจใส่ยินเสี้ยวเสี้ยวเป็นอย่างดี จนทำให้ยินเสี้ยวเสี้ยวรู้สึกไม่ชิน แม้แต่ยินรั่วอวิ๋นที่อยู่ข้างๆก็ไม่พอใจอย่างยิ่ง!
ในบ้านยินมีที่ยืนให้ยินเสี้ยวเสี้ยวตั้งแต่เมื่อไหร่กัน?
ถ้าไม่ใช่เพราะได้แต่งงานกับจิ๋นลี่ยวน ยินเสี้ยวเสี้ยวก็ยังคงเป็นแค่โคลนบนพื้นเท่านั้นแหละ!
ยินรั่วอวิ๋นเงยหน้ามองยินเสี้ยวเสี้ยวที่อยู่ตรงหน้าความโมโหแค้นในใจจะระเบิดออกมา แต่พอเห็นจิ๋นลี่ยวนที่สง่าดูดี เธอเลยพยายามสะกดอารมณ์โมโหของตัวเองไว้ เพื่อให้ตัวเองดูแล้วอ่อนโยน
ตั้งแต่ยินเสี้ยวเสี้ยวเข้ามาในบ้านสายตาของเซี่ยงเฉิงแทบจะไม่เคยห่างจากตัวเธอเลย ตั้งแต่ในสมองมีภาพที่ยินเสี้ยวเสี้ยวผิดต่อคำพูดที่ก่อนหน้านี้เคยพูดไว้ ตอนนี้ไม่ว่าเขาจะมองยินเสี้ยวเสี้ยวยังไงก็รู้สึกว่าเป็นความผิดของเธอ สีหน้าดูสดใสเกินไป รอยยิ้มหวานเกินไป ท่าทีอ่อนโยนเกินไป…..ทั้งหมดนี้ ล้วนเหมือนกับว่าเธอเพิ่งกลายเป็นหญิงสาวที่อ่อนโยนครั้งแรก!
แต่สิ่งเหล่านี้อยู่ในสายตาเขา ล้วนเป็นการประชด และเป็นความอัปยศ!
ยินเสี้ยวเสี้ยว คุณนี่มันโหดจริงๆ! การตบหน้าที่โหดร้ายอย่างนี้ ไม่ว่าจะเป็นผู้ชายคนไหนก็รับไม่ได้!
สะกดอารมณ์ตัวเองไว้ เซี่ยงเฉิงถามอย่างไม่ตั้งใจว่า:“ใช่แล้วครับ ผมได้ยินว่าก่อนหน้านี้คุณหนูของตระกูลกู่ได้ไปพักรักษาตัวที่โรงพยาบาลใช่มั้ยครับ? หลังจากนั้นยังได้ยินอีกว่า แม้แต่คุณหนูรองของตระกูลมู่ก็ได้เข้าพักที่โรงพยาบาลเหมือนกัน……”
ยินเสี้ยวเสี้ยวเงยหน้ามองเซี่ยงเฉิง ไม่พูดอะไร
หลังจากจิ๋นลี่ยวนเคี้ยวอาหารอย่างละเอียดและกลืนลงไปในคอถึงค่อยตอบว่า:“ดูไม่ออกเลยนะครับ ว่าคุณจะรู้เรื่องของโรงพยาบาลเราขนาดนี้”
จิ๋นลี่ยวนไม่ได้ตอบคำถามเขาโดยตรง แค่พูดเหมือนล้อเล่นคำเดียว
“พอดีมีเพื่อนไปที่โรงพยาบาลแล้วเห็นเข้า กลับมาเลยเล่าให้ผมฟังครับ ว่าแต่เรื่องนี้เสี้ยวเสี้ยวรู้มั้ยครับ?” เซี่ยงเฉิงไม่สนหรอก หรือแม้แต่เขายังแอบดีใจที่จิ๋นลี่ยวนไม่ได้ตอบคำถามเขาโดยตรง หลังจากชายตามองยินเสี้ยวเสี้ยวที่อยู่ข้างๆ แล้วพูดเสียงด้วยเสียงทุ้มต่ำว่า:“ทางที่ดีคุณกับคุณหนูรองของตระกูลมู่ควรจะรักษาระยะห่างเอาไว้หน่อยนะครับ ไม่อย่างนั้นเสี้ยวเสี้ยวจะเอาหน้าไปไว้ไหน? เรื่องพวกนี้จัดการตั้งแต่เนิ่นๆจะดีกว่า…..”
คำพูดเหล่านี้ ทำให้หลี่หมึ้งกับยินไป่ฝันมองเซี่ยงเฉิงด้วยสายตาที่ไม่ค่อยพอใจ ในสายตาเต็มไปด้วยความไม่เห็นด้วย..