Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน - ตอนที่ 298 ฆาตกรรมโรเจอร์ แอ็กครอยด์
- Home
- Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน
- ตอนที่ 298 ฆาตกรรมโรเจอร์ แอ็กครอยด์
ตอนที่ 298 ฆาตกรรมโรเจอร์ แอ็กครอยด์
ในเมื่อเรื่องของบริษัทมีลูกศิษย์สองคนรับมือแทนแล้ว เขาจึงมีเวลาว่างเพิ่มขึ้นไม่น้อย
หลินเยวียนมาใคร่ครวญดูแล้ว จึงส่งเรื่องฆาตกรรมโรเจอร์ แอ็กครอยด์ให้จินมู่ทันที ให้เขาติดต่อคลังหนังสือซิลเวอร์บลู
“คุณเขียนนิยายสืบสวนสอบสวนจริงเหรอครับเนี่ย”
จินมู่มองต้นฉบับเรื่องฆาตกรรมโรเจอร์ แอ็กครอยด์ที่หลินเยวียนส่งมาด้วยความประหลาดใจ
เขาจำได้ว่าก่อนหน้านี้หลินเยวียนเคยถามว่าหมวดหมู่ไหนได้รับความนิยมมากที่สุดในตลาด และเขาก็เผลอไปบอกว่านวนิยายแนวสืบสวนสอบสวนค่อนข้างมีกระแส
แต่ถึงอย่างนั้นจินมู่ก็นึกไม่ถึงว่าท้ายที่สุดแล้วหัวหน้าคนนี้ของตนจะเขียนนิยายสืบสวนสอบสวนออกมาจริงๆ
เป็นเพราะหมวดหมู่นี้ค่อนข้างได้รับความนิยม?
ถึงแม้ว่าฟังจากเหตุผลแล้วจะไม่ได้มีปัญหาอะไร แต่จินมู่รู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ…
แต่เมื่อนึกถึงความจริงที่ว่าหลินเยวียนมีถึงสามนามปากกา และแต่ละนามปากกาต่างก็ทำผลงานได้อย่างโดดเด่นในแต่ละสาขาอาชีพ ในใจของเขาก็ไม่เกิดความกังขาอีกต่อไป
“ผมขออ่านหน่อยได้ไหมครับ”
ในฐานะผู้ชื่นชอบนิยายสืบสวนสอบสวน จินมู่รู้สึกว่าครั้งนี้ตนมีสิทธิ์ในการแสดงความคิดเห็น
“ได้ครับ”
หลินเยวียนตอบ
จินมู่ยิ้มกว้าง ไม่ได้รีบร้อนอ่าน แต่กลับยกหูโทรศัพท์โทรหาหยางเฟิง
“หนังสือเรื่องใหม่ของอาจารย์ฉู่ขวงเหรอครับ?!”
ขณะนั้นหยางเฟิงกำลังทำงานในบริษัท
หลังจากที่ได้รับสายจากจินมู่ หยางเฟิงก็กระปรี้กระเปร่าขึ้นมา ถึงขั้นที่ตะโกนเสียงดังลั่นในห้องทำงานอย่างห้ามไม่อยู่
“หนังสือเรื่องใหม่ของฉู่ขวง”
ประโยคนี้ราวกับมีพลังพิเศษบางอย่าง ทำให้แผนกแฟนตาซีของคลังหนังสือซิลเวอร์บลูเงียบลงในชั่วพริบตา
หลังจากนั้นทุกคนก็วางมือจากงานอย่างเงียบเชียบ และหันไปมองหยางเฟิง
หลังจากที่เรื่องคนขุดสุสานจบลง แผนกแฟนตาซีของคลังหนังสือซิลเวอร์บลูก็แอบตั้งตารอหนังสือเรื่องใหม่ของฉู่ขวง
ทุกคนยังพูดคุยกันอย่างตื่นเต้น ว่าครั้งนี้ฉู่ขวงจะเขียนนิยายประเภทไหน
จะคาดเดาว่าเป็นอะไรก็ได้
เพราะทุกคนต่างรู้ดีว่า แต่ไหนแต่ไรมาฉู่ขวงไม่เคยเขียนนิยายประเภทเดียวกัน เขาคือผู้บุกเบิกซึ่งครองตนเป็นเอกเทศ!
“ครั้งนี้เขียนแนวไหนครับ”
หยางเฟิงกลืนน้ำลาย พยายามไต่ถามอย่างใจเย็น นี่เป็นคำถามที่ทุกคนในแผนกสนใจมากที่สุด
เป็นบรรณาธิการของฉู่ขวงมานาน หยางเฟิงซึ่งผ่านการเคี่ยวกรำมาอย่างหนักหน่วงก็ได้เตรียมใจไว้อย่างเต็มที่แล้ว
ในครั้งนี้ไม่ว่าฉู่ขวงจะเขียนนิยายประเภทใด เขาก็ไม่มีทางรู้สึกประหลาดใจ
‘ถึงยังไงฉันก็ผ่านการฝึกฝนมานานขนาดนี้แล้ว’
หยางเฟิงคิดอย่างกระหยิ่มใจ
น้ำเสียงของจินมู่แปลกชอบกล “นิยายสืบสวนสอบสวนครับ”
“…”
ความกระหยิ่มยิ้มย่องบนใบหน้าของหยางเฟิง ค่อยๆ แปรเปลี่ยนเป็นความประหลาดใจ เขาถามย้ำเพื่อความมั่นใจ
“สืบสวนสอบสวนจริงๆ เหรอครับ”
จินมู่ตอบอย่างจริงจัง “ใช่ครับ”
หยางเฟิงใจหายวาบ แทบล้มทั้งยืน เอ่ยด้วยสีหน้าผิดหวังเล็กน้อย “สืบสวนสอบสวน”
เขาเตรียมใจมาเป็นอย่างดี ไม่ว่าฉู่ขวงจะเขียนประเภทอะไรหมวดหมู่ไหนก็เป็นเรื่องธรรมดา
แต่เมื่อได้รับรู้ถึงประเภทของหนังสือเรื่องใหม่ของฉู่ขวงแล้ว หยางเฟิงก็เสียอาการอย่างห้ามไม่อยู่
ไม่ใช่หยางเฟิงที่ห้ามไม่อยู่ เหล่าบรรณาธิการของทั้งแผนกแฟนตาซีก็งุนงงไปอย่างห้ามไม่อยู่เช่นเดียวกัน
อย่าเข้าใจผิด
ไม่ใช่ว่าพวกเขาไม่ชอบใจ
เหตุผลประการเดียวก็คือ แนวสืบสวนสอบสวนไม่ได้ขึ้นตรงต่อแผนกแฟนตาซี
ใช่แล้ว ถ้าบอกว่าเรื่องคนขุดสุสานแทบจะไม่ได้อยู่ในขอบเขตของนิยายแฟนตาซีแล้ว เช่นนั้นแนวสืบสวนสอบสวนก็ยิ่งไม่อยู่ในขอบเขตนี้เข้าไปใหญ่
นี่เป็นประเภทที่แยกออกมาต่างหาก
บริษัทมีแผนกนิยายสืบสวนสอบสวนโดยเฉพาะ
ประเภทของนิยายเรื่องใหม่ของฉู่ขวง ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับแผนกแฟนตาซีเลย
“ได้ครับ ผมจะให้ทางแผนกวรรณกรรมสืบสวนสอบสวนติดต่อคุณไป” เสียงของหยางเฟิงเต็มไปด้วยความผิดหวัง
“ครับ ส่งนิยายไปแล้วนะครับ รบกวนคุณลองเช็กดูว่าได้รับไหม”
“เข้าใจแล้วครับ”
หลังจากวางสายแล้ว ทั้งแผนกเงียบกริบไปชั่วขณะ
ผ่านไปครู่หนึ่ง ถึงจะมีคนเอ่ยถาม “เขียนแนวสืบสวนสอบสวนจริงเหรอ”
หยางเฟิงพยักหน้าอย่างยอมรับชะตากรรม
สภาพจิตใจของผู้คนล้วนหนักอึ้งขึ้นมา
ในเวลาเหล่าสยงก็ปรากฏตัวพร้อมกับรอยยิ้มตื่นเต้นดีใจบนใบหน้า “ผมเหมือนจะได้ยินพวกคุณคุยกันเรื่องหนังสือใหม่ของฉู่ขวง เขาเขียนเสร็จแล้วหรือ?”
“ใช่ครับ”
หยางเฟิงตอบ “เขียนแนวสืบสวนสอบสวน”
รอยยิ้มของเหล่าสยงหายไปในชั่วพริบตา “สืบสวนสอบสวน?”
หยางเฟิงยักไหล่
เหล่าสยงยืนงงอยู่กับที่ไปหลายวินาที ปัดมือพลางเอ่ย
“เขียนแนวไหนก็เป็นอิสระของฉู่ขวง ส่งนิยายมาให้ผมที ผมจะไปที่แผนกนิยายสืบสวน”
“ได้ครับ”
ห้านาทีให้หลัง เหล่าสยงก็มาถึงแผนกนิยายสืบสวนสอบสวน
นิยายสืบสวนสอบสวน ในฐานะหมวดหมู่ของงานวรรณกรรมซึ่งได้รับความนิยมเช่นเดียวกับหมวดแฟนตาซี มีแผนกเดี่ยวก็ไม่ใช่เรื่องแปลก
ทว่าแผนกวรรณกรรมสืบสวนสอบสวนของคลังหนังสือซิลเวอร์บลู ไม่ได้ยินดียินร้ายแต่อย่างใด
ในแง่ของผลงานนั้น เทียบกับนิยายแฟนตาซีไม่ได้เลย เพราะแผนกแฟนตาซีเป็นแผนกซึ่งทำรายได้สูงสุดของคลังหนังสือซิลเวอร์บลู!
เพราะฉะนั้น ก่อนหน้านี้เหล่าสยงจึงไม่ค่อยแยแสแผนกวรรณกรรมสืบสวนสอบสวนเท่าไหร่นัก ก็แค่แผนกเล็กๆ
ทว่าในวันนี้ แผนกเล็กๆ นี่แหละที่มาแย่งฉู่ขวงไป
เอาเถอะ
จะใช้คำว่าแย่งก็คงไม่เหมาะ อย่างไรเสียฉู่ขวงก็เป็นคนเลือกเอง นอกจากนั้นทุกคนยังอยู่บริษัทเดียวกัน ไม่ว่าฉู่ขวงจะส่งต่อผลประโยชน์ให้ใคร สุดท้ายแล้วก็กลายเป็นของคลังหนังสือซิลเวอร์บลูอยู่ดี…
“พี่สยง”
เฉาเต๋อจื้อหัวหน้าแผนกวรรณกรรมสืบสวนสอบสวน เห็นเหล่าสยงมายังแผนกวรรณกรรมสืบสวนสอบสวน ก็รู้สึกแปลกใจเล็กน้อย
“ลมอะไรหอบคุณมาถึงที่นี่ล่ะครับ”
“หนังสือเรื่องใหม่ของฉู่ขวงเป็นแนวสืบสวนสอบสวน” เหล่าสยงเบ้ปาก “ตามกฎของบริษัทแล้ว แผนกของพวกคุณต้องรับผิดชอบประสานงาน”
“ฉู่ขวง?”
เฉาเต๋อจื้ออึ้งไป ก่อนจะพลันรู้สึกเต็มตื้นขึ้นมา!
ในคลังหนังสือซิลเวอร์บลู ฉู่ขวงนับได้ว่าชื่อเสียงเลื่องลือ เฉาเต๋อจื้อย่อมคุ้นเคยกับชื่อนี้ดี นักเขียนระดับบ่อเงินบ่อทองของคลังหนังสือซิลเวอร์บลู!
นึกไม่ถึงว่าบ่อเงินบ่อทองนี้ จะถึงกับเขียนนิยายแนวสืบสวนสอบสวน เฉาเต๋อจื้อย่อมต้องดีใจจนเนื้อเต้นเป็นธรรมดา!
แม้ว่าเฉาเต๋อจื้อจะไม่มั่นใจว่านิยายแนวสืบสวนสอบสวนของฉู่ขวงจะเป็นอย่างไร ก่อนหน้านี้ไม่เคยได้ยินว่าฉู่ขวงเขียนงานแนวนี้ได้ด้วย แต่ตราบใดที่ฉู่ขวงยินดีเขียน…
ไม่ว่าจะเป็นแนวไหน ผู้อ่านก็ชื่นชอบทั้งนั้น!
นี่คืออิทธิพลของนักเขียนระดับมหาเทพ!
ด้วยชื่อเสียงของฉู่ขวงในปัจจุบันนี้ ไม่ว่าเขาจะเขียนนิยายประเภทไหน ยอดขายก็ไม่มีทางย่ำแย่ เพราะมีชื่อเสียงของเขาการันตี!
และในตอนนี้ สิ่งที่แผนกวรรณกรรมสืบสวนสอบสวนโหยหามากที่สุดก็คือยอดขาย!
เมื่อคิดถึงตรงนี้ เฉาเต๋อจื้อก็เข้าใจในทันทีว่าทำไมเหล่าสยงถึงมีสีหน้าบูดเบี้ยวปานนี้ เขาหัวเราะแหะๆ กล่าว
“เสียใจด้วยนะพี่สยง”
หนึ่งในตัวชูโรงแผนกแฟนตาซีหนีมายังแผนกสืบสวนสอบสวน บรรณาธิการของทางแผนกแฟนตาซีคงรวมตัวกันนั่งจ๋องหงอง ส่วนตนถูกโชคใหญ่หล่นทับแล้ว!
“เสียใจด้วยอะไรล่ะ”
เหล่าสยงไม่สบอารมณ์ “เดี๋ยวฉู่ขวงเขียนแนวสืบสวนสอบสวนเบื่อ ก็กลับมาเองแหละ เขาไปอยู่แผนกวรรณกรรมสืบสวนก็เปลืองพรสวรรค์เปล่าๆ”
“พี่สยง…”
เฉาเต๋อจื้อเอ่ยอย่างปวดตับ “ไม่ต้องถึงขั้นด้อยค่าแผนกวรรณกรรมสืบสวนสอบสวนของพวกเราก็ได้มั้งครับ”
เหล่าสยงหัวเราะเย็นเยียบ “นี่เรียกว่าด้อยค่าหรือ ในบรรดาห้าบริษัทใหญ่ของวงการสำนักพิมพ์ นิยายสืบสวนสอบสวนของบริษัทเรากระจอกที่สุด คุณเองก็น่าจะรู้ดีกว่าผมล่ะมั้ง”
เฉาเต๋อจื้อยิ้มขื่นทันใด
สิ่งที่เหล่าสยงพูดเป็นความจริง
แผนกวรรณกรรมสืบสวนสอบสวนคลังหนังสือซิลเวอร์บลู ความสามารถของนักเขียนไม่สอดคล้องกับสถานะและอิทธิพลของคลังหนังสือซิลเวอร์บลูเอาซะเลย เหมือนอยู่ระดับเดียวกับนิยายสืบสวนสอบสวนของสำนักพิมพ์แถวสองเสียมากกว่า…
“เอาเถอะ”
เหล่าสยงโบกมือ “ผมส่งหนังสือให้คุณแล้ว เช็กด้วยก็แล้วกันครับ ผมนำคำพูดมาแจ้งแล้ว ประเดี๋ยวคุณก็ติดต่อผู้จัดการของฉู่ขวงไป”
“ได้ครับ”
เฉาเต๋อจื้อพยักหน้า
เหล่าสยงออกไป เฉาเต๋อจื้อลอบคิดในใจ ‘หวังว่าอาจารย์ฉู่ขวงจะทำให้ฉันเซอร์ไพรส์…’
สถานการณ์แผนกวรรณกรรมสืบสวนสอบสวนไม่สู้ดีนัก
ผลงานของแผนกเข็นไม่ขึ้นแล้ว อีกไม่นานบรรณาธิการบริหารอาจเฉดหัวเขาออก และเปลี่ยนคนมาเป็นหัวหน้าบรรณาธิการ เพราะฉะนั้นเฉาเต๋อจื้อจึงรู้สึกกังวลกับเรื่องนี้มาโดยตลอด
แต่เมื่อฉู่ขวงหันมาเขียนนิยายสืบสวนสอบสวน เฉาเต๋อจื้อกลับมองเห็นแสงสว่างอันริบหรี่!
อย่างน้อย…
ก็รับประกันยอดขายของแผนกวรรณกรรมสืบสวนสอบสวนได้ในระดับหนึ่ง!
ฉู่ขวงเป็นผู้ยิ่งใหญ่ที่มาช่วยเหลือผู้ตกทุกข์ได้ยากจริงๆ!
เฉาเต๋อจื้อโอบกอดความคาดหวังเช่นนี้ กลับไปยังห้องทำงานของตน เปิดอีเมล และเริ่มต้นอ่านนิยายเรื่องฆาตกรรมโรเจอร์ แอ็กครอยด์
………………………………………………