Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน - ตอนที่ 573 ขอโทษ
บอกตามตรง
เดิมทีนักเรียนก็ชื่นชอบบันทึกการเดินทางสู่ประจิมทิศมากทีเดียว
ไม่จำเป็นต้องให้สมาคมวรรณศิลป์โปรโมต ทุกคนก็อ่านได้อย่างเพลิดเพลินใจ
แต่ว่า…
เมื่อสมาคมวรรณศิลป์เริ่มต้นโปรโมต สถานการณ์ก็เปลี่ยนไป
เนื่องจากภาพที่เกิดขึ้นแปรเปลี่ยนเป็น
[จงอธิบายคำตอบของคำถามดังต่อไปนี้:
ภิกษุถังรับลูกศิษย์แต่ละคนที่ใดบ้าง…
จงระบุเคราะห์กรรมซึ่งอาจารย์และลูกศิษย์ประสบพบเจอมาสี่ข้อ…]
คุณครูยังมอบหมายการบ้านเพิ่มมาอีก
[จงอ่าน ‘บันทึกการเดินทางสู่ประจิมทิศ’ ฉบับเต็ม พร้อมทั้งเขียนบรรยายความรู้สึกหลังอ่าน ความยาวไม่ต่ำกว่า 800 ตัวอักษร]
แบบนี้บอกเป็นนัยได้ว่ายังไง
ให้ตายเถอะ!
แดนนิทานก่อนหน้านี้ยังไม่พออีกหรือไง
ยังอุตส่าห์ให้พวกเราเขียนเกี่ยวกับบันทึกการเดินทางสู่ประจิมทิศอีก
นักเรียนแทบสติแตกแล้ว…
การบ้านทั่วไปยังทำไม่เสร็จเลย ไม่มีนักเรียนที่ชื่นชอบบันทึกการเดินทางสู่ประจิมทิศคนไหนเห็นดีเห็นงามด้วย!
พวกเราเป็นปฏิปักษ์ต่อเจ้าแก่ฉู่ขวง!
ขณะเดียวกัน
ในวงการล้วนสั่นสะเทือน!
ไม่มีใครคาดคิดว่าบันทึกการเดินทางสู่ประจิมทิศของฉู่ขวงจะเกทับบรรพกาลได้ ทั้งยังได้รับการโปรโมตจากบัญชีทางการสมาคมวรรณศิลป์อีก…
นั่นมันนิยายชุดบรรพกาลเชียวนะ!
ถึงแม้บรรพกาลจะไม่จัดอยู่ในระดับยอดผลงานบนบลูสตาร์ แต่เนื่องจากอิทธิพลของละครโทรทัศน์ การ์ตูน และสินค้าต่างๆ ซึ่งเกิดขึ้นหลังจากบรรพกาล ส่งผลให้เรื่องราวของบรรพกาลกลายเป็นที่รู้กันมาช้านาน!
ในขณะนั้นมีคนฉุกคิดถึงการถกเถียงก่อนหน้านี้
‘ทุกคนบอกไม่ใช่หรือ ว่าหนังสือเรื่องใหม่ของฉู่ขวงต้องเทียบเท่ากับคนขุดสุสานสองเรื่อง ถึงจะก้าวขึ้นชิงตำแหน่ง…’
‘งั้นบันทึกการเดินทางสู่ประจิมทิศเทียบได้กับคนขุดสุสานกี่เรื่อง?’
‘ไม่ใช่แค่สองเรื่องแน่ๆ !’
‘นิยายชุดคนขุดสุสานถึงแม้จะเป็นที่นิยม แต่บันทึกการเดินทางสู่ประจิมทิศได้รับการผลักดันจากทางการ ส่วนบรรพกาลไม่ได้รับการผลักดันจากทางการแต่อย่างใด แม้ว่าพยายามกระเสือกกระสนอยู่นาน’
‘มองจากระดับการถกเถียงและตีความจำนวนมาก เหมือนว่าจะไขคำตอบจากการเดินทางสู่ประจิมทิศไม่ได้!’
‘เมื่อสถานการณ์พลิกผัน ทุกคนล้วนเข้าใจดีว่าบันทึกการเดินทางสู่ประจิมทิศจะก้าวขึ้นบัลลังก์เทพสูงสุด’
และท่ามกลางความตกใจ
มีคนเริ่มถกเถียง ว่าเทพปกรณัมเรื่องบันทึกการเดินทางสู่ประจิมทิศจะเข้ามาแทนที่บรรพกาลในใจของผู้ชมหรือไม่
“‘เป็นไปได้ แต่ยากมาก!’
‘บันทึกการเดินทางสู่ประจิมทิศเทียบกับบรรพกาลแล้วชนะในแง่ของชื่อเสียงและคำวิจารณ์จากบุคลากรในหลายสาขา แม้แต่ทางการยังผลักดันในนิยายเรื่องนี้เป็นหนังสือนอกเวลาสำหรับนักเรียน แต่พวกคุณอย่าลืมว่าบรรพกาลพัฒนามานานเท่าไหร่แล้ว’
‘วัฒนธรรมอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องที่เกิดจากนิยายชุดบรรพกาล ตั้งแต่ละครโทรทัศน์ อนิเมชัน ไปจนถึงดนตรี ได้ส่งอิทธิพลต่อผู้คนมากมายไม่ว่าจะผ่านการฟังหรือดู นี่คือสิ่งที่บันทึกการเดินทางสู่ประจิมทิศไม่อาจตามทันในเวลาอันสั้น’
‘ถ้าบันทึกการเดินทางสู่ประจิมทิศคิดจะเติบโตได้ถึงระดับนี้ อย่างน้อยต้องใช้เวลาหลายสิบปี’
‘นอกจากนั้นในสายตาของคนกลุ่มที่ไม่ชอบอ่านนิยาย บรรพกาลยังคงมีพลังดึงดูดมหาศาล ละครโทรทัศน์และภาพยนตร์ซึ่งเกี่ยวข้องกับบรรพกาลที่เข้าฉายทุกปีเป็นข้อพิสูจน์ที่ชัดเจนที่สุด’
‘หากนิยายต้องการอิทธิพลสูงสุด ย่อมหนีไม่พ้นแรงผลักดันรูปแบบต่างๆ ทั้งละครโทรทัศน์ หรืออนิเมชัน’
‘ถ้าบันทึกการเดินทางสู่ประจิมทิศเติบโตเมื่อหลายร้อยปีก่อน บรรพกาลคงไม่มีโอกาสได้รุ่งโรจน์อย่างทุกวันนี้’
‘แต่โลกแห่งความจริงไม่มีถ้าหาก บันทึกการเดินทางสู่ประจิมทิศเผยแพร่ช้าเกินไป จึงจำเป็นต้องตามให้ทัน’
‘เรื่องนี้ยังต้องดูว่าพวกซีรีส์กับอนิเมชันของบันทึกการเดินทางสู่ประจิมทิศจะสนุกแค่ไหน’
‘ยกตัวอย่างเช่นซีรีส์ของนิยายชุดบรรพกาลเวอร์ชันเก่า ก็เป็นที่รู้จักกันดีของทุกคน คะแนนบนเว็บไซต์สตาร์เน็ตก็สูงถึงเก้าคะแนน’
‘ยอมรับว่าบันทึกการเดินทางสู่ประจิมทิศสุดยอดกว่าบรรพกาล แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าหลังจากมีบันทึกการเดินทางสู่ประจิมทิศแล้ว ทุกคนจะไม่ชอบบรรพกาล’
‘…’
คำพูดเหล่านี้ล้วนเป็นความจริง
ถึงแม้การเผชิญหน้าของบันทึกการเดินทางสู่ประจิมทิศและบรรพกาลนั้นจะเกี่ยวโยงถึงใครหลายคน ทว่าสุดท้ายแล้วสิ่งที่ทุกคนเหยียบย่ำนั้นไม่ใช่บรรพกาล
ผู้คนยังคงมีความรู้สึกที่ลึกซึ้งต่อบรรพกาล
สิ่งที่ทุกคนเหยียบย่ำคือแฟนคลับบรรพกาลซึ่งไร้เหตุผล และสมาคมวิจัยบรรพกาลซึ่งคิดว่าพวกเขาสามารถเป็นตัวแทนของวัฒนธรรมบรรพกาลได้
เช่นเดียวกับที่ไม่ว่าลิ่วเสี่ยวหลิงถง[1]จะแสดงฝีมือได้อย่างยอดเยี่ยมอย่างไร ผู้คนก็ยังคงชื่นชอบเจ้าลิงน้อยที่เขานำแสดงมากกว่า
ช่วยไม่ได้
อารมณ์และความคลาสสิกนั้นทรงพลังเหลือเกิน
ในแง่หนึ่ง ลิงตัวนั้นไม่ได้รับบทโดยนักแสดงอีกต่อไป แต่เป็นพญาวานรที่แท้จริง!
ในใจของผู้คน บรรพกาลมีความหมายคล้ายคลึงกัน
บรรพกาลไม่เท่ากับสมาคมวิจัยบรรพกาล และไม่เท่ากับแฟนคลับบรรพกาลที่ไร้เหตุผล
……
แน่นอนว่าหลินเยวียนสังเกตเห็นการถกเถียงจากโลกภายนอก
นับตั้งแต่บรรพกาลเปิดตัว เขาก็ติดตามเรื่องนี้อย่างใกล้ชิดมาโดยตลอด
และการโปรโมตเรื่องบันทึกการเดินทางสู่ประจิมทิศจากทางการ จึงไม่ได้อยู่เหนือความคาดหมายของหลินเยวียน
แดนมังกรมีอารมณ์และความรู้สึกอันเป็นเอกลักษณ์เกี่ยวกับบันทึกการเดินทางสู่ประจิมทิศ และบลูสตาร์เป็นดาวซึ่งมีวัฒนธรรมตะวันออกเป็นแกนหลัก แน่นอนว่าทุกคนจึงชื่นชอบเรื่องนี้ได้อย่างง่ายดาย
นอกจากนั้น
การตีความบนโลกออนไลน์ หลินเยวียนก็ได้อ่านแล้ว
การตีความร้อยละเก้าสิบเก้าล้วนปรากฏบนโลก
ทว่าการตีความใดถูกต้อง ไม่มีใครบอกได้ชัดเจน รวมไปถึงหลินเยวียนและระบบ
มีเพียงอู๋เฉิงเอินเท่านั้นที่บอกได้ชัดเจน?
แม้แต่ประเด็นนี้ก็ยังเป็นที่ถกเถียง
เนื่องจากนักวิจัยบางคนอ้างว่า อู๋เฉินเอินไม่ได้เป็นผู้เขียนต้นฉบับบันทึกการเดินทางสู่ประจิมทิศ…
ปริศนามากมายยิ่งเสริมแรงดึงดูดให้บันทึกการเดินทางสู่ประจิมทิศอีกหลายส่วน
ดังนั้นจึงเห็นได้อย่างชัดเจน
หลินเยวียนไม่มีทางใช้ตัวตนของฉู่ขวงตอบโต้การตีความจากโลกภายนอก
แม้ว่าบนดาวดวงนี้ ใครเป็นผู้เขียนบันทึกการเดินทางสู่ประจิมทิศ ไม่จำเป็นต้องเอ่ยถาม
สิ่งที่ทำให้หลินเยวียนสนใจก็คือ ขณะที่ทุกคนกำลังถกเถียงกัน เปรียบเทียบเกี่ยวอิทธิพลของกับบันทึกการเดินทางสู่ประจิมทิศและบรรพกาล…
เรื่องนี้เกี่ยวข้องอย่างใกล้ชิดกับแผนการต่อไปของหลินเยวียน
เนื่องจากนับตั้งแต่หลินเยวียนเกิดความคิดว่าจะหยิบเรื่องบันทึกการเดินทางสู่ประจิมทิศออกมา เขาก็มีแผนโปรโมตเรื่องราวของการเดินทางสู่ประจิมทิศที่สมบูรณ์แล้ว
คำพูดบางส่วนของชาวเน็ตนับว่ามีเหตุผลมากทีเดียว
ไม่ว่าจะเป็นเรื่องราวของปัวโรต์ โฮล์มส์ หรือบันทึกการเดินทางสู่ประจิมทิศ หากต้องการการยอมรับในระดับชาติ ย่อมขาดแรงสนับสนุนจากผลงานที่เกี่ยวข้องจำพวกภาพยนตร์ไม่ได้
ถึงอย่างไร ก็ไม่ใช่ทุกคนที่จะอ่านหนังสือ
และที่บันทึกการเดินทางสู่ประจิมทิศเป็นที่นิยมบนโลก ไม่ใช่เพียงเพราะผลงานต้นฉบับคือสี่ยอดวรรณกรรมจีนเท่านั้น ขณะเดียวกันยังเป็นเพราะการผลักดันผ่านศิลปะรูปแบบต่างๆ รวมไปถึงเกมด้วย
“จินเผยขอโทษแล้วครับ…”
คำพูดของจินมู่ขัดจังหวะความคิดของหลินเยวียน
หลินเยวียนเอ่ยถามตามสัญชาตญาณ “จินเผยคือใครครับ”
สีหน้าของจินมู่แลดูแปลกพิลึกขึ้นมาทันใด สถานการณ์วุ่นวายอยู่นานโข แต่คุณกลับไม่รู้แม้แต่คู่แข่งของคุณเป็นใครเนี่ยนะ “จินเผยคือสมาชิกของสมาคมวรรณศิลป์ ทั้งยังเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านเทพปกรณัมของบลูสตาร์ และเป็นประธานสมาคมวิจัยบรรพกาล ก่อนหน้านี้บรรดานักวิชาการที่ตำหนิบันทึกการเดินทางสู่ประจิมทิศก็มีจินเผยคนนี้เป็นแกนนำ เขาดังมากสำหรับแฟนคลับบรรพกาล หลายปีมานี้เขาอ้างตัวว่าเป็นผู้สืบเชื้อสายมาจากผู้เขียนบรรพกาล แต่แท้จริงแล้วเพียงแค่มีแซ่เดียวกัน เรื่องนี้เคยมีคนพูดถึงมาก่อน แต่สุดท้ายก็ถูกปิดไว้ แต่กลับเป็นการตำหนิบันทึกการเดินทางสู่ประจิมทิศที่ทำให้เขาเสียหายไม่น้อย ที่เขาออกมาขอโทษก็เป็นผลมาจากแรงกดดันด้านนี้เหมือนกัน”
‘อ้อ’
ปฏิกิริยาตอบสนองของหลินเยวียนนั้นเรียบเฉย
จู่ๆ จินมู่ก็ส่ายหน้า เอ่ยว่า ‘ถึงจะถูกกดดันให้ขอโทษ แต่เขา ก็ยังดูแย่อยู่ดี ถึงกับถือโอกาสที่ขอโทษโปรโมตซีรีส์เรื่องบรรพกาล น่ากลัวว่าจะเป็นคำขอโทษปลอมๆ การโปรโมตซีรีส์บรรพกาลเวอร์ชันใหม่นี่สิครับถึงเป็นเรื่องจริง’
จินมู่ว่าพลางส่งวิดีโอสั้นให้หลินเยวียนดู
ในวิดีโอสั้น คล้ายกับเป็นการแถลงข่าว
ชายวัยกลางคนสวมแว่นตา ศีรษะไม่ล้านแต่กลับมันเลื่อมกำลังกล่าวด้วยสีหน้าเคร่งขรึม
“เป็นความผิดของผมเองครับก่อนหน้านี้ตำหนิบันทึกการเดินทางสู่ประจิมทิศ เพียงเพราะว่าความรักที่ผมมีต่อวัฒนธรรมบรรพกาลนั้นลึกซึ้ง ผมก็เหมือนกับแฟนบรรพกาลคนอื่นๆ ที่อยู่ในสภาวะผิดหวัง ผมขอโทษสำหรับเรื่องนี้”
ชายวัยกลางคนคนนี้คือจินเผย
ในห้องส่งมีนักข่าวเป็นจำนวนมาก
เสียงแฟลชดังแชะๆๆ จากกล้องสารพัดรูปแบบ
หลังจากการขอโทษอันสั้นกระชับผ่านไป จินเผยจึงเปลี่ยนเรื่อง
“พูดถึงความรักที่มีต่อบรรพกาล ผมเชื่อว่าทุกคนล้วนมีเหมือนกัน เพราะสถานะของบรรพกาลในฐานะเทพปกรณัมดั้งเดิมของบลูสตาร์นั้นไม่อาจปฏิเสธได้ และนับตั้งแต่ละครโทรทัศน์ซึ่งถือกำเนิดจากเรื่องบรรพกาลยังคงได้รับความรักจากผู้ชมมาโดยตลอด แต่เมื่อกาลเวลาผ่านไป และอุตสาหกรรมภาพยนตร์และโทรทัศน์มีการพัฒนา บรรพกาลจึงจำเป็นต้องมีการเปลี่ยนจากเก่าเป็นใหม่ ดังนั้นในสองปีนี้ เราจึงผลิตซีรีส์ชุดบรรพกาลเวอร์ชันใหม่ตลอดสองปีที่ผ่านมา”
“ครึ่งหลังของปีนี้ บรรพกาลซึ่งเป็นผลงานร่วมระหว่างฉินและฉีได้ปิดกล้องลงแล้ว ผมในฐานะผู้เขียนบทซีรีส์ จะพยายามสร้างบรรพกาลที่ดีกว่าเดิมให้ได้ครับ!”
‘เวอร์ชันใหม่กับเก่ามีกระแสพร้อมกัน!’
‘สืบสานวัฒนธรรมบรรพกาล!’
‘หวังว่าทุกคนจะติดตามกันเยอะๆ !’
ขณะที่วิดีโอกำลังถ่ายทอดสดอยู่นั้น
จินมู่เอ่ยอย่างไม่สบอารมณ์ “บอกว่าขอโทษ แต่ที่จริงแล้วพูดเปิดประเด็นอยู่ไม่กี่ประโยค ด้านหลังเป็นการโปรโมตซีรีส์เรื่องบรรพกาล นอกจากนั้นจินเผยยังย้ำมาโดยตลอดว่าบรรพกาลถึงจะเรียกว่าเทพปกรณัมดั้งเดิมของบลูสตาร์ คำพูดนี้ฟังแล้วระหายหูจริงๆ ครับ ไม่รู้ว่าคิดว่าเขาเป็นคนเขียนนิยายชุดบรรพกาลหรือเปล่า…”
หลินเยวียนไม่มีอะไรจะพูด
เขาหวนกลับไปนึกถึงความคิดก่อนหน้า
การโปรโมตเรื่องบรรพกาล เป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้สำหรับซีรีส์และในการโปรโมตบันทึกการเดินทางสู่ประจิมทิศในแดนมังกรนั้นก็มีการพึ่งพาซีรีส์เช่นเดียวกัน…
เพราะฉะนั้นบันทึกการเดินทางสู่ประจิมทิศของช่องซีซีทีวีจึงประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก
ส่วนในโลกนี้
เมื่อเผชิญหน้ากับปัญหาเดียวกันในการโปรโมตบันทึกการเดินทางสู่ประจิมทิศ หลินเยวียนกำลังคิดว่ากำลังจะเริ่มต้นอย่างไร ปรากฏว่าจินเผยกลับย้ำเตือนเขาว่า
เริ่มต้นจากอิทธิพลที่ใหญ่ที่สุดก่อน!
แน่นอนว่าเขาต้องเริ่มต้นจากซีรีส์ก่อน!
ในเวลานี้การถ่ายทอดสด ‘งานแถลงข่าวของจินเผย’ ยังไม่ทันจบลง จู่ๆ ก็มีเสียงเพลงดังขึ้น
‘การแถลงข่าวขอโทษ เนื้อหาเกี่ยวกับการขอโทษแค่ไม่กี่ประโยค หลังจากนั้นที่เหลือก็เป็นการโปรโมตซีรีส์ หลังจากนั้นก็เปิดเพลงใหม่ของซีรีส์บรรพกาลเวอร์ชันใหม่!’
จินมู่กลอกตา กดปิดวิดีโอ
หลินเยวียน “…”
ความคิดนี้ก็ไม่เลวเหมือนกันแฮะ
ปล่อยเพลงโปรโมตล่วงหน้าได้ไหมนะ
[1] ลิ่วเสี่ยวหลิงถง ชื่อจริงคือจางจินไหล คือนักแสดงผู้รับบทเป็นซุนหงอคง