Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน - ตอนที่ 400 ‘ขอเราคงอยู่ชั่วนิรันดร์’ เปิดตัวอย่างเป็นทางการ
- Home
- Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน
- ตอนที่ 400 ‘ขอเราคงอยู่ชั่วนิรันดร์’ เปิดตัวอย่างเป็นทางการ
ตอนที่ 400 ‘ขอเราคงอยู่ชั่วนิรันดร์’ เปิดตัวอย่างเป็นทางการ
เพื่อรับประกันความปลอดภัยของมหาสงครามเทพเซียน บรรดาราชาราชินีเพลงและพ่อเพลงซึ่งอยู่เบื้องหลัง ต่างคนจึงต่างเลือกที่จะร่วมงานกัน
เห็นได้ชัดว่าไลน์อัปซึ่งมีราชาราชินีเพลงร่วมมือกับพ่อเพลง จึงจะนับว่าเป็นทีมที่แข็งแกร่งที่สุด!
ทว่าการมีอยู่ของเจียงขุยมีแต่จะฉุดรั้งให้เซี่ยนอวี๋ถดถอยอย่างไม่ต้องสงสัย นี่เป็นสิ่งที่ผู้มีสายตาเฉียบแหลมล้วนมองออก
ดังนั้นทุกคนจึงคิดว่า
ต่อให้เอาชนะเซี่ยนอวี๋ได้ในมหาสงครามเทพเซียน ก็รู้สึกว่าเป็นชัยชนะที่แทบไม่ต้องพยายาม
ทว่าเรื่องก็มาถึงจุดนี้แล้ว จะเปลี่ยนแปลงคงไม่ได้
อย่างไรก็ตาม สำหรับมหาสงครามเทพเซียนในเดือนหน้า ความสำคัญของเซี่ยนอวี๋ในสายตาของทุกคนนั้น ได้หล่นลงไปอยู่ในระดับที่มาเข้าร่วมก็เพียงพอ
เขาไม่ใช่ศัตรูในจินตนาการที่ทุกคนนึกถึงอีกต่อไป
ช่วยไม่ได้
ในวงการทำได้เพียงค่อยๆ ยอมรับความจริงที่ว่าเซี่ยนอวี๋คลับคล้ายคลับคลาว่าจะยอมแพ้
‘ปีนี้เฟ่ยหยางโหดมาก’
‘พ่อเพลงอิ่นตงเขียนทำนอง หนีหงอู่นักเขียนเนื้อเพลงตัวท็อปเขียนเนื้อเพลง รวมไปถึงโปรดิวเซอร์และผู้เรียบเรียงเพลงล้วนเป็นบุคคลากรชั้นครู ฝีมือโดยภาพรวมแข็งแกร่งที่สุดจริงๆ’
‘ทีมหลงเตี๋ยกับอิ่นลี่ก็มองข้ามไม่ได้นะ ฉันค่อนข้างชอบทีมนี้เลยนะ’
‘เฟ่ยหยางเตรียมตัวจัดหนักเซี่ยนอวี๋ขนาดนี้ แต่ใครจะรู้ล่ะว่าเซี่ยนอวี๋ไม่คิดจะทุ่มสุดตัวแบบนี้’
‘เฟ่ยหยางต้องเศร้าแน่เลย คู่แข่งคนสำคัญกลับไม่ให้ความสำคัญกับมหาสงครามเทพเซียน’
‘ถ้าเป็นไปตามที่คาด คนที่เอาชนะเฟ่ยหยางในเดือนหน้าได้ ก็สามารถคว้าแชมป์ครั้งนี้ได้แล้ว’
‘จะว่าไปแล้ว เซี่ยนอวี๋เป็นแชมป์เก่า แต่เฟ่ยหยางก็เป็นแชมป์เมื่อปีที่แล้ว ในเมื่อแชมป์เลือกที่จะเท งั้นการเอาชนะอันดับสองได้ก็เป็นเรื่องสนุกและเป็นแรงผลักดันสำหรับขาใหญ่หลายคน’
‘…’
ต่อจากเซี่ยนอวี๋ ทีมของเฟ่ยหยางกลับกลายอุปสรรคที่ใหญ่ที่สุดของใครหลายคน
และสตาร์ไลท์เอนเตอร์เทนเมนต์ในยามนี้
เจียงขุยซึ่งอยู่ในสตูดิโอบันทึกเสียงอ่านคำวิพากษ์วิจารณ์เธอบนอินเทอร์เน็ต จักรวาลเล็กๆ ในใจของเธอก็มีแนวโน้มว่าจะระเบิดเป็นจุณ
ประกายไฟในแววตาของเธอปะทุขึ้น
ทำไมถึงมีแต่คนกล้าดูถูกฉัน
ทำไมทุกคนถึงคิดว่าฉันจะถ่วงแข้งถ่วงขาอาจารย์เซี่ยนอวี๋
ก่อนหน้านี้ตอนที่ชั้นเก้าเลือกปั้นฉันกับซุนเย่าหั่ว คนในบริษัทก็เป็นแบบนี้เหมือนกัน
สนามเดือนธันวาคมนี้ อาจารย์เซี่ยนอวี๋เลือกให้ฉันมาร้องเพลงใหม่ คนในวงการก็เป็นแบบนี้อีก
ถึงขั้นที่มีชาวเน็ตแสดงความคลางแคลงใจสารพัดรูปแบบ
ฉันมันแย่ขนาดนั้นเลยเหรอ?
คิดว่าฉันไม่ได้เรื่องเลยหรือไง?
เจียงขุยกัดริมฝีปาก กำหมัดแน่นอยู่ใต้แขนเสื้อ จนเล็บจิกลึกลงในเนื้อ
เธอแทบอยากตะโกนดังๆ บอกทุกคนว่า “สายธารสามสิบปี อย่าดูหมิ่นคนหนุ่มสาวเพียงเพราะยากจน[1]”!
“เตรียมตัวอัดเพลง”
ทันใดนั้นหลินเยวียนก็เดินเข้ามาในสตูดิโออัดเพลง
นี่คือวันที่เขากำหนดอัดเพลง
ความรู้สึกขมขื่นอันเป็นพลังรุนแรงของนางเอกซีรีส์สำแดงฤทธิ์เดชทันใด เจียงขุยยืนอยู่หน้าไมโครโฟน ชำเลืองมองหลินเยวียนอย่างระมัดระวังโดยปราศจากความรู้สึกเคืองโกรธและขื่นขมอีกต่อไป ก่อนจะเอ่ยขึ้นอย่างแผ่วเบา
“ได้ค่ะ”
หลินเยวียนพยักหน้า บอกกล่าวกับบรรดาเจ้าหน้าที่ในห้องอัดเสียง เห็นได้ชัดว่าเขาวางแผนว่าวันนี้จะทำภารกิจให้เสร็จสมบูรณ์
ประมาณสิบนาทีให้หลัง
การบันทึกเสียงก็เริ่มต้นขึ้นอย่างเป็นทางการ
เนื่องจากก่อนหน้านี้ฝึกฝนมาสักระยะหนึ่ง กอปรกับการชี้แนะอย่างต่อเนื่องของหลินเยวียน เจียงขุยจึงรับมือกับบทเพลงนี้ได้อย่างสมบูรณ์แบบแล้ว
ดูเหมือนว่าเสียงวิจารณ์จากโลกภายนอกจะกระตุ้นเจียงขุยได้จริง?
วันนี้เธอแสดงฝีมือได้ดีอย่างน่าประหลาด บันทึกทั้งเพลงได้อย่างราบรื่น ไม่ว่าจะเป็นอารมณ์หรือเทคนิคการเปล่งเสียง ก็ทำได้ตามมาตรฐานที่หลินเยวียนต้องการ
“ใช้ได้แล้วครับ”
ผ่านไปสองชั่วโมง
หลินเยวียนถอดหูฟังออก ประกาศว่า ‘อัดเพลงเสร็จสมบูรณ์’
ในแง่ของผลลัพธ์ที่ได้ การบันทึกเสียงของเจียงขุยในวันนี้เป็นเวอร์ชันที่ขับร้องดีที่สุด
หลินเยวียนพึงพอใจมาก
ไม่เสียแรงที่เขาคอยดูแลเจียงขุยในการเตรียมพร้อมบันทึกเสียงอย่างเป็นทางการ
……
ถึงแม้เซี่ยนอวี๋จะไม่ใช่จุดสนใจของมหาสงครามเทพเซียนแล้ว แต่นั่นก็ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อสถานะด้านดนตรีของเขาในฤดูกาลการแข่งขันสำหรับชาวเน็ตนับไม่ถ้วน
หลายวันให้หลัง ข่าวคราวซึ่งเกี่ยวข้องกับมหาสงครามเทพเซียนก็ปรากฏขึ้นทั่วทุกหนแห่งบนโลกออนไลน์
‘มหาสงครามเทพเซียนใกล้เข้ามาแล้ว!’
‘บทสัมภาษณ์พิเศษของเฟ่ยหยาง: ปีนี้ผมเข้าร่วมมหาสงครามเทพเซียนไม่ใช่เพื่อพิสูจน์ว่าตัวผมสุดยอดแค่ไหน แต่เพื่อให้ทุกคนรู้ว่าสิ่งที่ผมสูญเสียไป ผมจะทวงคืนมาด้วยตัวเอง!’
‘จุดคบเพลิงเดือนธันวา พ่อเพลงทั้งหกพร้อมรบ!’
‘อิ่นตงนำทัพพ่อเพลงสู้มหาสงครามเทพเซียน ใครจะเป็นแชมป์คนใหม่!’
‘บทสัมภาษณ์พิเศษของพ่อเพลงหลงเตี๋ย: คู่แข่งของฉันมีแค่ตัวฉันเอง’
‘…’
กระหน่ำเล่นข่าวประเภทนี้มีมากเสียยิ่งกว่าเดือนพฤศจิกายนเสียอีก!
และเมื่อเวลาล่วงเลยเข้าสู่ปลายเดือนพฤศจิกายน ความคาดหวังของชาวเน็ตต่อมหาสงครามเทพเซียนก็แตะถึงจุดสูงสุด จนแทบจะล้นทะลัก!
ในวันที่ 30 พฤศจิกายน
เว็บไซต์ทางการของสมาคมดนตรีนับถอยหลังเข้าสู่มหาสงครามเทพเซียนในช่วงสิ้นปี เห็นได้ชัดว่าแม้แต่ทางการก็ยังให้ความสนใจกับมหาสงครามเทพเซียนในครั้งนี้ในระดับที่สูงมาก
‘เหลือเวลาอีกสิบชั่วโมงก่อนที่มหาสงครามเทพเซียนจะเริ่มต้นอย่างเป็นทางการ!’
‘เหลือเวลาอีกเก้าชั่วโมงก่อนที่มหาสงครามเทพเซียนจะเริ่มต้นอย่างเป็นทางการ!’
‘เหลือเวลาอีกแปดชั่วโมงก่อนที่มหาสงครามเทพเซียนจะเริ่มต้นอย่างเป็นทางการ!’
การนับถอยหลังบนเว็บไซต์อย่างเป็นทางการของสมาคมวรรณศิลป์ได้รับการอัปเดตแบบเรียลไทม์อย่างต่อเนื่อง แอปพลิเคชันเล่นเพลงแต่ละแห่งก็ตามน้ำเช่นกัน พลอยกระตุ้นประสาทของชาวเน็ตและแฟนเพลงให้อยู่ในระดับอ่อนไหวขั้นสุด
‘ใกล้เริ่มแล้ว!’
‘ทำไมฉันถึงตื่นเต้นขนาดนี้เนี่ย’
‘ถึงยังไงก็เป็นสงครามของพวกขั้นเทพที่มีแค่ปีละครั้งเชียวนะ!’
‘ปัญหาคือจะฟังเพลงไหนก่อนดี ผมคาดหวังกับทุกเพลงเลย!’
‘เทียบกับศึกเที่ยงคืนนี้แล้ว นักร้องแถวหน้าของเดือนพฤศจิกายนกลายเป็นเด็กน้อยไปเลย’
‘วอร์มมือเตรียมปั่นยอดแล้ว คืนนี้เดี๋ยวเจอกัน!’
‘ตื่นเต้นโคตรๆ คนที่ไม่เคยนอนดึกอย่างฉันก็อดโต้รุ่งถึงสักตีสองไม่ได้’
‘สมาคมวรรณศิลป์ยังมีการนับถอยหลังอย่างกับปีใหม่เลย ฮ่าๆๆๆๆ’
‘ได้ยินว่าคืนนี้จะปล่อยชาร์ตเลย ไม่จำเป็นต้องรอถึงพรุ่งนี้แล้ว บรรดาเทพทั้งหลายสู้กันแบบออนไลน์ ขาใหญ่ท่านไหนจะได้เป็นแชมป์กันนะ’
‘…’
สายตานับไม่ถ้วนล้วนจับจ้องไปยังเวลาที่นับถอยหลัง
ท้องฟ้ามืดลงเรื่อยๆ ระหว่างที่ผู้คนกำลังรอคอย แสงจันทร์ค่อยๆ ลอยขึ้นสู่ฟากฟ้า
เมื่อแพล็ตฟอร์มเล่นเพลงและเว็บไซต์ต่างๆ ประกาศข้อความแจ้งเตือน ‘เหลือเวลาหนึ่งชั่วโมงก่อนที่มหาสงครามเทพเซียนจะเริ่มต้นขึ้นอย่างเป็นทางการ’ จิตใจของชาวเน็ตซึ่งกำลังเฝ้ารอก็เต้นไม่เป็นส่ำขึ้นมา!
และในห้องนอนของบ้านหรูหลังหนึ่ง
เฟ่ยหยางนั่งรออยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์มาตั้งแต่แรก ชงกาแฟสำเร็จรูปถ้วยหนึ่ง และนั่งเงียบเชียบเพื่อรอเวลาเที่ยงคืนมาถึงอย่างเป็นทางการ
ด้านนอกมีลมพัดมาอย่างแผ่วเบา
แสงจันทร์นวลส่องเข้ามา
หัวใจของเฟ่ยหยางมีทั้งความตื่นเต้นและกระวนกระวายปะปนกัน พานให้ขาทั้งสองข้างของเฟ่ยหยางขยับไปมาอย่างอยู่ไม่สุข
ไม่รู้ว่าผ่านไปนานแค่ไหน
จู่ๆ โทรศัพท์ของเฟ่ยหยางก็ดังขึ้น
เฟ่ยหยางหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดู เป็นข้อความที่หนีหงอู่ส่งมา ‘ส่วนของเนื้อเพลงจัดการได้อยู่หมัดแน่นอน หวังว่าจะไม่มีใครเป็นตัวถ่วงนะ ครั้งนี้ถ้าไม่ได้แชมป์ แปลว่าปัญหาไม่ได้อยู่ที่ฉัน’
นี่เป็นกลุ่มแช็ตเล็กซึ่งมีสามคน
ในกลุ่มมีเพียงเฟ่ยหยาง อิ่นตง และหนีหงอู่
นี่เป็นกลุ่มแช็ตซึ่งสร้างขึ้นเป็นกรณีพิเศษสำหรับมหาสงครามเทพเซียนในครั้งนี้
เมื่อเห็นสิ่งที่หนีหงอู่พูด เฟ่ยหยางก็หลุดหัวเราะ ความวิตกกังวลพลันจางหายไปไม่น้อย
แน่นอนเขารู้ว่าคำพูดของหนีหงอู่นั้นมุ่งเป้าไปยังอิ่นตง
ทั้งสองเกิดการกระทบกระทั่งกันไม่น้อยระหว่างร่วมงานกันเขียนเนื้อร้องและทำนองเพลง หนีหงอู่ไม่พอใจมากทีเดียว
‘วางใจเถอะ’
ในตอนนี้อิ่นตงปรากฏตัว ราวกับกำลังตอบหนีหงอู่ ‘ทำนองเพลงของผมก็ไม่มีปัญหา’
‘การขับร้องของผมก็ยิ่งไม่มีปัญหา’
เฟ่ยหยางเองก็ตอบไปด้วยความมั่นใจเต็มเปี่ยม นิ้วมือกดพิมพ์ข้อความอย่างกระฉับกระเฉง เขายังอยากสนทนาต่ออีกสักหน่อย ทว่านาฬิกาปลุกซึ่งตั้งไว้ล่วงหน้าก็ดังขึ้น
เฟ่ยหยางมองเวลา
ตอนนี้เป็นเวลาเที่ยงคืนพอดี!
เฟ่ยหยางวางโทรศัพท์และสวมหูฟัง คลิกเข้าไปยังแอปพลิเคชันเล่นเพลงทันที ท่าทางจริงจังปานประหนึ่งทหารซึ่งกำลังมุ่งหน้าสู่สมรภูมิรบ
“ถึงเวลาแล้ว!”
“มหาสงครามเทพเซียน!”
เฟ่ยหยางคลิกเข้าไปยังชื่อเพลงบนแอปพลิเคชันฟังเพลง
ขณะเดียวกัน!
ในทั้งสามทวีปซึ่งถูกผนวกรวม มือนับไม่ถ้วนก็กำลังขยับเมาส์ไปพร้อมกัน และคลิกซ้ายเพื่อยืนยัน…
………………………………………………
[1] มาจากเรื่องสัประยุทธ์ทะลุฟ้า เปรียบเปรยว่าสิ่งต่างๆ เปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลา