Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน - ตอนที่ 383 เยี่ยหงอวี๋
ตอนที่ 383 เยี่ยหงอวี๋
สามวันผ่านไป
วันนี้เป็นวันที่สตาร์ไลท์จัดให้มีการประชุมภาพยนตร์เรื่องปากง สุนัขยอดกตัญญู
ใจกลางเมืองซู
ในโรงภาพยนตร์ต้าตี้ซึ่งประดับตกแต่งอย่างหรูหรา
เหล่าโจวและหัวหน้าระดับสูงแผนกภาพยนตร์ยืนอยู่หน้าโรงภาพยนตร์ซึ่งมีเอฟเฟ็กต์ภาพและเสียงดีที่สุด เพื่อต้อนรับการมาถึงของตัวแทนจากเครือโรงภาพยนตร์
“ยินดีต้อนรับ เชิญครับ”
“ไม่พบกันนานเลยนะครับ ผู้จัดการหวัง”
“โอ้ว ผู้จัดการโจวก็มาด้วยเหรอครับเนี่ย”
“คุณคือตัวแทนจากเครือโรงภาพยนตร์ซานจินสินะครับ”
“…”
ตัวแทนจากเครือโรงภาพยนตร์รายใหญ่แต่ละแห่งมาถึง เหล่าโจวรวมไปถึงบรรดาหัวหน้าระดับสูงจับมือกับผู้มาถึงบ้างเป็นครั้งคราว บรรยากาศคึกคักชื่นมื่น
ในขณะนั้น
ไกลออกไป หญิงสาวร่างสูงสวมแว่นกันแดดและเสื้อโค้ตขนสัตว์สีแดงปรากฏตัวขึ้นบนรองเท้าส้นตึก เสียงฝีเท้าของเธอเปี่ยมไปด้วยจังหวะ
ออร่าเต็มเปี่ยม
ในชั่วพริบตา ทุกคนจับจ้องไปที่เธอ สายตาของแต่ละคนแตกต่างกัน มีคนกระซิบกระซาบด้วยน้ำเสียงหยอกล้อ
“เยี่ยหงอวี๋มาแล้ว”
“สตาร์ไลท์ก็หน้าใหญ่ไปอีก”
“มิน่าล่ะถึงเลือกดูที่โรงนี้ ที่แท้ก็สนิทสนมกับเครือโรงภาพยนตร์ต้าตี้ แต่เยี่ยหงอวี๋คนนี้มา อาจไม่ใช่เรื่องดีสักเท่าไหร่”
“ใครไม่รู้บ้างว่าเยี่ยหงอวี๋มีมาตรฐานสูงมากในการเซ็นสัญญาภาพยนตร์”
“คนเขาเป็นถึงสตรีเหล็กแห่งเครือโรงภาพยนตร์ต้าตี้ จะมาล้อเล่นได้ยังไงล่ะ”
“…”
ทุกคนให้ความสนใจกับเยี่ยหงอวี๋ ไม่ใช่เพียงเพราะเธอรูปร่างหน้าตาสวย
บรรดาตัวแทนของเครือโรงภาพยนตร์ ล้วนเป็นบุคคลซึ่งมีหน้ามีตาในสังคม ถ้าหากพวกเขายินยอม รอบกายย่อมมีคนมาห้อมล้อมไม่ขาดสาย
ถึงแม้เยี่ยหงอวี๋จะรูปร่างหน้าตาสะสวย ลงเครื่องสำอางเข้มชัดเจน เข้ากับแว่นตาดำ มีรูปลักษณ์ผึ่งผาย ราวกับกำลังเดินอยู่บนสายลม แต่กลับมีกลิ่นอายของหญิงสาวอย่างเต็มเปี่ยม ให้ความรู้สึกแข็งแกร่งและมีเสน่ห์ไม่สิ้นสุด
แต่ว่า…
สิ่งที่สำคัญที่สุดเกี่ยวกับหญิงสาวคนนี้ ก็คือโรงภาพยนตร์ซึ่งอยู่เบื้องหลังของเธอคือเครือโรงภาพยนตร์ต้าตี้!
เครือโรงภาพยนตร์เองก็มีการแบ่งระดับ
จำนวนโรงภาพยนตร์ซึ่งอยู่ในเครือโรงภาพยนตร์ขนาดใหญ่นั้นมีมากมาย เครือโรงภาพยนตร์ขนาดเล็กเทียบไม่ได้แม้แต่นิดเดียว และเยี่ยหงอวี๋คนนี้เป็นตัวแทนของเครือโรงภาพยนตร์ต้าตี้ ซึ่งเป็นเครือโรงภาพยนตร์อันดับต้นๆ และมีขนาดใหญ่ที่สุด!
เพราะฉะนั้น เยี่ยหงอวี๋จึงเป็นตัวแทนที่สำคัญที่สุดของเครือโรงภาพยนตร์ทั้งหมดที่ได้รับเชิญมาในวันนี้!
ถ้าหากเธอยอมเป็นตัวแทนเครือโรงภาพยนตร์ต้าตี้เซ็นสัญญาเรื่องปากง สุนัขยอดกตัญญู ลำพังสัญญาที่เจ้านี้เสนอให้ ก็มีมูลค่ามากเท่ากับเครือโรงภาพยนตร์อื่นๆ รวมกันแล้ว!
ดังนั้นเมื่อเผชิญหน้ากับผู้หญิงคนนี้ แม้แต่เหล่าโจวก็กระตือรือร้นกว่าเดิมหลายส่วน
“ผู้จัดการเยี่ย มาแล้วเหรอครับ!”
เขาจับมือทักทายกับเยี่ยหงอวี๋ “ขอบคุณเครือโรงภาพยนตร์ต้าตี้ของพวกคุณที่เอื้ออำนวยสถานที่ให้เรานะครับ หวังว่าคุณจะพึงพอใจกับผลงานของเรา!”
มุมปากยกยิ้ม
เยี่ยหงอวี๋ถอดแว่นตาดำออก เผยให้เห็นใบหน้างามพริ้ง เครื่องสำอางสีเข้มคมชัดบนในหน้า ทว่าแลดูโดดเด่น
“หัวหน้าโจวเกรงใจแล้ว”
เธอจับมือทักทายกับเหล่าโจว พลางกล่าวด้วยรอยยิ้ม “ฉันคาดหวังกับหนังของสตาร์ไลท์อย่างเต็มที่”ไอรีนโนเวล
“นี่เป็นสิ่งที่พวกเราคาดหวังเช่นกันครับ นี่เป็นผลงานเรื่องใหม่ของเซี่ยนอวี๋ ชื่อของผู้จัดการเยี่ยบังเอิญมีคำว่าอวี๋เหมือนกันพอดี จะว่าไปแล้วพวกคุณก็อยู่ในครอบครัวเดียวกัน รบกวนฝากอาจารย์เซี่ยนอวี๋ของสตาร์ไลท์เราด้วยนะครับ”
“หัวหน้าโจวหยอกล้อเก่งจังเลยนะคะ”
รอยยิ้มยังคงประดับบนใบหน้าเยี่ยหงอวี๋ “แต่ความคาดหวังนั้นมาจากใจจริงค่ะ”
“…”
เหล่าโจวยิ้มตาม ในใจกลับไม่ได้สะทกสะท้าน
เขาย่อมรู้ดีว่า ที่เยี่ยหงอวี๋บอกว่า ‘คาดหวัง’ นั้นเป็นเพียงคำพูดตามมารยาทเท่านั้นไอรีนโนเวล
เกรงว่าผู้หญิงคนนี้จะพูดทำนองนี้กับเจ้าภาพในการฉายภาพยนตร์ทุกครั้งที่เธอเข้าร่วม
แต่ถ้าท้ายที่สุดแล้วเธอไม่พึงพอใจกับภาพยนตร์ ต่อให้บิดาของเธอเป็นผู้ผลิต เธอก็ไม่มีทางยอมเซ็นสัญญา
เพราะเธอคือเยี่ยหงอวี๋!
สตรีเหล็กแห่งเครือโรงภาพยนตร์ต้าตี้!
ยังมีข่าวลืออีกเรื่องหนึ่งเกี่ยวกับหญิงสาวคนนี้ ว่ากับว่าระหว่างที่รับชมภาพยนตร์ ไม่มีใครคาดเดาความคิดที่เธอมีต่อภาพยนตร์ได้ผ่านท่าทีของเธอ!
เนื่องจากหญิงสาวคนนี้ไม่ยิ้มแย้มขณะดูสุขนาฏกรรม ไม่ร้องไห้ขณะดูโศกนาฏกรรม และไม่ขมวดคิ้วขณะดูภาพยนตร์สยองขวัญ
หากยังไม่ถึงจุดจบ จะไม่มีใครรู้เลยว่าหญิงสาวคนนี้มีทัศนคติอย่างไรต่อภาพยนตร์ที่ตนรับชม
นี่คือที่มาของสมญานามว่า ‘สตรีเหล็ก’ ของเยี่ยหงอวี๋
“ฉันเข้าไปก่อนนะคะ”
เยี่ยหงอวี๋ยิ้มบาง เข้าไปในโรงฉายพร้อมกับผู้ติดตามสองคน
ยามที่ไม่ได้ดูภาพยนตร์ เยี่ยหงอวี๋มีสีหน้าที่หลากหลาย ทว่าทันทีที่เข้าสู่โหมดรับชมภาพยนตร์ เยี่ยหงอวี๋จะกลายเป็นคนหน้านิ่งไร้อารมณ์ในทันที
เยี่ยหงอวี๋เป็นเพียงส่วนหนึ่ง
ในไม่ช้าตัวแทนจากเครือโรงภาพยนตร์ก็ทยอยกันมา ต่างคนต่างเดินเข้าไปในโรงฉาย
ในตอนนี้
ตัวแทนจากเครือโรงภาพยนตร์บางคนซึ่งเข้าไปในโรงฉายสังเกตเห็นว่า แต่ละที่นั่งในโรงฉาย นอกจากเครื่องดื่มและข้าวโพดคั่วที่สตาร์ไลท์จัดหาไว้ให้แล้ว ยังมีกระดาษทิชชูวางไว้ห่อหนึ่งด้วย
“วางกระดาษทิชชูไว้ทำไมกัน”
ตัวแทนจากเครือโรงภาพยนตร์คนหนึ่งมองเหล่าโจวด้วยสายตาแปลกพิกล
หนังของพวกคุณตื่นเต้นเร้าอารมณ์ขนาดนั้นเลย?
งั้นต้องมีเส้นสายขนาดไหนถึงผ่านการตรวจสอบจากทางการมาได้?
คนตั้งเยอะแยะขนาดนี้ ไม่ดีมั้ง?
มิหนำซ้ำ ที่นี่ยังมีคนที่ไม่สนใจเรื่องพวกนี้ด้วยนะ!
เหล่าโจวไม่ได้ใส่ใจจินตนาการของผู้ชายเหล่านั้น กล่าวอย่างมีเลศนัย “พอถึงตอนนั้น จะปล่อยให้แขนเสื้อเปียกคงไม่ดีหรอกครับ”
ตัวแทนเครือโรงภาพยนตร์ชะงักไป
และหลังจากที่ทุกคนนั่งลงแล้ว หัวหน้าระดับสูงแผนกภาพยนตร์อีกคนหนึ่งซึ่งอยู่ถัดจากเหล่าโจวกำลังสนทนากับตัวแทนเครือโรงภาพยนตร์ที่ตนสนิทสนม จู่ๆ ก็หยิบบุหรี่ขึ้นมากลางวงสนทนา
“สักมวนไหมครับ”
“ขอบคุณครับ ผมไม่สูบบุหรี่ อีกอย่างที่นี่เป็นโรงฉาย สูบไม่ได้”
“ไม่ได้สูบตอนนี้หรอกครับ”
“ดูหนังจบแล้วผมก็ไม่สูบ”
“พี่ชาย เชื่อผม รับไว้สักมวนก็ไม่เสียหาย”
“…”
ตัวแทนเครือโรงภาพยนตร์ทำได้เพียงเหน็บบุหรี่ไว้ข้างหู รู้สึกแปลกใจ สตาร์ไลท์เล่นพิเรนทร์อะไรของเขา
ในโรงฉายหมายเลขแปด
เยี่ยหงอวี๋ไม่ได้แตะเครื่องดื่มหรือข้าวโพดคั่ว เพียงแค่ยกขาขึ้นเล็กน้อย นั่งในท่วงท่าที่สบายที่สุด รอให้ภาพยนตร์เปิดฉาก
เห็นได้ชัด
ว่าสตาร์ไลท์ดูแลตัวแทนเครือโรงภาพยนตร์ขนาดใหญ่ดีเป็นพิเศษ โดยเฉพาะเครือโรงภาพยนตร์ต้าตี้ ฉะนั้นที่นี่จึงเป็นตำแหน่งที่ดีที่สุดในโรงภาพยนตร์
และด้านซ้ายและขวาของเยี่ยหงอวี๋ ก็คือผู้ติดตามสองคนที่เธอพามาด้วย
คนซึ่งอยู่ด้านซ้ายกระซิบว่า “พี่หงอวี๋ ขอถามเรื่องหนึ่งได้ไหมครับ”
“ว่ามา”
เยี่ยหงอวี๋เอ่ยเสียงเรียบ
ผู้ติดตามคนนี้มีชื่อว่าหยางอัน เป็นต้นกล้าหน้าใหม่ที่บริษัทกำลังบ่มเพาะ
ในอนาคต หยางอันจะกลายเป็นตัวแทนเครือโรงภาพยนตร์เข้าร่วมการประชุมภาพยนตร์ ดังนั้นเยี่ยหงอวี๋จึงพาหยางอันมาด้วย เพื่อฝึกฝนทักษะของเขา
ส่วนผู้ติดตามอีกคนหนึ่งก็คือผู้ช่วยของเยี่ยหงอวี๋
หยางอันเอ่ยอย่างเกรงอกเกรงใจ “ทำไมคุณถึงเตือนพวกเราอยู่ตลอดล่ะครับว่าเวลาดูหนังต้องรักษาสีหน้าให้ดี”
เยี่ยหงอวี๋ตอบเสียงเบา “เพราะถ้าตัวแทนเครือโรงภาพยนตร์แสดงความรู้สึกมากเกินไปขณะที่ดูหนัง บริษัทผลิตหนังจะมองออกว่าเราชอบและฉวยโอกาสกดราคา ดังนั้นไม่ว่าจะรู้สึกมากแค่ไหนก็ต้องเก็บเอาไว้ ทำแบบนี้ถึงจะทำให้บริษัทผลิตหนังเดาความคิดเราไม่ออก ต่อให้ชอบหนังเรื่องนี้จริงๆ ตอนเซ็นสัญญา เราก็ต้องอาศัยเรื่องนี้กุมอำนาจต่อรองเอาไว้”
“แบบนี้นี่เอง!”
หยางอันพยักหน้าอย่างจริงจัง “พี่หงอวี๋วางใจเถอะครับ ผมจะควบคุมอารมณ์ให้ได้ ไม่ว่าหนังจะดีหรือแย่ จะไม่ให้ใครเห็นสีหน้า!”
เยี่ยหงอวี๋ไม่ได้พูดจา
ในเวลานี้ หน้าจอขนาดใหญ่ก็พลันมืดสนิท ไร้ซึ่งโฆษณา เหล่าโจวขึ้นเวทีเพื่อเตือนทุกคนว่าภาพยนตร์กำลังจะเริ่ม ก่อนที่เขาจะรีบเดินไปยังที่นั่งของเขา
สิ่งที่ควรค่าแก่การเอ่ยถึงก็คือ…
ที่นั่งของเหล่าโจวอยู่ในแถวที่เก้า ซึ่งเขาสามารถมองเห็นปฏิกิริยาของผู้คนได้ และนี่คือที่นั่งซึ่งเหล่าโจวเลือกเป็นพิเศษสำหรับการเจรจาสัญญาขั้นสุดท้ายกับเครือโรงภาพยนตร์
…………………………………………………..