Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน - ตอนที่ 107 คนที่ใครๆ ก็เอ็นดู
ตอนที่ 107 คนที่ใครๆ ก็เอ็นดู
ค่าความโด่งดังด้านจิตรกรรม: 811
สอนนักเรียนเสร็จไปอีกคนหนึ่งแล้ว หลินเยวียนเห็นว่าความโด่งดังด้านจิตรกรรมของตนพอจะขยับขึ้นมาแล้ว นั่นทำให้เขาพอใจสุดๆ
ในสถานการณ์ปกติ การสอนนักเรียนคนหนึ่งๆ จะไม่ได้ผลลัพธ์ที่ดีขนาดนี้
ทว่าในระหว่างการเรียนการสอนในวันนี้ หลินเยวียนเจอกับนักเรียนสเก็ตช์หลายคนที่พื้นฐานไม่เลวเลย เห็นได้ชัดว่าก่อนหน้านี้เคยเรียนสเก็ตช์กับเขา
สำหรับนักเรียนที่พื้นฐานสเก็ตช์ดีแบบนี้ สิ่งที่หลินเยวียนอธิบายจึงลึกซึ้งมากขึ้นสักหน่อย ในขณะเดียวกันก็แสดงเทคนิคการสเก็ตช์ขั้นสูงออกมาโดยไม่รู้ตัว และดึงดูดความตื่นตะลึงจากผู้คนรอบข้าง
นี่น่าจะเป็นเหตุผลที่รางวัลจากค่าความโด่งดังนั้นมีมูลค่าสูงมาก
และขณะที่หลินเยวียนกำลังเตรียมตัวสอนคนต่อไป จู่ๆ ด้านนอกก็มีความเคลื่อนไหวดังออกมา
จากนั้นก็เห็นว่าอาจารย์ผู้หญิงคนหนึ่งมาปรากฏตัวที่ชมรมจิตรกรรม!
อาจารย์คนนี้เดินตรงมายังจงอวี๋ ใบหน้าเต็มไปด้วยความเดือดดาล “จงอวี๋คุณโดดเรียนอีกแล้วนะ!”
“อาจารย์…”
จงอวี๋ก้มหน้างุด เขานึกไม่ถึงว่าอาจารย์สอนสีกวอชจะถึงกับมาที่ชมรมจิตรกรรม “ครั้งหน้าผมจะไม่โดดเรียนแล้วครับ!”
“หุบปาก!”
อาจารย์สอนสีกวอชของจงอวี๋กล่าวเสียงเย็น “ครั้งก่อน ครั้งก่อนๆๆๆๆ คุณก็พูดแบบนี้”
จงอวี๋ตบอก “ครั้งหน้าผมเข้าเรียนแน่นอน!”
อาจารย์สอนสีกวอชพูดอย่างหัวเสีย “ที่ฉันมาหาคุณก็ไม่ใช่เพราะคุณโดดเรียนอย่างเดียว จะมาแจ้งคุณสักหน่อย ว่าผลงานภาพวาดสีกวอชของคุณได้รางวัลที่สองในการประกวดสีกวอชครั้งนี้”
อาจารย์สอนสีกวอชว่าพลางหยิบภาพวาดสีกวอชของจงอวี๋ออกมา
“หา!”
จงอวี๋ได้ยินเช่นนั้น ก็ตื่นอกตกใจ คลี่ภาพวาดของตนเองออกมา ใบหน้าเปี่ยมไปด้วยความเคลิบเคลิ้ม “นึกไม่ถึงว่าฉันจะได้รางวัลด้วย”
“ว้าว!”
“ดีอยู่น้า!”
“จงอวี๋ฝีมือสีกวอชนายดีขนาดนี้เลย?”
“ฉันจำได้ว่าเมื่อก่อนฝีมือสีกวอชนายธรรมดามากเลยนี่!”
“ถึงกับได้รางวัลที่สองของการประกวดสีกวอชระดับมหาวิทยาลัยเชียวเหรอ”
“…”
ทันทีที่ผู้คนเห็นภาพวาดสีกวอชของจงอวี๋ ต่างคนต่างเผยสีหน้าตกตะลึง
คนที่นั่งอยู่ตรงนั้นจำนวนมากเข้าร่วมการประกวดภาพวาดสีกวอชเช่นเดียวกัน แต่ก็ได้รางวัลมาไม่กี่คน
และระหว่างชมรมจิตรกรรมก็นับว่ารู้ตื้นลึกหนาบางซึ่งกันและกัน
ในภาพจำในอดีตของทุกคน ฝีมือการวาดสีกวอชของจงอวี๋เรียกได้แค่ว่าใช้ได้ แต่ไม่มีทางคว้าได้ถึงระดับรางวัลที่สองในการประกวดภาพวาดสีกวอชเด็ดขาด!
แต่เมื่อมองจากผลงานของจงอวี๋ในตอนนี้ ราวกับว่าผลัดเนื้อเปลี่ยนกระดูกมาเลยทีเดียว!
สีหน้าของอาจารย์ค่อยๆ เยือกเย็นขึ้น กระซิบเสียงเบา “ฝีมือไม่เลวเลย”
จงอวี๋รู้สึกกระหยิ่มใจ หัวเราะเหอๆ “ก็ดูสิว่าอาจารย์ผมเป็นใคร”
พูดจบ จงอวี๋ก็รีบยกมือปิดปากทันที
ซวยแล้ว!
ฝีมือการสอนสีกวอชของท่านเทพเกือบถูกเปิดเผยแล้ว!
ชมรมจิตรกรรม รวมไปถึงทั้งคณะวิจิตรศิลป์ คนที่กระจ่างในความสามารถในการวาดสีกวอชของหลินเยวียนนั้นมีไม่มาก
จงอวี๋ยังวางแผนจะเรียนรู้จากหลินเยวียนต่อไป พัฒนาความสามารถในการวาดภาพสีกวอชขึ้นไปอีก ดังนั้นนักศึกษากลุ่มที่เคยเห็นหลินเยวียนสร้างสรรค์หนังสือพิมพ์กระดานดำ ก็ตกลงกันอย่างลับๆ ว่าจะไม่รีบเปิดเผยฝีมือการวาดสีกวอชของท่านเทพเร็วเกินไป
เมื่อเป็นแบบนี้พวกเขาจะได้โชคหล่นทับอย่างเงียบเชียบ
นึกไม่ถึงว่าวันนี้ตนมาหลุดปากซะเอง!
เป็นดังเช่นที่หลินเยวียนกังวล ทันทีที่คำพูดของเขาหลุดปากออกไป สายตาโดยรอบแต่ละคู่ก็พลันมองไปยังหลินเยวียนในทันที
ความสามารถในการวาดสีกวอชของจงอวี๋รุดหน้าไปเร็วถึงขนาดนั้น เป็นเพราะท่านเทพหรอกเหรอ?
อาจารย์สอนสีกวอชกลับไม่ได้แปลกใจ
ช่วงก่อนหน้านี้ ฝีมือการวาดสีกวอชของจงอวี๋กับนักศึกษาคนอื่นๆ ในคลาสก็พัฒนาก้าวกระโดด เธอก็ได้ถามเหตุผลจากนักศึกษาเหล่านั้นแล้ว
เจ้าพวกนี้กล้าปิดบังเพื่อน แต่ไม่กล้าปิดบังอาจารย์ ยอมรับว่าที่ฝีมือสีกวอชพัฒนาไปเร็วถึงขนาดนี้เป็นเพราะเรียนกับหลินเยวียน
“หลินเยวียนอยู่ไหม?”
อาจารย์สอนสีกวอชมองไปรอบๆ ด้วยความสงสัย
หลินเยวียนตอบ “อยู่ครับ”
อาจารย์สอนสีกวอชมองหน้าหลินเยวียน เอ่ยขึ้นด้วยความตกใจ “คุณคือนักศึกษาที่ทำหนังสือพิมพ์กระดานดำนี่!”
ในการตัดสินหนังสือพิมพ์กระดานดำครั้งก่อน อาจารย์ท่านนี้ก็อยู่ด้วย
ในตอนนั้นภาพวาดของหลินเยวียนเป็นที่จดจำของอาจารย์คนนี้ ฉะนั้นเธอจึงจำหน้าหลินเยวียนได้
จะว่าไป ใบหน้าหล่อๆ แบบนี้ จะให้จำไม่ได้ก็คงยาก
“ครับ”
หลินเยวียนพยักหน้า
อาจารย์สอนสีกวอชมองภาพสเก็ตช์ตรงหน้าของหลินเยวียน ทันใดนั้นก็คลี่ยิ้ม “อย่าสอนแต่สเก็ตช์สิ ถ้าว่างๆ ก็สอนสีกวอชด้วย”
“ครับ”
หลินเยวียนตกลง เขาเองก็รู้สึกว่าถ้าสอนสีกวอชจะได้ขยับขยายกิจการด้วย สอนสเก็ตช์ตั้งเยอะแยะทุกวัน ออกจะน่าเบื่ออยู่สักหน่อย
……
หลังจากที่อาจารย์สอนสีกวอชออกไป คนกลุ่มนี้ต่างก็จ้องมองจงอวี๋
จงอวี๋รู้ว่าปิดบังไม่อยู่แล้ว จึงยิ้มขื่น “สีกวอชฉันก็เรียนกับท่านเทพ”
“ถึงว่าล่ะทำไมนายเก่งสีกวอชขึ้นเร็วขนาดนี้!”
“คลาสพวกเรามีสามสี่คนที่ช่วงนี้คะแนนสีกวอชดีขึ้น เกี่ยวกับท่านเทพเหมือนกันหรือเปล่า”
“พวกนายปิดบังพวกฉันซะเนียนเลยนะ!”
“ก่อนหน้านี้พวกเราก็ยังคิดว่าท่านเทพเก่งสเก็ตช์แค่อย่างเดียวนะเนี่ย!”
“เมื่อก่อนฉันยังลังเลว่าจะเรียนสีกวอชกับท่านเทพดีมั้ย ตอนนี้มาคิดดูแล้วเสียดายจริงๆ ตอนนั้นฉันจะลังเลทำไมวะเนี่ย”
“ท่านเทพสอนฉันด้วย!”
สายตาของฝูงชนร้อนแรงขึ้นเรื่อยๆ ชั่วขณะนั้นไม่มีใครสนใจจงอวี๋อีกต่อไป ต่างคนต่างมองไปยังหลินเยวียน
“ชั่วโมงละห้าร้อยหยวนครับ”
หลินเยวียนเสนอราคาอย่างสุขุม
“ดีล!”
ทุกคนไม่ได้ร่นถอยไปเพราะราคา
“ลงชื่อเลย”
จงอวี๋ซึ่งอยู่ด้านข้างยิ้มกริ่ม
คนเหล่านี้เห็นจงอวี๋แล้วก็นึกโมโห แต่ก็ยังคงไปลงชื่อกับจงอวี๋อย่างว่าง่าย
ใครใช้ให้จงอวี๋รับผิดชอบเรื่องการลงชื่อล่ะ
นอกจากนั้น คนเยอะแยะขนาดนั้นมาเรียนสีกวอชกับท่านเทพ ถ้าไม่ต่อคิวจะได้ที่ไหนล่ะ หลินเยวียนอยู่ในชมรมจิตรกรรมอยู่นาน ทุกคนก็เข้าใจในกฎเกณฑ์ของหลินเยวียนมากแล้ว
ไม่ทันไร จำนวนคนที่มาลงชื่อเรียนสีกวอชก็ปาไปห้าสิบคนแล้ว
ตัวเลขนี้ได้เบียดรายชื่อคนที่ลงชื่อเรียนสเก็ตช์กับหลินเยวียนไปแล้ว
จงอวี๋ส่งรายชื่อให้หลินเยวียนดูผ่านตา
หลินเยวียนพยักหน้าเอ่ย “เรียนต่อเลยครับ”
สีกวอชเรื่องเล็ก ค่าความโด่งดังเรื่องใหญ่ เขาต้องรีบทำภารกิจ พยายามทำให้ค่าความโด่งดังด้านจิตรกรรมแตะถึงหนึ่งพันในไม่กี่วันนี้
“เรียนต่อเลย”
จงอวี๋ตะโกนแจ้งคนอื่นๆ
นักเรียนของหลินเยวียนกลายเป็นวงกว้างขึ้นมาทันทีหลังจากเรื่องนี้ ถึงแม้ว่าจงอวี๋จะเสียดายที่หลังจากนี้จะไม่ได้เรียนคลาสสีกวอชกับหลินเยวียนอย่างเต็มที่ แต่เขาก็ใช้เวลาที่คนอื่นยังไม่รู้ เรียนไประยะหนึ่งแล้ว ถึงขั้นคว้าอันดับสองจากการประกวดภาพวาดสีกวอช ก็ควรให้คนอื่นได้เรียนกับท่านเทพบ้างได้แล้ว
และอีกด้านหนึ่ง
สาขาการประพันธ์เพลงได้เข้าเรียนวิชาพละศึกษาในวันนี้แล้ว
อาจารย์วิชาพละไม่ได้เสแสร้งแกล้งหลับอย่างหวงเปิ่นอวี่แล้ว เขายังคงเช็กชื่อตามธรรมเนียม
“หวังเฉียง”
“มาครับ”
“หลี่เฟิง”
“มาครับ”
“โจวหาน”
“มาครับ”
“หลินเยวียน”
“มาครับ มาครับ มาครับ มาครับ มาครับ มาครับ…”
ทั้งชั้นเรียนมีอยู่สี่ห้าสิบคน ส่วนใหญ่ก็ตอบว่ามาครับมาค่ะกันทั้งนั้น
หลินเยวียนถูกผู้หญิงใส่รวมเข้าไปในกลุ่มที่ตอบว่า ‘มาครับ’ แล้ว โดยจงใจกดเสียงต่ำเลียนแบบเสียงผู้ชาย
วันนี้หลินเยวียนโดดเรียน เพื่อนๆ ในสาขาการประพันธ์เพลงรู้ตั้งแต่แรกแล้ว ดังนั้นจึงหมายมั่นปั้นมือแล้วว่าจะปกป้องหลินเยวียน ผลคือยังไม่ทันได้ปรึกษากัน ก็เกิดเหตุการณ์ที่แปลกประหลาดและเหนือความคาดหมายแบบนี้ขึ้นซะก่อน
“…”
อาจารย์วิชาพละเงียบไป
เขาสอนมาตั้งหลายปี นี่เป็นครั้งแรกที่เจอสถานการณ์เช่นนี้ จึงถามขึ้นอย่างอดไม่ได้ “สรุปว่าคลาสพวกคุณมีหลินเยวียนกี่คนกันแน่”
ทุกคน “…”
นี่คือสิ่งที่ในตำนานเรียกว่าคนที่ใครๆ ก็เอ็นดูใช่ไหมเนี่ย
…………………………………………………….