Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน - ตอนที่ 442 เริ่มต้นที่ผม ก็ให้มันจบลงที่ผม
- Home
- Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน
- ตอนที่ 442 เริ่มต้นที่ผม ก็ให้มันจบลงที่ผม
‘พระเจ้าช่วย!’
‘นิทานยาว?’
‘ฉู่ขวงในฐานะราชานักเขียนนิทานสั้นถึงกับเขียนนิทานยาว เขาคิดจะแก้แค้นให้อาจารย์หยวนหยวนหรือ? เหมือนกับที่อาจารย์อาหู่แก้แค้นแทนคนเยี่ยน?’
‘เป็นไปไม่ได้’
‘ฉู่ขวงเขียนนิทานยาวได้ด้วยเหรอ ฉันคิดว่าเขาวางแผนจะเขียนแต่นิทานสั้นซะอีก ถ้าบอกว่าจะแก้แค้นก็ไม่ค่อยสอดคล้องกับความเป็นจริงเท่าไหร่ ฉู่ขวงทำนายล่วงหน้าไม่ได้สักหน่อยว่าอาจารย์จะแพ้ นี่เป็นความบังเอิญที่น่าสนใจมาก เหมือนอาจารย์หยวนหยวนกับอาหู่เลือกใช้ตัวเอกเป็นแมวเหมือนกัน’
‘เดี๋ยวนะ!’
‘พวกคุณลืมไปแล้วหรือ ในเนื้อเพลงแดนนิทาน ในนั้นมีเนื้อเพลงท่อนหนึ่งว่า ซูเค่อเป้ยถ่าเป็นหนูที่พูดได้ ซึ่งหมายความว่าฉู่ขวงมีแผนจะสร้างผลงานเรื่องนี้มานานแล้ว!’
‘เอ่อ หนู?’
‘ตัวเอกของอาจารย์หยวนหยวนกับอาจารย์อาหู่คือแมว และตัวเอกของฉู่ขวงกลับเป็นหนู ช่างเป็นเรื่องบังเอิญจริงๆ ตามหลัก’
“……” ‘…’
ไม่ว่าจะเป็นฉิน ฉี ฉู่ หรือเยี่ยน ล้วนมีเสียงจากวงการนิทานและโลกออนไลน์ ศึกระหว่างฉินและเยี่ยนซึ่งจบลงไปสักระยะแล้วกลับมาเปิดสนามอีกครั้ง ทุกคนล้วนครึกครื้นขึ้นมาอย่างห้ามไม่ไหว
ฉู่ขวงมาแล้ว!
มาพร้อมกับนิทานเรื่องยาว!
ตัวเอกในนิทานของเขาคือหนู เป็นศัตรูตามธรรมชาติของแมวซึ่งเป็นตัวเอกของหยวนหยวนและอาหู่ กอปรกับฉากความขัดแย้งครั้งใหญ่ของฉินและเยี่ยน ทำให้ผู้คนต่างคิดไปว่าทุกสิ่งได้ถูกลิขิตชะตาไว้ล่วงหน้า!
ใช่แล้ว!
ถูกลิขิตชะตา!
ทำไมถึงเกิดความขัดแย้งระหว่างฉินและเยี่ยน แต่ไม่เกิดกับพื้นที่อื่น ชนวนแรกเริ่มไม่ใช่การปะทะแบบหนึ่งต่อเก้าอันน่าตกตะลึงและสุดท้ายแล้วก็จัดการนักเขียนทั้งหมดของเยี่ยนได้หรอกหรือ?
มาดูตอนนี้สิ
ฉู่ขวงเอาชนะในศึกระหว่างสองพื้นที่ได้ อาจารย์หยวนหยวนกลับแพ้ราบคาบ ทั้งสองฝั่งเสมอกันหนึ่งต่อหนึ่ง แต่การปรากฏตัวของฉู่ขวงกลับทำลายสมดุลอีกครั้ง ทำให้ผู้คนรู้สึกสัมผัสได้ถึงโชคชะตาที่ว่า ‘เรื่องราวเริ่มต้นที่ไหน จะจบลงที่นั่น’!
ฉู่ขวงคือจุดเริ่มต้นของทุกสิ่ง!
แน่นอนว่ามันต้องจบที่ฉู่ขวง!
หลังจากตกใจและสติหลุดลอยไปชั่วขณะ วงการนิทานและชาวเน็ตฉินล้วนตื่นตกใจ ‘คนเยี่ยนไม่ได้กำลังผยองที่อาจารย์อาหู่ชนะประชันวรรณกรรมหรอกเหรอ ตอนนี้ฉู่ขวงมาแล้ว พวกคุณยังกล้าผยองต่ออยู่ไหม’
‘ชนะเก้าครั้งรวดมาแล้วนะครับบอกก่อน!’
‘เจ้าแก่ฉู่ขวงกอบกู้โลก!’
‘ชนะอาจารย์หยวนหยวนได้แล้วไง พวกคุณผ่านด่านเจ้าแก่ฉู่ขวงให้ได้ก่อนเถอะ อาจารย์อาหู่ชนะติดต่อกันเก้าครั้งแล้วยังไง พ่อผมชนะมาสิบครั้งยังไม่ได้ออกโรง ศึกเก้าด้านน่ะดูแล้วจำ จำแล้วนำไปใช้’
‘ฉู่ขวงเทพตลอดกาล!’
‘ฉู่ขวง: อาจารย์หยวนหยวนถอยไปก่อน ในเมื่อผมเป็นคนก่อความขัดแย้งในครั้งนี้ ดังนั้นผมควรยุติมันด้วยตนเอง คู่ต่อสู้ตัวจริงของอาหู่ก็คือผม!’
‘เห็นภาพไปอีก!’
‘ในช่วงเวลาวิกฤตย่อมมีวีรบุรุษปรากฏตัวขึ้นเสมอ ถ้าบอกว่าหมอคือวีรบุรุษของคนไข้ ตำรวจคือวีรบุรุษของประชาชน งั้นฉู่ขวงก็คือวีรบุรุษของวงการนิทานฉิน!’
‘…’
ชาวเยี่ยนโอหังเกินไปแล้ว!
หลังจากอาหู่ชนะประชันวรรณกรรมแล้ว คำเยาะเย้ยถากถางที่ชาวเยี่ยนมีต่อชาวฉิน พานให้ชาวฉินหายใจไม่ทั่วท้อง และข่าวเกี่ยวกับนิทานยาวเรื่องใหม่ของฉู่ขวงจึงเปรียบประหนึ่งน้ำมันที่ราดลงบนกองไฟซึ่งสุมอยู่ในอกของชาวฉิน!
จากนั้นทุกคนถึงได้ค้นพบว่า
เมื่อเทียบกับอาจารย์หยวนหยวนแล้ว ชาวฉินเชื่อมั่นในฉู่ขวงมากกว่า ต่อให้ฉู่ขวงจะเขียนนิทานยาวเรื่องใหม่ ไม่เคยเขียนนิทานยาวเรื่องใดมาก่อน แต่ก็ไม่ได้บั่นทอนความเชื่อมั่นนี้แต่อย่างใด!
ชาวฉี ชาวฉู่ และชาวเยี่ยนล้วนงุนงง
เมื่อฉู่ขวงเผชิญหน้าแบบหนึ่งต่อเก้า ทุกคนไม่ชอบใจนัก ทำไมตอนนี้เมื่อคลังหนังสือซิลเวอร์บลูประกาศข่าวว่าฉู่ขวงกำลังจะปล่อยนิทานยาว ชาวฉินเหล่านี้ก็พลันรู้สึกมีชีวิตชีวาขึ้นมา ทุกคนต่างเชื่อมั่นในตัวฉู่ขวงขึ้นมาทันที?
‘เข้าใจแล้ว’
‘หลังจากอาจารย์หยวนหยวนแพ้อาหู่ คนฉินก็ไม่มีทางเลือกแล้ว แต่การปรากฏตัวของฉู่ขวง สำหรับชาวฉินแล้วก็เหมือนฟางเส้นสุดท้าย ไม่ว่าฉู่ขวงจะสามารถกอบกู้โลกได้หรือไม่ ชาวฉินก็จะใช้เขาเป็นที่ยึดเหนี่ยวโดยไม่ลังเล’
คำพูดนี้ได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก
แต่ชาวเน็ตจากฉู่คนหนึ่งกลับให้ความเห็นที่ต่างออกไป ‘คนฉินไม่ได้มองฉู่ขวงเป็นฟางเส้นสุดท้ายหรอก แต่พวกเขาเชื่อจริงๆ ว่าฉู่ขวงมีความสามารถพอที่จะกู้สถานการณ์ได้ ไม่อย่างนั้นพวกเขาคงไม่ตื่นเต้นขนาดนี้ แต่ควรจะหดหู่เหมือนตอนที่ฉู่ขวงเปิดศึกแบบหนึ่งต่อเก้า’
มีคนไม่เข้าใจ ‘ทำไมล่ะ’
มีคนมาอธิบาย ‘เพราะศึกแบบหนึ่งต่อเก้าครั้งที่แล้วของฉู่ขวงเป็นการต่อสู้แบบข้ามหมวดหมู่ ประเภทของผลงานที่ผ่านมาของเขาไม่ได้เฉียดเข้าใกล้นิทานเลยสักนิด ดังนั้นทุกคนจึงไม่คิดว่าฉู่ขวงจะเขียนนิทานได้ แต่ตอนนี้สถานการณ์ไม่เหมือนเดิมแล้ว ฉู่ขวงได้พิสูจน์ความสามารถในการเขียนนิทานของเขาแล้ว!’
‘เห็นด้วย!’
ชาวฉินคนหนึ่งปรากฏตัว ‘ครั้งก่อนพวกเราไม่รู้ว่าฉู่ขวงเขียนนิทานได้ด้วย แต่ตอนนี้พวกเรารู้แล้ว ฉะนั้นสิ่งที่เราเชื่อมั่นคือความสามารถในการเขียนนิทานของฉู่ขวง อย่าทำให้เป็นปัญหาเพราะเขาไม่เคยเขียนนิทานยาวเลย นิทานยาวไม่ใช่นิทานหรือไง?’
นี่คือความจริง!
ในเมื่อฉู่ขวงสามารถเขียนนิทานสั้นได้ จึงเป็นเรื่องปกติที่เขาเขียนนิทานเรื่องยาวได้ด้วยไม่ใช่หรอกหรือ เช่นเดียวกับอาจารย์หยวนหยวน ในฐานะนักเขียนนิทานยาวชื่อดัง เธอเองก็เขียนนิทานสั้นดีได้ไม่ใช่หรือ?
ทำไมล่ะ
นิทานสั้นคือนิทาน แล้วนิทานยาวไม่ใช่นิทานหรือ? ไม่มีอะไรมากไปกว่าความถนัดที่แตกต่างกัน ทว่าครั้งนี้อย่างน้อยก็เป็นรูปแบบเดียวกัน และภายใต้เงื่อนไขของผลงานรูปแบบเดียวกันนี้เอง จะสามารถกำจัดผู้ที่มีฝีมือระดับขายวิญญาณให้ซาตานอย่างเจ้าแก่ฉู่ขวงไหวหรือ?
ดังนั้นชาวฉินถึงได้ตื่นเต้นไงล่ะ!
อย่างไรก็ตาม ชาวเยี่ยนกลับไม่ได้หวาดกลัวแม้แต่น้อย ถึงขั้นที่รู้สึกเดือดดาลราวกับพบหน้าศัตรูคู่อาฆาตด้วยซ้ำไป “ถ้าฉู่ขวงเป็นเทพเป็นเซียนอยู่ในอาณาเขตของนิทานสั้น เราสู้เขาไม่ได้หรอก ถึงยังไงในแวดวงนักเขียนนิทานสั้นคงหาใครที่โหดถึงขั้นสู้แบบหนึ่งต่อเก้าไม่ได้ แต่ตอนนี้เขาเข้ามาหาเรื่องในอาณาเขตของนิทานยาว พวกเราย่อมต้องใช้โอกาสนี้ในการแก้แค้น!”
ชนะหยวนหยวนคือการกอบกู้ศักดิ์ศรี
ชนะฉู่ขวงนี่สิ ถึงจะเรียกว่าแก้แค้น
ถึงแม้หลังจากคลังหนังสือซิลเวอร์บลูจะประกาศข่าวอย่างเป็นทางการว่าจะปล่อยนิทานยาว ก็ไม่มีใครส่งคำท้าประชันวรรณกรรมมาถึงเขา อย่างไรเสียนิทานยาวก็ไม่ใช่สิ่งที่จะผลิตออกมาได้ในเวลาอันสั้น ต่อให้มีนักเขียนนิทานยาวชาวเยี่ยนลงมือ ก็ทำได้เพียงปรารถนา ทว่าไม่มีกำลังเพียงพอ แต่ด้วยเบื้องหลังของความขัดแย้งระหว่างฉินและเยี่ยน บรรยากาศของสงครามวงการนิทานจึงไม่ใช่บรรยากาศของการประชันวรรณกรรม แต่ดุเดือดยิ่งกว่านั้น!
ชาวเยี่ยนชอบบรรยากาศนี้
อาหู่ซึ่งอ้างตัวว่าเป็นตัวแทนวงการนิทานยาวจากเยี่ยนก็ชื่นชอบบรรยากาศนี้เช่นกัน กล่าวให้ชัดคือ การปรากฏตัวของฉู่ขวงทำให้อาหู่สัมผัสถึงเลือดซึ่งเดือดพล่านอย่างที่ไม่ได้รู้สึกมานาน เขารู้สึกขอบคุณที่ฉู่ขวงออกโรงด้วยซ้ำไป
“ที่จริงไม่ค่อยเหมาะสมเท่าไหร่นัก”
“นิทานสั้นที่ผมเขียนไม่ใช่คู่แข่งของฉู่ขวงเลย ถ้าว่ากันในแง่นิทานสั้น ทั้งเยี่ยนโจวไม่มีใครคู่ควรกับการเป็นศัตรูของฉู่ขวง แต่ถ้าแข่งนิทานยาวละก็ นี่คือโอกาสของผมแล้ว!”
ณ โรงแรมแห่งหนึ่งในเยี่ยนโจว
ชายหนุ่มร่างกำยำคนหนึ่งผลักหญิงสาวออกไปโดยไม่ลังเล จ้องมองข่าวบนปู้ลั่วอย่างไม่ละสายตา ถึงแม้จะไม่ยุติธรรมนักที่ให้ฉู่ขวงมาประชันนิทานยาวกับตน จนรู้สึกว่ากำลังฉวยโอกาสจากความเพลี่ยงพล้ำของผู้อื่น แต่ความปรารถนาที่จะเอาชนะฉู่ขวงก็อัดแน่นจนเกินรับไหว!
แววตาของอาหู่เป็นประกาย
ฉู่ขวงคือวีรบุรุษของฉินโจว
ถ้าหากความสำเร็จของอาหู่ในครั้งนี้เหนือกว่าฉู่ขวงที่เพิ่งคว้าชัยชนะแบบหนึ่งต่อเก้า เขาจะกลายเป็นวีรบุรุษของชาวเยี่ยน สถานะของเขาในใจของชาวเยี่ยนและในวงการนิทานบลูสตาร์จะทวีคูณขึ้นในอนาคต!
“ยังมีเวลาอีกห้าวัน?”
ทำไมหนังสือเรื่องใหม่ของฉู่ขวงต้องใช้เวลาอีกตั้งห้าวันกว่าจะปล่อยล่ะ ทำให้คนอื่นตั้งตารออยู่ได้ ตอนนี้อาจารย์อาหู่แทบอยากกดปุ่มเร่งวันคืนบนไทม์แมชชีนไปถึงห้าวันข้างหน้าให้รู้แล้วรู้รอด
แน่นอน
ชายฉกรรจ์อกสามศอกอย่างอาจารย์อาหู่ไม่มีสิ่งที่วิทยาศาสตร์สร้างไม่ได้อย่างไทม์แมชชีนหรอก เขาทำได้เพียงเฝ้ารอเงียบๆ ด้วยความทรมาน จนกระทั่งวันที่ห้ามาถึงอย่างเป็นทางการ
ในที่สุด!
ห้าวันผ่านไป!
ผลงานนิทานยาวเรื่องแรกของฉู่ขวงเรื่อง ‘ซูเค่อกับเป้ยถ่า’ ก็เผยแพร่อย่างเป็นทางการ ภายใต้อารมณ์ความรู้สึกที่หลากหลายของแต่ละคนในแต่ละพื้นที่ กระแสของการซื้อนิทานยาวก็ร้อนแรงขึ้นมาทันที…
……………………………………………….