Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน - ตอนที่ 583 พวกคนใจร้าย ขอบคุณที่คอยดูถูกฉันเสมอมา
- Home
- Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน
- ตอนที่ 583 พวกคนใจร้าย ขอบคุณที่คอยดูถูกฉันเสมอมา
“เพลงนี้”
สีหน้าของเจิ้งจิงค่อยๆ เคร่งขรึมขึ้นเรื่อยๆ
แววตาของหยางจงหมิงเป็นประกาย จ้องมองซุนเย่าหั่วบนเวที
นักประพันธ์เพลงหลายคนมองหน้ากัน ก่อนที่สายตาของทุกคนต่างจับจ้องไปยังกลางเวที
บนเวที
สีหน้าเยาะเย้ยตนเองของของซุนเย่าหั่ว ค่อยๆ จากหายไป และถูกแทนที่ด้วยความมุ่งมั่น
“คนโชคดีคือฉัน ไม่เคยหันหลังไป
สุดท้ายได้พบ ธารน้ำนั้นมีอยู่จริง
ทุกหยาดเหงื่อเสียไป ชีวิตแข็งแกร่งขึ้นได้
ข้ามผ่านความปวดร้าวจึงได้เห็น
โลกใบใหม่
…”
เขาเคยรู้สึกหดหู่ใจ
ถึงขั้นอยากยอมแพ้
ทว่าเพียงครั้งเดียวที่เขาคิดจะยอมแพ้ มีคนดึงเขากลับมา
หลังจากนั้น เขาจึงพยายามมาโดยตลอด
ไม่หันหลังกลับไป
เพลงดังคนไม่ดัง?
ไม่เป็นที่รู้จัก?
ประสบความสำเร็จโดยที่ไม่ต้องพยายาม?
เป็นนักร้องแถวหน้าได้เพราะโชค?
ตอนที่ผมเข้ารอบสิบสองคนสุดท้ายในรายการราชาหน้ากากนักร้องได้ด้วยความสามารถของตัวเอง พวกคุณลืมไปแล้วหรือ?
ตอนที่ผมร้องเพลงในห้องอัดจนเสียงหาย พวกคุณเคยเห็นไหม?
ไม่เป็นไรหรอก
ผมจะร้องเพลงต่อไป
ร้องจนกว่าพวกคุณมองเห็นผม
ผู้จัดการบอกว่าบางทีนี่อาจเป็นโชคชะตา
วงการบันเทิงช่างลี้ลับ บางคนโด่งดังขึ้นมาอย่างง่ายดาย ขณะที่บางคนกลับพยายามมากกว่าหลายเท่า แต่ไม่อาจดึงดูดความสนใจของผู้คนได้
แต่ผมเชื่อว่า นี่ไม่ใช่โชคชะตา!
ซุนเย่าหัวปลดไมโครโฟนออกจากขาตั้ง เงยหน้าขึ้นเล็กน้อย และทันใดนั้นเสียงของเขาก็แหลมสูง ราวกับว่าเขากำลังจะลุกขึ้นและต่อต้านบางอย่าง
“ฟ้าสูงทะเลกว้าง
เมื่อยืนหยัดหาญกล้า
ไม่ท้อถอยฟันฝ่า
ทำลายตรวนแห่งโชคชะตา!!!”
ราวกับว่าเขากำลังทำลายของบางอย่างจริงๆ !
จู่ๆ อู่หลงก็แสดงอาการท้องผูก ราวกับว่าเก้าอี้ร้อนจนลวกบั้นท้ายของเขา
ส่วนเจิ้งจิงขยุ้มผมของตนเอง!
สีหน้าของหยางจงหมิงเคร่งขรึมกว่าครั้งใด แววตาที่มองซุนเย่าหั่วคล้ายกับเปลี่ยนไปเล็กน้อย
ความตกตะลึง
ปรากฏบนใบหน้าของนักประพันธ์เพลงทั้งกลุ่มพร้อมกัน!
พวกเขามองซุนเย่าหั่ว
ซุนเย่าหั่วเงยหน้าขึ้น เผยให้เห็นสีหน้าซึ่งเปี่ยมไปด้วยความภาคภูมิใจและเชื่อมั่นในตนเอง และแลดูไม่เจอปนด้วยความโกรธเคืองและอารมณ์อันซับซ้อนเป็นครั้งแรก
“พวกคนใจร้าย
ขอบคุณที่คอยดูถูกฉันเสมอมา!!!
ฉันไม่ยอมก้มหน้า
ใช้ชีวิตให้ดียิ่งกว่า”
เนื้อเพลงท่อนนี้ และเสียงร้องนี้ ประหนึ่งไต่ระดับขึ้นบนหน้าผาสูง และระเบิดพลังทันทีที่ถึงที่หมาย!
และหลังจากนั้น
เป็นเสียงซึ่งลากยาว
มีคนกัดริมฝีปากแน่น
มีคนกำหมัดแน่น
และมีผู้ชมอีกเป็นจำนวนมากที่ใบหน้าแดงก่ำ!
ราวกับว่าช่วงเวลาหนึ่งเข้ามาในจิตใจอย่างกะทันหัน อารมณ์นับไม่ถ้วนล้วนเชื่อมโยงกัน
มีใครไม่เคยโดนดูถูกบ้าง?
มีใครไม่เคยมีช่วงเวลาที่ไม่ได้รับการยอมรับบ้าง?
ไม่มีอะไรมากไปกว่าการกัดฟันทน และเพียรพยายามอย่างหนักเพื่อพิสูจน์ตนเอง
ไม่มีอะไรมากไปกว่าการทุ่มเทอย่างเต็มที่ เพื่อให้คนที่เคยดูถูกตนได้เข้าใจว่า ฉันไม่ได้กระจอกอย่างที่พวกคุณคิด!
มองข้าม
หัวเราะเยาะ
นี่คืออุปสรรคที่คนทั่วไปล้วนพบเจอ
และบทเพลงนี้ ได้ถ่ายทอดความรู้สึกของผู้คนมากมาย!
“หน้าต่างก่อนรุ่งสาง ทั้งคืนไม่อาจข่มตา
มองดูรุ่งอรุณ ส่งยิ้มผ่านหมู่เมฆา
มืดมิดยามตะวันลับตา เติบโตยามตะวันส่องฟ้า
ตราบที่มีแสงสว่าง
เรายังคง
ทอประกายเจิดจ้า
…”
วันนี้ให้ผมได้เป็นแสงสว่างนั้นเถิด
ซุนเย่าหั่วราวกับได้ปล่อยวางความหนักใจลงบ้าง
ทว่าเสียงของเขากลับดังขึ้นเรื่อยๆ ในความปล่อยวางนี้
“ฟ้าสูงทะเลกว้าง เมื่อยืนหยัดหาญกล้า ไม่ท้อถอยฟันฝ่า ทำลายตรวนแห่งโชคชะตา”
เสียงดนตรีหยุดลงกะทันหัน
บนโวทีมืดลงอีกครั้ง
ทันใดนั้นซุนเย่าหั่วก็สูดลมหายใจเข้าลึก จนทุกคนได้ยินเสียงลมหายใจของเขา
หลายวินาทีผ่านไป
เสียงของซุนเย่าหั่วดังขึ้นอีกครั้งด้วยคีย์ที่สูงขึ้น เสียงสูงจนน่ากลัวบาดลึกถึงโสตประสาทของผู้คนในชั่วพริบตา
พวกคนใจร้าย ขอบคุณที่คอย ดูถูกฉันเสมอมา ฉันไม่ยอมก้มหน้า จะกล้าหาญยิ่งกว่า!!!”
พรึบๆๆ!
เวทีอันมืดมิดกลับมาสว่างพร่าตาอีกครั้ง ลำแสงนับไม่ถ้วนล้วนไล่กระหน่ำตามเงาของซุนเย่าหั่ว ท้ายที่สุดจึงไปรวมกันยังจุดจุดเดียว!
บางคนตระหนักได้ในทันที…
ที่แท้ซุนเย่าหั่วก็เจิดจรัสได้ถึงเพียงนี้!
ราวกับว่าเขากลายเป็นกลายเป็นกองเพลิง!
กองเพลิงซึ่งกำลังลุกโชติช่วง!
ผู้คนต่างรู้สึกตื่นตะลึง ขณะเดียวกันก็รู้สึกประหนึ่งมีค้อนหนักทุบลงกลางอก
มีคนลุกขึ้นยืน!
ผู้คนลุกขึ้นยืนมา!
และเพลงคลอหลังจากนั้น คือการร้องประสานเสียง ซึ่งเต็มไปด้วยเสียงที่คุ้นเคยตัดสลับกันไปมา นี่คือเสียงประสานซึ่งราชวงศ์ปลาบันทึกไว้ล้วงหน้า
“ฟ้าสูงทะเลกว้าง
หลังพายุฝนพัดผ่าน
หันไปอีกครา
เผชิญความเจ็บปวดและรอยยิ้มที่ผ่านมา
…”
เสียงของเซี่ยนอวี๋ เสียงของเจียงขุย เสียงของเฉินจื้ออวี่ เสียงของซย่าฝาน เสียงของเว่ยห่าวอวิ้น…
และยังมีเสียงของซุนเย่าหั่วเช่นกัน
ในการเรียบเรียงเพลงอย่างประณีต หลากหลายเสียงอันไพเราะในท่อนประสานเสียงร่วมกันของราชวงศ์ปลาเติมเต็มให้ช่องว่างในช่วงสุดท้าย
พลังนับไม่ถ้วนราวกับมารวมอยู่ด้วยกัน
และซุนเย่าหั่วยกมือขึ้นเหนือศีรษะ
เมื่อเสียงดนตรีหยุดลง
เสียงของซุนเย่าหั่วทุ้มต่ำลงอีกครั้ง แต่กลับไม่อัดอั้นอีกต่อไป
ราวได้รับการปลดปล่อยโดยสมบูรณ์ เขาเอ่ยอย่างแผ่วเบา
“คนที่เข้าใจฉันที่สุด
ขอบคุณที่คอยอยู่ข้างกันเสมอมา
ทำให้ฉันมีเรื่องราวมาเล่าขาน
เห็นวันข้างหน้า
ค่อยๆ ก้าวเข้ามา…”
เสียงดนตรีดังกระหึ่มในช่วงท้าย
ทั่วทั้งห้องส่ง เสียงดนตรีในช่วงท้ายยังคงอ้อยอิ่ง
กำปั้นของซุนเย่าหั่วลดระดับลง
ขอบตาของเขาแดงก่ำ
ในพื้นที่ของนักร้อง
นักร้องในราชวงศ์ปลาต่างปรบมือกันสุดชีวิต
หลังจากนั้น นักร้องคนอื่นก็ปรบมือเช่นกัน
และหลังจากนั้น
เสียงปรบมือจากผู้ชมดังกึกก้อง!
แม้แต่นักประพันธ์เพลง ต่างลุกขึ้นยืนอย่างเงียบงัน ก่อนจะปรบมือ
ความขุ่นเคือง ความเดือดดาล ความอดทน ความโล่งใจ ไปจนถึงความซาบซึ้งใจในช่วงสุดท้าย ทุกความรู้สึกล้วนได้รับการปลดปล่อยอย่างสมบูรณ์ผ่านเสียงของซุนเย่าหั่ว
ทั้งบทเพลงราวกับว่าจะดูจะหลอมรวมเข้ากับประวัติศาสตร์การต่อสู้ของซุนเย่าหั่ว
ในที่สุดคอมเมนต์ก็ระเบิด
‘นี่คือซุนเย่าหั่วที่ฉันรู้จักใช่ไหมเนี่ย’
‘ซุนเย่าหั่วร้องเพลงจนฉันร้องไห้เลย!’
‘พวกคนใจร้าย ขอบคุณที่คอยดูถูกฉันเสมอมา นี่คือแรงที่ผลักดันให้ฉันก้าว ไปข้างหน้า!’
‘โดนตกแล้ว!’
‘ใครยังกล้าพูดอีกไหมว่าซุนเย่าหั่วคือคนที่อ่อนที่สุดในราชวงศ์ปลา!’
‘แม่เจ้าโว้ย ซุนเย่าหั่วระเบิดเวที!’
‘ฝีมือการร้องเพลงของซุนเย่าหั่วแข็งแกร่งมาก ไฮโน้ตท่อนสองทะลวงจิตวิญญาณมาก!’
‘คนเก่งไม่พูดเยอะ เมื่อก่อนผมเคยคอมเมนต์บ่นซุนเย่าหั่วไป ผมขอโทษ’
‘ฉันก็ขอโทษเหมือนกัน!’
‘ขอโทษนะพี่เย่าหั่ว!’
‘เพลงนี้พ่อเพลงอวี๋เขียนให้ซุนเย่าหั่วจริงๆ มีแค่ซุนเย่าหั่วที่ร้องได้ เพราะมันตรงกับสิ่งที่ซุนเย่าหั่วเผชิญในขณะนี้ ขณะที่พวกเราวิพากย์วิจารณ์ซุนเย่าหั่วกันสนุกปาก เราลืมไปสนิทเลยว่าเขาต้องรู้สึกกดดันแค่ไหน!’
‘เซี่ยนอวี๋ยังคงเป็นเซี่ยนอวี๋ ซุนเย่าหั่วกลับไม่ใช่ซุนเย่าหั่วที่เราคุ้นเคย!’
‘ตีความได้อย่างยอดเยี่ยม!’
‘เพลงนี้ ทำให้นึกถึงหลายเรื่องในอดีต เรื่องราวของซุนเย่าหั่วผมไม่เข้าใจมากนัก แต่ผมได้ยินความเศร้าและเสียงคร่ำครวญของซุนเย่าหั่ว เพราะผมเคยผ่านความรู้สึกนี้มาก่อน พวกเราทุกคนเคยผ่านมาก่อนเหมือนกัน’
‘…’
บนโลก
เพลงฟ้าสูงทะเลกว้างของวงซิ่น เพื่อสะท้อนเส้นทางความรู้สึกที่สมาชิกในวงผ่านมา
และบนเวทีนี้
ซุนเย่าหั่วขับร้องเรื่องราวของตนออกมา
ทุกคนต่างมีเรื่องราวของตนเอง ทุกคนมีประสบการณ์ที่คล้ายคลึงกันผ่านเรื่องราวของ ‘การต่อสู้’
ชั่วขณะนั้น
ไม่มีใครคลางแคลงอีกต่อไปว่าซุนเย่าหั่วรับมือกับเพลงของเซี่ยนอวี๋ไม่ไหว
ไม่มีใครกังวลอีกต่อไป ว่าซุนเย่าหั่วจะถ่วงแข้งถ่วงขาเซี่ยนอวี๋
นี่เป็นเพียงเพลงเดียวที่สามารถประชันกับเพลง ‘ฝ่าลมโต้คลื่น’ ซึ่งหยางจงหมิงร่วมมือกับเจียงขุยได้!!
——————
ปล. มีเพลง ‘ฟ้าสูงทะเลกว้าง’ อีกเพลงหนึ่ง[1] แต่เพลงนี้สอดคล้องกับสถานการณ์ของเซี่ยนอวี๋ในขณะนี้มากกว่า หลายคนแนะนำเพลงมา แต่ฉันคิดว่าทุกเพลงที่เผยแพร่ในนิยายเกี่ยวกับวงการบันเทิงควรมีจุดตัดกับโครงเรื่อง นอกจากว่าเป็นการเลือกเพลงอย่างอิสระเพื่อใช้ในการไต่ชาร์ตเพลงเท่านั้น