Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน - ตอนที่ 371 สามพี่น้องผู้กล้าหาญ
ตอนที่ 371 สามพี่น้องผู้กล้าหาญ
“สุขภาพไม่เอื้ออำนวย เพลงรักหรือเปล่าที่มีแผนจะปล่อยเดือนหน้าจำเป็นต้องเลื่อนออกไปก่อน หวังว่าทุกคนจะเข้าใจนะครับ”
“เนื่องด้วยอาการหวัด ส่งผลให้คออักเสบ ฉันจึงต้องเลื่อนการบันทึกเพลงใหม่ซึ่งเดิมมีแผนจะปล่อยในเดือนตุลาคม ถึงอย่างไรบริษัทก็บอกให้ฉันพูดแบบนี้”
“สำหรับรายละเอียดของการเปลี่ยนเวลาปล่อยผลงานเพลงชิ้นใหม่: ต้องการเป็นแชมป์ ผมจึงหลีกเลี่ยงการเผชิญหน้ากับเซี่ยนอวี๋”
“…”
นักร้องแถวหน้าสามคนซึ่งเดิมทีจะปล่อยเพลงในเดือนตุลาคม ล้วนเปลี่ยน! แผน! กัน! หมด!
คนที่หนึ่ง ยังคงซ่อนงำข้อมูลโดยละเอียด โดยให้เหตุผลว่าสุขภาพไม่เอื้ออำนวย
คนที่สอง ถึงแม้จะไม่เปิดเผยรายละเอียด แต่ก็พูดเป็นนัยว่า ‘บริษัทบอกให้ฉันพูดแบบนี้’
คนที่สาม ไม่ปิดบังใดๆ ทั้งสิ้น และบอกเหตุผลที่เปลี่ยนแผนอย่างตรงไปตรงมาว่าฉันอยากได้อันดับที่หนึ่ง ฉันเลยหนีเซี่ยนอวี๋
เหตุการณ์นี้ส่งผลให้ชาวเน็ตนับไม่ถ้วนตกตะลึง และแม้แต่คนดนตรีบางคนในอุตสาหกรรมยังจนคำพูดเมื่อเห็นสถานการณ์ที่เกิดขึ้น
บ้าไปแล้ว
หนีกันหมด?
กลัวเซี่ยนอวี๋กันจนขวัญหนีดีฝ่อ?
พวกคุณสามคนเป็นนักร้องแถวหน้าเชียวนะ!
นัดกันหนีเซี่ยนอวี๋ใช่ไหมเนี่ย
ชาวเน็ตและคนในวงการหลายคนเดาได้ถูกต้อง นักร้องแถวหน้าทั้งสามคนนัดกันหนีการจัดอันดับฤดูกาลเดือนตุลาคมจริงๆ
บริษัทที่อยู่เบื้องหลังนักร้องแนวหน้าทั้งสามคนได้เจรจากัน และในชั่วขณะนั้นพวกเขาก็เห็นพ้องต้องกัน ดังนั้นพวกเขาจึงตัดสินใจร่วมกัน
ถ้าหากมีนักร้องแถวหน้าคนใดคนหนึ่งเปลี่ยนช่วงเวลาปล่อยผลงาน คงมีคนกล่าวหาว่าขี้ขลาดเกินไป
แต่ปรากฏว่าทั้งสามคนถอยด้วยกัน ย่อมไม่มีใครเกินหน้าเกินตาใคร
ในวงการแทบจินตนาการได้ว่า
ถ้าหากเซี่ยนอวี๋ไม่ปล่อยเพลงในเดือนพฤศจิกายน เดือนพฤศจิกายนจะกลายเป็นสงครามมหาประลัยของนักร้องแถวหน้า
เพราะนักร้องแถวหน้าทั้งสามคนที่เปลี่ยนแผนพร้อมกัน พบว่าเซี่ยนอวี๋ไม่ลงสนามในเดือนพฤศจิกายน จึงเป็นไปได้มากที่จะลงชิงชัยในฤดูกาลเดือนพฤศจิกายน
สำหรับนักร้องแถวหน้าสามคนนี้ พวกเขายอมแข่งขันกับนักร้องแถวหน้าที่มากขึ้นในเดือนพฤศจิกายน ดีว่ารั้งอยู่เดือนตุลาคมเพื่อชิงแชมป์กับเซี่ยนอวี๋ในสังเวียนที่พวกเขาตกเป็นรองอย่างเห็นได้ชัด
ถูกลิขิตชะตามาให้เอื้อมไม่ถึงอันดับหนึ่ง จะดันทุรังไปทำไม
ถ้าหากเป็นการแข่งขันของนักร้องแถวหน้าทั้งหมด ต่อให้การจัดอันดับจะเบียดเสียดสักหน่อย แต่อย่างน้อยทุกคนก็เท่าเทียมกัน ทุกคนมีโอกาสคว้าแชมป์เหมือนกัน
แต่นักร้องแถวหน้าก็คือนักร้องแถวหน้า
เพื่อที่จะหลบหลีกเซี่ยนอวี๋ เหตุการณ์ที่นักร้องแถวหน้าทั้งสามคนเปลี่ยนเวลาแผนการปล่อยเพลงพร้อมกันนั้น อันที่จริงน่าตื่นตาตื่นใจและทำให้ชาวเน็ตตะลึงกันไปมากทีเดียว
‘สุดจริง!’
‘นี่คือหลบหายนะจากปลาใช่ไหม’
‘ฮ่าๆๆๆๆ ได้ยินที่พูดกันว่าวงการเพลงมีโรคกลัวปลา ตอนแรกไม่ค่อยเข้าใจหรอก แต่ตอนนี้เข้าใจแล้ว เป็นโรคกลัวปลากันจริงๆ ด้วย!’
‘สามคนนี้สุดยอดมาก!’
‘ผมขอเรียกพวกคุณว่าสามพี่น้องผู้กล้าหาญ!’
‘เผชิญหน้ากับเซี่ยนอวี๋คนเดียวยอมจำนน เผชิญหน้ากับนักร้องแถวหน้าด้วยกันใส่ไม่ยั้ง?’
‘เซี่ยนอวี๋: ทำไมที่นี่เงียบจัง มีคนไหมครับ คนอื่นหายไปไหนกันหมดนะ?’
‘เอาสิ สามพี่น้องพร้อมใจกันเปลี่ยนแผน ฉากดังเลยนะเนี่ย!’
‘สามคนนี้ทำฉันขำท้องแข็งเลย โดยเฉพาะคนที่สาม ต้องดูสองคนแรกเป็นตัวอย่าง ต้องแสดงละครหน่อย บอกเหตุผลมาตามตรงก็ตรงเกินไป’
‘…’
เดิมทีเดือนตุลาคมเป็นศึกตัดสินระหว่างนักร้องแถวหน้าทั้งสามคน และจะเห็นได้ว่าการแข่งขันนั้นน่าติดตามมากกว่าเดือนกันยายน ตอนนี้ไม่ทันไรก็กลายเป็นการฉายเดี่ยวของเซี่ยนอวี๋ซะอย่างนั้น
ในทางกลับกัน นักร้องที่ไม่ใช่นักร้องแถวหน้ากลับไม่ตื่นตระหนกแม้แต่น้อย มิหนำซ้ำยังพากันหัวเราะลั่น!
ต้องเข้าใจว่านักร้องซึ่งไม่ใช่นักร้องแถวหน้านั้นประเมินตนเองมาก่อนแล้ว พวกเขาไม่ได้คาดหวังว่าจะคว้าอันดับหนึ่งมาตั้งแต่แรก จึงไม่ได้มีภาระทางจิตใจที่หนักหนามากนัก
แม้ว่าเดือนตุลาคมจะมีเซี่ยนอวี๋ แต่สำหรับนักร้องซึ่งไม่ใช่นักร้องแถวหน้าแล้ว เซี่ยนอวี๋ก็เหมือนกับนักร้องแถวหน้าสามคนนั้น
พวกเขาเป็นคนที่เราสู้ไม่ได้
ในเมื่อสู้นักร้องแถวหน้าไม่ได้ สู้เซี่ยนอวี๋ก็ไม่ได้ เช่นนั้นจะมีหรือไม่มีเซี่ยนอวี๋ก็เหมือนกัน อย่างมากทุกคนก็หล่นลงมาแค่หนึ่งอันดับ
นี่คือทัศนะของนักร้องซึ่งไม่ใช่นักร้องแถวหน้า
ปรากฏว่านักร้องแถวหน้าทั้งสามคนพากันหนีเตลิดเปิดเปิง เท่ากับว่าชาร์ตเพลงฤดูกาลนี้มีที่ว่างเพิ่มขึ้นอีกตั้งสามที่!
มีหรือที่นักร้องซึ่งไม่ใช่นักร้องแถวหน้าเหล่านี้จะไม่ตื่นเต้นดีใจและหัวเราะออกมา
“เพิ่งเคยเห็นครั้งแรกเลยนะเนี่ย ที่แท้ลงสนามฤดูกาลเดียวกับเซี่ยนอวี๋ก็ดีอย่างนี้นี่เอง!”
“ตอนแรกฉันเตรียมตัวชิงที่ห้า ยังไงอันดับหนึ่งก็ต้องเป็นเซี่ยนอวี๋ สองสามสี่ก็คือพี่น้องสามคนนั้นที่เปลี่ยนแผนไป ตอนนี้รู้แล้วว่าฉันยังมีโอกาสแข่งอันดับสอง!”
“อันดับหนึ่งเซี่ยนอวี๋ อันดับสองเราก็มาวัดกันว่าใครจะได้!”
“ผมขอประกาศไว้ตรงนี้เลยว่าต่อไปเซี่ยนอวี๋ปล่อยเพลงใหม่เมื่อไหร่ ผมจะตามไปด้วย พอเจอเซี่ยนอวี๋ นักร้องแถวหน้าเผ่นกันหมด”
“ซุนเย่าหั่วนอนรอสถานะนักร้องแถวหน้าแล้วเนี่ย!”
“ที่จริงนักร้องแถวหน้าสามคนนั้นก็ใช่ว่าจะไม่มีโอกาส ปรากฏว่าเผ่นกันหมดทั้งสามคน งั้นซุนเย่าหั่วก็นอนรอมงเลยไม่ใช่เหรอ”
“ซุนเย่าหั่วโชคดีขนาดไหนไม่ต้องบอก เป็นนักร้องที่ทั้งวงการยอมรับว่าโชคดี!”
“…”
นี่เป็นครั้งแรกที่มีคนดีอกดีใจมากถึงขนาดนี้ที่ได้อยู่ฤดูกาลเดียวกับเซี่ยนอวี๋ ชีวิตเต็มไปด้วยความตลกร้ายเช่นนี้นี่เอง
ทว่าตัวหลินเยวียนไม่ได้สนใจเรื่องเหล่านี้แม้แต่น้อย
ซุนเย่าหั่วกลับลอบดีใจ คู่แข่งที่แข็งแกร่งที่สุดทั้งสามคนหนีไปแล้ว ครั้งนี้เขาก็นอนรอรับชัยชนะแล้วสินะ
บางทีอาจเป็นเพราะเหตุผลนี้เอง การอัดเพลงของซุนเย่าหั่วหลังจากนั้นจึงเป็นไปอย่างราบรื่น
วันที่ 25 กันยายน
การอัดเพลงกุหลาบขาวก็เสร็จสมบูรณ์อย่างเป็นทางการ!
เมื่ออัดเพลงเสร็จเรียบร้อย ในการโปรโมตจึงสามารถเปิดเผยข้อมูลได้มากขึ้น รวมไปถึงชื่อเพลง ‘กุหลาบขาว’ ด้วย
แน่นอนว่ายังรวมไปถึงความจริงที่ว่า เพลงนี้คือเวอร์ชันภาษาฉีของเพลงกุหลาบแดง
ชาวเน็ตและคนในอุตสาหกรรมดนตรีถึงได้ตระหนักว่า เซี่ยนอวี๋กำลังเล่นมุกหนึ่งเพลงสองเนื้อร้องอีกครั้ง
ถ้าหากไม่มีบทเรียนจากเพลงวันนี้ปีหน้าก่อนหน้านี้ บางทีอาจมีคนคิดว่าเซี่ยนอวี๋ไม่ได้ให้ความสำคัญกับเพลงใหม่นี้ด้วยซ้ำ
แต่เมื่อพิจารณาถึงสถานการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อเดือนที่แล้ว ไม่มีใครกล้าประเมินเพลงกุหลาบขาวไว้ต่ำเลย
ส่วนนักร้องแถวหน้าสามคนซึ่งประกาศแล้วว่าถอนตัวออกจากชาร์ตเพลงในเดือนตุลาคม คนรอบตัวต่างเอ่ยเตือน
“ที่จริงก็ใช่ว่าจะไม่มีหวังนะ เพลงกุหลาบขาวไม่ใช่เพลงใหม่ แค่ใช้ทำนองเพลงกุหลาบแดงแล้วเปลี่ยนเนื้อเป็นภาษาฉีก็เท่านั้นเอง”
ทั้งสามคนตอบเป็นเสียงเดียวกัน
ฉันไม่ฟัง ฉันไม่ฟัง ฉันไม่ฟัง!
ครั้งก่อน เมื่อเพลงวันนี้ปีหน้าเปิดตัวออกมา พวกคุณก็พูดแบบนี้ แถมยังพูดเหมือนกันว่า ‘ก็แค่เปลี่ยนเสื้อผ้า’!
แล้วผลเป็นยังไงล่ะ?
เจอเซี่ยนอวี๋เข้า คุณยังกล้าเสี่ยงอีกเหรอ?
ตามหลักแล้ว วิธีหนึ่งเพลงสองเนื้อร้องก็ไม่ต่างอะไรกับการเปลี่ยนเสื้อผ้าจริงอย่างที่ว่า
แต่เมื่อมีเพลงวันนี้ปีหน้าในชาร์ตเพลงเดือนกันยายนเป็นกรณีตัวอย่าง เรียกได้ว่าน่าตกใจมากทีเดียว แล้วใครจะกล้าดูแคลนเซี่ยนอวี๋อีกล่ะ?
แน่นอน
ในใจย่อมรู้สึกเสียดายอยู่บ้าง เช่นเดียวกับเหล่านักพนันที่มักรู้สึกว่าตนอาจพลิกกลับมาชนะ แต่ความเสียดายประเภทนี้เป็นบ่อเกิดของการฝากใจไว้กับโชคเพียงอย่างเดียว
ทั้งสามคนข่มกลั้นความคิดที่น่ากลัวนี้ไว้
กลับเป็นผู้ชมที่ดูอยู่นอกสนามซึ่งยังคงไม่คลายสงสัย
เซี่ยนอวี๋จะประสบความสำเร็จจากวิธีหนึ่งเพลงสองเนื้อร้องได้อีกครั้งจริงหรือ?
เขาจะยังเปลี่ยนเนื้อร้องเป็นภาษาฉี แล้วทำให้ผู้ชมเกิดความรู้สึกราวกับเป็นเพลงใหม่ได้อีกหรือ?
ความสงสัยเหล่านี้ ยังคงวนเวียนอยู่จนกระทั่งในช่วงเที่ยงคืนแรกของเดือนตุลาคม ในที่สุด เพลงซึ่งมีชื่อว่ากุหลาบขาวก็เปิดตัว
ในค่ำคืนนี้
จำนวนคนที่เฝ้ารอการเปิดตัวเพลงนั้นสูงกว่าเมื่อต้นเดือนกันยายนมาก
นั่นแสดงให้เห็นว่า ความสำเร็จของเพลงวันนี้ปีหน้านั้นส่งอิทธิพลกับผู้คนจำนวนมากจริงๆ…
………………………………………………