Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน - ตอนที่ 602 เทพสูงสุดฉู่ขวง
“ไม่เลว”
หลังจากทดสอบทุกคน
หลินเยวียนพยักหน้า
นอกจากเว่ยห่าวอวิ้นซึ่งยังมีปัญหาใหญ่ นักร้องคนอื่นๆ ล้วนทำได้ดีมาก
คงพยายามกันน่าดู
โดยเฉพาะอย่างยิ่งซุนเย่าหั่วและเฉินจื้ออวี่ ไม่เพียงอ่านได้ดี แต่การออกเสียงก็ยอดเยี่ยมมาก
หลินเยวียนรู้ภาษาอังกฤษ
ต่างจากนักร้องซึ่งต้องฝึกฝนภาษาอังกฤษอย่างหนัก หลินเยวียนเพียงแค่จ่ายเงินซื้อน้ำยาภาษากับระบบ ก็สามารถพูดภาษาอังกฤษได้อย่างคล่องแคล่ว
ถึงแม้หลินเยวียนไม่จำเป็นต้องร้องเพลงเอง
แต่ในเมื่อเตรียมเพียงภาษาอังกฤษไว้ในอนาคต ตัวหลินเยวียนเองจึงต้องรู้ภาษาอังกฤษ
ไม่เช่นนั้น เรื่องนี้คงอธิบายได้ยาก
หลินเยวียนให้กำลังใจพวกเขา “ทุกคนพยายามต่อไปนะครับ หลังจากนี้ผมจะลองปล่อยเพลงภาษาอังกฤษ”
เขาเตือนทุกคนด้วยวิธีที่แทบชัดเจน
ขณะนี้หลินเยวียนนับว่ามีความรู้สึกที่ดีต่อนักร้องราชวงศ์ปลา
ถ้ามีเพลงที่ดี เขายังอยากแจกจ่ายเป็นการภายในเสียก่อน นอกจากว่านักร้องเหล่านี้ร้องได้ไม่ดีจริงๆ จึงค่อยร่วมงานกับนักร้องนอกราชวงศ์ปลา
เงื่อนไขคือ นักร้องในราชวงศ์ปลาต้องฝึกฝนภาษาอังกฤษจนเชี่ยวชาญเสียก่อน
“ค่ะ/ครับ”
ทุกคนตอบเสียงดัง
เว่ยห่าวอวิ้นใบหน้าแดงก่ำ ตอบว่า ‘ค่ะ’ ตามน้ำไป
เธอในวันนี้ ได้รับบทเรียนอันหนักหน่วง
เธอยืนอยู่ตรงนั้นอย่างตกประหม่า จ่ายให้กับบทเรียนราคาแพงนี้ครั้งแรก
ในที่สุดเธอก็เข้าใจ ว่าทำไปโลกภายนอกจึงบอกว่าในราชวงศ์ปลาแข่งขันกันอย่างดุเดือดเพื่อชิงความโปรดปรานจากเซี่ยนอวี๋
เมื่อก่อนเธอคิดเพียงว่าชาวเน็ตหยอกล้อกัน
ตอนนี้เมื่อได้เข้าร่วมราชวงศ์ปลา เธอถึงได้เข้าใจ
ถ้าหากพ่อเพลงอวี๋คือจักรพรรดิในสมัยโบราณ และจับนักร้องราชวงศ์ปลาเหล่านี้ไปใส่ในวังหลัง เหล่าสนมเจ้าเล่ห์เพทุบายหน้าเดิมก็เตรียมตัววางมือได้เลย
ความสามัคคีอันงดงามของราชวงศ์ปลานั้นเป็นเพียงภาพลวงตา!
การแข่งขันภายในนี้เต็มไปด้วยคาวเลือดคละคลุ้ง!
หลังจากทดสอบภาษาอังกฤษของทุกคนเสร็จ หลินเยวียนจึงให้ทุกคนแยกย้ายกลับไป และเรียกให้ซุนเย่าหั่วอยู่รอเพียงคนเดียว
ขณะเดินออกมา ทุกคนจ้องมองไปซุนเย่าหั่วด้วยแววตาอิจฉาริษยา
รวมไปถึงเว่ยห่าวอวิ้น
เธอเริ่มกลมกลืนจริงๆ แล้ว
“ร้ายมาก!”
“ปากบอกยอมแพ้กับภาษาอังกฤษ แต่พูดคล่องกว่าใครเลย!”
“เขาหลอกให้พวกเราตายใจ!”
“คนไร้เดียงสาอย่างฉัน หลงเชื่อคำพูดของเขาซะได้!”
“เขานี่แหละร้ายที่สุด!”
“เกือบลืมไปแล้วว่าเขาเป็นนายทุนคนเดียวในหมู่พวกเรา!”
“…”
เมื่อออกจากห้อง
เจียงขุยและคนอื่นๆ ก็เริ่มบ่น
เว่ยห่าวอวิ้นมองไปยังคนกลุ่มนั้นด้วยความประหลาดใจ
ควรเป็นฉันที่พูดแบบนั้นไม่ใช่หรือ!
พวกคุณก็เหมือนกับซุนเย่าหั่วทุกกระเบียดนิ้วไม่ใช่หรือ?
ยังกล้าบอกว่าตัวเองไร้เดียงสา?
และในห้อง
ซุนเย่าหั่วยิ้มกว้าง “รุ่นน้อง มีเรื่องอะไร บอกมาได้เลย”
“อัดเพลง”
หลินเยวียนหยิบเพลงออกมาอย่างไม่อ้อมค้อม “รุ่นพี่เย่าหั่วไปทำความคุ้นเคยกับเพลงนี้ครับ สัปดาห์หน้าอัดเพลง”
“ได้เลย!”
ซุนเย่าหั่วจิตใจเบิกบาน สองมือเอื้อมรับโน้ตเพลง
“จูบลา”
“อื้ม”
“ฉันรับประกันว่าจะฝึกให้ได้ภายในคืนนี้!”
“ได้ครับ”
“จริงสิรุ่นน้อง ฉันมีอะไรจะให้นาย”
“อะไรครับ”
หลินเยวียนชะงัก
“รอแป๊บนึง”
ซุนเย่าหั่วออกไปข้างนอก สักพักก็กลับเข้ามา พร้อมกับถุงชอปปิงในมือ
“ไม่ใช่ของแพงอะไร เป็นแค่เสื้อสเวตเตอร์ขน อากาศหนาวแล้ว นายต้องใส่เสื้อหนาๆ จะได้ไม่เป็นหวัด ในราชาหน้ากากนักร้องตอนหนึ่งที่นายเป็นหวัด”
“ขอบคุณครับ”
หลินเยวียนรู้สึกอบอุ่นใจ
ซุนเย่าหั่วยิ้มแย้ม “ไม่ต้องขอบคุณหรอก นี่เป็นเสื้อขนแกะ ขน! แกะ[1]! ของแท้!”
เมื่อพูดถึง ‘ขนแกะ’ ซุนเย่าหั่วเน้นย้ำเสียงหนัก ราวกับว่าในสองคำนี้มีความหมายพิเศษบางอย่าง
……
อากาศเดือนมกราคมยังคงหนาวเย็น
วันรุ่งขึ้น หลินเยวียนสวมเสื้อสเวตเตอร์ขนแกะที่ซุนเย่าหั่วซื้อให้ อุ่นดีจริงๆ
เมื่อมาถึงสตูดิโอ
จู่ๆ จินมู่ผู้จัดการก็เอ่ยอย่างยิ้มแย้ม “ยินดีด้วยครับหัวหน้า คุณคือคนแรกในรายชื่อเทพสูงสุดคนใหม่ที่แผนกวรรณกรรมแฟนตาซีสมาคมวรรณศิลป์ประกาศเมื่อเช้านี้!”
“สำเร็จแล้ว?
หลินเยวียนแววตาเป็นประกาย
เขาหยิบบันทึกการเดินทางสู่ประจิมทิศออกมาเพื่อท้าชิงตำแหน่ง ตอนนี้เขาบรรลุเป้าหมายแล้ว
“งั้นเรื่องหุ้น…”
“เรื่องหุ้นกำลังเจรจา ผมประเมินว่าเราจะได้หุ้นประมาณห้าเปอร์เซ็นต์และจะเพิ่มได้ในอนาคต แต่ในระยะสั้นห้าเปอร์เซ็นต์ถือเป็นขีดจำกัดแล้วครับ”
“ก็ไม่เลวแล้วครับ”
หลินเยวียนไม่ใช่ไก่อ่อน เขารู้ว่าหุ้นห้าเปอร์เซ็นต์ของคลังหนังสือซิลเวอร์บลูนั้นไม่นับว่าน้อย
ถึงอย่างไร ปัจจุบันนี้คลังหนังสือซิลเวอร์บลูก็เป็นสำนักพิมพ์นิยายอันดับต้นๆ ในบรรดาทั้งห้าทวีป!
“ถ้าอยากได้หุ้น มีสองวิธี วิธีแรกคือซื้อหุ้นในราคาที่กำหนด อีกวิธีหนึ่งคือคลังหนังสือซิลเวอร์บลูมอบให้เราโดยตรง…”
“งั้นก็รอรับมอบ!”
หลินเยวียนตอบโดยไม่ต้องหยุดคิด
จินมู่ยิ้มขื่น “ผมยังไม่ได้บอกเงื่อนไขเลยครับ การรับมอบนั้นมีเงื่อนไข เงื่อนไขคือหลังจากนี้หัวหน้าทำได้แค่เผยแพร่ผลงานผ่านคลังหนังสือซิลเวอร์บลู อีกทั้งคลังหนังสือซิลเวอร์บลูจะต้องมีส่วนร่วมในการพัฒนาลิขสิทธิ์ผลงานด้วย พวกเราสามารถตัดสินใจเลือกหุ้นส่วน แต่คลังหนังสือซิลเวอร์บลูต้องการส่วนแบ่งสี่สิบเปอร์เซ็นต์…”
“มากขนาดนั้นเชียว?”
“ผมกลับรู้สึกว่ายอมรับได้ คลังหนังสือซิลเวอร์บลูมีประสบการณ์สูงในการพัฒนาลิขสิทธิ์ พวกเขามีทรัพยากรและประสบการณ์ และสามารถสร้างมูลค่าให้กับลิขสิทธิ์ในมือของเราได้มากขึ้น นอกจากนี้พวกเขายังสัญญาว่าถ้าให้ส่วนแบ่งลิขสิทธิ์เหล่านี้กับพวกเขาได้ หุ้นอาจเพิ่มขึ้นถึงสิบเปอร์เซ็นต์หลังจากเวลาผ่านไปไม่กี่ปี การคำนวณโดยละเอียดผมให้ทีมงานด้านล่างทำตารางมาแล้ว คุณกลับไปดูได้”
จินมู่ช่วยหลินเยวียนจัดตั้งทีมขึ้นมา
อย่างไรตอนนี้หลินเยวียนมีงานมากขึ้นเรื่อยๆ จินมู่เพียงคนเดียวสะสางไม่ไหว ดังนั้นเขาจึงสร้างทีมงานซึ่งสามารถรับผิดชอบงานด้านต่างๆ ที่หลินเยวียนมอบหมาย รวมไปถึงนักกฎหมายคนหนึ่งด้วย
“ได้ครับ”
หลินเยวียนเชื่อมั่นในความสามารถในการจัดการของจินมู่
หลายปีมานี้จินมู่ทำงานอย่างขยันขันแข็ง ทำให้หลินเยวียนพอใจมาก
ฉะนั้นในปัจจุบันนี้จินมู่จึงไม่ได้รับเงินเดือนอีกต่อไป แต่ได้รับส่วนแบ่งที่หลินเยวียนมอบให้ และสวัสดิการที่ดีเยี่ยม
“จริงสิ…”
จินมู่ลังเลอยู่ครู่หนึ่ง
หลินเยวียน “มีอะไรก็พูดมาตรงๆ เลยครับ”
จินมู่พยักหน้า “ที่จริงผมคิดว่าหัวหน้าสามารถพิจารณาการร่วมถือหุ้นสตาร์ไลท์ได้ มูลค่าที่คุณสร้างให้สตาร์ไลท์นั้นสูงมาก ถ้าคุณมีความคิดด้านนี้ ผมสามารถเจรจากับสตาร์ไลท์ในนามตัวแทนของคุณได้ ถ้าหากจำเป็น เราสามารถเปิดเผยตัวตนของฉู่ขวงเพื่อเพิ่มน้ำหนักให้เรา แน่นอนว่าไม่ใช่แค่ในระดับการเจรจากับสตาร์ไลท์”
“งั้นหรือ…”
หลินเยวียนกำลังใช้ความคิด “ผมขอคิดดูก่อน”
ตอนนี้เขาได้รับการดูแลระดับพ่อเพลงจากสตาร์ไลท์ ส่วนแบ่งจากภาพยนตร์ก็ไม่เลว แต่อย่างที่จินมู่บอกไว้ ถ้าหากได้รับหุ้นจากบริษัทโดยตรง รายได้ของเขาจะเพิ่มมากขึ้น
แต่ก็เช่นเดียวกับฉู่ขวงเข้าถือหุ้นของคลังหนังสือซิลเวอร์บลู
หลินเยวียนต้องการโอกาส เพื่อพิสูจน์ความน่าเชื่อถือของตน
ยกตัวอย่างเช่น กลายเป็นพ่อเพลงอย่างแท้จริง
หรือไม่ก็ รอให้ซีรีส์บันทึกการเดินทางสู่ประจิมทิศโด่งดังเป็นพลุแตก
หลินเยวียนไม่รู้เลยว่า อันที่จริงสตาร์ไลท์กำลังพูดคุยเกี่ยวกับการมอบหุ้นให้เขาอยู่แล้ว
เพราะไม่ว่าจะมองจากมุมใด ความสำคัญของหลินเยวียนต่อคลังหนังสือซิลเวอร์บลูนั้นไร้ข้อกังขา…
ขณะเดียวกัน
หลังจากการประกาศให้ฉู่ขวงเป็นเทพสูงสุด บทสนทนาอันครึกครื้นก็เริ่มต้นขึ้นบนโลกออนไลน์!
[1] แกะ เป็นการเล่นมุกกับคำว่า ‘หยาง’ ซึ่งมีความหมายว่าแกะหรือแพะ